อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 590 สายลับในตำหนักอ๋องซิว
ตอนที่ 590 สายลับในตำหนักอ๋องซิว
ตอนที่ 590 สายลับในตำหนักอ๋องซิว
สีหน้าของอวี้ชิงลั่วเปลี่ยนไปในทันที แม่นมเก๋อ คนที่นางตามหามานานแสนนาน เหตุใด…เหตุใดหว่านเฟยจึงรู้เรื่องนี้ได้
หว่านเฟยยิ้มแล้วมองนางแวบหนึ่ง ค่อยๆ เติมน้ำลงในถ้วยชาของนาง
มองเห็นน้ำชาค่อยๆ สั่นกระเพื่อมเป็นริ้ว แววตาของนางก็ดูมีความหมายลึกซึ้งขึ้นมา
อวี้ชิงลั่วสูดหายใจลึก มองหว่านเฟยอยู่นาน จากนั้นจึงค่อยๆ กล่าวทีละคำ “แม่นมเก๋อ อยู่ที่ใดหรือเพคะ”
“ข้าเองก็ไม่ได้รู้มากนัก เพียงแค่จากที่ข้าได้ยินข่าวมา เมื่อสามเดือนก่อน แม่นมเก๋อไปที่เผ่าเหมิง” น้ำเสียงของหว่านเฟยบางเบา เบาเสียกว่าก่อนหน้านี้ “แม่นมเก๋อเป็นชาวเหมิง แม่นางชิงรู้หรือไม่”
ชาวเหมิงหรือ
รูม่านตาของอวี้ชิงลั่วหดลง ในมือนางมีผ้าเช็ดหน้าสองผืน ผืนหนึ่งเป็นของเหมิงกุ้ยเฟย อีกผืนเป็นของแม่นมเก๋อ
นางสงสัยมาตั้งแต่แรกว่าแม่นมเก๋อและเหมิงกุ้ยเฟยมีความเกี่ยวข้องกัน จึงต้องการเริ่มสืบสาวจากทางฝั่งเหมิงกุ้ยเฟย
แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินคำพูดของหว่านเฟย เผ่าเหมิงที่เกี่ยวข้องกับแม่นมเก๋อ ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นก็เป็นแบบที่ชาวเหมิงใช้กันเป็นพิเศษใช่หรือไม่
“เหตุใดเหนียงเหนียงจึงทรงทราบว่าหม่อมฉันตามหาแม่นมเก๋อหรือเพคะ” อวี้ชิงลั่วหรี่ตา
หว่านเฟยยักไหล่ กลับไม่ยินดีที่จะกล่าวอะไรมากกว่านี้
“สิ่งที่ข้าบอกเจ้าได้มีเพียงเรื่องพวกนี้ หวังว่าแม่นางชิงจะตามหาแม่นมเก๋อได้ในเร็ววัน ไม่แน่ว่าหลังจากแม่นางชิงพบตัวแม่นมเก๋อแล้ว อาจจะพอ… ได้กำไรที่เจ้าคาดไม่ถึงก็เป็นได้”
อวี้ชิงลั่วเม้มปาก นางรู้สึกว่าหว่านเฟยน่าจะรู้เรื่องอันใดมากกว่านี้ แต่จนถึงตอนนี้ ต่อให้นางต้องตาย ก็ยังคงไม่ต้องการกล่าวอันใดอีก
“สิ่งที่ข้าต้องการพูดก็ได้พูดไปหมดแล้ว แม่นางชิงตามสบายเถิด”
อวี้ชิงลั่วอ้าปาก นางยังต้องการถามอันใดเพิ่มเติมอีก แต่เห็นว่าหว่านเฟยหลุบตาอย่างสงบ ทำท่าทางเริ่มอ่านหนังสืออีกครั้ง นางจึงคิดว่าต่อให้ถามเรื่องอันใดมากกว่านี้ หว่านเฟยเองก็คงไม่กล่าวอันใดไปมากกว่านี้แล้ว
อวี้ชิงลั่วค่อยๆ ลุกขึ้น แววตากวาดมองทั้งห้องรอบหนึ่ง ผ่านไปครู่หนึ่งก็หันตัวเดินออกจากตำหนักอิ๋งสุ่ยไป
ทว่าตอนที่มือของนางจับอยู่ที่ประตู จู่ๆ เสียงด้านหลังประตูก็ดังออกมาเบาๆ “อาการของแม่นมเก๋อตอนนี้ไม่สู้ดีนัก แม่นางชิงรีบตามหาแล้วพาตัวนางกลับมาเถิด”
กล่าวจบ นางก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องนอนไป
อวี้ชิงลั่วยืนหันหลังไม่ได้มองกลับไป ได้ยินดังนั้น มือของนางก็กำแน่น
จากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เปิดประตูแล้วเดินออกไป
หนานหนานกำลังง่วงนอน เมื่อได้ยินเสียงดัง ก็รีบเด้งตัวลุกจากหลังคาแล้วไถลลงมา กระโดดมาหยุดตรงหน้าอวี้ชิงลั่ว
ขณะที่กำลังจะหัวเราะฮิๆ แล้วเริ่มชื่นชมตนเอง เขาก็เห็นสีหน้าเคร่งเครียดของอวี้ชิงลั่ว เด็กน้อยจึงนึกประหลาดใจ
หลังลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ค่อยๆ จับมือของอวี้ชิงลั่วอย่างระมัดระวัง ถามเบาๆ “ท่านแม่ เป็นอะไรไปหรือ”
อวี้ชิงลั่วได้สติกลับมา เห็นว่าเป็นหนานหนานก็ฝืนยิ้มออกมาอย่างยากลำบาก ลูบศีรษะของเขาแล้วถาม “มีใครเข้าใกล้ตำหนักอิ๋งสุ่ยหรือไม่”
“ท่านแม่โปรดวางใจ ข้าอยู่ตรงนี้ ต่อให้มีคนคิดจะเข้าใกล้ แต่ดูเหมือนคนผู้นั้นจะเห็นข้ายืนขึ้น ก็เลยเดินจากไปแล้วขอรับ”
อวี้ชิงลั่วพยักหน้า จากนั้นก็เดินนำเขาออกไปด้านนอก ไม่มีใครเข้ามาใกล้ก็ดี ไม่มีใครได้ยินสิ่งที่นางคุยกับหว่านเฟยด้วยยิ่งดี
ทั้งสองคนเดินไปข้างหน้า ผ่านไปไม่นาน เหมียวกงกงก็มาส่งสารจากฮ่องเต้ ให้อวี้ชิงลั่วไปยังห้องตำราหลวง
อวี้ชิงลั่วทราบว่าฮ่องเต้ต้องการตรัสถามว่าหว่านเฟยกล่าวอันใดกับนาง นางเพียงครุ่นคิด จากนั้นก็นำหนานหนานเดินไป
ฮ่องเต้ไม่ได้ตรัสถามอันใดนอกจากรายละเอียดที่หว่านเฟยเรียกนางไปคุย อวี้ชิงลั่วกล่าวไม่กี่ประโยค จากนั้นก็พาหนานหนานออกจากวังกลับไป
ครั้นกลับมาถึงตำหนักอ๋องซิว นางก็ต้องเบิกตากว้าง ไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง รีบรุดไปยังห้องตำราของเย่ซิวตู๋เพื่อตามหาเขา
เย่ซิวตู๋กำลังพูดคุยธุระกับโม่เสียน เห็นสีหน้าผิดปกติของนางก็เดินเข้ามาหา งุนงงอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็โบกมือให้โม่เสียนออกไป
“เป็นอะไรหรือ เกิดเรื่องอันใด” เย่ซิวตู๋พานางมานั่งบนเก้าอี้ ถามนางเบาๆ “หว่านเฟยกล่าวอันใดทำให้เจ้าไม่สบายใจแล้วหรือ นางทำร้ายเจ้าหรือ?”
คิดถึงตรงนี้ เย่ซิวตู๋ก็ยิ่งเครียด จับนางไว้แล้วมองไปรอบๆ
อวี้ชิงลั่วรีบส่ายหน้า จากนั้นก็พยักหน้า ผ่านไปสักพักก็ส่ายหน้าอีกครั้ง
เย่ซิวตู๋เห็นว่าหัวคิ้วของนางแทบจะผูกเป็นปม จึงรีบจับตัวนางไว้นิ่งๆ จากนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วกล่าว “เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?”
ในใจคิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะเห็นอวี้ชิงลั่วตื่นตระหนกเช่นนี้ จึงทำให้เขาเป็นกังวลมากขึ้น ไม่สบายใจยิ่งนัก
อวี้ชิงลั่วจับมือของเขาไว้ในทันใด กลืนน้ำลายแล้วกล่าว “หว่านเฟยบอกว่า นางรู้ว่าข้ากำลังตามหาแม่นมเก๋ออยู่”
เย่ซิวตู๋ตะลึง คิ้วของเขาขมวดแน่น นิ้วมือก็แข็งทื่อ
แม่นมเก๋อหรือ? เพียงกล่าวถึงคนผู้นี้ เย่ซิวตู๋ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงผ้าปักผืนนั้นที่เขาทำลายไป ในใจรู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย
แต่เห็นท่าทางของอวี้ชิงลั่วแล้ว ก็ดูเหมือนว่าจะไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้
อีกอย่าง หว่านเฟย… รู้เรื่องแม่นมเก๋อได้อย่างไร
“หว่านเฟย นางรู้เรื่องแม่นมเก๋อผู้นี้ได้อย่างไร นางรู้ได้อย่างไรว่าแม่นมเก๋อเกี่ยวข้องอันใดกับเจ้า แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเจ้ากำลังตามหานาง” ทันใดนั้นเย่ซิวตู๋ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ปกติ
อวี้ชิงลั่วพยักหน้า นี่เป็นเหตุผลที่นางรีบร้อนมาหาเขา เมื่อครู่ตอนอยู่บนรถม้าก็ครุ่นคิดอยู่นาน ยิ่งคิดยิ่งกังวลและฉุนเฉียว
“เย่ซิวตู๋” อวี้ชิงลั่วหายใจเข้าลึกๆ กล่าวอย่างจริงจัง “คนที่รู้ว่าข้ากำลังตามหาแม่นมเก๋อนั้นมีไม่มาก มีข้า ท่าน หนานหนาน ที่เหลือก็เป็นคนสนิทในตำหนักอ๋องซิว ท่านเข้าใจหรือไม่”
คนสนิท แสดงให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์อันดีเป็นพิเศษ เป็นคนที่เย่ซิวตู๋และอวี้ชิงลั่วไว้ใจเป็นพิเศษ ดังเช่น… เสิ่นอิง โม่เสียน เหวินเทียน เผิงอิง เยว่ซิน แม่นมเซียว หงเย่ พ่อบ้านหยางไม่กี่คนนี้
เช่นนั้นที่หว่านเฟยรู้เรื่องที่นางตามหาแม่นมเก๋อ ก็ต้องเป็นเพราะนางได้รู้จากปากคนเหล่านี้
และแสดงให้เห็นว่าในบรรดาคนเหล่านี้ มีคนของหว่านเฟยอยู่
เพียงคิดถึงตรงนี้ อวี้ชิงลั่วก็รู้สึกว่าทั้งร่างอดไม่ได้ที่จะเย็นวาบขึ้นมา
อ๋องเป่ามาตามจับคนตามสมุดรายชื่อ แต่ไม่พบคนในตำหนักอ๋องซิว เช่นนั้นก็แสดงให้เห็นว่าในสมุดนั้นไม่มีชื่อคนในตำหนักอ๋องซิว
แสดงว่า… ชื่อของคนผู้นั้นในสมุดถูกทำลายไปแล้ว หรือไม่ก็กระดาษที่เขียนชื่อคนผู้นั้นถูกฉีกออกไป
แสดงว่า… ชื่อของคนผู้นั้นอยู่ในมือของเหมิงกุ้ยเฟยที่วางแผนเรื่องทั้งหมดนี้
แสดงว่า… บางทีคนผู้นั้นอาจจะถูกเหมิงกุ้ยเฟยซื้อตัวไปแล้วก็เป็นได้
อวี้ชิงลั่วบีบมือเย่ซิวตู๋แน่นในทันที ดวงตาเบิกกว้าง มองเขาอย่างเคร่งเครียด
สีหน้าของเย่ซิวตู๋ก็เคร่งเครียดเช่นกัน เขาไม่อยากจะสงสัยในตัวคนเหล่านั้นเลยจริงๆ
แต่ถ้าเป็นฝีมือของพวกเขาจริงๆ…
เย่ซิวตู๋ตบหลังอวี้ชิงลั่วเบาๆ เงยหน้าขั้นด้านบน ค่อยๆ หลับตาลง
ทางด้านตำหนักอิ๋งสุ่ยในตอนนี้ ก็กลับไปเงียบสงบอีกครั้ง
หลังจากอวี้ชิงลั่วและหนานหนานทั้งสองคนจากไปไม่นาน ตำหนักอิ๋งสุ่ยก็ปรากฏตัวคนชุดดำขึ้นมาอีกครั้ง
คนผู้นั้นถามหว่านเฟยอย่างประหลาดใจ “เหตุใดเหนียงเหนียงจึงบอกเรื่องที่อยู่ของแม่นมเก๋อเล่าพ่ะย่ะค่ะ”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
อ้าว ในบรรดารายชื่อนี่ใครเป็นไส้ศึกในตำหนักท่านอ๋องล่ะเนี่ย แต่ละคนนี่ดูท่าทางไม่น่าเป็นสายของใครเลยนะ
ไหหม่า(海馬)