อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 553 ความน่าเกรงขามของฮองเฮา
บทที่ 553 ความน่าเกรงขามของฮองเฮา
บทที่ 553 ความน่าเกรงขามของฮองเฮา
อวี้ชิงลั่วคิดในใจ ในที่สุดทุกคนก็มาถึงเสียที
นางปัดมือของหว่านเฟย ค่อยๆ ลุกขึ้นมา ก้าวไปตรงหน้าของเหมิงกุ้ยเฟยก่อนจะถอนสายบัวช้าๆ เอ่ยเสียงเบา “กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง มีมือสังหารเข้ามาในวัดเพคะ จะต้องรีบให้องครักษ์ไปตรวจสอบให้ดี ไม่เช่นนั้นเหนียงเหนียงและองค์หญิงทุกคน รวมไปถึงฮูหยินที่อยู่ที่นี่จะมีโอกาสได้รับอันตรายเพคะ”
“มือสังหารหรือ?” เหล่าหญิงสาวที่ตามหลังเหมิงกุ้ยเฟยมาต่างก็ตกใจ แววตาเผยให้เห็นความตื่นกลัวในทันที
ตอนนี้พวกนางมากันตัวคนเดียว ไม่มีแม้แต่สาวใช้สักคนมาด้วย หากต้องพบกับมือสังหารจริงๆ ก็เหมือนกับส่งพวกนางไปตายเท่านั้น
มีคนเดินมาตรงหน้าแล้วเข้าใกล้เหมิงกุ้ยเฟย “กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง ทรงรีบให้องครักษ์ตรวจสอบทั้งวัดนี้โดยเร็วเถิดเพคะ ไม่อย่างนั้นจะทำทุกคนตระหนก ทุกคนต่างก็ไม่สบายใจนะเพคะ”
เหมิงกุ้ยเฟยมุ่นคิ้ว กวาดสายตามองอวี้ชิงลั่ว เมื่อเห็นว่านางดูรอดปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายแม้แต่น้อย แววตาก็ดูมืดครึ้มไป
นางเปลี่ยนท่าทางเป็นนิ่งเฉยอย่างรวดเร็ว โบกไม้โบกมือปัดไล่หญิงสาวข้างๆ ตัวที่ยังบ่นอุบอยู่ กล่าวด้วยเสียงเย็นชา “องค์หญิงเทียนฝู นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่”
“เหนียงเหนียง ๆ เซียวเฟยเหนียงเหนียง นาง… ดูเหมือนจะไม่สู้ดีนักเพคะ” จากนั้นนักบวชหญิงที่ตะโกนเมื่อครู่ เมื่อเห็นว่ามีนายหญิงมา ก็รีบวิ่งมาอย่างลนลาน
หากพระสนมของฮ่องเต้มาเกิดเรื่องในวัดหลิงไท่ของพวกนางแล้วละก็ คนแรกที่จะต้องถูกลงโทษจะต้องเป็นนักบวชหญิงอย่างพวกนาง มีความเป็นไปได้มากว่าทั้งหมดจะต้องถูกนำไปตัดหัว
เหมิงกุ้ยเฟยตะลึง เมื่อหันไปมองก็เห็นเซียวเฟยที่กำลังหมดสติและยังมีเลือดติดอยู่ที่มุมปาก ถูกนักบวชหญิงสองสามคนพยุงอยู่ นางกะพริบตา ทันใดนั้นก็หันไปมองทางอวี้ชิงลั่ว “องค์หญิงเทียนฝู เหตุใดเซียวเฟยเหนียงเหนียงจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ ใครทำอันใดนาง”
“มือสังหารเพคะ” อวี้ชิงลั่วกดความเกลียดชังในใจเอาไว้ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ เหมิงกุ้ยเฟยยังต้องการจะกล่าวโทษใส่ร้ายนางอีก
“ข้าไม่เห็นว่าจะมีมือสังหารใดๆ ที่นี่ก็มีเพียงเจ้าที่รอดปลอดภัยไร้อันตราย”
ซอกนิ้วของอวี้ชิงลั่วหนีบเข็มไว้แน่น นี่นางถูกผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นมือสังหารอย่างนั้นหรือ
“ใครบอกว่าท่านแม่ข้าปลอดภัยกัน?” หนานหนานกระโดดเข้ามาทันที เงยหน้าสบตากับเหมิงกุ้ยเฟย “ท่านแม่ข้าได้รับบาดเจ็บ นางถูกมือสังหารทำร้าย ถ้าหากไม่ใช่เพราะข้ามาทัน ท่านแม่ข้าคงจะตายไปแล้ว”
“กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง หม่อมฉันเห็นมือสังหารที่ใส่หน้ากากคนหนึ่งเพคะ” หว่านเฟยเองก็ก้าวออกมาหนึ่งก้าว แล้วค่อยๆ เอ่ยปาก
มุมปากของเหมิงกุ้ยเฟยยกขึ้น “เหตุใดหว่านเฟยจึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้ ที่นี่อยู่ห่างไกลนัก ที่พักของเจ้าอยู่ไกลจากที่นี่มากไม่ใช่หรือ”
หว่านเฟยยังคงดูอ่อนโยน บนตัวนางมีบรรยากาศของบัณฑิตที่มีความสามารถอยู่
นางเอ่ย “หม่อมฉันและเซียวเฟยได้ยินนักบวชหญิงวัดนี้กล่าวว่าที่นี่มีสถานที่ทิวทัศน์งดงามและเงียบสงบอยู่ มีป่าไผ่เล็กๆ ที่ดูแตกต่างยิ่งนัก เหนียงเหนียงเองก็ทรงทราบว่าหม่อมฉันกับเซียวเฟยต่างก็เป็นผู้ชอบอ่านเขียน เมื่อได้ยินว่ามีสถานที่เช่นนี้ ในใจก็อดรนทนไม่ไหว ตกลงกันว่าจะมาที่นี่เพื่อชมสักหน่อย ระหว่างทางเซียวเฟยกลับไปเพื่อเอาผ้าเช็ดหน้า หม่อมฉันจึงมาที่นี่ก่อนเพคะ”
“ใครจะรู้ว่าเพียงมาถึง ก็เห็นหว่านเยียนล้มอยู่ที่พื้น ตรงหน้ามีคนชุดดำใส่หน้ากากยืนอยู่ ดวงตาดูดุร้าย หม่อมฉันตกใจมากและตะโกนให้คนช่วยเสียงดัง แม่นางชิงอยู่แถวๆ นี้พอดีจึงรีบวิ่งมาดู เดิมทีหม่อมฉันเรียกให้แม่นางชิงรีบมาแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว คนชุดดำผู้นั้นทำให้ข้าน้อยสลบไปเพคะ”
เย่หว่านเยียนพยักหน้า กล่าว “เดิมทีแม่นางชิงกับหม่อมฉันจะไปดูอาการหมู่เฟย วันนี้หมู่เฟยเสวยถั่วแขกที่ปรุงไม่สุกและถูกพิษเพคะ หม่อมฉันเชิญแม่นางชิงมา ต่อมาเมื่อส่งแม่นางชิงกลับ มาถึงตรงนี้ก็พบว่า…”
เย่หว่านเยียนหยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เหลือบตามองเหมิงกุ้ยเฟยชั่วครู่ ก่อนจะเม้มปาก ละสายตาแล้วกล่าวด้วยเสียงทุ้ม “เห็นคนต้องสงสัยอยู่หนึ่งคน คนผู้นั้นถือตะกร้าอยู่พอดี บังเอิญว่าในตะกร้ามีถั่วแขกอยู่ด้วย หม่อมฉันจึงทิ้งแม่นางชิงแล้วตามคนคนนั้นไป คิดไม่ถึงว่าเมื่อตามไปถึงกำแพงก็ถูกคนทำให้สลบไปเพคะ”
ทุกคนได้ยินถึงตรงนี้ก็เริ่มเข้าใจ ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าที่วัดนี้มีมือสังหารอยู่จริง ทั้งยังเป็นมือสังหารชายที่โหดร้ายและใส่หน้ากากอีกด้วย
อวี้ชิงลั่วกล่าว “กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง หม่อมฉันได้ยินเสียงองค์หญิงหว่านเยียนและหว่านเฟยเหนียงเหนียงจริงๆ จึงรีบรุดมาดูเพคะ ต่อมามือสังหารผู้นั้นเองก็ต้องการลงมือกับหม่อมฉันด้วย ถึงแม้หม่อมฉันจะไม่ได้มีวรยุทธ์สูงส่ง แต่วิชาการป้องกันตัวพื้นฐานยังพอมีอยู่ จึงสามารถต้านทานมือสังหารผู้นั้นได้บ้างแม้จะยากลำบาก แต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บ… เซียวเฟยเหนียงเหนียงมาได้ครึ่งทาง เมื่อเห็นสถานการณ์ดังนี้ก็หันหลังต้องการจะไปเรียกคนมาช่วย คิดไม่ถึงว่าจะถูกมือสังหารผู้นั้นทำร้ายเข้าเพคะ”
อืม เมื่อฟังถึงตรงนี้ก็พอเข้าใจเหตุและผลทั้งหมดได้แล้ว
อวี้ชิงลั่วมองสีหน้าเคร่งเครียดของเหมิงกุ้ยเฟย ทันใดนั้นก็เอามือกุมอกแล้วถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ก่อนจะถ่มเลือดออกมาจากปาก
“อ๋า…” ทุกคนต่างก็กรีดร้องออกมา นักบวชหญิงทางด้านนั้นรีบเข้ามาประคองอวี้ชิงลั่ว
หนานหนานพุ่งเข้ามา “ยังมัวตกใจอะไรอยู่อีก รีบตามหมอมาสิ ท่านแม่ข้าประสบโชคร้ายเสียแล้ว เสด็จปู่เสด็จย่าของข้าไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่”
หมอหลวงเองก็มาด้วย อย่างไรเสียหญิงสาวกลุ่มใหญ่ออกมาด้วยกัน อีกทั้งยังอยู่ค้างคืนหนึ่งด้วย หากไม่มีหมอหลวงมาด้วยจะทำอย่างไรกัน
แต่เมื่อมาถึงด้านนอกวัด ก็ถูกเหมิงกุ้ยเฟยให้อยู่ด้านนอกเช่นกัน
“ไปตามหมอหลวงมา” ไกลออกไป จู่ๆ ก็มีเสียงที่แข็งกร้าวดังลอยมา
กลุ่มคนมองไปตามเสียง ก็เห็นเย่หลานเฉิงประคองฮองเฮาเหนียงเหนียงเดินมา แววตาเฉียบคมของฮองเฮากวาดมองทุกคน ณ ที่นั้น ก่อนจะกล่าวเสียงลุ่มลึก “มีเรื่องอันใดก็รอให้องค์หญิงเทียนฝูและเซียวเฟยปลอดภัยเสียก่อนค่อยว่ากัน สิ่งสำคัญตอนนี้คือต้องรีบให้องครักษ์ด้านนอกรีบตรวจสอบหามือสังหาร ผู้หญิงทุกคนอย่าแยกกัน ให้นางในของเซียวเฟยและองค์หญิงมาคอยรับใช้ อีกอย่าง ให้ทหารรักษาพระองค์ส่งคนไปกล่าวทูลฝ่าบาทเสีย ทุกคนที่นี่จะต้องไม่ให้เกิดเรื่องผิดพลาดอันใดอีก”
นักบวชหญิงสองสามคนนั้นตกตะลึง ตกใจในน้ำเสียงอันน่าเกรงขามของฮองเฮาเสียจนแทบตัวโยน พากันแยกย้ายไปทำตามคำสั่งของนาง
สีหน้าของเหมิงกุ้ยเฟยไม่พอใจเป็นอย่างมาก หญิงผู้นี้ ไม่คิดว่าจะมาใช้อำนาจในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้
แต่หญิงสาวจำนวนมากนี้เห็นว่าเป็นเพราะเหมิงกุ้ยเฟยชักช้าไม่ออกคำสั่ง ขณะเดียวกันก็มีการกระทำอันรวดเร็วและเฉียบขาดของฮองเฮาก็ทำให้เรื่องเปลี่ยนไปอย่างมาก ทุกคนจึงมองไปที่ฮองเฮาราวกับเห็นบุคคลสำคัญ
นัยน์ตาของอวี้ชิงลั่วลดต่ำลงเล็กน้อย อย่างไรฮองเฮาก็คือฮองเฮา ถึงแม้จะลดบทบาทในวังไปกี่ปี ผิดหวังไปกี่ปี เงียบเฉยไปกี่ปี แต่พลังในตัวนางยังคงอยู่ ความมั่นคงในหลายปีมานี้ยังมีอยู่
ถึงอย่างไรก็จะได้ใช้โอกาสที่หาได้ยากนี้ เรียกร้องความสนใจจากทุกคนใหม่ บางทีอาจจะได้โอกาสใหม่ในการปีนกลับขึ้นไปยังจุดที่ต่อกรกับเหมิงกุ้ยเฟยได้
พระราชเสาวนีย์ของฮองเฮาถูกดำเนินการไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก ทหารรักษาพระองค์ที่นอกวัดก็พากันเข้ามาอย่างเคร่งขรึม
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พวกเขาเข้ามาในวัดแล้ว สิ่งแรกที่หาเจอ… กลับไม่ใช่มือสังหาร
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
อืม ฮองเฮาดูมีบทบาทก็ตอนนี้แหละ บางทีการแข่งขันในวังหลวงก็น่าจะมีฮองเฮามาร่วมวงด้วย ปมยิ่งซับซ้อนกว่าเดิมแน่นอน
ไหหม่า(海馬)