อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 550 ท่านแม่โปรดระวังตัวด้วย
ตอนที่ 550 ท่านแม่โปรดระวังตัวด้วย
ตอนที่ 550 ท่านแม่โปรดระวังตัวด้วย
ยังไม่ทันที่บุรุษภายใต้หน้ากากจะได้ทันตั้งตัว หลังมือของเขาก็เกิดความรู้สึกเจ็บปวดคล้ายกับถูกสัตว์มีพิษกัดต่อยขึ้นมาในทันใด จนต้องเผลอปล่อยมือของอวี้ชิงลั่วให้เป็นอิสระ
ชั่วอึดใจ ร่างเล็กก็ตรงเข้ามาทางเขาพร้อมกับแรงกระแทกจากฝ่ามือฉาดใหญ่เข้าที่ใบหน้า
องครักษ์จี้หน้าเปลี่ยนสีอย่างรวดเร็วพร้อมกับหันไปยกแขนขึ้นตั้งรับ
“ผลั่ว!” องครักษ์จี้และหนานหนานต่างขยับถอยจากกันจากการปะทะเมื่อครู่
“ท่านแม่ ท่านบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?” ทันทีที่หนานหนานมาถึงก็กวาดสายตาสำรวจร่างกายของคนเป็นแม่ เมื่อเห็นว่ามีรอยแดงที่มุมปากของนาง โทสะของเขาก็ทำงานทันที ดวงตาของเด็กชายจ้องเขม็งไปยังองครักษ์จี้อย่างไม่ลดละ “ข้าจะฆ่าเจ้า”
อวี้ชิงลั่วไม่เคยเห็นท่าทางกระหายเลือดและบ้าคลั่งเช่นนี้จากหนานหนานมาก่อน ดูเหมือนว่าการที่นางได้แผลมาเช่นนี้จะเป็นการกระตุ้นอารมณ์โกรธของเขามาก
“หนานหนาน แม่ไม่เป็นอะไรมาก แค่บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น อย่าหุนหันพลันแล่นไป”
“ยังจะมาบอกว่าไม่เป็นไรอีก เลือดออกหมดแล้วท่านแม่” หนานหนานตรงเข้ามามองสำรวจอย่างละเอียดและพบว่านางเหมือนจะไม่สามารถขยับตัวได้ จึงรีบคลายจุดให้อย่างรวดเร็ว
ใบหน้าของเด็กน้อยเริ่มตกประหม่าและมือสั่นขึ้นมาเล็กน้อย
อวี้ชิงลั่วรีบคว้ามือของเขามาจับแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “แม่สบายดี แค่บาดเจ็บเล็กน้อย อย่าได้กังวลไปเลย เลือดออกเท่านี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ บางครั้งแขนของเจ้าก็มีรอยข่วนมีเลือดไหลเหมือนกันใช่ไหม”
“มันเทียบกันไม่ได้เสียหน่อย” หนานหนานยังคงใจเสียและคว้าอวี้ชิงลั่วเข้ามากอดแน่น “หนานหนานผิดเอง หนานหนานมาช้าเกินไป หากหนานหนานมาเร็วกว่านี้ท่านแม่คงไม่ต้องเจ็บตัว”
คนเป็นแม่เห็นดังนั้นก็รู้สึกแย่ตามไปด้วย นางค่อย ๆ ลูบศีรษะเด็กน้อยไปมาและไม่อยากให้เขาโทษตัวเอง
“เด็กน้อย แม่ของเจ้าเป็นหมอปีศาจ เขาจะมีปัญญาทำอะไรข้าได้ ชายชุดดำนั่นดูเอาเรื่องก็จริง แต่ความจริงแล้วเขาถูกพิษของแม่ไปแล้ว ทำให้ใช้กำลังได้ไม่มากนักหรอก”
“จริงนะ” หนานหนานปล่อยมือแล้วตรวจดูอาการของนางอย่างใกล้ชิดอีกครา
อวี้ชิงลั่วดูซีดเซียวและมีจังหวะการหายใจที่สับสนเล็กแต่ แต่ทุกอย่างยังเป็นปกติดี
“ยาพิษ?” องครักษ์จี้หัวเราะออกมาทันที “ชิงลั่ว เจ้าเป็นคนมีปัญญามาก แต่ไม่คาดว่าจะใช้คำโกหกโง่ ๆ นั่นมาตบตากันได้ง่าย ๆ เข็มพิษทุกเล่มของเจ้าปักอยู่ที่ต้นไผ่ตรงนั้น แต่ไม่ต้องห่วงไป เจ้าสองแม่ลูกอย่างไรก็จะได้ไปอยู่ด้วยกันในนรก ข้าจะสงเคราะห์ให้เอง”
ระหว่างที่พูดอยู่นั้นรอยยิ้มเย็นก็จุดขึ้นที่มุมปากขององครักษ์จี้อีกครั้ง เขาตรงเข้ามาเพื่อที่จะโจมตีมายังหนานหนาน
แต่ทว่า
“เดี๋ยวนะ…” องครักษ์จี้หยุดชะงัก จ้องไปยังคราบเลือดที่พื้นอย่างไม่เชื่อสายตา
แล้วกลับมามองที่อวี้ชิงลั่วด้วยความตกใจ “เจ้า…เจ้าทำอะไร”
อวี้ชิงลั่วยิ้มขึ้นบาง นางดึงตัวหนานหนานให้เข้ามาใกล้ขึ้นสองสามก้าว เอียงหน้าเล็กน้อยแล้วเช็ดเลือดที่มุมปากของตนเอง
“เมื่อครู่เจ้าได้ชี้ให้ข้าเห็นว่าจุดอ่อนของข้าคือการไร้ซึ่งความแข็งแกร่งภายใน เช่นนั้นข้าก็จะชี้ให้เจ้าเห็นเช่นกันว่าจุดอ่อนที่ใหญ่หลวงของเจ้า…คือการดูหมิ่นความสามารถของข้า” อวี้ชิงลั่วเยาะเย้ย “ตั้งแต่แรกที่ข้าพบเจ้า ข้าก็ค่อย ๆ โปรยผงพิษให้ทีละน้อย เจ้าเป็นคนมีฝีมือ การวางยาทีเดียวจะเป็นที่สังเกตเห็นได้”
“ที่เจ้ามองว่าข้าพยายามจะถ่วงเวลา ข้าทำเช่นนั้นก็จริง แต่ไม่ได้เป็นการถ่วงเวลาเพื่อรอคนมาช่วย มันคือการถ่วงเวลาเพื่อรอให้เจ้าถูกพิษจนได้ที่”
นางไม่ได้คาดว่าในท้ายที่สุดจะยังต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากผู้พิทักษ์ตัวน้อยที่เข้ามาได้ทันเวลาอย่างหนานหนาน นางคิดว่าทักษะการถ่วงเวลาของตัวเองยังอ่อนหัดนัก เกือบจะพลาดท่าเป็นฝ่ายถูกฆ่าไปก่อนแล้วเสียอีก
องครักษ์จี้เริ่มโคจรกำลังภายใน แม้ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งกาย มีเม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมาที่หน้าผาก
หนานหนานกะพริบตา เมื่อเห็นว่าเกือบจะเข้าถึงตัวของอีกฝ่ายได้ทันแล้วจึงรีบตรงเข้าไปจัดการในทันที
อวี้ชิงลั่วยกยิ้มที่มุมปากเมื่อได้เห็นว่าทั้งสองกำลังยื้อยุดกันไปมา
แม้ว่าองครักษ์จี้จะถูกวางยาพิษ แต่ทักษะที่เก่งกล้าของเขาก็เป็นการยากที่หนานหนานจะกำราบเขาได้อยู่ดี
อวี้ชิงลั่วดูการต่อสู้นั้นอยู่พักหนึ่งก็เริ่มกังวลขึ้นมาเล็กน้อย แม้ว่าการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามจะทำได้ช้าลงกว่าเดิม แต่ก็ยังนับว่าว่องไวอยู่ น่าจะเป็นเพราะพิษที่นางวางให้เขาไม่ได้ออกฤทธิ์มากเท่าที่ตนคาดไว้
“เอ๋…การเคลื่อนไหวเช่นนี้…” หนานหนานชะงักไปชั่วครู่แล้วหันหลังกลับ เด็กน้อยหัวเราะออกมาแล้วเอ่ยขึ้นเสียงดัง “ข้ารู้แล้วว่าจะแก้กระบวนท่านี้ยังไง”
ระหว่างที่พูดก็วาดวงกลมด้วยนิ้วทั้งห้า และกดข้อมือลงไปที่คางทันที
ดวงตาขององครักษ์จี้เบิกขึ้นด้วยความตกใจ และทุกคนต่างหันหลังกลับ
“เจ้า…” เด็กนั่นรู้ได้อย่างไร…ทำไมถึงได้ทำลายกระบวนท่าของเขาได้โดยง่ายเช่นนี้
ใบหน้าขององครักษ์จี้คล้ำขึ้น นิ้วของเขาแปรเปลี่ยนเป็นกรงเล็บ และเตรียมที่จะเข้าปะทะกับหนานหนานอีกครั้ง
ทว่าหลังจากทำเช่นนั้นสองครั้ง ก็รู้สึกว่าเรี่ยวแรงที่มีอยู่เริ่มจะหมดลงเรื่อย ๆ ดวงตาเริ่มพร่าเลือน ขาทั้งสองข้างหนักอึ้ง และสิ่งที่ทำให้รู้สึกตกใจที่สุดคือกระบวนท่าทั้งหมดของตนถูกหนานหนานแก้ได้อย่างง่ายดาย ราวกับว่ามันช่างไร้ประโยชน์
“พลั่ก!” องครักษ์จี้ถูกฝ่ามือทั้งสองปะทะเข้าที่หลังอีกครั้ง คราวนี้ร่างของเขาถึงกับเซถลาไปทางด้านหน้าสองสามก้าว
ฉับพลัน เขาสบสายตาไปทางอวี้ชิงลั่วและเซียวเฟย ก่อนจะลุกขึ้นยืน กระโดดขึ้นไปบนกำแพงด้านข้างแล้วหายตัวไปในชั่วพริบตา
“เฮ้ ! เดี๋ยวข้าจะตามไปจัดการมันเอง” หนานหนานม้วนแขนเสื้อขึ้นและกระโดดขึ้นเพื่อไล่ตาม
แต่อวี้ชิงลั่วคว้าชายเสื้อของลูกไว้ได้อย่างรวดเร็ว “ไม่ต้องตามคนที่บาดเจ็บเช่นนั้นไปหรอก”
เด็กน้อยรู้สึกเสียดายที่ปล่อยให้มันหนีไปได้ แต่เมื่อชั่งใจดูสักพักก็คิดว่าอาการของท่านแม่สำคัญกว่ามาก จึงปล่อยให้ฝ่ายนั้นหนีไป เขายังต้องรีบไปดูแลแม่
“ท่านแม่ เป็นอย่างไรบ้าง” หนานหนานวิ่งไปที่บันไดหินด้านข้าง เป่าลมหายใจออกมาสองครั้งแล้วใช้แขนเสื้อเช็ดบริเวณนั้นให้สะอาดขึ้น แล้วรีบกลับมาช่วยพยุงแม่ให้ทรุดตัวลงนั่งอย่างระวัง “ท่านแม่ ระวังนะขอรับ อย่าเร่งรีบเดินนักสิ ท่านบาดเจ็บอยู่นะ”
“…” อวี้ชิงลั่วทรุดตัวลงนั่ง เอาเถิด ลูกชายที่รัก แม่เข้าใจว่าเจ้าเป็นห่วงแม่ แต่แม่ไม่ได้เป็นอะไรมากจริง ๆ
“หนานหนาน แม่เป็นหมอและรู้ดีว่าสภาพร่างกายตอนนี้เป็นอย่างไร ดังนั้นอย่าได้กังวลไป…
แต่เด็กน้อยกลับสั่นศีรษะแล้วมองนางด้วยท่าทางไม่เชื่อถือ แล้วเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อก่อนเสี่ยวเฉิงเฉิงสอนสำนวนหนึ่งแก่ข้า เขาว่า ‘แม้เป็นหมอก็ไม่อาจรักษาตัวเองได้’ เหมือนกับที่ท่านแม่กำลังเป็นอยู่ในตอนนี้อย่างไรเล่า”
อวี้ชิงลั่วจึงได้แต่เงียบเมื่อจนใจจะต่อกรกับเด็กน้อย
นางหันกายไปทางเซียวเฟยที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ที่พื้น
เซียวเฟยดูเหมือนจะยังทำใจไม่ได้เรื่องที่ถูกคนของตนเองทรยศ สีหน้าและดวงตาของนางดูสับสน นางถูกเขาตบ ใบหน้ายังคงซีดเผือด และคนที่ไม่เป็นวรยุทธ์อย่างนางเมื่อถูกทำร้ายอาการน่าจะสาหัสกว่านางมาก
จนกระทั่งนางเริ่มรู้สึกตัวว่าถูกสายตาอันเยือกเย็นของอวี้ชิงลั่วจ้องมองอยู่ จึงหันศีรษะมองไปรอบ ๆ ด้วยอาการตื่นตระหนก แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “เจ้า…เจ้าจะทำอะไร?”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ชิงลั่วยังไงก็เป็นชิงลั่ว ต้องมีแอบวางยาบ้างอะไรบ้างสิ
เจ้าหนานหนานแสดงท่าทางเป็นห่วงท่านแม่แล้ว ดีใจที่เริ่มโตขึ้นแล้วนะคะ
ไหหม่า(海馬)