อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 559 ไม่รบกวนการทำน้องสาวของพวกท่าน
ตอนที่ 559 ไม่รบกวนการทำน้องสาวของพวกท่าน
ตอนที่ 559 ไม่รบกวนการทำน้องสาวของพวกท่าน
แม่นมเซียวพยักหน้า ก่อนโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูของอวี้ชิงลั่ว “มีบางอย่างผิดปกติกับองค์ชายเจ็ดเพคะ”
องค์ชายเจ็ดหรือ? เย่ฮ่าวถิงหรือ? อวี้ชิงลั่วรู้สึกประหลาดใจ
“เขาทำอะไรหรือ?”
แม่นมเซียวหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “เมื่อคืนหม่อมฉันได้ยินมาว่าคนรับใช้ข้างกายองค์ชายเจ็ดทำเรื่องเหลวไหลมากมาย ขณะร่ำสุราอยู่ในโรงเตี๊ยม เขาบอกว่าได้ฝากญาติให้เข้ามาทำงานในวัง และได้รับใช้เหมิงกุ้ยเฟยอย่างใกล้ชิด และเขายังกล่าวว่าเหมิงกุ้ยเฟยเป็นผู้รับผิดชอบวังหลัง การทำสิ่งต่าง ๆ เคียงข้างนางจึงมีความสุขมากกว่าทำสิ่งต่าง ๆ เคียงข้างฝ่าบาท และได้รับผลประโยชน์มากกว่าเหมียวกงกงที่รับใช้เคียงข้างฝ่าบาท ซึ่งเรื่องแพร่ไปถึงพระกรรณของฝ่าบาทเมื่อเช้านี้เพคะ”
อวี้ชิงลั่วตระหนักได้ทันทีว่าหากคนรับใช้ผู้ต่ำต้อยคนนี้ พูดเช่นนี้ในวันปกติ บางทีเรื่องอาจจะไม่ร้ายแรงนัก เพราะการร่ำสุรานั้นทำให้ยากที่จะควบคุมตัวเองได้
ทว่าเรื่องนี้กลับเกิดขึ้นทันเหตุการณ์ที่วัดหลิงไท่เมื่อวานนี้ แล้วมันจะไม่ทำให้ยิ่งแย่ลงหรือ? และยังเป็นการพาดพิงถึงเหมียวเชียนชิว ผู้ที่ทรงคุณค่าและเก่งกาจมากที่สุดข้างกายฮ่องเต้ด้วย
แม้ว่าคนอื่นจะไม่พูดก็ตาม ทว่าหากเหมียวเชียนชิวรู้สึกไม่สบายใจเพราะเหมิงกุ้ยเฟยขึ้นมา และเขาไปรายงานแก่ฮ่องเต้อีกในเวลานี้ ก็มีหวังว่าเหมิงกุ้ยเฟยคงต้องพบจุดจบเสียแล้ว
อวี้ชิงลั่ววางชามในมือลงบนโต๊ะ แล้วเอนตัวลงบนเก้าอี้ยาวนุ่ม นางรู้สึกดีขึ้นมาก
แต่แม่นมเซียวที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกกังวลเล็กน้อย “องค์หญิง คราวนี้เหมิงกุ้ยเฟยเสียฮูหยินเสียซ้ำขุนศึก(1) จึงเกรงว่านางจะโกรธจัด และจะหันมาระบายความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดลงที่ท่าน หม่อมฉันเกรงว่าท่านจะถูกจัดการรุนแรงขึ้นกว่าเดิมเพคะ”
“อย่ากลัว อย่ากลัว ในเมื่อมาแล้วก็จงสงบใจ นอกจากนี้ แม้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์ที่วัดหลิงไท่ ท่านอ๋องซิวและข้าก็เป็นเป้าหมายที่นางต้องการกำจัดอยู่ดี นางไม่พอใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอข้า ต่อให้จะสงบนิ่งเพื่อไม่ยั่วยุนางก็ยังคงเปล่าประโยชน์”
อวี้ชิงลั่วรู้ดีว่าเหมิงกุ้ยเฟยเกลียดชังเย่ซิวตู๋มากเพียงใด คนที่ส่งมือสังหารมาตามล่าเขาตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก จะพลาดโอกาสที่จะจัดการกับพวกเขาได้อย่างไร?
“อีกอย่างคือบัดนี้เหมิงกุ้ยเฟยเองก็กำลังยุ่งเกินกว่าจะดูแลตัวเองแล้ว”
เหมิงกุ้ยเฟยถูกยึดอำนาจการปกครองวังหลัง และฮองเฮาก็กำลังจับตาดูนางอยู่ ฮองเฮาไม่ชอบนาง และพระสนมองค์อื่น ๆ ก็เพียงแค่ให้ความเคารพนางอย่างผิวเผินเท่านั้น
ความกังวลประการแรกของเหมิงกุ้ยเฟยตอนนี้ คือการทวงอำนาจในวังหลังกลับคืนมา และ…ทำให้ฮ่องเต้พอพระทัย
แม่นมเซียวคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพบว่ามันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ทว่าสิ่งที่ทำให้นางงงงวยก็คือ ท่านอ๋องซิวเป็นโอรสของเหมิงกุ้ยเฟย ทว่าเหมิงกุ้ยเฟยกลับโหดร้ายกับโอรสของตนยิ่งนัก ซึ่งทำให้นางประหลาดใจมาก
ขณะที่กำลังคิด รัศมีอันทรงพลังก็แผ่เข้ามาจากด้านนอกทันที
ทันทีที่แม่นมเซียวหันไปมอง นางก็เห็นเย่ซิวตู๋เข้ามาจากนอกประตู นางจึงพยักหน้าเล็กน้อยให้อวี้ชิงลั่ว แล้วกล่าวว่า “องค์หญิง หม่อมฉันขอตัวก่อนนะเพคะ”
นางพูดแล้วโค้งคำนับ และเดินออกไป
เย่ซิวตู๋เดินไปยังเก้าอี้ยาวนุ่ม จากนั้นเขาก็ก้มลงไปอุ้มนางขึ้นมานั่งลงบนตักของเขา แล้วถามนางด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “วันนี้รู้สึกดีขึ้นหรือไม่?”
อวี้ชิงลั่วมองเขาด้วยรอยยิ้มอ่อน แต่หลังจากได้ยินเช่นนั้นนางก็อดไม่ได้ที่จะกลอกตา “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ท่านกังวลเกินไป”
“เจ้ากำลังมีอาการบาดเจ็บภายใน เจ้าเป็นหมอ เจ้าย่อมรู้ดีกว่าข้าว่าอาการบาดเจ็บภายในหมายถึงอะไร”
อวี้ชิงลั่วยอมจำนน นางกลัวจริง ๆ ว่ายิ่งเขาพูดมากเท่าใด เขาก็ยิ่งจริงจังมากขึ้นเท่านั้น และถึงตอนนั้นอาจจะไม่ปล่อยให้นางไปนอนสักทีก็ได้
เมื่อคำพูดของแม่นมเซียวผุดขึ้นมาในสมองของนาง อวี้ชิงลั่วก็รีบเปลี่ยนเรื่องและถามอย่างขบขันว่า “เรื่องคนรับใช้ขององค์ชายเจ็ด เป็นฝีมือของท่านใช่หรือไม่?”
“อืม” เย่ซิวตู๋ไม่ปฏิเสธ เขาเอนกายเอาแขนโอบกอดนางไว้ กดศีรษะของนางแนบอกของเขา แล้วหลับตาลงช้า ๆ
“แม้แต่องค์ชายเจ็ดก็ยังต้องถูกลงโทษหรือ?”
“คนรับใช้ถูกโบยด้วยไม้จนตาย เย่ฮ่าวถิงถูกเสด็จพ่อตำหนิ และถูกกักบริเวณ ห้ามออกจากวัง” เย่ซิวตู๋พูดอย่างแช่มช้าด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ทว่าการลงโทษด้วยการกักบริเวณจะเกิดขึ้นหลังจากการแข่งขันใหญ่ของสี่อาณาจักร หลังจากเย่ฮ่าวหรานจากไป หลายสิ่งหลายอย่างจะมาตกที่เย่ฮ่าวถิง โดยไม่อาจหยุดยั้งได้”
อวี้ชิงลั่วส่งเสียง ‘อืม’ อย่างไรเสียเหมิงกุ้ยเฟยก็ถูกลงโทษ และตอนนี้ผลลัพธ์ก็ไม่เลวนัก หากเป็นเรื่องร้ายแรงกว่านี้ ก็คงขายหน้าอีกสามอาณาจักร และฮ่องเต้จะต้องขายพระพักตร์
ทว่าหลังจากที่ได้ยินเขาพูดถึงเย่ฮ่าวหรานแล้ว อวี้ชิงลั่วก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขา แล้วถามว่า “ข้ารอมาหลายวันแล้ว มีข่าวเกี่ยวกับหลิวหลีและอีกคนบ้างหรือไม่?”
“ตอนนี้รู้ว่าพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปทางไหน แต่ไม่มีเบาะแสว่าพวกเขากำลังจะไปที่ไหน” เย่ซิวตู๋ลูบหลังนาง น้ำเสียงของเขาเบาลงและอ่อนหวานขึ้นเรื่อย ๆ
“ไปทางไหน?”
“ไปทางเจียงเฉิง ข้าส่งคนไปรอที่โรงเตี๊ยมในเจียงเฉิงแล้ว รอดูว่าจะได้พบพวกเขาหรือไม่”
อวี้ชิงลั่วนึกถึงคนสองคนที่วางแผนพากันหนีอย่างลึกลับ แล้วนางก็รู้สึกปวดหัวมาก เหตุใดพวกเขาถึงได้ตัดสินใจอย่างวู่วามเช่นนี้?
อวี้ชิงลั่วแอบถอนหายใจแล้วหลับตาลง อาการง่วงนอนหลังจากรับประทานอาหารและดื่มเหล้านั้นไม่ดีจริง ๆ ไม่ดีเลย
เอ่อ ง่วงนอนจัง…
สมองของนางค่อย ๆ ว่างเปล่า เมื่อมีเย่ซิวตู๋อยู่เคียงข้างนาง นางจึงรู้สึกผ่อนคลายและค่อย ๆ หลับใหลอย่างง่ายดาย
ค่อย ๆ … จมดิ่งสู่ห้วงนิทรา
“ท่านแม่!!”
จู่ ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น อวี้ชิงลั่วจึงตื่นขึ้นมากะทันหัน และสั่นสะท้านไปทั้งตัว
เย่ซิวตู๋รีบกอดนางไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้คนในอ้อมแขนของเขาหล่นลงไป
จากนั้นเขาก็จ้องไปยังหนานหนานที่วิ่งเข้ามาจากด้านนอก ด้วยสีหน้าไม่พอใจ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะพูด “เอะอะโวยวายอะไร มันรบกวนการพักผ่อนของแม่เจ้า”
หนานหนานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และหยุดฝีเท้าทันทีเมื่อไปถึงประตู ดวงตากลมโตของเขาเหลือบมองสถานการณ์ภายในห้อง และร่องรอยของความสำนึกผิดก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา “อ๊ะ ข้าขอโทษ ข้าขอโทษ ข้าไม่รู้ว่าท่านแม่กับท่านพ่อกำลังจะทำน้องสาวให้ข้า เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวน ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้”
พูดจบแล้วเขาก็เดินถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็ราวกับว่านึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาจึงหันหน้ามาพูดสอนทั้งสองด้วยสีหน้าจริงจัง “พวกท่านนี่จริง ๆ เลย เหตุใดไม่ปิดประตูตอนทำน้องสาวของข้า? นี่มันแย่เพียงใดกัน? หากเรื่องนี้ทำให้น้องสาวของข้าไม่อาจเป็นสตรีที่งดงามที่สุดในโลกได้ พวกท่านจะเป็นบาปหนักมาก”
จากนั้นเขาก็ก้าวเข้าประตูมา แล้วเลื่อนประตูปิดอย่างระมัดระวัง เพราะตั้งใจจะทำให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของพวกเขา
“หยุดเลย แล้วมาหาแม่” อวี้ชิงลั่วที่สุดท้ายก็ตาสว่างขึ้นมาแล้วอดเกาศีรษะของตนไม่ได้ นางพยายามระงับความคิดที่อยากจะจับเขามาตีสักที แล้วถอนหายใจ “เจ้าไม่ได้ไปดูการแข่งขันหรอกหรือ? เหตุใดจึงกลับมาตอนนี้?”
“โอ้” หนานหนานเห็นว่าแม่ของเขายังไม่ได้ทำน้องสาวกับพ่อ เขาจึงค่อย ๆ เดินเข้ามา “ใช่แล้ว จู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานลืมเรื่องสำคัญไป ข้าเกรงว่าจะลืมเสียก่อน จึงรีบกลับมาบอกท่านแม่ในขณะที่เรื่องยังคุกรุ่นอยู่”
……………………………………………………………………………………………………………….
(1)เสียฮูหยินเสียซ้ำขุนศึก หมายถึง การสูญเสียสองอย่างในครั้งเดียว
สารจากผู้แปล
แผนการตลบหลังแม่ตัวเองร้ายกาจมากท่านอ๋อง
๕๕๕ หนานหนาน อยากมีน้องสาวแล้วเหรอ ถึงมองว่าการที่ท่านพ่อท่านแม่ใกล้ชิดกันคือการทำน้องสาว
ไหหม่า(海馬)