อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 570 พาเย่ฮ่าวหรานไปพบท่าน
ตอนที่ 570 พาเย่ฮ่าวหรานไปพบท่าน
ตอนที่ 570 พาเย่ฮ่าวหรานไปพบท่าน
ก่อนที่หงเย่จะออกมา นางก็ถูกเย่ฮ่าวหรานที่กำลังหงุดหงิดและเคร่งเครียดผลักให้หลีกไป
โชคดีที่หงเย่หลบได้ทัน นางเหนื่อยกับการเป็นลูกมือรักษาคนไข้มากอยู่แล้ว จึงถอยออกมายืนรออยู่ด้านข้าง
เย่ฮ่าวหรานรีบวิ่งไปที่ข้างเตียง เมื่อมองจินหลิวหลีที่ได้รับการทำความสะอาดเนื้อตัวแล้ว แต่ยังไม่รู้สึกตัว นิ้วของเขาก็สั่นเทาเล็กน้อย
จากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็หน้าไปถามอวี้ชิงลั่วว่า “นางเป็นอย่างไรบ้าง? มี มีอะไรผิดปกติหรือไม่?”
ดวงตาของอวี้ชิงลั่วเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า เมื่อนางตกใจเสียงเขา นางก็เกือบจะสูญเสียการทรงตัว
เย่ซิวตู๋รีบยื่นมือให้นาง แล้วมองไปที่เย่ฮ่าวหราน ก่อนบอกให้หนานหนานนำเก้าอี้ด้านข้างมาให้ และประคองอวี้ชิงลั่วให้นั่งลงอย่างระมัดระวัง
“ค่อย ๆ พูด เหนื่อยมากแล้ว ดื่มชาก่อน”
“ค่อย ๆ พูดได้อย่างไร รีบบอกข้ามาเร็วว่าหลีเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง? นาง นางจะ นางจะ…” เย่ฮ่าวหรานค่อนข้างสติแตก ขณะที่เขาพูดด้วยความโมโห เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาก็ปูดโปนออกมา ดูน่ากลัวอย่างยิ่ง
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจเบา ๆ ก่อนหันไปมองจินหลิวหลีบนเตียง แล้วกระซิบว่า “ไม่ต้องกังวล ช่วยชีวิตไว้ได้แล้ว”
ทันทีที่นางพูดจบ เย่ซิวตู๋ก็ยกถ้วยน้ำชามาจ่อปากของนาง และบังคับให้นางจิบชา
เมื่อเย่ฮ่าวหรานได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขาก็ผ่อนคลายลงทันที เขารีบเดินไปข้างเตียงจินหลิวหลี แล้วจ้องมองนางอย่างไม่ละสายตา
อวี้ชิงลั่วมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็อ้าปากเตรียมจะพูดอะไรบางอย่าง
แต่ก่อนที่นางจะส่งเสียงพูดออกมา เย่ซิวตู๋ก็ส่ายหน้า แล้วก้มตัวอุ้มนางออกไป
ประตูปิดอีกครั้ง เหลือเพียงเย่ฮ่าวหรานและจินหลิวหลีในห้อง
อวี้ชิงลั่วหรี่ตาลงมองเย่ซิวตู๋ แล้วถามว่า “เย่ฮ่าวหรานบอกหรือไม่ว่าเหตุใดพวกเขาถึงได้รับบาดเจ็บ? หลิวหลีได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”
“ไม่ได้บอก ดูจากสภาพของเขาในตอนนี้ ข้าเกรงว่าเขาจะไม่ฟังสิ่งที่เจ้าถาม”
เย่ซิวตู๋อุ้มนางเดินไปที่โถงบุปผา “ข้ารู้ว่าเจ้ายังมีคำถามมากมายที่อยากจะถาม แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา รอจนกว่าจินหลิวหลีฟื้นขึ้นมาก่อนดีกว่า แล้วเราค่อยไปทำความเข้าใจกันตอนนั้น เจ้าเหนื่อยมากแล้ว กินข้าวก่อนเถิดแล้วค่อยนอนพักผ่อน”
อวี้ชิงลั่วคิดดูแล้วก็เห็นว่าเป็นจริง ตอนนี้ทั้งหัวใจ ตาและหูของเย่ฮ่าวหรานล้วนจดจ่ออยู่ที่จินหลิวหลี เกรงว่าเขาคงจะไม่สามารถตอบอะไรได้
ดังนั้นนางจึงทิ้งความคิดนั้นไป และจะรอจนกว่าจินหลิวหลีจะพ้นขีดอันตรายอย่างสมบูรณ์
ทว่าเมื่อมองเห็นทิศทางที่เย่ซิวตู๋กำลังเดินไป อวี้ชิงลั่วก็รีบบอกให้เขาหยุด “ข้าไม่กิน โปรดส่งข้ากลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อน ข้ากังวลว่าบาดแผลของหลิวหลีจะติดเชื้อและอักเสบกลางดึก ข้าจึงต้องรีบเข้านอนเป็นเวลาหนึ่งชั่วยาม เพื่อให้จิตใจแจ่มใสพอที่จะปกป้องนางตอนกลางดึกได้”
เย่ซิวตู๋หยุดกะทันหัน เขาขมวดคิ้วมองนางอย่างไม่พอใจ
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจ “หลิวหลีเป็นสหายที่ดีของข้า ตอนนี้จะไม่เป็นห่วงนางได้อย่างไร ท่านไม่ต้องกังวล แค่ครั้งนี้เท่านั้น”
เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว จากนั้นครู่หนึ่งก็หันกลับมาอย่างเสียไม่ได้ แล้วเดินอุ้มนางไปยัง ‘เรือนตู๋’
เรือนตู๋ค่อนข้างอยู่ใกล้ที่นั่น เมื่อนางตื่นแล้วก็จะได้กลับไปอย่างสะดวก
แม้จะบอกว่าจะหลับ แต่ก็เป็นเพียงการพักสายตาแค่ชั่วครู่เท่านั้น
อวี้ชิงลั่วมีบางอย่างในใจ แล้วนางจะหลับลงได้อย่างไร? ในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง นางก็ลุกขึ้นและกลับไปที่บ้านของจินหลิวหลี
เย่ฮ่าวหรานยังคงนอนฟุบอยู่ข้างเตียงของนาง ท่าทางของเขาเหมือนกับก่อนที่นางจะจากไปทุกประการ เขาไม่ได้ขยับตัวเลยหรือ?
นางถอนหายใจ แล้วหันไปถามเย่ซิวตู๋ “เขาไม่กินอะไรเลยหรือ?”
เย่ซิวตู๋บุ้ยปากไปทางโต๊ะ “เรียกตั้งสองครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ขยับเลย”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นางเองก็กินอะไรไม่ลงเช่นกัน อวี้ชิงลั่วจึงเข้าใจเขาจึงไม่ได้บังคับเย่ฮ่าวหราน นางเดินไปที่ขอบเตียงแล้วมองจินหลิวหลี ทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนเดิม จากนั้นนางก็เดินออกจากห้องชั้นในไปอีกครั้ง
เย่ซิวตู๋เตรียมอาหารไว้ให้นางข้างนอกแล้ว เพราะคิดว่าเมื่ออวี้ชิงลั่วตื่นขึ้น เขาต้องให้นางได้กินอะไรรองท้องบ้าง
ช่วงกลางดึก จินหลิวหลีไข้ขึ้นเล็กน้อย แต่โชคดีที่มีอวี้ชิงลั่วอยู่เคียงข้าง และนางก็จัดการได้อย่างทันท่วงที มันจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่
เย่ฮ่าวหรานไม่ได้เอ่ยคำใดตั้งแต่ต้นจนจบ ฝ่ามือของเขากุมมือของจินหลิวหลีอย่างอ่อนโยน ขณะเม้มปากแน่น
จวบจนกระทั่งท้องฟ้าข้างนอกค่อย ๆ สว่างขึ้น อวี้ชิงลั่วเรียกเขาด้วยเสียงแผ่วเบา
แต่ดูเหมือนว่าเย่ฮ่าวหรานจะไม่ได้ยิน และไม่เงยหน้าขึ้น
หนานหนานเข้ามาหาหลังอาหารเช้า เมื่อได้ยินว่าจินหลิวหลีปลอดภัยดี เด็กน้อยก็ลูบอกของตน แล้วหัวเราะออกมาดัง ๆ
จากนั้นครู่หนึ่ง เย่ซิวตู๋ก็เดินมาข้างนางด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วพูดเสียงเบา
“เมื่อวานนี้น้องแปดมาอย่างโจ่งแจ้งเกินไป เมื่อเสด็จพ่อทราบว่าเขากลับมาที่เมืองหลวงแล้ว ท่านก็ขอให้ข้าพาน้องแปดไปพบท่าน หลังการแข่งขันใหญ่ของสี่อาณาจักรจบลงในวันนี้”
ไปพบหรือ?
ฮ่องเต้พิโรธหนัก และจะคิดบัญชีเย่ฮ่าวหราน
ใช่แล้ว เย่ฮ่าวหรานกล้ามากที่หนีจากไปตามใจตนเอง ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฮ่องเต้จะทรงเรียกเขาไป
ปัญหาคือสภาพของเย่ฮ่าวหรานในตอนนี้ แม้ว่านั่นจะเป็นพระราชโองการของฮ่องเต้ แต่ก็คาดว่าเขาคงจะไม่ฟังแน่
ไม่ต้องพูดถึงการหาวิธีที่ดีที่สุดในการประนีประนอม
“เหมียวกงกงมาบอกหรือ?”
เย่ซิวตู๋พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “แต่เมื่อวานเจ้านี่เข้ามาในสภาพเลือดท่วมกาย ข้าจึงให้เหตุผลไปว่าน้องแปดได้รับบาดเจ็บ และขอให้เหมียวกงกงช่วยกลับไปรายงานเสด็จพ่อ โดยบอกว่าขณะนี้เขาหมดสติอยู่ แม้จะไม่ต้องห่วงว่าจะถึงชีวิต แต่ก็ไม่ควรขยับร่างกายในตอนนี้”
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้วมองเขา แล้วยกนิ้วโป้งให้ “ท่านอ๋องซิวตอบไปได้อย่างเฉียบขาดยิ่งนัก”
“ชิงเอ๋อร์ชอบข้ามากขึ้นหรือ?” เย่ซิวตู๋บีบปลายจมูกของนาง
อวี้ชิงลั่วเผยรอยยิ้มแล้วหัวเราะ ก่อนที่นางจะพูดอะไร เสียงแผ่วเบาก็ดังมาจากข้างใน
อวี้ชิงลั่วและเย่ซิวตู๋มองหน้ากัน แล้วเสียงของเย่ฮ่าวหรานก็ดังขึ้นทันที “หลีเอ๋อร์ เจ้าฟื้นแล้วหรือ?”
อวี้ชิงลั่วรีบหันไปมอง แล้ววิ่งเข้าไปในห้องชั้นใน นางเห็นจินหลิวหลีลืมตาขึ้นด้วยความยากลำบาก แล้วส่งยิ้มให้เย่ฮ่าวหราน
เย่ฮ่าวหรานเกือบจะร้องไห้ออกมาด้วยความปีติยินดี เขาจับมือนาง แล้วพูดละล่ำละลัก “เยี่ยมมาก เจ้าฟื้นแล้ว ฟื้นแล้ว”
“ข้าจะตรวจดู” อวี้ชิงลั่วจับไหล่ของเขาและกระซิบ
คราวนี้เย่ฮ่าวหรานเชื่อฟัง เมื่อรู้ว่าเป็นอวี้ชิงลั่ว เขาก็ลุกขึ้นหลีกทางให้นางทันที
อวี้ชิงลั่วตรวจอาการของจินหลิวหลีอีกครั้ง ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของนาง “ข้าไม่เสียแรงเปล่าแล้ว ในที่สุดก็ผ่านไปได้ด้วยดี”
“…ชิงลั่ว” จินหลิวหลีขยับปากอันซีดเซียวเอ่ย
อวี้ชิงลั่วมองนางด้วยความโกรธเคือง “ไม่ต้องมาเรียกข้าเลย ข้าจะคิดบัญชีเจ้าเมื่อเจ้าหายดี”
จินหลิวหลีตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จู่ ๆ คิ้วของนางก็ขมวด จากนั้นนางก็พูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ขอโทษ”
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว นางแค่ล้อเล่นเท่านั้น แต่คำว่า ‘ขอโทษ’ ของหลิวหลีดูจริงจังเกินไปจนนางทำอะไรไม่ถูก
ขณะที่นางรู้สึกทำอะไรไม่ถูกนั้น เย่ฮ่าวหรานที่ยืนอยู่ข้างหลังนางก็หน้าซีดเผือด และจู่ ๆ ก็ถอยหลังไปสองก้าว
ทันใดนั้นเขาก็พูดเสียงดังว่า “อวี้ชิงลั่ว ช่วยดูแลหลีเอ๋อร์ให้ดีแทนข้าก่อน ข้ามีบางอย่างต้องทำ”
“หือ?” ก่อนที่อวี้ชิงลั่วจะทันได้ตอบ เย่ฮ่าวหรานก็หายตัวไปแล้ว
……………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
รอดูเลย ว่าใครอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารอ๋องแปดกับหลิวหลี
ไหหม่า(海馬)