อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 547 จัดการเฟยเกอ
ตอนที่ 547 จัดการเฟยเกอ
ตอนที่ 547 จัดการเฟยเกอ
หนานหนานถึงกับหน้าหมองลง เพราะในเช้าวันนี้ก่อนที่เขาจะเดินทางออกมา ท่านพ่อก็ได้มาคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว
มันเป็นการพูดคุยตามประสาลูกผู้ชาย บิดาบอกว่าวันนี้อาจเกิดเรื่องร้ายขึ้น ให้เขาอยู่ข้างกายมารดาให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ทว่าเย่หลานเวยและพวกกลับพากันตอแยเขา ทำให้กว่าเขาจะไปหานางได้ก็พ้นมื้ออาหารไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าภายในเวลาอันสั้นนี้จะเกิดเรื่องขึ้นกับมารดา
หนานหนานเม้มปากแน่น เขาเงยหน้ามองพวกชอบเหน็บแนมกับเหมิงกุ้ยเฟยที่ไม่ได้สนใจเด็ก ๆ อีกแล้ว ก่อนขยับขาถอยหลังหลบฉากไปอย่างเงียบเชียบ
เมื่อถึงหัวมุมก็รีบตามแมงป่องไป
เขาไม่ถูกใครพบเห็นระหว่างทาง เว้นเสียจาก… เฟยเกอที่คอยจับตาดูและลอบตามเขาไป
เนื่องจากมีคนมากมาย นางจึงไม่สามารถรายงานเหมิงกุ้ยเฟยได้ ได้แต่กัดฟันมองไปทางที่หนานหนานจากไปและติดตามไปเท่านั้น
ยิ่งตามไปเฟยเกอยิ่งขมวดคิ้วแน่น
นี่มันทางไปเรือนของเฉินเฟยไม่ใช่หรือ ให้ตายเถิด ที่ที่เหมิงกุ้ยเฟยเลือกก็คือเรือนของเฉินเฟย
หนานหนานยิ่งขยับเข้าใกล้ หากเป็นแบบนี้ต่อไปเกรงว่าจะทำลายแผนของเหนียงเหนียง
เฟยเกอไม่สนใจสิ่งใดอีกต่อไป นางหยิบผ้าเช็ดหน้าที่เหน็บเอวไว้ออกมามัดพันใบหน้าครึ่งล่างอย่างคล่องแคล่ว เผยให้เห็นเพียงดวงตาคมกริบ
เมื่อสอดส่ายมองและไม่พบเห็นใคร นางก็ย่องเบากระโดดจากหลังคา ก้าวเข้าหาหนานหนานจากด้านหลัง
มือขวาของเฟยเกอกระชับมีด รอครู่เดียวก็จะทำให้หนานหนานหมดสติ โดยคิดจะทุบเข้าอย่างจัง มันคงไม่ได้ใช้เวลามากนัก
ทว่าในจังหวะที่จะถึงตัวเขา ไม่ทันได้ลงมือร่างตรงหน้าก็วูบไหว นางรู้สึกเหมือนมีมวลดอกไม้ต่อหน้า ก่อนคนที่เดินอยู่จะหายวับไป
นางพลันกลั้นหายใจและชะงักการกระทำในทันใด ขณะยืนนิ่งอยู่กับที่
หนานหนานยืนเยื้องตรงข้ามนางพร้อมส่งสายตาเย็นชาจ้องมองมา “เจ้าตามข้ามาตั้งนาน ตามมาทำไมกัน”
เฟยเกอเบิกตากว้าง เขารู้หรือ รู้ว่านางติดตามเขามาตลอดอย่างนั้นหรือ
“ข้าต้องไปหาท่านแม่ อย่ามาขวางทางข้า ไม่อย่างนั้นได้เห็นดีกัน”
นางนึกค่อนแคะ แม้วรยุทธ์นางไม่ล้ำเลิศ แต่ก็มีปัญญาจัดการกับเด็กคนเดียวได้โดยไม่พ่ายแพ้
อวี้ฉิงหนานผู้นี้สมกับเป็นบุตรชายท่านอ๋องซิว แม้อายุยังน้อยแต่ก็มีรัศมีถอดแบบมาจากท่านอ๋องซิวมากทีเดียว
นางไม่ตอบ เพียงแค่ชั่วอึดใจก็โจมตีหนานหนาน
“น่ารำคาญนัก” หนานหนานหงุดหงิด เขากระวนกระวายตามหามารดาอยู่ เหตุใดถึงมีคนมากมายมาขวางทาง
เขาทั้งโมโหทั้งวิตก เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ยิ่งลงมือรุนแรงรวดเร็ว
ไม่ทันเฟยเกอได้เข้าใกล้ เขาก็หายตัวไปเสียแล้ว ถึงอย่างไรก็ใช่ว่าจะไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามของเคล็ดวิชาฝ่าเท้าตระกูลลู่ เขาถึงได้หายตัวไปว่องไวปานนี้
ในขณะเดียวกันนั้นนางกวาดสายตามองโดยรอบ
หากแต่ยามนี้นางไม่ได้นึกถึงใคร กว่าจะมีเวลาได้ตอบโต้ ลมวูบหนึ่งก็พัดมาเหนือศีรษะ
เฟยเกอเงยหน้าขึ้น ก่อนหนานหนานจะตะครุบทับนางโดยเร็ว
เฟยเกอตกตะลึง นางล้มลงกับพื้นและกลิ้งไปสองรอบ ก่อนหยุดลงในสภาพน่าอับอาย
เกิดอะไรขึ้นกัน เด็กคนนี้รู้เพียงเคล็ดวิชาฝ่าเท้า ไม่ได้เป็นวิชาตัวเบาไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้… ดูเบาหวิวและทรงพลังเพียงนี้กัน
ขณะที่นางครุ่นคิด หนานหนานไม่ปล่อยให้นางมีโอกาสโต้กลับ เขาจู่โจมนางอีกครั้ง
เฟยเกอผู้มั่นอกมั่นใจในคราวแรกว่าสามารถเอาชนะ ยามนี้ได้แต่หลบหลีกเท่านั้น
หนานหนานโมโห มุมปากกระตุก เขาโจมตีนางไม่ยั้งแรง เฟยเกอยื่นมือป้องกัน ในที่สุดแรงมหาศาลที่ทนรับมาก็เริ่มส่งผลต่อนาง
ให้ตายเถิด เหตุใดเด็กคนนี้ถึงได้เก่งกาจนัก ดูท่าจะฝีมือดีกว่านางอีก
เขา… เป็นเด็กจริง ๆ หรือ
เฟยเกอรู้สึกเหลือเชื่อ ความตระหนกพลันผุดขึ้นในใจนางทว่าก็สงบลงทันที นางมีประสบการณ์ต่อสู้มามากกว่าเขา ต่อให้สู้ไม่ได้ก็ยังทานทนได้ ขอเพียงรั้งเขาไว้ ขอเพียงทำให้แผนของเหนียงเหนียงเป็นไปอย่างราบรื่น…
“อืม” นางยังไม่อาจตระหนักถึงความจริงได้
หนานหนานไม่คิดสู้กับนางต่อไป เขาแตะต้องมือนางได้ก็ส่งเข็มที่คีบไว้ตรงหว่างนิ้วแทงเข้าแขนนางเต็มแรง
เฟยเกอแข็งทื่อไปทั้งร่าง ก่อนเขาจะเตะนางให้ล้มลงในชั่วขณะต่อมา
กระทั่งก่อนนางจะหมดสติไปยังไม่อาจไขปริศนาได้ เหตุใดเด็กคนนี้… ถึงฝีมือพัฒนาก้าวกระโดดจนน่าทึ่งแบบนี้กัน
จัดการนางเสร็จหนานหนานก็ถอนหายใจโล่งอก และเร่งฝีเท้ารีบตามทางแมงป่องไปยังเรือนของเฉินเฟยที่อยู่ห่างไกล
ยิ่งเดินทางริมฝีปากเล็กของเขายิ่งเม้มแน่น ที่แห่งนี้ไกลจากจุดที่เขาจากมา แมงป่องเสียเวลามาขอความช่วยเหลือนาน หวังว่าคงไม่เกิดเรื่องร้ายแรงกับมารดาตน
เขาเป็นกังวลและอยากจะคว้าตัวแมงป่องออกวิ่ง เพียงแต่ไม่รู้ทาง หากยังคิดไร้สาระอยู่แบบนี้บางทีอาจเสียเวลามากกว่าเดิม
ทว่าแมงป่องก็เร่งเดินทางเร็วที่สุดแล้ว
หนานหนานครุ่นคิดว่ากลับไปควรฝึกมันอีกครั้ง ในขณะด้านอวี้ชิงลั่ว หลังปล่อยแมงป่องออกจากขวด นางก็เดินลัดเลาะตามกำแพงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เย่หว่านเยียนสลบอยู่กับพื้นอย่างที่คาดไว้ ส่วนหว่านเฟยที่นางเป็นห่วงที่สุด ยามนี้เหงื่อตกจ้องมองชายสวมหน้ากากย่างสามขุมเข้ามาหา
“หยุดนะ” อวี้ชิงลั่วคว้าเข็มคีบไว้ที่ปลายนิ้ว
เข็มสะท้อนวาววับ เผยให้เห็นพิษร้ายน่ากลัว
นางเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้เพื่อป้องกันตัว หากชายตรงหน้าลงมือกับตน นางก็พร้อมสู้เขากลับสุดชีวิต
หว่านเฟยได้ยินเสียงนางก็หันขวับไปมอง แววยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าเมื่อเห็นนาง แต่ครั้นนึกถึงชายสวมหน้ากากตรงหน้าก็สูดหายใจลึก และรีบตะโกนบอกนาง “ไป ๆ รีบหนีไป…”
ไม่ทันได้พูดจบคนผู้นั้นก็ลงมือทำให้นางสลบไปทันที
อวี้ชิงลั่วนิ่วหน้า ทว่าใจหนึ่งนึกโล่งใจ อย่างน้อยหว่านเฟยก็ไม่ต้องคอยห่วงชีวิตของนางแล้ว
นางย่อมต้องจัดการกับเขาด้วยตนเอง
“ใครส่งเจ้ามาที่นี่ เหมิงกุ้ยเฟยหรือ เซียวกุ้ยเฟยหรือ” อวี้ชิงลั่วถามเสียงแข็งขณะจ้องอีกฝ่ายเขม็ง
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
บอกแล้วว่าหนานหนานไม่ธรรมดา ประมาทเมื่อไหร่เสียเปรียบโดนถอนหงอกแน่นอน
คนบงการน่าจะไม่เกินสองคนนี้แหละ ว่าแต่จะเป็นคนไหนก็เท่านั้นเอง
ไหหม่า(海馬)