อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 575 ท่านอ๋องแปดถูกจับเข้าคุก
ตอนที่ 575 ท่านอ๋องแปดถูกจับเข้าคุก
ตอนที่ 575 ท่านอ๋องแปดถูกจับเข้าคุก
ท่านอ๋องแปดถูกฮ่องเต้ตัดสินให้เข้าคุก
ข้อหาประพฤติตนไม่เหมาะสม และละเมิดต่อพระราชโองการ
คำอธิบายง่าย ๆ เหล่านั้นทำให้ทุกคนที่รู้ข่าวต่างสับสน เนื่องด้วยไม่ได้มีเหตุการณ์สำคัญใดเกิดขึ้น ทว่าองค์ชายผู้สูงศักดิ์กลับถูกจับเข้าคุก เรื่องนี้สร้างความปั่นป่วนให้คนในราชวงศ์และบรรดาเสนาบดีทุกคนทันที
บางคนพยายามสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้และไปทูลขอร้องอ้อนวอนให้เย่ฮ่าวหราน แต่พวกเขาทุกคนถูกฮ่องเต้ขับไล่ออกมา ด้วยประกาศิตที่ว่า “ผู้ร้องขอจะถูกลงโทษด้วยข้อหาเดียวกัน”
บางคนก็มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น องค์ชายสาม องค์ชายสี่ และคนอื่น ๆ ต่างยิ่งพยายามทุกวิถีทางเพื่อซ้ำเติม
ส่วนคนอื่นแค่เฝ้าดูจากข้างสนาม เพื่อรอติดตามความเป็นไปของสถานการณ์
แต่ก็ไม่มีใครรู้สาเหตุของเรื่องนี้ ทุกคนแค่คิดว่าเย่ฮ่าวหรานที่ถูกฮ่องเต้ส่งไปปฏิบัติภารกิจลับเมื่อนานมาแล้วได้ทำภารกิจผิดพลาด จึงทำให้ฮ่องเต้ทรงพิโรธและตัดสินพระทัยเช่นนี้
มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องราวภายใน เหมิงกุ้ยเฟยถือจดหมายในมือของนาง ขณะหัวเราะเสียงเบา
นี่มันเรื่องน่าเศร้าอะไรกัน? มันค่อนข้างจะเป็นข่าวดีเสียด้วยซ้ำ
สุดท้ายข้อหาหลบหนีก็ถูกตราไว้ที่เย่ฮ่าวหราน และไม่ใช่เย่ฮ่าวหรานคนเดียวที่ขายหน้า แต่เป็นทุกคนในราชวงศ์ด้วย
หว่านเฟยคุกเข่าลงหน้าห้องทรงอักษร เพื่ออ้อนวอนให้ฮ่องเต้ออกมาพบนาง
แม้ฮ่องเต้จะไม่ทรงอนุญาตให้มีการร้องขอ แต่นางก็เป็นเสด็จแม่ของเย่ฮ่าวหราน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเมินเฉย
เย่ซิวตู๋หันกลับมามองหน้าต่างห้องหนังสือ นิ้วมือของเขาจับกรอบหน้าต่างแน่น ท่าทางเคร่งขรึม
เสิ่นอิงที่อยู่ข้างหลังเขาถามเสียงเบา “ท่านอ๋อง ตอนนี้เราควรทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ? มีวิธีใดบ้างที่จะช่วยท่านอ๋องแปดได้?”
“สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่การช่วยเหลือเจ้าแปด เขาเป็นองค์ชาย ไม่ว่าเสด็จพ่อจะโกรธเพียงใด เขาก็จะไม่ถูกประหารชีวิตด้วยเหตุนี้”
เสิ่นอิงงงงวย “แล้ว…”
เย่ซิวตู๋พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เสด็จพ่อจะไม่ฆ่าเจ้าแปด แต่พระองค์จะไม่ปรานีจินหลิวหลี”
วิธีการของราชวงศ์เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด หากถึงเวลานั้น ตราบใดที่จินหลิวหลีถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนยั่วยวนและล่อลวงท่านอ๋อง ก็จะกลายเป็นผู้กระทำความผิดร้ายแรงที่ไม่มีใครสามารถพูดแก้ตัวอะไรให้ได้เลย
เสิ่นอิงตกใจ คาดไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะหนักหนาถึงเพียงนี้
“ท่านอ๋อง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ต้องรีบพาแม่นางจินออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด”
เย่ซิวตู๋ส่ายศีรษะ “แม่นมเซียวบอกว่าจินหลิวหลีบาดเจ็บสาหัสเกินไป และตอนนี้ยังอยู่ในช่วงวิกฤต ดังนั้นจึงไม่สามารถขยับตัวนางได้ มิฉะนั้นหากอาการบาดเจ็บแย่ลง ก็เกรงว่าอาจไม่มีทางฟื้นตัวได้”
แล้วจะให้นั่งเฉยอยู่หรือ?
ใบหน้าของเสิ่นอิงมืดครึ้มลง และยิ่งเกิดความกังวลมากขึ้นในใจ
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงของเผิงอิงก็ดังมาจากข้างนอก
“ท่านอ๋อง”
“เข้ามา”
เผิงอิงรีบเข้ามาในห้องอ่านหนังสือ แล้วยื่นจดหมายในมือให้เย่ซิวตู๋
“ท่านอ๋องแปดแอบส่งข้อความถึงกระหม่อม โดยบอกว่าฝ่าบาททรงโกรธเคืองและไม่ฟังคำอธิบายใด ๆ ของเขาเลย ก่อนที่ท่านอ๋องแปดจะทันได้เอ่ยคำใด ฝ่าบาทก็ทรงหยิบหินฝนหมึกบนโต๊ะมาปาใส่เขา แล้วตำหนิท่านอ๋องแปดว่าทำผิดหลายข้อหา จากนั้นก็ตัดสินจำคุกทันที และตอนนี้เกรงว่าพระองค์จะจัดการแม่นางจิน ท่านอ๋องแปดจึงขอให้ท่านอ๋องช่วยแม่นางจิน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”
เย่ซิวตู๋ขยำจดหมาย จากนั้นวางมันลงบนเทียนเพื่อเผาให้เป็นเถ้าถ่าน
เสิ่นอิงที่อยู่ข้าง ๆ ฟังแล้วก็อ้าปากเล็กน้อย ท่านอ๋องเดาได้ถูกต้องจริง ๆ ดูเหมือนว่าคราวนี้แม่นางจินจะรอดยากเสียแล้ว
“ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง” ขณะที่ทั้งสามเงียบอยู่ เสียงพ่อบ้านหยางก็ดังมาจากนอกประตู
เผิงอิงรีบเปิดประตูห้องอ่านหนังสือให้พ่อบ้านเข้ามา
พ่อบ้านหยางปาดเหงื่อ และหอบหายใจ “ท่านอ๋อง เหมียวกงกงมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“เหตุใดจึงมาเร็วนัก?” ดวงตาของเสิ่นอิงเบิกกว้าง ก่อนหันกลับมามองเย่ซิวตู๋ด้วยความกังวล
เย่ซิวตู๋หน้าเสีย เขาสะบัดแขนเสื้อแล้วพูดอย่างเฉยเมยว่า “ไปกันเถิด”
ทุกคนเดินออกจากประตูห้องอ่านหนังสือไปยังลานด้านหน้า หลังจากเดินไปไม่กี่ก้าว พวกเขาก็เห็นเหมียวกงกงเดินเข้ามาพร้อมกับคนสองคน
เมื่อเห็นพวกเขาสองสามคน เขาก็รีบก้าวเข้ามาหาและทักทายด้วยรอยยิ้มทันที
“กระหม่อมถวายบังคมท่านอ๋องซิว ขอท่านอ๋องสมปรารถนา”
“เหมียวกงกงมีอะไรหรือ?” เย่ซิวตู๋แสร้งทำเป็นไม่รู้ แล้วเชิญเขาเดินไปยังห้องโถงด้านหน้า
เหมียวเชียนชิวไม่ได้เคลื่อนไหวและยังคงยิ้มต่อไป ทว่ากลับรีบเปิดประเด็น “ประเดี๋ยวก่อนท่านอ๋อง กระหม่อมกำลังปฏิบัติตามพระราชโองการของฝ่าบาท ด้วยการมารับหญิงสาวแซ่จินไปที่วังพ่ะย่ะค่ะ”
“หญิงสาวแซ่จินหรือ?” เย่ซิวตู๋หันไปมองพ่อบ้านหยางที่ยืนอยู่ข้างเขา แล้วถามว่า “มีคนรับใช้แซ่จินอยู่ในตำหนักอ๋องซิวด้วยหรือ?”
ดูเหมือนพ่อบ้านหยางจะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงส่ายศีรษะและพูดว่า “เรียนท่านอ๋อง มีคนรับใช้แซ่จินอยู่ในคฤหาสน์ ให้กระหม่อมเรียกมาพบเหมียวกงกงหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
เย่ซิวตู๋พยักหน้ารับ “อืม ไปพามาเลย”
พ่อบ้านหยางพยักหน้าเล็กน้อย แล้วหันหลังเดินไป
ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป พ่อบ้านหยางก็พาสตรีผิวเข้มตัวเตี้ยมาหา
“ท่านอ๋อง พามาแล้วพ่ะย่ะค่ะ” พ่อบ้านหยางผลักสตรีผู้นั้น
สตรีผู้นั้นไม่ได้เงยหน้าขึ้น นางคุกเข่าลงบนพื้นทำความเคารพทันที พลางเอ่ยตะกุกตะกักด้วยความตื่นกลัว “หม่อมฉัน หม่อมฉัน…”
“ลุกขึ้น” เย่ซิวตู๋เอ่ยขัดจังหวะนางที่กำลังลังเล เสียงของเขาเบาลงเล็กน้อย
เขาเหลือบมองเหมียวเชียนชิว ก่อนถามนางช้า ๆ “เจ้ามีนามว่าอะไร?”
“หม่อมฉันมีนามว่าจินฮวาเพคะ”
“เจ้าเงยหน้าขึ้นให้เหมียวกงกงดูสิ”
จินฮวาตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น
เพียงแค่เหมียวเชียนชิวชำเลืองมองดูนาง เขาก็รู้สึกชาไปทั้งตัว และอดก้าวถอยหลังไปครึ่งก้าวไม่ได้
สิ่งที่แย่ที่สุดคือสตรีผู้นี้อายุราวสี่สิบปีแล้ว แล้วองค์ชายแปดจะหนีตามสตรีเช่นนี้ไปได้อย่างไร?
เหมียวเชียนชิวตั้งสติ และตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่านี่เป็นความตั้งใจของท่านอ๋องซิว ถูกต้องแล้ว ท่านอ๋องซิวจะมอบตัวสตรีที่ท่านอ๋องแปดชอบพึงใจได้อย่างไร? และว่ากันว่าสตรีผู้นั้นบาดเจ็บอย่างเห็นได้ชัด ทว่าจินฮวาตรงหน้าเขา…ดูบึกบึนและแข็งแรง ย่อมเป็นไปไม่ได้
“เหมียวกงกง นี่คือสตรีที่เจ้ากำลังมองหาหรือ? นางทำอะไรผิด? เหตุใดเสด็จพ่อจึงต้องการเรียกตัวนางไป?”
เมื่อจินฮวาได้ยินคำพูดขององค์ชายของนาง ใบหน้าของนางก็ซีดเผือดด้วยความกลัว ก่อนจะส่ายศีรษะอย่างแรง “ท่านอ๋อง หม่อมฉันเพียงแค่ทำหน้าที่ของตัวเอง ด้วยการเผาฟืนในครัวของตำหนัก และไม่เคยทำอะไรผิดเลยเพคะ”
พ่อบ้านหยางจ้องมองนางด้วยสายตาบ่งบอกว่าอย่าพูด
จินฮวาก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัว แต่ในใจนางกำลังร้อนรุ่มยิ่งนัก
เหมียวเชียนชิวหัวเราะ ก่อนถอนหายใจแล้วส่ายศีรษะขณะมองไปที่เย่ซิวตู๋ “ท่านอ๋องโปรดอย่าล้อกระหม่อมเล่นเลย ท่านเป็นผู้ปราดเปรื่อง เหตุใดจะไม่ทราบว่ากระหม่อมต้องการพาตัวใครไป?”
“เราไม่รู้จริง ๆ”
เหมียวเชียนชิวปวดศีรษะ ฮ่องเต้ปล่อยให้เขาหาทางด้วยตัวเอง แต่ในฐานะคนรับใช้ เขาจะเอาชนะท่านอ๋องซิวผู้สูงศักดิ์ได้อย่างไร?
ฝ่าบาทเองก็ไม่มีวิธีจัดการกับโอรสองค์นี้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงวางหน้าที่อันน่าเบื่อหน่ายนี้ไว้บนศีรษะของเขา
แต่เขาไม่สามารถแม้แต่จะบีบบังคับองค์ชายได้
“ท่านอ๋อง กระหม่อมรับใช้ท่านมาหลายปีแล้ว โปรดอย่าทำให้กระหม่อมต้องลำบากใจเลย หากเรื่องนี้ไม่สำเร็จ ชีวิตของกระหม่อมอาจจะไม่ปลอดภัยน่ะพ่ะย่ะค่ะ” เหมียวเชียนชิวรู้ว่าเย่ซิวตู๋มักเป็นคนชอบให้ใช้ไม้อ่อน
อีกอย่างคือเขาไม่อาจใช้ไม้แข็งได้อยู่แล้ว
“ท่านอ๋อง โปรดเห็นแก่ที่กระหม่อมอุทิศตนเพื่อรับใช้ท่าน และจงรักภักดีต่อท่านตลอดหลายปีที่ผ่านมา ช่วยชีวิตกระหม่อมด้วยการมอบหญิงสาวแซ่จิน ให้กลับไปพร้อมกระหม่อมด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ท่านอ๋องก็มีความกวนส้นอยู่เหมือนกันนะคะ ก็นี่ไงหญิงสาวแซ่จิน ไม่ถูกหรือกงกง?
หลิวหลีจะรอดพระราชอาญาไหมเนี่ย
ไหหม่า(海馬)