อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 537 ไม่อยากให้ไปก็ต้องให้ไป
ตอนที่ 537 ไม่อยากให้ไปก็ต้องให้ไป
ตอนที่ 537 ไม่อยากให้ไปก็ต้องให้ไป
หนานหนานแสดงท่าทางจริงจังพลางพยักหน้าขึงขัง
อวี้ชิงลั่วกับเย่ซิวตู๋สบตากันก่อนหันมามองหน้าเขา “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
“ตอนนี้ท่านแม่ก็รู้ คนที่เป็นพรรคพวกของข้าต่างฟังเย่หลานเวยกันหมดไม่ใช่หรือ? ข้าจึงต้องไปคุยกับเย่หลานเวยเรื่องชีวิต เรื่องความคิดของข้า และเรื่องของเรา ภารกิจและเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเฟิงชาง ทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรือ?”
อวี้ชิงลั่วยิ้มพลางกอดอกพิงตู้ “เพราะเหตุนี้เจ้าจึงจะไปพูดคุยกับเย่หลานเวย”
“นี่ เรื่องนี้มันยาว” หนานหนานทำท่าน่าสงสารขณะถอนหายใจด้วยความเสียดาย “ข้าอยากพบเขาก่อนหน้านี้ แต่รู้ไหมว่าตอนนี้เขากลัวข้าหัวหด ท่านบอกว่าข้าไม่ใช่เสือ แล้วเขากลัวอะไรข้ากัน? ไปหาที่ตำหนักทีไรมักให้คนออกมาบอกว่าไม่อยู่ แต่พอข้าไปสนามประลองเขาก็ไม่ไปด้วยกัน ข้าจึงไม่ได้เจอเขาเลย ทั้งยังไม่รู้จะพูดคุยปรัชญาชีวิตอย่างไร”
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้ว “แล้ว…”
“ข้าได้ยินมาว่าเขาเองก็จะไปสวดภาวนาที่วัดหลิงไท่พรุ่งนี้ ข้าจะไปขวางและพูดคุยกับเขาให้ได้” หนานหนานกะพริบตาปริบ ๆ และยิ้มให้ ก่อนโผเข้าหานาง
นางชะงัก “เย่หลานเวยก็จะไปวัดหลิงไท่ด้วยหรือ”
“ใช่ ๆ เขาจะไป” เด็กชายผงกศีรษะหงึกหงัก “ข้าไปสืบมาหมดแล้ว”
เฮ้อ เจ้าเด็กดื้อคนนี้ ไม่อยากให้ไปก็ต้องให้ไปเสียแล้ว
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว เห็นชัดว่างานวันพรุ่งนี้เป็นแผนของเหมิงกุ้ยเฟย นางไม่มีทางปล่อยให้หนานหนานไปเข้าร่วมเอาสนุก
ระหว่างที่นางกำลังหาข้ออ้างปฏิเสธลูกชาย เย่ซิวตู๋ที่อยู่ข้างตัวกลับขยิบตาให้พลางยกยิ้ม “ให้เขาไปเถิด”
“หา?” นางจ้องเขาตาโต
เย่ซิวตู๋ทำเพียงยิ้มขณะอุ้มเจ้าตัวน้อยขึ้นขี่คอตนเอง
“หนานหนานมักมีวีรกรรมทำผิดแผนเสมอ ต่อให้มีคนวางแผนมารอบคอบ มันก็อาจจะล่มเพราะนิสัยของเขา” เขาชื่นชมเรื่องนี้ของลูกชายมากทีเดียว
มีเด็กแสบซนมากมายในโลกนี้ คนฉลาดอาจคิดลึกซึ้งและคาดเดาแผนผู้อื่นได้ แต่บางอย่างต้องการคนที่ทำเรื่องบุ่มบ่ามเพื่อทำลายแผนผู้อื่น อย่างเช่น… หนานหนาน
ฝ่ายลูกชายเห็นว่าบิดาหลักแหลมรู้จักชื่นชมข้อดีในตัวเขา จึงพยักหน้าเห็นด้วยอย่างพึงพอใจ
“อีกอย่างหนานหนานก็ฝีมือดี” เย่ซิวตู๋ลองต่อสู้กับเขาเมื่อวานซืน ซึ่งชวนให้แปลกใจไม่น้อย “แม้ไม่ยอมรับปรมาจารย์สกุลเหมิง แต่ต้องยอมรับว่าวิชาการต่อสู้ของเขาน้อยคนนักจะเทียบได้ ศิษย์ที่เขาสอนล้วนมีฝีมือ…น่าทึ่ง”
อวี้ชิงลั่วหันมองลูกชาย เจ้าตัวเขินอายพลางเกาศีรษะแก้เก้อ “ท่านพ่อ ถ้าชมมากเกินไปข้าจะเขินเอาได้”
นางหลับตาลงอย่างพูดไม่ออก ช่างหน้าไม่อาย
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ตามมา แต่ว่าต้องจำสิ่งหนึ่งไว้ให้ขึ้นใจนะหนานหนาน ทุกอย่าง… ต้องเอาความปลอดภัยของตัวเองเป็นสำคัญ เข้าใจไหม”
“ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าทำได้อยู่แล้ว ต่อให้ข้าจะปกป้องตัวเองเพื่อท่านแม่ก็ตาม” เขารับปากทันที ก่อนขยับตัวลงมาจากคอบิดา “ข้าจะไปเตรียมตัวก่อน”
หลังจากนั้นจึงวิ่งโร่ออกไป
เตรียมตัวหรือ เตรียมตัวอะไรกัน
เย่ซิวตู๋สบตากับอวี้ชิงลั่วพร้อมสีหน้าคลางแคลงใจ
หนานหนานออกจากตำหนักอ๋องซิว มุ่งหน้าไปยัง… ตำหนักองค์ชายสาม
เตรียมตัวโดยการทำให้เย่หลานเวยไปวัดหลิงไท่ให้ได้ หากท่านแม่ไม่เห็นเจ้าหมอนั่นพรุ่งนี้แผนเขาคงแตก และมารดาต้องส่งสายตาเขม็งมาให้อย่างแน่นอน
หนานหนานไม่ต้องใช้เกี้ยว เขาลัดเลาะไปตามซอกซอย ครึ่งชั่วโมงให้หลังก็ยืนอยู่หน้าประตูตำหนักองค์ชายสาม
ยามนี้พระอาทิตย์ตก แสงเหลืองอบอุ่นฉายสาดส่องสะท้อนป้ายตำหนักองค์ชายสาม
เขาก้าวไปเคาะประตู เมื่อข้ารับใช้เห็นเขาก็ค้อมตัวกล่าวทักทายพร้อมรอยยิ้ม “ข้าน้อยคารวะซื่อจื่อ ซื่อจื่อน้อยมีธุระอะไรหรือขอรับ”
“ข้ามาหาเย่หลานเวย!” หนานหนานเงยหน้าตะโกนสุดเสียง
หนุ่มรับใช้ส่งสีหน้ากระอักกระอ่วน เขาเหลือบมองหนานหนานด้วยท่าทีลำบากใจก่อนเอ่ยพร้อมยิ้มเจื่อน “คือว่า ซื่อจื่อเวยไม่อยู่ที่ตำหนักขอรับ”
ซื่อจื่อน้อยได้สั่งเอาไว้แล้ว หากซื่อจื่อแห่งตำหนักอ๋องซิวมาหาให้บอกไปว่าไม่อยู่
โธ่ ไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งสองมีเรื่องบาดหมางอะไรกัน หนานหนาน ซื่อจื่อแห่งตำหนักอ๋องซิวออกจะหน้าตาน่าเอ็นดู เหตุใดซื่อจื่อเวยจึงกลัวอีกฝ่ายนัก
หนานหนานจับผิดสีหน้าเขาอยู่นานก่อนยิ้ม “ก็ได้ ไม่เป็นไร อย่างนั้นข้าไม่รบกวน ขอตัวกลับก่อน”
เขาหันหลังกลับอย่างร่าเริงตามที่บอกและเดินลงบันไดไป
ข้ารับใช้ด้านหลังถอนหายใจโล่งอก หนานหนานคอยเงี่ยหูฟังและไม่นานก็ได้ยินเสียงนั้น
เขาพ่นลมเย้ยหยันหลังก้าวลงบันไดมาหลายขั้น รู้อยู่แล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ เย่หลานเวยไม่เคยออกมาพบเขาสักครั้ง ไม่รู้ว่ากลัวอะไรนักหนา เขากินคนหรืออย่างไร กลัวจะฆ่าหรืออย่างไร ปอดแหกเสียจริง
เขาคงหมดหวังจะได้ก้าวพ้นประตูนี้ไปอย่างสง่าผ่าเผย
เขามาถามเพียงต้องการดูท่าทีของข้ารับใช้เพื่อสืบว่าเย่หลานเวยอยู่ในจวนหรือไม่
ตอนนี้เขามั่นใจเต็มที่ เจ้าหมอนั่นต้องอยู่ด้านในแน่ เพียงแค่ซ่อนตัวจากเขาเท่านั้น
เมื่อคิดได้เช่นนั้นหนานหนานก็หัวเราะชั่วร้าย ก่อนแหงนหน้ามองกำแพงสูงตรงหน้าพลางมองขึ้นลงคาดคะเนในใจ
อืม โชคดีที่เขาเรียนวิชาตัวเบากับท่านปู่ลู่มาบ้าง ความสูงเท่านี้…ไม่คณามือเขาหรอก
ระหว่างข้ารับใช้ไม่ทันได้สนใจ หนานหนานแตะประตูหลังที่เห็นว่ากำแพงค่อนข้างเตี้ย ปัดมือสองครั้ง ก่อนคว้าชายเสื้อคลุมผูกไว้ที่เอว สูดหายใจลึกขณะเขย่งเท้า และกระโดดสูงปีนขึ้นไปบนกำแพง
ตำหนักองค์ชายสามไม่เข้มงวดเหมือนตำหนักอ๋องซิว จึงไม่ได้มีคนคุ้มกันแน่นหนานัก
หนานหนานจึงลอบเข้ามาได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังเห็นว่าคนเฝ้ายามประตูหลังหลับอยู่ตอนเขากระโจนลงมาถึงพื้น ไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัวแม้แต่น้อย
เชอะ ไม่น่าเล่า ท่านพ่อถึงไม่เคยเห็นองค์ชายสามในสายตา
เขาเอนหลังติดกำแพงพลางมองหาทางร้างผู้คน แม้ไม่รู้ว่าห้องของเย่หลานเวยอยู่ที่ใด แต่ยังโชคดี… หลังเลี้ยวพ้นหัวมุมมาก็เห็นหมู่เฟยของเย่หลานเวยกำลังเดินนำสาวใช้ไปห้องลูกชายเพื่อยกอาหารน่าอร่อยไปให้
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ท่านอ๋องรู้ดีถึงฝีมือลูกชายสินะ เรื่องที่ว่าไปที่ไหนก็ทำแผนคนอื่นล่มตลอด
ไหหม่า(海馬)