อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 551 ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า เจ้าก็เพียงแค่คนตายที่ยังมีชีวิตเท่านั้น
- Home
- อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว
- ตอนที่ 551 ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า เจ้าก็เพียงแค่คนตายที่ยังมีชีวิตเท่านั้น
บทที่ 551 ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า เจ้าก็เพียงแค่คนตายที่ยังมีชีวิตเท่านั้น
บทที่ 551 ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า เจ้าก็เพียงแค่คนตายที่ยังมีชีวิตเท่านั้น
อวี้ชิงลั่วเม้มปากมองหนานหนานแวบสายตาหนึ่ง
หนานหนานเข้าใจได้ รีบวิ่งไปข้างกายเย่หว่านเยียนและหว่านเฟยเพื่อตรวจสอบ จากนั้นก็พูดเสียงต่ำ “เป็นลมไปจริงๆ ขอรับ”
อวี้ชิงลั่วพยักหน้า ค่อยๆ ลุกขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปหาเซียวเฟย
หนานหนานเป็นคนหูตาไวจึงรีบวิ่งเข้าไปด้วยเพื่อช่วยนางอีกแรง นั่งยองๆ ลงต่อหน้าเซียวเฟย
ริมฝีปากของอวี้ชิงลั่วคลี่ยิ้ม แต่กลับดูเย็นยะเยือกเป็นอย่างมาก
นางจ้องมองเซียวเฟยอย่างแน่วแน่เช่นนั้น เมื่อเห็นรูม่านตาของนางหดลง เห็นเหงื่อของนางแตกพลั่ก และยังเห็นว่านาง… ยังตัวสั่นเล็กน้อย ผ่านไปครู่หนึ่งก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ที่แท้เซียวเฟยเหนียงเหนียงก็ไม่ได้กล้าหาญมากเท่าที่ข้าคิดสินะ”
“อวี้ชิงลั่ว…” เซียวเฟยกัดฟันอย่างเคียดแค้น
“ข้าก็นึกว่าเซียวเฟยเหนียงเหนียงจะเจ้าเล่ห์เพทุบายและระมัดระวังอย่างยิ่งเสียอีก ซื้อตัวเคอกงกง อาฝู ผู้บัญชาการเว่ย ทั้งยังใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นอีกหลายต่อหลายครั้ง ก็น่าจะเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมอย่างมาก ข้าเองก็คิดว่าด้วยความสามารถของเหนียงเหนียง ก็น่าจะพอสู้กับเหมิงกุ้ยเฟยได้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่า…”
ขณะเดียวกันกับเสียงถอนหายใจเบาๆ ของนาง สีหน้าของเซียวเฟยก็ซีดเผือดลงในทันที
“เจ้า… เจ้ารู้หมดแล้วหรือ”
“เหนียงเหนียงแทบอดรนทนไม่ไหวอยากจะกำจัดข้าและท่านอ๋องซิว ถ้าหากพวกข้ายังไม่สืบหาความจริง เกรงว่าจะไม่ได้มีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้เสียแล้ว”
เซียวเฟยตะลึง จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นดุดันขึ้นมาทันที ดวงตาเบิกกว้าง จ้องมาที่นางอย่างดุร้าย “ดังนั้นพวกเจ้าจึงจับเย่ฮ่าวหราน พวกเจ้าทรมานเขาเพื่อแก้แค้นข้าหรือ พวกเจ้าตัดนิ้วเขา ตัดลิ้นเขา ทำเขาเจ็บเสียจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อเลยหรือ สารเลว พวกเจ้าจะต้องไม่ตายดี ไม่ตายดีแน่ เย่ฮ่าวหรานดีกับเย่ซิวตู๋ถึงเพียงนั้น พวกเจ้าลงมือทำได้อย่างไร”
จับตัวเย่ฮ่าวหรานหรือ ตัดนิ้วหรือ ตัดลิ้นอย่างนั้นหรือ
ถึงว่าสิ ไม่แปลกเลยที่เซียวเฟยเหนียงเหนียงจะเสียสติไปในทันใด และอยากจะเร่งกำจัดตนเสียจนแทบทนไม่ไหว
สตรีนี่หนอ ถึงแม้จะละเอียดรอบคอบเพียงใด แต่สุดท้ายก็ยังหนีไม่พ้นคำว่า ‘รัก’ โดยเฉพาะคนอย่างเซียวเฟยที่จะให้ความสำคัญกับคำว่า ‘รัก’ นี้เป็นอย่างยิ่ง
หนานหนานเกาหัว ถามขึ้นอย่างแปลกใจ “ท่านอาแปดถูกจับหรือ ตั้งแต่เมื่อไรขอรับ ท่านพ่อจับท่านอาแปดตอนไหนกัน มิใช่ว่าเขาหายตัวไปเอง ทั้งยังให้พวกเราตามหาอย่างยากลำบากหรอกหรือ?”
เซียวเฟยประหลาดใจ จู่ๆ ก็หันมามองหนานหนาน “เมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
“เขาหมายความว่า… เหนียงเหนียง ท่านโดนหลอกแล้วล่ะ” อวี้ชิงลั่วส่ายหน้าแล้วหัวเราะออกมา “คนอย่างเย่ซิวตู๋ถึงแม้จะเย็นชาไปบ้าง แต่เขาก็ไม่มีทางทำร้ายเย่ฮ่าวหราน เย่ฮ่าวหรานหายตัวไปจริงๆ แต่เขาออกจากเมืองหลวงไปด้วยเหตุผลอื่น แม้แต่พวกเราเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง”
ขณะพูด นางก็ขยับเข้าไปใกล้เซียวเฟยเล็กน้อย “เหนียงเหนียง เคอกงกง อาฝู และผู้บัญชาการเว่ย ทั้งสามคนนี้ไม่ทรยศท่านจนตัวตาย นั่นก็เพราะพวกเขาตายอย่างง่ายดาย ก่อนตายก็ไม่ถูกทรมานใดๆ ทั้งนั้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะไม่มีทางทรยศท่าน ท่านวางแผนส่งคนไปอยู่ข้างกายคนอื่นได้ คนอื่นก็ทำแบบนั้นได้เช่นกัน อย่างเช่น…องครักษ์จี้คนเมื่อครู่ รวมไปถึง…คนที่บอกท่านว่าเย่ฮ่าวหรานถูกจับอย่างไรเล่า”
ม่านตาของเซียวเฟยหดลง สีหน้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง “เจี่ยนเซียงหรือ”
นางถูกซื้อตัวไปแล้วหรือ
อวี้ชิงลั่วจิ๊ปาก ส่ายหัวพลางมองนางอย่างเห็นอกเห็นใจ “เหนียงเหนียง ถึงแม้ท่านจะถูกตบไม่ร้ายแรงนัก และยังถูกคนหักหลัง ข้าก็เห็นใจท่านมาก แต่ว่า…”
นางกล่าวขณะที่เข็มสองสามอันมาอยู่ระหว่างซอกนิ้วตั้งแต่เมื่อไรไม่อาจทราบได้ ก่อนจะแกว่งตรงหน้าอีกฝ่าย ยิ้มพลางกล่าว “ในตอนแรกท่านวางแผนใส่ร้ายเหวินเทียน เขาถูกเย่โฉวทำให้ขาหัก จนถึงตอนนี้อาการก็ยังไม่กลับมาดีขึ้น ความแค้นนี้ข้าจำไว้ไม่เคยลืม อีกอย่าง เรื่องที่ท่านติดสินบนแม่ลูกเฉินจีซินให้วางอุบายใส่ข้า ข้ายังต้องการจะคิดบัญชีย้อนหลังอยู่ อ้อ ถึงแม้จะนับฝ่ามือในวันนี้แล้ว ข้าก็คิดว่าแม้จะฆ่าท่านก็ไม่ถือว่ามากเกินไป”
เซียวเฟยอดไม่ได้ที่จะกระถดตัวถอยหลังไป “เจ้าจะฆ่าข้า?”
“เดิมทีข้าไม่ได้วางแผนไว้เช่นนั้น อย่างไรเสียการปล่อยให้ท่านและเหมิงกุ้ยเฟยฆ่าแกงกันเองก็ไม่เลว แต่ความรู้สึกของท่านที่มีต่อเย่ฮ่าวหราน… จะทำร้ายผู้คนมากมาย และคนอย่างท่าน หากไม่จัดการถอนรากถอนโคนเสีย ก็จะมีโอกาสกลับมาอีกครั้ง ข้าไม่มีเวลาและพลังจะมารับมือกับแผนการร้ายของท่านอีกครั้งหรอกนะ ตอนนี้สวรรค์ให้โอกาสอันหาได้ยากกับข้าแล้ว เช่นนั้นเรา…ก็มาสะสางหนี้แค้นต่อกันเสีย ดีหรือไม่?”
“ไม่ๆ ไม่เอา…” เซียวเฟยส่ายหน้ารัว ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ นางเกิดกลัวขึ้นมาจริงๆ
นางยังไม่ได้พบเย่ฮ่าวหราน ยังไม่ได้เห็นบุตรชายเติบโต ยังไม่ได้บรรลุความปรารถนาทั้งหมดของตน มีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่สำเร็จ จะตายได้อย่างไรกัน
“อวี้ชิงลั่ว ข้าเป็นถึงนางสนม เป็นนางสนมของฝ่าบาท หากเจ้าฆ่าข้า ฝ่าบาทไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”
“ใจเย็นๆ ข้าไม่ฆ่าท่านหรอก ข้าไม่ใช่คนที่จะก่อเหตุนองเลือดโดยสะเพร่าเช่นนั้น ข้าแค่จะแทงท่านเข็มเดียว แล้วปล่อยให้ท่านมีชีวิตอย่างตายทั้งเป็นเท่านั้น”
ฆ่าคนหรือ ไร้สาระ นางทั้งใสซื่อและจิตใจดี จะทำเรื่องเลวร้ายเช่นนั้นได้อย่างไร มองนางดีเกินไปแล้ว
เซียวเฟยส่ายศีรษะสุดแรงเกิด นางไม่อยากตาย ไม่อยากตายเลย
“แม่นางชิง แม่นางชิง ข้าขอรับปาก จากวันนี้ไปข้าจะไม่สร้างเรื่องให้เจ้าและท่านอ๋องซิวอีกแล้ว ข้าช่วยเจ้าได้นะ เรื่องวันนี้เป็นฝีมือของเหมิงกุ้ยเฟย ข้าเกลียดนางจะตายอยู่แล้ว รอให้ข้ากลับไปที่วังแล้วข้าจะช่วยเจ้าอีกแรง จะจัดการนาง จริงๆ นะ แม่นางชิง…”
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจครั้งหนึ่ง คนเช่นนี้ ไม่แปลกใจเลยที่เย่ฮ่าวหรานไม่ชอบใจ
เดิมทีนางคิดว่าเซียวเฟยมีอุบายร้ายมากมาย อย่างไรก็คงเป็นคนสง่าผ่าเผยและไม่กลัวความตาย นี่ก่อนที่นางจะก่อเรื่อง ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งตนจะพบจุดจบเช่นนี้เลยหรือ
“แม่นางชิง องค์ชายสิบเอ็ดยังเล็กนัก เจ้าเองก็เป็นแม่คน เจ้าน่าจะรู้ว่าเด็กคนหนึ่งหากไม่มีแม่อยู่ด้วยจะน่าสงสารเพียงใด โดยเฉพาะในวังหลวงที่มีแต่ความโหดร้ายและโลภมาก หากไม่มีข้าคอยดูแล เขาจะต้องถูกทรมานจนตายเป็นแน่ เจ้าจงคิดเสียว่าเราก็เป็นแม่เหมือนๆ กัน เห็นแก่องค์ชายสิบเอ็ด เจ้าปล่อยข้าไปสักครั้งเถิด”
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว องค์ชายสิบเอ็ด น่าจะเป็นเด็กที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเป่าเอ๋อร์
“ไร้สาระ” จู่ๆ หนานหนานที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เอ่ยปาก “แต่ไหนแต่ไรท่านไม่เคยดูแลองค์ชายสิบเอ็ดให้ดีเลย ข้าเห็นมากับตา องค์ชายสิบเอ็ดมีแม่ก็เหมือนไม่มี เพียงเขาบอกว่าหิว ท่านก็ตีเขาเสียจนยับเยินทั่วร่าง ทั้งยังไม่ให้เขาร้องไห้ ไม่ให้เขาพูดอันใด ไม่ให้เขาไปฟ้องเสด็จปู่อีกด้วย”
อวี้ชิงลั่วตะลึง “เจ้าเคยเห็นหรือ”
“ขอรับ ตอนนั้นข้ากับเสี่ยวเฉิงเฉิงกำลังเดินเล่นกันอยู่ในวังหลวงและแอบไปเห็นเข้า ข้าตกใจมาก เหตุใดจึงมีแม่ที่โหดร้ายเช่นนี้ได้”
อวี้ชิงลั่วสูดลมหายใจเย็นเยียบ หญิงสาวในวังหลวง… ต่างก็น่ากลัวเกินไปแล้วจริงๆ ทั้งเซียวเฟยเอง ทั้งเหมิงกุ้ยเฟยเองก็เช่นกัน ต่างก็สูญสิ้นคุณธรรมในใจกันไปหมด
“อีกอย่างข้ายังเห็นอีกว่า…” หนานหนานยังอยากจะฟ้องต่อ แต่กล่าวได้เพียงครึ่งเดียวจู่ๆ ก็หยุดลงแล้วขมวดคิ้ว “ท่านแม่ มีคนมาทางนี้ขอรับ”
ดวงตาเซียวเฟยเป็นประกาย นางตะโกนออกมาดังลั่น “ช่วยด้วย”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ช็อตฟีลมากค่ะ จะปักเข็มทีต้องพูดพรรณนาก่อนจนคนมา
คนอย่างเซียวเฟยสมควรตายทั้งเป็นตามที่ชิงลั่วบอกนั่นแหละ มีชีวิตอยู่แบบไม่สู้ตายมันทรมานกว่าตายมากนะ
ไหหม่า(海馬)