อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 545 ข้าเองก็มีคนหนุนหลัง
ตอนที่ 545 ข้าเองก็มีคนหนุนหลัง
ตอนที่ 545 ข้าเองก็มีคนหนุนหลัง
เย่หลานเวยน้ำตาคลอเบ้าพลางเบะปาก ไม่นานก็ปล่อยโฮออกมา
“ท่านพ่อกับท่านแม่ยังไม่เคยตีข้าเลย อวี้ฉิงหนาน ครั้งก่อนเจ้าทำร้ายข้ายังไม่ได้คิดบัญชี คราวนี้ทำข้าเจ็บตัวอีก ฮือ ข้าจะไปทูลฟ้องเสด็จย่า”
หนานหนานไม่สะทกสะท้าน คนที่ต่อยคือเย่หลานหลี่ต่างหาก ใครให้มายืนใกล้ ๆ เองเล่า เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าสะบัดเพียงนิด… แล้วจะเหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ไม่ได้ ต้องกลั้นขำเอาไว้ ท่านแม่บอกว่าการซ้ำเติมไม่ใช่การกระทำของเด็กดี จึงต้องพยายามกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้
โธ่ ไม่ไหว เจ้าคนขี้ขลาดเย่หลานเวยหนีไปหาหลิวเฟยเสียแล้ว ช่างหน้าไม่อาย
เขาเองก็ควรไปหามารดาตนเอง จะได้ไม่ต้องมาขลุกกับพวกเขาเช่นนี้
หนานหนานครุ่นคิด ก่อนตบมือและเดินต่อ
พ้นไปเพียงสองก้าวใครบางคนก็รั้งแขนเสื้อเอาไว้ เย่หลานหลี่ดึงตัวเขามาด้วยความโกรธ “เจ้าจะหนีอย่างนั้นหรือ ทำร้ายทั้งข้าและซื่อจื่อเวยยังมีหน้าเดินหนีอีกหรือ”
ใบหน้าอีกฝ่ายเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาเช่นกัน ข้อมือยังรวดร้าวแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
หนานหนานไม่สะบัดตัวออก เกรงว่าจะทำให้ข้อมือของพวกเขาหักไปอีกคน แม้เด็กพวกนี้จะน่ารำคาญแต่ก็ไม่ควรถูกลงโทษรุนแรงเกินไปนัก
ทว่าเพราะความชะล่าใจของเขา คนอื่น ๆ ที่คลายจากอาการตกใจแล้วกลับมารายล้อมหนานหนานไว้ ตะโกนโหวกเหวกว่าจะไม่ปล่อยให้เขาไป
“คิดหนีเพราะกลัวความผิดหรือ เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือว่าตนเก่งนัก ยังทำตัวเป็นอันธพาลอยู่ได้อีกหรือ”
“ใช่แล้ว ทำร้ายคนแล้วก็ไม่ยอมรับผิดชอบ จะเป็นหน้าเป็นตาให้ตำหนักอ๋องซิวได้อย่างไร”
“ข้าคิดไว้แต่แรกแล้วว่าเขาไม่เหมือนท่านอ๋องซิว บางทีอาจไม่ใช่บุตรชายท่านอ๋องก็ได้ แม่เขาเองก็อยู่นอก…”
พูดไม่ทันจบก็เงียบลงเพราะสายตาเชือดเฉือนของหนานหนาน ทำให้ไม่กล้าพูดสิ่งใดไปมากกว่านี้
“ลองพูดดูอีกคำสิ กล้าดีอย่างไรมาดูหมิ่นท่านแม่ข้า” สิ่งที่เขาไม่อาจทนได้มากที่สุดคือการมีคนมาต่อว่ามารดา “ถ้ากล้าพูดอีกข้าจะถอนขนเจ้า แล้วเอาขนทั้งหมดไปเผาเจ้า”
บรรดาเด็กน้อยย่นคอหวาดกลัวเขา ก่อนไปหลบด้านหลังเย่หลานจ้าว
เมื่อถ้อยคำนี้หลุดจากปากหนานหนาน เสียงหนึ่งพลันเอ่ยเยาะเย้ยเขา “ชื่อจื่อแห่งตำหนักอ๋องซิวโหดร้ายยิ่งนัก ไม่เพียงแต่ทำร้ายหลานของเรา ยังกล้ากล่าววาจาจองหอง ขู่จะเผาคุณชายจวนท่านโหว เก่งกาจยิ่งนัก”
เมื่อทุกคนหันไปมองก็เห็นกลุ่มคนไม่ห่างออกไปกำลังก้าวเข้ามา นำโดยหลิวเฟย ตามมาด้วยคังเฟย หมิ่นเฟย และนายหญิงจวนโหวเย่
เย่หลานเวยปั้นหน้าเศร้าจับมือหลิวเฟย ทว่าสายตากลับมองท้าทายหนานหนาน
เย่หลานหลี่เห็นคังเฟยเดินมาก็ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล กุมมือที่บาดเจ็บของตนวิ่งไปยืนอยู่ข้างนาง ก่อนโวยวายลั่น “เสด็จย่า อวี้ฉิงหนานทำมือหลานหัก ข้าเจ็บ เสด็จย่า ข้าเจ็บเหลือเกิน”
คังเฟยพ่นลมอย่างขุ่นเคืองใจ สายตาถมึงทึงส่งมายังหนานหนาน ก่อนว่าเหน็บแนบ “น้องหลิวเฟย ซื่อจื่อตำหนักท่านอ๋องซิวช่างกล้าดีนัก คงมีคนหนุนหลังเขา นอกจากจะไม่เห็นเวยเอ๋อร์ในสายตา เกรงว่าจะคิดดูถูกพวกเราด้วย”
หนานหนานเป็นอิสระแล้ว เหล่าเด็ก ๆ ต่างกรูกลับไปหาเสด็จย่าและผู้ใหญ่ เมื่อไม่มีพวกเขารั้งไว้เขาจึงสบายตัวขึ้นมาก
ได้ฟังคังเฟยเอ่ยกระทบเขาก็เลิกคิ้ว “ข้าไม่ได้ทำร้ายพวกเขา เพียงแค่ป้องกันตัว เป็นเย่หลานหลี่ที่อยากจะต่อยข้า ข้าเพียงหลบแล้วหมัดเขาก็ไปโดนเย่หลานเวยเท่านั้น บางทีเขาอาจไม่พอใจเย่หลานเวยมานานแล้ว เมื่อถึงคราวแก้แค้นข้าจึงตกเป็นแพะรับบาป”
“เจ้า พูดเหลวไหลอะไรกัน ข้าไม่พอใจซื่อจื่อเวยตั้งแต่เมื่อไรกัน อย่ามาใส่ความกันนะ” เย่หลานหลี่ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่เมื่อเย่หลานเวยส่งสายตาจับผิดมาก็สะดุ้ง ก่อนนึกโกรธและแก้ตัวออกมา
คังเฟยหน้าเสีย นางกล่าวตำหนิ “หัวหมอยิ่งนัก ต่อหน้าหลิวเฟยและเรายังกล้าเปลี่ยนผิดเป็นถูก หากหลี่เอ๋อร์ต้องการทำร้ายเวยเอ๋อร์จริง จะทำให้ตนเองมือเจ็บทำไมกัน ดูเขาสิ เจ็บจนตัวเย็นเหงื่อออกไปหมดแล้ว”
หนานหนานพยักพเยิดตอบเสียงเรียบ “บางทีอาจแสร้งทำก็ได้ไม่ใช่หรือ เหงื่อเย็นที่ไหลออกมาอาจเกิดจากความรู้สึกผิด”
“ไม่ใช่ ข้าไม่ได้ทำนะ ท่านย่า เขาใส่ความข้า ฮือ…” เย่หลานหลี่ร้อนรนเต็มที เขาคิดไม่ถึงว่าหลิวเฟยพาคนมามากมายขนาดนี้ แต่อวี้ฉิงหนานยังไม่สะทกสะท้าน
คังเฟยปลอบเขาก่อนหันไปมองหลิวเฟย
มีหรือหลิวเฟยจะดูไม่ออกว่าเขาแสร้งทำอยู่หรือไม่ ข้อมือเด็กชายแดงเสียขนาดนั้น คงเจ็บน่าดู
ประมาทอวี้ฉิงหนานผู้นี้ไม่ได้แล้ว
“อวี้ฉิงหนาน ทำร้ายผู้อื่นแต่ไม่รับผิดชอบ ทั้งยังไม่ยอมขอโทษ เห็นเราและเหล่านางสนมไม่คิดเคารพตามมารยาท อกตัญญูนัก วันนี้เราจะจัดการเจ้าเสีย ไม่ต้องถึงมือฝ่าบาท เราก็จัดการได้เช่นกัน”
หนานหนานเม้มปาก เขารู้ว่าคนพวกนี้มักใช้ตำแหน่งและธรรมเนียมมาบีบบังคับคนอื่น
“ข้าบอกไปแล้วว่าเย่หลานหลี่ทำร้ายข้าก่อน” จะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ
“ยังกล้ามาเล่นลิ้นอีก” หลิวเฟยก้าวไปคว้ามือหนานหนานก่อนตำหนิซ้ำ “คอยดูว่าจะดื้อด้านไปได้อีกกี่น้ำ กลับไปกับเรา เราจะสั่งสอนให้รู้จักความหมายของมารยาท ความเป็นธรรม และละอายใจ”
สิ้นคำนางก็ลากตัวเขาเดินออกไป
ในขณะที่เย่หลานเวย เย่หลานหลี่ และคนอื่น ๆ จ้องมองและส่งยิ้มเย้ยให้หนานหนาน
ตกเย็นที่เรือนสกุลองค์ชายหก หมิ่นเฟยผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวที่ถูกดึงตัวมาด้วยก็นิ่งเงียบ ราวกับนางไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
นางเห็นว่าหลิวเฟยและคังเฟยไม่จำเป็นต้องวุ่นวายกับเด็กหัวหมอผู้นี้
ตอนนั้นหลิวเฟยลากตัวหนานหนานเดินมาได้สองก้าว เสียงร้องสะเทือนเลื่อนลั่นก็ดังก้อง
“โอ๊ย… เจ็บ เจ็บจะตายอยู่แล้ว ใครก็ได้ช่วยที มือข้าจะหักอยู่แล้ว…” หนานหนานย่อตัวลงและเริ่มร้องไห้ ไม่นานน้ำตาก็ไหลอาบแก้มก่อนโวยวาย หลิวเฟยนิ่วหน้าจ้องเขาเขม็ง “เจ้ารังแกข้า เห็นมีคนมากกว่าก็มารุมกัน ถือโอกาสตอนเสด็จย่าของข้าไม่อยู่ใส่ความข้า ทรมานข้า ข่มเหงข้า และยังอยากจะฆ่าข้าด้วยใช่ไหม เจ้ามีเสด็จย่า ข้าเองก็มี ข้าจะไปหานางให้ปกป้องบ้าง”
หลิวเฟยชะงักเมื่อหนานหนานลงไปดีดดิ้น
นางเป็นสตรีไร้วรยุทธ์ แม้พอสู้แรงเขาได้ แต่รั้งอยู่ไม่นานเขาก็สะบัดหนีจากนางไปได้
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
อย่าประมาทหนานหนานเชียวนะ ขนาดท่านแม่ตัวเองยังแทบจะต้านไม่อยู่อะ คิดว่ายกพวกมารุมแล้วจะกำราบได้เหรอ
ไหหม่า(海馬)