อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 563 ชนะโดยไม่ลงแรง
ตอนที่ 563 ชนะโดยไม่ลงแรง
ตอนที่ 563 ชนะโดยไม่ลงแรง
กรรมการทางด้านนั้นประหลาดใจ มองเขาอย่างแปลกใจแวบสายตาหนึ่ง ครู่หนึ่งหลังจากสบตากับกรรมการท่านอื่นๆ แล้วก็เคาะฆ้องดัง ‘ตึง’ หนึ่งครั้ง
เขาเดินมายังข้างๆ หนานหนานแล้วถาม “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ”
“ท่านโปรดรอสักครู่” หนานหนานพยักหน้าให้กรรมการผู้นั้น จากนั้นก็วิ่งไปหาหัวหน้าผู้เล่นจากอาณาจักรจิงเหลย
หัวหน้ากลุ่มที่อยู่ตรงหน้าดูแล้วจะสูงกว่าเขามาก หนานหนานยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็ให้ความรู้สึกเหมือนตัวเล็กลงมาก
เขารู้สึกไม่ดีนักจึงถอยหลังมาสองก้าวทันที นี่สิจึงจะรู้สึกพอดีขึ้นหน่อย
“นี่ เหตุใดพวกเจ้าจึงไม่แข่งให้ดีๆ เล่า”
หัวหน้ากลุ่มผู้นั้นขมวดคิ้วมองเขาแวบสายตาหนึ่ง “เจ้าพูดเรื่องอันใดอยู่?”
หนานหนานโมโหมาก “พวกเจ้าดูเหมือนกำลังแข่งอยู่งั้นหรือ? แต่ละคนดูผอมแห้งแรงน้อย ขนาดลูกอยู่ข้างตัวพวกเจ้ายังไม่คิดจะเข้าไปแย่ง” เช่นนี้ยิ่งแข่งต่อไปจะสนุกได้อย่างไร ราวกับว่าพวกเขากำลังเล่นแต่กับพวกตนเอง ไม่มีความตื่นเต้นเลยสักนิด
“ถึงแม้ว่าฝีมือพวกเจ้าจะเทียบพวกเราไม่ได้ ข้าเองก็ยอมรับ การแข่งขันครั้งนี้พวกเราจะต้องชนะแน่ แต่ถึงจะอย่างนั้น พวกเจ้าก็ไม่ควรเล่นอย่างใจไม่สู้ไม่ใช่หรือ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเราก็จะชนะโดยไม่ต้องลงแรงเลย เข้าใจหรือไม่?”
หัวหน้ากลุ่มหรี่ตามองหนานหนานครู่หนึ่ง ผ่านไปครู่ใหญ่จึงกล่าวเสียงเย็น “เดิมทีพวกเจ้าก็ชนะได้โดยไม่ต้องใช้แรงอยู่แล้ว หากไม่ใช่ว่าครั้งก่อนพวกเจ้าใช้กลยุทธ์ทุกข์กายก็คงจะชนะตั้งแต่ครึ่งเดือนที่แล้วแล้ว ตอนนี้น่ะหรือ? เฮอะ”
หนานหนานโกรธมาก นี่มันหมายความว่าอันใดกัน ครั้งก่อนเห็นได้ชัดว่าพวกเขายังใช้กลโกงสกปรกกันอยู่เลย
หนานหนานเริ่มถกแขนเสื้อ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวไปข้างหน้าก็ถูกคนดึงรั้งเอาไว้อีกครั้ง
เขาหันหน้าไปก็เห็นเป็นหยางหลินอีกครั้ง สีหน้าเปลี่ยนเป็นจนใจในทันที “ทำอะไรของเจ้าน่ะ?”
“อย่าไปเลย จะทะเลาะกันในสนามแข่งขันไม่ได้นะ”
“แต่การแข่งขันครานี้ข้าคับข้องใจมากจริงๆ เจ้าไม่คับข้องใจบ้างหรือ?” อีกอย่างเขาก็ไม่เคยคิดจะต่อสู้ ท่านแม่กล่าวไว้ว่าการต่อสู้ไม่ใช่เรื่องดี เขาเพียงแค่อยากขู่คนพวกนั้นก็เท่านั้น
หยางหลินถอนหายใจ เขาเองก็คับข้องใจ พวกเขาทุกคนต่างตั้งใจฝึกซ้อมกันอย่างขยันขันแข็งมากมากว่าครึ่งเดือน ทุกคนต่างอยากจะแสดงความสามารถในสนามแข่งให้เต็มที่ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้คิดจะตั้งใจต่อสู้กับพวกเขาเลยตั้งแต่แรก
การแข่งขันเช่นนี้ก็เหมือนอย่างที่หนานหนานบอก ไม่รู้สึกถึงความสำเร็จเลยแม้แต่น้อย ต่อให้ชนะจริงๆ ก็เหมือนกับว่าถูกพวกเขายอมลงให้ ชนะโดยไม่ต้องลงแรงอันใด
ไม่เพียงแต่หยางหลินเท่านั้น แม้แต่เย่หลานเวยที่ไม่สนใจกระบวนการแต่สนเพียงผลลัพธ์มาโดยตลอด ในใจเองก็รู้สึกไม่ดีเป็นอย่างยิ่ง
เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นด้วยกับมุมมองของหนานหนาน
ผู้เล่นคนอื่นๆ เองก็เช่นกัน ฝั่งอาณาจักรจิงเหลยไม่ต่อสู้เลย พวกเขาเองก็ไม่มีชีวิตชีวาขึ้นมาเลยเช่นกัน การแข่งขันเช่นนี้ไม่ต้องแข่งยังจะดีเสียกว่า
แต่ผู้เล่นจากอาณาจักรจิงเหลยไม่สนใจมาตั้งแต่แรกแล้ว อย่างไรเสียพวกเขาก็มีแต่แพ้ สู้เก็บแรงไว้เสียยังจะดีกว่า ไม่จำเป็นต้องทำเหมือนอีกฝ่าย ทำตัวเองให้เหงื่อท่วมส่งกลิ่นเหม็น
ทางด้านผู้ชมที่อยู่ตรงอัฒจันทร์ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันขึ้นมา ใครๆ ก็ดูออกว่าการแข่งขันของทั้งสองอาณาจักรนั้นเกิดสิ่งใดขึ้น
ฮ่องเต้อดไม่ได้ที่จะขมวดพระขนง เคาะนิ้วพระหัตถ์กับโต๊ะเบาๆ สีพระพักตร์ไม่พอพระทัยเป็นอย่างยิ่ง
ผ่านไปครู่ใหญ่จึงหันมาตรัสกับเย่ซิวตู๋เบาๆ “เรื่องเช่นนี้ เจ้าเห็นว่าอย่างไร”
ครั้งนี้เย่ซิวตู๋นั่งอยู่ข้างๆ ฮ่องเต้ ทั้งคู่คุยกันได้อย่างสะดวก เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็มองไปยังผู้เล่นที่ยืนประจันหน้ากันอยู่กลางสนามแข่งขันด้วยสายตาลุ่มลึกแล้วหัวเราะออกมา “ซ่างกวนจิ่นเห็นชัดแล้วว่าการแข่งขันครั้งนี้ไม่มีทางชนะ ดังนั้นจึงไม่ได้ดูแลผู้แข่งขันอย่างดี ดังนั้น ต่อให้อาณาจักรเฟิงชางจะชนะก็จะไม่รู้สึกภาคภูมิใจ พวกเขายังสามารถใช้การที่อุปราชแห่งอาณาจักรจิงเหลยถูกลอบสังหารมาอ้างว่าทำให้ผู้เล่นจากฝ่ายจิงเหลยรู้สึกหดหู่ใจ ดังนั้นจึงแพ้ในการแข่งขันครั้งนี้พ่ะย่ะค่ะ”
“นั่นสินะ” ฮ่องเต้คลึงพระอุณาโลม พระองค์คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าต่อให้ซ่างกวนจิ่นนอนป่วยอยู่บนเตียงตอนนี้ก็ยังจะใช้แผนร้ายมาเป็นข้ออ้างให้ตนเอง “ดังนั้น ต่อให้พวกหนานหนานชนะ ออกไปก็ไม่ได้มีความรู้สึกภูมิใจอันใด”
ผลลัพธ์เช่นนั้นจะเป็นความเจ็บปวดของเด็กๆ เหล่านั้นอย่างแน่นอน
เย่ซิวตู๋พยักหน้า ค่อยๆ นั่งตัวตรง สายตามองไปยังร่างของบุตรชายอย่างอ่อนโยน
เหล่าผู้เล่นทั้งสองฝั่งในสนามต่างก็อยู่ในสถานการณ์จริงจัง บรรยากาศตึงเครียดอยู่ตลอดเวลา
ทันใดนั้น หัวหน้าผู้เล่นฝั่งอาณาจักรจิงเหลยก็หมุนตัวกลับโดยไม่ปรึกษาใคร เดินไปทางกรรมการเพื่อขอให้พวกเขาเริ่มการแข่งขันอีกครั้ง
หนานหนานมองแผ่นหลังของเขาพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและเริ่มกำหมัด อยากจะต่อยอีกฝ่ายให้ตายเสีย
“รอเดี๋ยว” หนานหนานกล่าวเสียงดัง เชิดหน้าขึ้น
หยางหลินที่อยู่ด้านข้างเขาแปลกใจ เป็นห่วงมากว่าอีกครู่ต่อมาหนานหนานจะใจร้อน เดี๋ยวจะต่อสู้กันกลางสนามแข่งจนได้รับบาดเจ็บอีก
หัวหน้าผู้นั้นหันศีรษะมากึ่งหนึ่ง มุมปากแสยะยิ้มเยาะ
หนานหนานแค่นหัวเราะ “ที่จริงเจ้าไม่ต้องเอ่ยถึงการแข่งขันคราวที่แล้วก็ได้ คราก่อนเกิดอะไรขึ้นพวกเจ้าต่างก็รู้ดีกว่าข้า นี่ ที่ผ่านมาข้าเข้าใจมาโดยตลอดว่าผู้เล่นจากอาณาจักรจิงเหลยต่างก็เป็นยอดวีรบุรุษ คิดไม่ถึงว่านอกจากจะสามารถใช้กลยุทธ์ต่ำทรามในการชนะการแข่งขันแล้ว เหมือนว่าจะไม่มีแม้กระทั่งเรี่ยวแรงอีกด้วย ดูตอนนี้สิ พอไม่มีเจ้าคนที่ใช้ยาพิษได้อยู่ด้วยแล้ว พวกเจ้าก็ไม่มีความมั่นใจเลยแม้แต่น้อย”
ขณะกล่าวก็เริ่มส่ายศีรษะ
“ข้าผิดหวังกับพวกเจ้าจริงๆ ที่แท้อาณาจักรจิงเหลยก็มีดีเพียงแค่นี้ น่าละอายเหลือเกินที่คนทั่วไปต่างก็ชื่นชมพวกเจ้าว่าผู้เล่นจากอาณาจักรจิงเหลยแต่ละคนต่างเก่งกล้าองอาจยิ่งนัก แต่ดูตอนนี้สิ… พวกเจ้ากลับทำให้อาณาจักรจิงเหลยต้องขายหน้า พวกเจ้าน่ะ แม้แต่ความกล้าจะสู้กับพวกข้ายังไม่มี กลับบ้านไปให้อาหารหมูเสียไม่ดีกว่าหรือ? จะมาแข่งอันใดกัน?”
“คนดังเช่นพวกเจ้า ต่อไปก็คงไม่มีอนาคตยิ่งใหญ่อันใด แม้แต่เกียรติยศของอาณาจักรยังไม่มี จิ๊ๆ รู้หรือไม่ว่าเกียรติยศของอาณาจักรคืออะไร? ต้องให้ข้าอธิบายหรือไม่?”
หัวหน้าผู้นั้นโกรธจนหน้าเขียว ในเมื่อเป็นผู้แข่งขัน ในเมื่อมาลงแข่งขันแล้ว พวกเขาเองก็ย่อมต้องการจะแข่งขันดีๆ สักครั้ง ยิ่งอยากจะชนะการแข่งขันครั้งนี้
แต่ก่อนที่จะออกมา อุปราชกลับบอกพวกเขาอย่างชัดแจ้งว่าการแข่งขันครั้งนี้ไม่มีทางชนะได้ ดังนั้นก็ให้ยอมแพ้เสีย ถึงแม้พวกเขาจะไป ก็ถือว่าเพียงมาอาบแดดเท่านั้น
คำสั่งของอุปราช พวกเขาจะไม่ทำตามได้อย่างไร
ทว่าในใจของพวกเขาก็เห็นแก่เกียรติยศของอาณาจักรมาโดยตลอด ภูมิใจในการเป็นประชาชนของอาณาจักรจิงเหลย พวกเขาเองก็ต้องการเอาชนะเพื่ออาณาจักร และอยากจะต่อสู้ในการแข่งขันอย่างแข็งแกร่ง
ตอนนี้คำพูดของหนานหนานนั้นสบประมาทพวกเขาอย่างหนัก ไม่นะ…
หัวหน้าผู้นั้นเสียอารมณ์เล็กน้อย จริงๆ แล้วพวกเขาเองคือคนที่ทำให้อาณาจักรต้องเสื่อมเกียรติ ต่อไปเมื่อกลับไปถึงอาณาจักรจิงเหลย พวกเขาเองก็รู้สึกละอายใจที่จะต้องพบหน้าครอบครัวและมิตรสหาย
หยางหลินคอยสำรวจสีหน้าของหัวหน้าผู้นั้นอย่างระแวดระวัง ช่วงหลังๆ มานี้ ทุกๆ คืนหลังจากฝึกซ้อมเสร็จ เขาก็จะร่ำเรียนกับเสนาบดีฝั่งขวา ทุกวันก็จะเล่าเรียนจนถึงดึกดื่นจึงจะได้กลับไปพัก
และสิ่งที่ได้เรียนรู้มากที่สุดก็คือการตรวจสอบสีหน้า
เช่นเดียวกับตอนนี้ เขารู้แล้วว่าคำพูดของหนานหนานมีผลต่อจิตใจของหัวหน้าผู้นั้น
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
หนานหนานนักปั่นมาแล้วจ้า ปั่นจนฝ่ายตรงข้ามกลับมาฮึดสู้ได้อะคิดดู
ไหหม่า(海馬)