อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 541 ไม่ได้มีเจตนาร้าย
ตอนที่ 541 ไม่ได้มีเจตนาร้าย
ตอนที่ 541 ไม่ได้มีเจตนาร้าย
อวี้ชิงลั่วชะงัก นางหันไปเปิดประตูให้ผู้มาเยือน
นางข้าหลวงคนหนึ่งของฝ่ายในที่นางเพิ่งได้พบไม่นานก่อนหน้านี้ยืนอยู่หน้าประตู ท่าทางดูเป็นมิตร
นางค้อมตัวคำนับก่อนเอ่ยเสียงนอบน้อม “องค์หญิง อยู่ ๆ ฮองเฮาก็รู้สึกไม่สบาย จึงส่งข้าน้อยมาเชิญองค์หญิงให้ไปดูอาการให้เพคะ”
อวี้ชิงลั่วถูกชะตากับซูเฟยเหนียงเหนียง ทั้งท่านอ๋องเป่ายังช่วยนางไว้ที่ประตูเมือง ทำให้ประทับใจในตัวทั้งแม่ลูก
ซูเฟยสุขภาพไม่แข็งแรง มาสวดภาวนาวันนี้ยาวนานยากลำบาก อาการทรงอยู่มาจนถึงบัดนี้ได้ไม่ง่ายดาย
ครุ่นคิดครู่หนึ่งอวี้ชิงลั่วก็หยักหน้า นางหันไปเก็บของก่อนเอ่ย “ไปกันเถิด”
เค่อเหรินก้าวถอยนอบน้อมหลีกทางให้นาง
อวี้ชิงลั่วอยู่เพียงลำพัง ส่วนแม่นมเซียวกับหงเย่รออยู่ด้านนอกก่อนเข้ามาในวัด สนมคนอื่น ๆ เองก็ให้นางข้าหลวงรออยู่ด้านนอกเช่นกัน ไม่อนุญาตให้เข้ามาเช่นกัน
จากคำของเหมิงกุ้ยเฟย บอกว่าเป็นการสวดภาวนาด้วยความศรัทธาที่แท้ ย่อมต้องทำทุกอย่างด้วยตนเองอย่างเลื่อมใส
ด้วยเหตุนี้แม้แต่นางข้าหลวงของเหมิงกุ้ยเฟยยังรออยู่ด้านนอก
เว้นเสียแต่ซูเฟยเหนียงเหนียง เพราะนางสุขภาพไม่สู้ดีนัก ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจึงจำเป็นต้องมีนางข้าหลวงอยู่ข้างกาย
ทว่านางข้าหลวงผู้นี้ก็ดูสุภาพใจดี อวี้ชิงลั่วคาดไม่ถึงไปชั่วขณะ จากคราวก่อนที่เห็นดูท่าซูเฟยเหนียงเหนียงจะโปรดปรานและไว้ใจเค่อเหรินคนนี้มาก
ระหว่างครุ่นคิดผู้ที่นำทางตรงหน้าก็หยุดฝีเท้าหน้าประตูบานหนึ่ง ก่อนเคาะประตูเบา ๆ “เหนียงเหนียง องค์หญิงมาแล้วเพคะ”
เสียงอ่อนแรงของซูเฟยเหนียงเหนียงดังมาจากด้านในเมื่อเงี่ยหูฟัง นางจึงเปิดประตูให้อวี้ชิงลั่วเข้าไป
ก่อนปิดประตูตัดขาดจากภายนอก
ซูเฟยเหนียงเหนียงเอนหลังพิงหัวเตียง สีหน้าซีดเซียวดูเหนื่อยล้า เมื่อเห็นอวี้ชิงลั่วถึงได้ส่งยิ้มบางให้ “มาสิ มานั่งนี่”
“เหนียงเหนียงอาการเป็นอย่างไรบ้าง” นางนั่งลงขอบเตียงและแตะข้อมืออีกฝ่าย
ซูเฟยดึงมือออกและโบกมือเบา ๆ “เราไม่เป็นไรหรอก คราวก่อนเจ้าเข้าวังไปฝังเข็มกับสั่งยาให้ บำรุงร่างกายตามที่เจ้าบอก ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว วันนี้ใช้แรงมากไปหน่อยแต่ยังทนไหว แค่พักผ่อนก็หายแล้ว”
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้วมอง เรียกนางมาหาแบบนี้หรือจะมีเรื่องพูดคุยด้วยกัน
ถึงซูเฟยจะบอกเช่นนั้น แต่อวี้ชิงลั่วยังคว้ามือนางมาตรวจดู เมื่อพบว่าไม่มีอาการผิดปกติก็โล่งใจ
นางเงยหน้ายิ้มมองซูเฟยเหนียงเหนียง “เทียบกับเมื่อก่อนแล้วแข็งแรงขึ้นมากเลยเพคะ สีหน้าก็สดใสขึ้น ดูเหมือนเหนียงเหนียงจะทานยาตามที่หม่อมฉันบอกเอาไว้ อีกไม่นานต้องออกไปเดินเล่นตากแดดได้แน่เพคะ”
“ลำบากท่านแล้ว” ซูเฟยส่งสีหน้าอ่อนโยนพร้อมรอยยิ้ม
ในฝ่ายในของอาณาจักรเฟิงชาง เห็นทีคงมีเพียงซูเฟยกับหว่านเฟยที่พูดจารื่นหูกับผู้อื่น เพียงแค่ความอ่อนโยนของหว่านเฟยดูต่างออกไป ในขณะซูเฟยให้ความรู้สึกสง่างามกว่า
“วันนี้ที่ให้เค่อเหรินเรียกองค์หญิงมาเพียงเพราะรู้สึกเหงาเล็กน้อยและอยากคุยกับเจ้าเท่านั้น”
อวี้ชิงลั่วยิ้ม “เหนียงเหนียงแค่อยากคุยกับหม่อมฉันจริง ๆ หรือเพคะ”
อีกฝ่ายหัวเราะพลางส่ายหน้า นางวางมือลงข้างตัวก่อนยันกายขึ้นเล็กน้อย “องค์หญิงสายตาเฉียบแหลม ในเมื่อถามขึ้นมาแล้ว เช่นนั้นเปิ่นกงจะไม่อ้อมค้อมอีก”
“พูดมาเถิดเพคะ เหนียงเหนียง”
ซูเฟยสายตาระแวดระวัง นางเหลือบมองด้านนอกขณะลดระดับเสียงเบาลง “ครั้งนี้ข้ามาสวดภาวนาที่วัดหลิงไท่ แม้มีเหตุผลอันชอบธรรมแต่มีแววพิกลอยู่บ้าง ช่วงนี้เหมิงกุ้ยเฟยเคลื่อนไหว เรารู้สึกว่านางจัดการสวดภาวนานี้ขึ้นเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาเป็นแน่”
“ยิ่งไปกว่านั้นอยู่ ๆ นางยังสั่งให้นางข้าหลวงและผู้ร่วมขบวนรออยู่ด้านนอกวัดหลิงไท่ ทำตัวมีพิรุธนัก”
อวี้ชิงลั่วพยักหน้ารับ ซูเฟยอ่านสถานการณ์ได้ทะลุปรุโปร่งกว่าคนทั่วไป
สิ้นคำซูเฟยก็พลันเงยหน้ามามองนาง “เราพูดถึงว่าที่แม่สามีของเจ้าแบบนี้ไม่เหมาะสม แต่องค์หญิง เราไม่ได้มีเจตนาร้ายกับท่านแต่อย่างใด ท่าน…”
เมื่อเห็นนางลนลานอธิบายอวี้ชิงลั่วก็รีบพยักหน้าให้ “เหนียงเหนียง หม่อมฉันเชื่อท่านเพคะ”
ซูเฟยหัวเราะ ใช่ อีกฝ่ายเป็นคนเฉลียวฉลาดเช่นกัน มีหรือจะดูไม่ออกว่าเหมิงกุ้ยเฟยเป็นคนอย่างไร นางไม่จำเป็นต้องเน้นย้ำก็เข้าใจความหมายที่ต้องการสื่อได้
“คราวนี้เราไม่รู้ว่าเหมิงกุ้ยเฟยจะลงมือทำอะไร แต่คงไม่พ้นจัดการใครสักคนแน่ เราจึงเชิญองค์หญิงมาพูดคุยเป็นเพื่อน ถึงอย่างไรก็ถือเป็นการป้องกัน เราสองอยู่ด้วยกันย่อมเป็นหูเป็นตาให้กันได้”
อวี้ชิงลั่วสัมผัสได้ถึงความใจดีของอีกฝ่าย ซูเฟยอ้างอาการป่วยเชิญนางมาที่นี่ย่อมไม่มีใครคิดสงสัย
นางรู้ว่าดีว่าเทียบกับการทำร้ายซูเฟยแล้ว จุดประสงค์น่าจะเป็นการจัดการตนเองมากกว่า
มันเป็น… การปกป้องนางกลาย ๆ
พวกนางยังต้องอยู่ที่วัดกระทั่งเช้าวันพรุ่งนี้ถึงจะเดินทางกลับ ระหว่างนี้ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนนาง มาที่นี่มีซูเฟยคุยเล่นด้วยดีไม่น้อย ในใจคิดว่าหากเหมิงกุ้ยเฟยคิดลงมือคงรอจนพลบค่ำ
“ขอบพระทัยที่เหนียงเหนียงเมตตาเพคะ”
ซูเฟยครุ่นคิดว่าหากเป่าเอ๋อร์ได้พบหญิงสาวแสนดีแบบนี้ตั้งแต่หลายปีก่อนจะดีเพียงไหน หลายชายจะน่ารักเหมือนอย่างหนานหนานหรือไม่
“องค์หญิงพูดอะไรกัน เราเองก็พึ่งพาฝีมือทางการแพทย์ขององค์หญิงถึงได้แข็งแรงมีชีวิตอยู่ได้” นางยิ่งประทับใจในตัวนาง และจับมืออีกฝ่ายส่งสัมผัสอบอุ่นให้
ไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าเหตุใดเหมิงกุ้ยเฟยถึงได้ไม่ต้องการให้ท่านอ๋องซิวกับลูกสะใภ้อย่างอวี้ชิงลั่วได้ลงเอยกัน หมางเมินต่อคู่กิ่งทองใบหยกเช่นนี้? แต่กลับไปฝึกฝนเย่ฮ่าวถิงซึ่งมีดีไม่เท่ากับเย่ฮ่าวหรานแทน?
เมื่อคิดเช่นนี้ซูเฟยก็อดส่ายหน้าไม่ได้
อวี้ชิงลั่วไม่สบายใจ หากการคาดเดาของตนกับเย่ซิวตู๋ไม่ผิด เหมิงกุ้ยเฟยต้องจัดการกับเซียวเฟยวันนี้แน่ และคงใกล้ทำสำเร็จแล้ว
ซูเฟย… นางจะดึงให้อีกฝ่ายมาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
ในจังหวะนั้นเองเสียงฝีเท้าด้านนอกก็ดังขึ้น
ตามมาด้วยบทสนทนาของเค่อเหรินกับใครบางคนข้างนอก
นางกับซูเฟยสบตากัน นางคิดจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกอีกคนคว้ามือพลางส่ายหน้าให้ “ข้าไปเอง”
อวี้ชิงลั่วชะงัก ซูเฟยลุกขึ้นจากเตียง นางเม้มปากและลอบถอนหายใจ ก่อนส่งเสียงดังขึ้น “เค่อเหริน ใครมาส่งเสียงเอะอะด้านนอก”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เจตนาร้ายคืออะไรกันนะ ชิงลั่วจะตกหลุมพรางไหม?
ไหหม่า(海馬)