อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 554 ใครบางคนจากข้างนอก
ตอนที่ 554 ใครบางคนจากข้างนอก
ตอนที่ 554 ใครบางคนจากข้างนอก
คนผู้นั้นเป็นเฟยเกอที่อำพรางใบหน้าไว้ นางถูกซูเฟยและไท่จื่อเฟยพามาไว้ตรงมุมห้อง
เฟยเกอถูกหามไปวางตรงหน้าเหมิงกุ้ยเฟยและฮองเฮา ทุกคนมองหน้ากันอย่างตกตะลึง และสายตาสงสัยของพวกนางก็จับจ้องไปยังเหมิงกุ้ยเฟย
“แปลกนัก ไม่ได้บอกหรือว่าห้ามให้คนรับใช้เข้ามา?”
“นั่นสิ แล้วสาวใช้ในวังของพระสนมผู้นี้มาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร มิหนำซ้ำยังอำพรางใบหน้าอีกด้วย”
“พิจารณาจากรูปลักษณ์ของนางแล้ว นางจะต้องเป็นมือสังหารเป็นแน่”
“แต่มือสังหารต้องเป็นบุรุษไม่ใช่หรือ?”
“เช่นนั้นก็อาจจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของมือสังหารหรือเปล่า?”
ทุกคนกระซิบ แต่เสียงไม่ดังหรือเบาจนเกินไปเหล่านั้นล้วนลอยเข้าไปในหูของเหมิงกุ้ยเฟย
ใบหน้าของเหมิงกุ้ยเฟยเริ่มมืดมนมากกว่าเดิม เมื่อมองไปยังเฟยเกอที่ไร้ประโยชน์ก็โมโหมาก “ปลุกนางให้เรา”
มีคนยกอ่างน้ำมาราดใส่ศีรษะนาง แล้วเขย่าตัวนางสองสามครั้ง
เฟยเกอตัวสั่นรุนแรง ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นจากพื้นและมีท่าทางสับสนอยู่ครู่หนึ่ง แต่ในวินาทีต่อมาที่เห็นเหมิงกุ้ยเฟยมีสีหน้ามืดมน พร้อมกับเห็นเหล่าพระสนมและหญิงสาวคนอื่น ๆ อยู่ตรงหน้า ใบหน้าของนางก็ซีดเผือด นึกขึ้นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่นางจะหมดสติไป
นางตัวสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุมได้ ขณะพลิกตัวกลับมาคุกเข่าลงตรงหน้าเหมิงกุ้ยเฟย “เหนียงเหนียงโปรดประทานอภัยด้วยเพคะ หม่อมฉันสมควรตาย”
“บอกมาสิ เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ในวัด? เราไม่ได้บอกว่าหรือว่าไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้ามา และทุกคนต้องรออยู่ข้างนอก? ทว่าเจ้ากลับดื้อรั้น คิดจะทำให้เราเสียหน้าอย่างนั้นหรือ? บอกมาว่าเจ้าเป็นพวกของมือสังหารที่ทำร้ายองค์หญิงเทียนฝูหรือไม่?
น้ำเสียงของเหมิงกุ้ยเฟยเย็นชา ขณะที่ฮองเฮาจิบชาและลอบเย้ยหยันในใจ
เฟยเกอตกตะลึง และรู้สึกมึนงง
เหนียงเหนียงตรัสว่าบัดนี้เซียวเฟยและองค์หญิงเทียนฝูได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ และยังมี… มือสังหารด้วยหรือ?
เฟยเกอรู้แผนการของเหมิงกุ้ยเฟย เมื่อได้ยินดังนั้นก็เงยหน้ามองเหมิงกุ้ยเฟยอีกครั้ง และรู้ว่าแผนการไม่ราบรื่นอย่างที่คิด ซึ่งเรื่องสำคัญที่สุดน่าจะเป็นเพราะนางจับตามองหนานหนานไว้ไม่สำเร็จ
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เฟยเกอก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้น รีบคิดหาคำพูดแก้ต่างทันที
นางโขกศีรษะลงกับพื้นอย่างแรงสองครั้ง กล่าวด้วยความเคารพและรู้สึกผิดว่า “หม่อมฉันสมควรตาย หม่อมฉันละเมิดคำสั่งของเหนียงเหนียง และเข้าไปมาในวัดโดยพลการ ขอให้เหนียงเหนียงโปรดลงโทษเถิดเพคะ”
“เหตุใดเจ้าถึงเข้าไปในวัดโดยพลการ? เจ้าคนรับใช้ต่ำต้อย จงบอกเรามาให้ชัดเจนบัดเดี๋ยวนี้”
“หม่อมฉัน เดิมทีหม่อมฉันรอเหนียงเหนียงอยู่ในรถม้า แต่เมื่อลงจากรถเพื่อไปห้องน้ำแล้วกลับมา จู่ ๆ ก็เห็นชายสวมหน้ากากท่าทางน่าสงสัยเดินเข้าไปในวัด หม่อมฉันกังวลว่าชายคนนั้นจะทำร้ายเหนียงเหนียงและนางข้าหลวงคนอื่นๆ จึงรอที่จะบอกคนอื่นไม่ไหวและเดินตามชายคนนั้นเข้าไป ใครจะคิดว่าวรยุทธ์ของชายผู้นั้นจะล้ำเลิศถึงเพียงนั้น เมื่อหม่อมฉันเดินตามเข้าไปก็ปรากฏว่าเขาหายตัวไปแล้วในชั่วพริบตา”
“ขณะที่หม่อมฉันกำลังจะกลับไปทูลเหนียงเหนียง ก็พบว่าซื่อจื่อน้อยของท่านอ๋องซิวกำลังเดินอยู่ตามลำพังในทิศที่มือสังหารหายตัวไป หม่อมฉันกังวลว่าซื่อจื่อน้อยจะตกอยู่ในอันตราย จึงตัดสินใจใช้ผ้าคลุมหน้าเพื่อเข้าไปหยุดเขาไว้ เพียงแต่ว่า… ซื่อจื่อน้อยมีฝีมือมาก และหม่อมฉันเองก็ประมาทด้วย จึงถูกซื่อจื่อน้อยทำให้หมดสติไป หม่อมฉันสมควรตายเพคะ”
คำอธิบายของนางช่างสมเหตุสมผล และทุกคนก็พยักหน้า
มีเพียงฮองเฮาเท่านั้นที่หรี่พระเนตรลงอย่างคลางแคลงใจ “ทุกคนในวังต่างรู้ดีว่าแม่นางเฟยเกอมีฝีมือเลิศล้ำ แล้วจะถูกเด็กทำให้หมดสติไปอย่างง่ายดายได้อย่างไร?”
“ทุกสิ่งที่หม่อมฉันพูดเป็นความจริง หากฮองเฮาเหนียงเหนียงอยากทราบ ก็ขอให้ซื่อจื่อน้อยออกมาเป็นพยานได้เพคะ”
หนานหนานถูกเชิญออกมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเขาไม่ค่อยเต็มใจนักเพราะต้องดูแลแม่ที่บาดเจ็บด้วย คนเหล่านี้ช่างน่ารำคาญเสียจริง
ฮองเฮาเล่าสิ่งที่เฟยเกอพูดเมื่อสักครู่นี้ แล้วทอดพระเนตรไปยังหนานหนาน
หนานหนานพ่นลมออกมาอย่างเย็นชา แต่ไม่ได้ปฏิเสธว่าเขาผลักเฟยเกอออกไป เพราะนั่นเป็นเวลาที่เขาจะแสดงความแข็งแกร่งของเขา
แต่เมื่อเห็นฮองเฮาขมวดพระขนงและดูผิดหวัง เขาก็บ่นพึมพำอีกว่า “ฮึ่ม เห็นได้ชัดว่านางตามข้ามาตลอดทาง และคอยเฝ้าดูข้าตั้งแต่ข้าเข้ามาในวัด” ไม่ใช่ว่านางแค่บังเอิญเจอเขาดังที่นางพูด
ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็เพิกเฉยต่อผู้คนที่แสดงออกแตกต่างกัน หลังจากส่ายหน้าด้วยความเบื่อหน่ายแล้ว เขาก็กลับเข้าไปในห้องเพื่อดูแลมารดาต่อ
“แม่ดีขึ้นแล้ว” อวี้ชิงลั่วยังคงดูอ่อนแรงมาก หนานหนานไม่ยอมให้นางลุก ไม่ยอมให้นางพูดมาก และยืนกรานที่จะป้อนน้ำให้ “แม่บอกแล้วไม่ใช่หรือ? เลือดที่หลังเป็นของปลอม แม่กินยาเข้าไปแล้วก็ไม่เป็นอะไรมากหรอก”
หนานหนานไม่สนใจนาง ถอนหายใจก่อนจะนั่งบนขอบเตียง
แม้หมอหลวงจะบอกว่าแม่ของเขาได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง แค่พักผ่อนให้มากขึ้นและกินยาให้ตรงเวลา ร่างกายของนางก็จะฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ
ทว่าอาการของเซียวเฟยนั้นรุนแรงกว่า จากการวินิจฉัยเบื้องต้น เกรงว่านางจะไม่อาจฟื้นขึ้นมาได้ในเวลาอันสั้น
หมอหลวงต้องการให้อวี้ชิงลั่วตรวจดูนาง แต่เมื่อเห็นว่านางก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกันจึงยังไม่กล้า เขาจึงทำได้เพียงบอกหว่านเฟยที่ยืนอยู่ด้านข้างว่าไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยสภาพเหงื่อเย็นผุดซึมอย่างวิตกกังวล
หลังจากนั้นไม่นานเย่หลานเฉิงก็เดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นหนานหนานนั่งหันหลังให้อวี้ชิงลั่วอยู่ข้างเตียงเงียบ ๆ เขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะลดฝีเท้าลงและยืนอยู่ข้างเตียงของอวี้ชิงลั่ว แล้วถามด้วยเสียงเบา “ท่านน้าชิง ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”
“นางไม่เป็นอะไร” หนานหนานหันกลับมาอย่างรวดเร็ว เหลือบมองเขาแล้วหันหลังกลับไปอีกครั้ง
เย่หลานเฉิงอดกระตุกมุมปากไม่ได้ และมองไปยังอวี้ชิงลั่ว “หนานหนานเป็นอะไรไป?”
“อย่าไปสนใจเขาเลย เขาคิดมากไปเอง” อวี้ชิงลั่วมองเย่หลานเฉิงและคิดจะลุกขึ้นนั่ง แต่เมื่อผ่านไปครู่หนึ่ง หนานหนานก็กดตัวนางกลับไปนอนอีกครั้ง
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจ “หนานหนาน เมื่อครู่นี้เจ้าไม่ได้บอกหรือว่าแม่ไม่เป็นอะไร?”
“ฮึ่ม” เจ้าตัวเล็กพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา และยังคงเบือนหน้าหนีต่อไป
เย่หลานเฉิงหัวเราะ และถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขาไปนั่งเก้าอี้ข้างอวี้ชิงลั่ว แล้วเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอก
“เฟยเกอถูกโบยสามสิบไม้และอยู่ในสภาพปางตาย เหมิงกุ้ยเฟยกล่าวว่านางทำผิดที่ตัดสินใจไม่แจ้งให้องครักษ์ทราบทันเวลา แต่ทุกคนต่างก็ยังสงสัยเฟยเกอเพราะสิ่งที่หนานหนานพูดก่อนที่เขาจะจากมา เพียงแต่อำนาจในมือของเสด็จย่าฮองเฮานั้นไม่ยิ่งใหญ่เท่าเหมิงกุ้ยเฟย ดังนั้นจึงไม่อาจทำอะไรกับคนของนางได้”
อวี้ชิงลั่วหัวเราะ “หลังจากที่เสด็จย่าของเจ้ากลับมาในครั้งนี้ ข้าเกรงว่านางคงจะได้รับอำนาจที่เป็นของนางกลับคืนมา หลานเฉิง เจ้าจะมีชีวิตที่ดีในอนาคตแล้วนะ”
เย่หลานเฉิงเงียบและส่ายศีรษะอยู่ครู่หนึ่ง “ตราบใดที่ยังอยู่ในวังก็ไม่มีวันจะดีได้ วันที่ข้ารู้สึกมีความสุขจริง ๆ ก็คือช่วงเวลาที่มีการซ่อมแซมวัง ข้า… ข้าอิจฉาหนานหนานเสียจริง”
“จะอิจฉาทำไม เจ้ามีแม่ที่ดี” หนานหนานรีบหันหน้ามาพูด
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุกอย่างรุนแรง “เจ้าหมายความว่าแม่ไม่ใช่แม่ที่ดีหรือ?”
หนานหนานรู้สึกว่าตนถูกดึงหู จึงรีบหดศีรษะลงเพื่อปกป้องตัวเอง แต่จู่ ๆ แม่นมเซียวที่กำลังยกอ่างน้ำก็รีบเดินเข้ามาหาอวี้ชิงลั่ว แล้วพูดว่า “มีคนจากนอกวัดมาหาเพคะ”
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
แถให้ได้ไปต่อ แต่อย่างไรก็ดูไม่เนียนนะเฟยเกอ
ใครมาหาจากนอกวัดกันล่ะเนี่ย
ไหหม่า(海馬)