อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 598 ออกไป
ตอนที่ 598 ออกไป
ตอนที่ 598 ออกไป
เย่ฮ่าวหรานสวมชุดคลุมเรียบง่ายและสะอาด ร่างซูบผอมของเขาเดินเข้ามาในตำหนักอ๋องซิวพร้อมกับเย่ซิวตู๋
ฮ่องเต้ทรงมีเมตตา แม้ว่าจะตัดสินลดระดับเย่ฮ่าวหรานเป็นสามัญชน แต่ก็ไม่ได้ไล่เขาออกไปจากเมืองหลวงทันที
“นางอยู่ข้างใน” เย่ซิวตู๋พาเขาไปหยุดอยู่หน้าตำหนักที่เงียบสงบ แล้วตบไหล่เขา
เย่ฮ่าวหรานยิ้มให้เขา แล้วก้าวเท้าเข้าไปในประตู
อวี้ชิงลั่วออกมาจากข้างในพอดี นางรู้สึกตกใจเมื่อเห็นเขา ก่อนจะขมวดคิ้ว ในเวลาเพียงไม่กี่วัน เขาผอมลงมากถึงเพียงนี้
“ขอบคุณ” เย่ฮ่าวหรานพยักหน้าให้นาง แล้วก้าวเข้าประตูไป
อวี้ชิงลั่วยกมุมปากขึ้น เอ๊ะ ไม่คุ้นเคยกับความสุภาพเช่นนี้เลย
ใช่แล้ว เขาเพิ่งประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกหนักใจ แต่หากมีหลิวหลีอยู่ข้างกายเขา ไม่นานก็น่าจะดีขึ้น
”
นางเดินออกไปเงียบ ๆ เมื่อเห็นเย่ซิวตู๋ยืนพิงอยู่ที่ปลายทางเดิน นางก็เร่งฝีเท้าเดินไปหาเขา แล้วพูดกับเขาด้วยรอยยิ้มว่า “เย่ฮ่าวหรานผอมเกินไป ข้าจะช่วยบำรุงเขาภายหลัง ไม่เช่นนั้นหลิวหลีจะน่าสงสารเกินไป”
เย่ซิวตู๋จับมือนาง “พวกเขามาถึงจุดสิ้นสุดของความยากลำบากแล้ว แล้วเจ้าจะกังวลเรื่องอะไรอีก?”
“เย่ฮ่าวหรานจะอาศัยอยู่ที่นี่นานเพียงใด?”
เย่ซิวตู๋พานางเดินออกไป “เสด็จพ่อตรัสว่าให้เขาอยู่ในเมืองหลวงได้สูงสุดห้าวัน”
ห้าวันหรือ? อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว หลังจากนั้นครู่หนึ่งนางก็ผ่อนคลายลง ช่างเถิด ถือว่าฮ่องเต้ทรงมีเมตตาแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาอาจถูกบังคับให้ออกไปจากเมืองหลวงทันที หลังจากที่เขาออกจากคุก
ห้าวันนี้ นับว่าเป็นความรักของฮ่องเต้ที่มีต่อพระโอรสองค์นี้
แม้ว่าอาการบาดเจ็บของจินหลิวหลีจะยังไม่หายสนิท แต่ก็ไม่มีปัญหาในการเดินทาง ตราบใดที่ไม่เร่งด่วนเกินไป บาดแผลก็จะไม่เปิด
เย่ซิวตู๋คิดว่าท่าทางกังวลของนางนั้นน่ารักมาก เขาจึงยื่นมือไปลูบหว่างคิ้วของนาง “ไม่ต้องกังวลหรอก ข้ามีคฤหาสน์สองสามแห่งนอกเมือง หากเจ้ากังวลเรื่องอาการบาดเจ็บของจินหลิวหลี ก็เพียงแค่ปล่อยให้พวกเขาไปอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์อื่นก่อน เพื่อรอจนกว่าอาการจะหายสนิทก่อนแล้วค่อยวางแผน”
อวี้ชิงลั่วเผยรอยยิ้มทันที นั่นเป็นความคิดที่ดี
นางยกนิ้วให้เย่ซิวตู๋ทันที เขาเห็นเช่นนั้นก็เลิกคิ้วขึ้น และรู้ตัวว่าเขาชอบการกระทำของนางเมื่อสักครู่นี้เสียแล้ว เขารู้สึกดีเมื่อเห็นท่าทางชื่นชมอย่างไม่ปิดบังของนาง
ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินคุยกัน จู่ ๆ พ่อบ้านหยางก็รีบวิ่งมาหา
“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องเป่าเสด็จพ่ะย่ะค่ะ”
เย่ซิวตู๋และอวี้ชิงลั่วมองหน้ากัน ก่อนเดินไปที่ห้องโถงด้านหน้าด้วยกัน
ทันทีที่ทั้งสองเดินไปถึงห้องโถง พวกเขาก็เห็นท่านอ๋องเป่ายืนหันหลังให้พวกเขา ขณะเอียงศีรษะมองดูสิ่งที่ติดอยู่บนเสาทั้งสองด้าน
อวี้ชิงลั่วมองตามสายตานั้น แล้วมุมปากของนางก็กระตุกอย่างแรง สิ่งที่หนานหนานติดกาวไว้ที่นั่นคือกระดาษที่มีภาพวาดยุ่งเหยิงสองสามแผ่น เป็นเพราะเย่ซิวตู๋ให้ท้ายเขามากเกินไป แม้แต่ห้องโถงที่ใช้รับแขกก็ไม่เว้น
คิดเช่นนั้นแล้ว ก็หันหน้าไปมองเย่ซิวตู๋
เย่ซิวตู๋เป็นผู้บริสุทธิ์ เขาเพียงแค่เอ็นดูลูกชายของเขามากเท่านั้น
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง ท่านอ๋องเป่าก็ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วหันกลับมาทันที ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นทั้งสองคน
“น้องห้า องค์หญิงเทียนฝู”
“เสด็จพี่เสด็จมาที่นี่มีเรื่องอันใดหรือ?” เย่ซิวตู๋เดินไปเชิญให้เขานั่งลง ร่องรอยของความสงสัยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
ท่านอ๋องเป่าไม่ค่อยเข้ามาในพระราชวัง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เขากลับมายังเมืองหลวง
ท่านอ๋องเป่าถอนหายใจ เขาหันหลังไปหยิบสัมภาระที่วางไว้
“นี่คือสัมภาระที่เสด็จพ่อรับสั่งให้ข้านำมาให้น้องแปด เสด็จพ่อตรัสว่าน้องแปดไม่อาจอยู่ในตำหนักอ๋องแปดได้อีกต่อไป และไม่อนุญาตให้น้องแปดนำของในจวนออกไปโดยพลการ จึงรับสั่งให้ข้าเก็บเสื้อผ้ามาให้น้องแปดที่นี่”
อวี้ชิงลั่วเม้มปากแน่น เมื่อสักครู่นี้นางคิดว่าฮ่องเต้คงมีความผูกพันแบบพ่อลูกกับเย่ฮ่าวหราน แต่คาดไม่ถึงว่าความจริงจะปรากฏชัดขึ้นทันที
สิ่งของในตำหนักอ๋องแปดล้วนเป็นของเย่ฮ่าวหราน และเย่ฮ่าวหรานต้องตัดสินใจเองว่าอะไรสำคัญและอะไรไม่สำคัญ การสั่งให้ท่านอ๋องเป่านำเสื้อผ้ามาให้เช่นนี้ช่างเหลวไหลนัก
ท่าทางของเย่ซิวตู๋ค่อนข้างจริงจัง แต่เขาไม่ได้เอ่ยคำใด เพียงแค่ปล่อยให้คนรับใช้มารับสัมภาระไป
“ข้ารู้ว่าน้องแปดอยู่ที่นี่กับเจ้า และเขาไม่ได้ขาดสิ่งใดเลย แม้แต่เสื้อผ้าไม่กี่ชุดเช่นนั้น แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นคำสั่งของเสด็จพ่อ ดังนั้นข้าจึงเลือกเสื้อผ้าที่ดูใหม่ให้เขาได้เพียงไม่กี่ตัว” ท่านอ๋องเป่าพูดแล้วก็ถอนหายใจ แม้ว่ามิตรภาพของเขากับเย่ฮ่าวหรานจะไม่ลึกซึ้งเท่ากับเย่ซิวตู๋ แต่สุดท้ายกับเย่ฮ่าวหรานก็เป็นน้องชายของเขาด้วยเช่นกัน
แม้หว่านเฟยจะทำบางอย่างกับซูเฟย แต่เย่ฮ่าวหรานนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์จริง ๆ เขารู้เรื่องนี้เพราะได้ทำการตรวจสอบเป็นการส่วนตัวแล้ว
เย่ซิวตู๋พยักหน้า “รบกวนเสด็จพี่ด้วย”
“แล้วน้องแปดอยู่ที่ใด?” ท่านอ๋องเป่าถาม
“โอ้ ท่านอ๋องแปด… เย่ฮ่าวหรานอยู่ในคุกมาหลายวันแล้ว ร่างกายของเขาไม่ค่อยสบายนัก เพราะความชื้นและความเย็นในนั้น เขาผอมมากเพราะขาดสารอาหาร ข้าเห็นว่าเขาดูเหมือนจะเป็นลม จึงให้คนพาไปพักผ่อนที่ห้องแล้ว ทว่าอีกไม่นานเขาก็จะหายเป็นปกติเพคะ” อวี้ชิงลั่วตอบด้วยรอยยิ้ม
ท่านอ๋องเป่าส่งเสียง ‘อืม’ แล้วพูดต่อว่า “ช่วงนี้น้องแปดได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างหนัก ดังนั้นเขาจำเป็นต้องพักผ่อนให้เพียงพอ”
อวี้ชิงลั่วก้มหน้าลงดื่มชา ใช่แล้ว เย่ฮ่าวหรานกระทบกระเทือนทางจิตใจมาก และเกรงว่ามีเพียงจินหลิวหลีเท่านั้นที่สามารถพูดอะไรบางอย่าง เพื่อปลอบโยนเขาได้
ทว่าในขณะนี้จินหลิวหลีและเย่ฮ่าวหรานต่างก็เงียบ ไม่มีใครเอ่ยคำใดเลยเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วยามแล้ว
เย่ฮ่าวหรานนอนอยู่ข้างจินหลิวหลี เขาเพียงแค่มองขึ้นไปที่ม่านเตียงเหนือศีรษะด้วยสีหน้าว่างเปล่า
จินหลิวหลีโอบแขนของนางไว้รอบเอวของเขา แล้วซบหน้าลงบนไหล่ของเขา โดยไม่ได้เอ่ยคำใด เพียงแค่กอดเขาเงียบ ๆ
ผ่านไปครู่ใหญ่ เสียงแหบพร่าของเย่ฮ่าวหรานก็ดังขึ้น “หมู่เฟยของข้า… จากไปแล้ว”
จินหลิวหลีรู้สึกเจ็บแปลบในใจ นางกอดเขาแน่น แม้ว่านางจะเจ็บแผลบนร่างกาย แต่นางก็ไม่กล้าผ่อนแรงกอดเลยแม้แต่น้อย
เย่ฮ่าวหรานหายใจแรงขึ้น เขาพลิกตัวกลับมาทันที แล้วซบหน้าไว้ที่คอของจินหลิวหลี หลังจากนั้นไม่นาน จินหลิวหลีก็รู้สึกได้ถึงน้ำตาอุ่น ๆ บนผิวของนาง นางกำมือแน่นขึ้นทันใด และหัวใจของนางก็ปวดร้าว
“หลีเอ๋อร์… ข้ามีเพียงเจ้า”
จินหลิวหลีอ้าปากขณะรู้สึกเจ็บจมูก หลังจากนั้นไม่นาน นางก็พูดเบา ๆ ด้วยเสียงแหบพร่า “ข้าจะอยู่กับท่านเสมอ ข้าจะอยู่เคียงข้างท่านเสมอ”
“… อืม” เย่ฮ่าวหรานเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
เขาพยายามฝืนอดกลั้นมาหลายวันแล้ว ในขณะนี้มีเพียงจินหลิวหลีเท่านั้นที่เขาสามารถ… ระบายให้ฟังเช่นนี้ได้
“ฮ่าวหราน พวกเราไปเจียงเฉิงกันดีหรือไม่?”
“… อืม”
ดังนั้นห้าวันต่อมา เย่ฮ่าวหรานจึงพาจินหลิวหลีไปบอกลาเย่ซิวตู๋ แล้วออกเดินทางไปยังเจียงเฉิง
แม้ว่าอวี้ชิงลั่วจะพยายามคัดค้านทุกวิถีทาง แต่ทั้งสองก็ยังคงยืนกราน และสัญญาว่าพวกเขาจะเดินทางช้า ๆ เพื่อให้ไม่กระทบกระเทือนบาดแผล ดังนั้นนางจึงยอมปล่อยให้ไปอย่างไม่เต็มใจ
ในอีกสองคืนหลังจากที่พวกเขาจากไป อวี้ชิงลั่วก็แอบเข้าไปในห้องของหนานหนานเงียบ ๆ แล้วอุ้มเขาขึ้นจากเตียง
…………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ขอให้มีชีวิตใหม่ที่มีความสุขนะฮ่าวหราน
ชิงลั่วก็จะไปเผ่าเหมิงเหมือนกันสินะ จะบอกอ๋องซิวอย่างไรดี
ไหหม่า(海馬)