อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 548 อวี้ชิงลั่วกระอักเลือด
ตอนที่ 548 อวี้ชิงลั่วกระอักเลือด
ตอนที่ 548 อวี้ชิงลั่วกระอักเลือด
ชายผู้นั้นชะงักไปครู่หนึ่งก่อนได้สติ
“ว่าแล้วเชียว เจ้า… ช่างฉลาดนัก” เสียงแหบเหมือนไม่ได้จงใจดัดให้ทุ้มต่ำของเขาดังขึ้น ทำให้คนฟังหวั่นเกรงเล็กน้อย
อวี้ชิงลั่วเงี่ยหูฟัง จากสายตาและน้ำเสียงของเขา ชายผู้นี้น่าจะอยู่ในวัยกลางคนอายุราวสี่สิบ
ไม่ได้เป็นขันที… หรือองครักษ์
หรือจะเป็นนักฆ่ากัน?
ไม่ใช่ หลิวหลีบอกว่านักฆ่ามืออาชีพมักไม่พูดคุยไร้สาระ พวกเขาจะลงมือทันทีเมื่อสบโอกาส
ทว่ายามนี้ชายตรงหน้ามองนางเหมือนอย่างที่นางมองเขา เขาดูไม่เหมือนข้ารับใช้ที่ทำตามคำสั่ง…
อวี้ชิงลั่วก้าวถอยอย่างระแวดระวัง
“หยุด” เขาโพล่งขึ้นพร้อมแววตาเชือดเฉือน “หากก้าวถอยข้าจะฆ่าทั้งสองคนนี้เสีย”
อวี้ชิงลั่วนิ่วหน้าเพราะไม่มั่นใจว่าเขาเป็นคนของใคร หากเซียวเฟยส่งมาคงไม่ทำร้ายหว่านเฟย แต่ถ้าเป็นคนของเหมิงกุ้ยเฟยอาจเป็นนักฆ่าจริง ๆ แต่ถึงอย่างไร… ก็มีสาเหตุมาจากนางทั้งนั้น
“พวกนางผู้หนึ่งเป็นสนม ผู้หนึ่งเป็นองค์หญิง หากเจ้าก่อเรื่องที่นี่ ฮ่องเต้แห่งอาณาจักรเฟิงชางไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”
อวี้ชิงลั่วทำได้เพียงถ่วงเวลาเอาไว้ นางไม่เห็นเสิ่นอิงกับฉินซ่งปรากฏตัว คาดว่าทั้งสองคงถูกสกัดกั้นไว้
ใช่แล้ว เหมิงกุ้ยเฟยรอบคอบ ใช่จะไม่รู้ว่านางมีคนคุ้มกันลับข้างกาย ในเมื่อหาทางกันแม่นมเซียวและหงเย่ให้อยู่ด้านนอกวัดได้แล้ว ย่อมพยายามกีดกั้นคนคุ้มกันของนางได้ด้วย
ในที่ห่างไกลไร้ผู้คนที่แม้หนูยังไม่ผ่านเข้ามา ต่อให้นางร้องตะโกนก็คงไม่อาจทำให้ใครสนใจได้
นางจึงปล่อยแมงป่องออกไปหาหนานหนาน เจ้าตัวเล็กจะก่อเรื่องหรือเรีบกพระอาจารย์ที่วัดมาก็ตามใจ เรียกได้ว่าไม่อาจยอมให้เหมิงกุ้ยเฟยสมดั่งใจ
เขาหรี่ตามองพินิจพิเคราะห์นาง ก่อนเอ่ยเสียงทุ้ม “ข้าชื่นชมในความใจเย็นและไหวพริบของท่าน แต่น่าเสียดายที่ท่านเป็นคู่ครองของเย่ซิวตู๋ ไม่เช่นนั้นข้าคงถูกใจท่านไม่น้อย”
อวี้ชิงลั่วมุมปากกระตุก ถูกใจหรือ เขาถูกใจนางหรือ มันไม่ใช่สิ่งที่นางคิดไว้
“เอาละ เลิกพล่ามเสียที ข้ารู้ว่าท่านต้องการทำอะไร แต่โชคร้ายที่มันคงเป็นไปไม่ได้” เขาหัวเราะขณะพุ่งตัวมาหานาง
อวี้ชิงลั่วไม่รอช้าล่าถอยทันที หมุนตัวเบี่ยงหลบหลีกการโจมตีของเขาอย่างคล่องแคล่ว
ตอนนั้นเองที่นางรู้ว่าวรยุทธ์ของเขาแก่กล้า และรู้อยู่แก่ใจว่าตนสู้เขาไม่ได้
ชายคนนั้นชะงักไปครู่หนึ่ง สายตาถมึงทึงของเขาจับจ้องมา “คราวแรกข้าไม่ได้ใส่ใจนักตอนนางบอกว่าท่านมีวรยุทธ์อยู่บ้าง นึกไม่ถึงว่าจะฝีมือดีขนาดนี้ แต่… หากไร้กำลังภายใน ท่านก็คงทำสิ่งใดไม่ได้”
อวี้ชิงลั่วเม้มปาก นางหรือ เขาหมายถึงนางไหนกัน
ว่าจบเขาก็จู่โจมนาง เข็มในมือนางถูกส่งไปทางเขา รอยบาดบางปรากฏขึ้นบนปลายรองเท้าข้างขวาของเขา
เขาหรี่ตามอง ก่อนหมุนตัวพลางหัวเราะ ขณะเข็มเงินถูกปักอยู่บนต้นไผ่ด้านหลังเขา
ลำต้นไผ่ที่เคยเขียวขจี เมื่อถูกเข็มเงินเล่มเล็กทิ่มแทงจุดหนึ่ง บริเวณนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นดำคล้ำในทันที
ชายผู้นั้นตกตะลึงและส่ายหน้าด้วยความเหลือเชื่อ หากเขาโดนเข็มนั้นคงได้ตายตกเป็นแน่
เช่นนั้นสตรีคนนี้… ก็ไม่อาจประมาทได้ หากจำเป็นก็ต้องกำจัดทิ้งเสีย!
เขาโจมตีนางเป็นครั้งที่สาม อวี้ชิงลั่วปัดมีดสั้นคมกริบแวววาวในมือเขาออก
เมื่อคว้าน้ำเหลวในการเล่นงานนางอย่างต่อเนื่อง สายตาเขาก็ยิ่งฉายแววเยือกเย็น
ทันใดนั้นเขาก็แสยะยิ้ม สายตาเหี้ยมเกรียมของเขาวูบไหว ก่อนเขย่งปลายเท้ากระโดดขึ้นอย่างว่องไว
อวี้ชิงลั่วตกใจ นางนิ่วหน้าขณะแหงนมอง
ทว่าแสงแดดในยามนี้จ้าจนต้องหลบเขาเข้าร่มไม้ เมื่อเงยขึ้นมาแสงก็แยงเข้าตาเล็กน้อย
เสียงสายลมพัดพาดังขึ้น นางรีบก้าวถอยอย่างพยายามก้าวไปยังที่กำบัง
ทว่าไม่ว่านางจะเคลื่อนไหวเร็วเพียงไหน แต่เทียบกับชายสวมหน้ากากแล้วมันก็ยังช้าเกินไป
ในจังหวะที่นางล่าถอย ชายเหนือศีรษะตามมาติด ๆ ฝ่ามือขวาของเขาซัดออกกระแทกหลังของนางในทันใด
“แค่ก…” อวี้ชิงลั่วเจ็บปวดมากเสียจนกระอักเลือด
นางก้าวถอยทิ้งระยะห่างกับอีกฝ่าย มือยกขึ้นเช็ดเลือดขณะเอนพิงกำแพงเพื่อตั้งหลัก
“ข้าบอกแล้วว่าการไร้กำลังภายในเป็นจุดอ่อนใหญ่ของท่าน” เมื่อเห็นนางบาดเจ็บสีหน้าเขาก็คลายลง สายตาจับจ้องนางพร้อมรอยยิ้ม
อวี้ชิงลั่วกระตุกยิ้มกลับก่อนเอ่ย “ใช่ มันเป็นจุดอ่อนใหญ่ของข้า แต่เจ้ารู้ไหม… แค่ก ว่าอะไรเป็นจุดอ่อนของเจ้า”
ขาเขาที่กำลังสาวเท้าเข้ามาชะงัก ก่อนหรี่มองถามนาง “อ่อ อะไรหรือ”
“แค่ก” นางไอโขลกครั้งหนึ่งก่อนยกยิ้ม “ไม่รู้จักคู่แข่งของตนเองดีอย่างไรเล่า”
“คู่แข่งที่ว่าหมายถึงท่านหรือ คิดว่า… เรียกตนเองว่าเป็นคู่แข่งข้าได้หรือ” เขาว่าดูหมิ่น
นางส่ายหน้า “ใช่ ข้าเป็นคู่แข่งเจ้าไม่ได้หรอก”
แย่แล้ว เขาส่งแรงผ่านฝ่ามือนั้นไม่ยั้ง ไหล่นางร้อนรวดร้าวไปหมด กระดูกเหมือนจะแตกหัก ชายคนนี้ต้องการสังหารนางหรือ ไม่ใช่ หากฆ่านางแล้วจะใช้นางเป็นเครื่องมือจัดการเซียวเฟยได้อย่างไร
อวี้ชิงลั่วเอื้อมแตะเสื้อด้านหลัง นางคว้าเข็มเงินขึ้นมาอีกสองเล่มอย่างแนบเนียน
เมื่อเห็นเขาเยื้องย่างมาหาตนเองอีกครั้งก็เหวี่ยงมือไปข้างหน้า
อีกฝ่ายเบิกตากว้าง เขาหลบได้ฉิวเฉียด มีเพียงรอยบาดจาง ๆ บนใบหน้าของเขาเท่านั้น
น่าเสียดายแต่นางก็ช่วยไม่ได้ เข็มเงินนั้นไม่มีพิษ ไม่เช่นนั้นต่อให้ถูกบาดเพียงผิวก็เพียงพอให้ได้รับอันตรายแล้ว
“ดูเหมือนแม้ท่านบาดเจ็บอยู่แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้” เขาปาดเลือดบนหน้าพร้อมเสียงหัวเราะมาดร้าย หมายจะบั่นคอนางให้ขาดสะบั้น
ทว่าเพียงไม่กี่ก้าวต่อมา ในจังหวะที่อวี้ชิงลั่วจะฉวยโอกาสฆ่าเขาในคราวเดียว เสียงทุ้มต่ำหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง “หยุดเดี๋ยวนี้”
ชายผู้นั้นชะงัก สายตาวูบไหวไม่ยอมแพ้ สุดท้ายกลับถอยไปสองก้าวก่อนเดินไปหยุดอยู่ข้างตัวเจ้าของเสียงเมื่อครู่ ขณะยังจดจ้องอวี้ชิงลั่วอย่างไม่สบอารมณ์
อวี้ชิงลั่วนิ่งอึ้งม่านตาหดเล็ก ก่อนแค่นเสียงถากถาง นางหลับตาลงเล็กน้อยและลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ผู้ชายคนนี้เป็นคนของใครกันนะ พลังวรยุทธ์สูงเสียด้วย
ไหหม่า(海馬)