อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 599 หนีออกไปแบบลับ ๆ ล่อ ๆ
ตอนที่ 599 หนีออกไปแบบลับ ๆ ล่อ ๆ
ตอนที่ 599 หนีออกไปแบบลับ ๆ ล่อ ๆ
หนานหนานยังคงงัวเงีย เขาพลิกตัวพร้อมกับพูดเสียงงึมงำ
“ลุกขึ้น เร็วเข้า” อวี้ชิงลั่วเขย่าหลังเขาเบา ๆ แล้วเรียกเขาด้วยเสียงแผ่วเบา
หนานหนานบิดขี้เกียจ ก่อนที่ขาสั้นของเขาจะถีบไปมาสองครั้ง แล้วบ่นพึมพำว่า “ไปให้พ้น ไม่เช่นนั้นนายน้อยจะทุบเจ้า”
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุกอย่างแรง ก่อนเอื้อมมือไปบีบจมูกของเขา แล้วตะคอก “เจ้ากำลังจะทุบใคร?”
“…” หนานหนานหายใจไม่ออก เขาจึงพยายามหรี่ตาอย่างยากลำบาก เพื่อมองคนตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ ทันใดนั้นเขาก็เริ่มกะพริบตา จนกระทั่งรู้สึกตัวเต็มที่จึงถามอย่างแปลกใจ “ท่านแม่หรือ?”
“ตื่นแล้วหรือ?” อวี้ชิงลั่วปล่อยมือ แล้วปล่อยให้เขานั่งลงบนเตียง
หนานหนานขยี้ตา ก่อนจะหาวเล็กน้อย แล้วเริ่มตีรวนอีกครั้ง “ท่านแม่ ยังไม่เช้าเลย เหตุใดท่านจึงปลุกข้าเร็วนัก? ข้าง่วงมาก ท่านบอกเองไม่ใช่หรือว่าหากข้านอนไม่พอ ข้าจะกลายเป็นคนโง่ แล้วถ้าในอนาคตข้ากลายเป็นคนโง่ ท่านก็จะต้องคอยดูแลข้าไปตลอดชีวิต”
เขาพูดก่อนจะล้มตัวดังฟุ่บลงบนเตียงอีกครั้ง ขนตายาวของเขาสั่นระริก หลังจากหลับตาลงอีกครั้ง
อวี้ชิงลั่วลูบหว่างคิ้วตัวเองขณะถอนหายใจ ก่อนยื่นมือไปดึงเขาขึ้นจากเตียง “ใกล้จะรุ่งสางแล้ว ตอนนี้พ่อของเจ้าเข้าไปในวังแล้ว เร็วเข้า พวกเราต้องรีบฉวยโอกาสออกไปจากที่นี่ ตอนที่พ่อของเจ้าไม่ได้อยู่ในตำหนัก”
นางแอบมองเย่ซิวตู๋ลุกขึ้นออกจากตำหนักเพื่อไปยังพระราชวัง จากนั้นก็แอบเดินเข้าไปในห้องของหนานหนาน
จิตใจที่สับสนของหนานหนานหยุดลงชั่วขณะ หลังจากถูกอวี้ชิงลั่วเขย่าอีกสองสามครั้ง ในที่สุดเขาก็ตื่นขึ้นเต็มที่
เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้านอกหน้าต่าง ดูเหมือนว่ามีแสงสว่างเล็กน้อย แต่มีเพียงแค่เล็กน้อยมากจริง ๆ ท่านแม่ช่างร้ายกาจนัก
เดี๋ยว เดี๋ยวนะ
“ออกจากที่นี่หรือ?” หนานหนานกะพริบตา “ท่านแม่ ออกจากที่นี่หมายความว่าอย่างไรขอรับ?”
“เจ้าเก็บสัมภาระที่แม่บอกให้เจ้าเก็บเมื่อสองสามวันก่อนแล้วหรือยัง?” อวี้ชิงลั่วดึงตัวเขาให้ลุกขึ้นจากพื้น
หนานหนานสวมรองเท้า ก่อนพยักหน้าแล้วไปคุ้ยในตู้อีกครั้ง จากนั้นลากถุงใส่สัมภาระใบใหญ่ออกมาด้วยความยากลำบาก “ทั้งหมดอยู่นี่แล้วขอรับ”
“…” อวี้ชิงลั่วแทบจะกระอักเลือดออกมา เส้นผ่านศูนย์กลางของถุงสัมภาระนี้ใหญ่กว่าตัวหนานหนานอีกไม่ใช่หรือ? โชคดีที่เขายังมีแรงมากพอที่จะลากมันออกมา ช่างน่าหงุดหงิดนัก
“ท่านแม่ เราจะไปเผ่าเหมิงตอนนี้เลยหรือ? เราจะไปหาแม่นมเก๋อตอนนี้เลยหรือขอรับ?” หนานหนานโน้มตัวมาใกล้หูของนาง แล้วถามเสียงเบา หลังจากครุ่นคิดแล้ว จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ท่านแม่ ท่าน… ต้องการออกไปตอนที่ท่านพ่อไม่อยู่หรือ? ท่านไม่ได้บอกท่านพ่อหรือขอรับ?”
อวี้ชิงลั่วรีบเอามือปิดปากเขา ก่อนขมวดคิ้วพูดหลังจากนั้นครู่หนึ่งว่า “มีรถม้าจอดอยู่ที่ประตูหลังวัง เจ้า อะแฮ่ม เจ้านำสัมภาระของเจ้าไปไว้ที่รถม้าก่อน”
หนานหนานมองไปยังสัมภาระห่อใหญ่ที่เท้าของเขาด้วยความลำบากใจ “แต่อันนี้หนักมากนะขอรับ”
“ใครขอให้เจ้าเอาของมาเยอะถึงเพียงนี้เล่า? เจ้าเอาออกไปครึ่งหนึ่งสิ จะได้ไม่หนักมาก”
“…” หนานหนานยิ่งรู้สึกลำบากใจ ครู่หนึ่งเขาก็ถอนหายใจ แล้วส่ายหน้า “ช่างเถิด ข้าจะพยายามให้มากขึ้น ลงมือกันเลย”
เมื่อพูดเช่นนั้นจบ เขาก็จับถุงภาระ แล้วเริ่มลากมันออกไปข้างนอกพลางส่งเสียงคร่ำครวญ
อวี้ชิงลั่วตบหน้าผากตัวเองอย่างแรง หากเขาส่งเสียงดังเช่นนี้ก็จะดึงดูดความสนใจของทุกคนในวัง เจ้าตัวเล็กนี่หาเรื่องให้นางจริง ๆ
อวี้ชิงลั่วคว้าสัมภาระเพื่อช่วยเขายกไป วินาทีต่อมา เท้าของนางก็สะดุด อะไรอีก… บ้าที่สุด
นางจ้องหนานหนานด้วยสายตาดุร้าย แต่ก็ยังคงแบกสัมภาระของเขาต่อไปด้วยความยากลำบาก
หนานหนานยิ้มกริ่ม ก่อนจะหันกลับไปหยิบถุงสัมภาระที่เล็กกว่าเมื่อครู่นี้ออกมาจากตู้ แล้วเดินตามนางไปที่ประตูหลัง
“…” อวี้ชิงลั่วอยากจะโยนเขาลงไปในสระบัวในตำหนักจริง ๆ
หลังจากแบกของไปเก็บไว้ในรถม้าได้ในที่สุด เมื่อพวกเขากลับมาที่ตำหนักของหนานหนาน ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว
เมื่อสาวใช้ที่ตื่นแต่เช้าเห็นว่าหนานหนานตื่นเช้ามาก นางก็อึ้งไปพักหนึ่ง แล้วนำน้ำอุ่นมาเช็ดหน้าให้เขาอย่างขยันขันแข็ง
อวี้ชิงลั่วหยิบผ้าเช็ดหน้ามา แล้วสั่งให้สาวใช้ออกไป “ข้าจะจัดการตรงนี้เอง เจ้าไปทำงานของเจ้าเถิด”
“เจ้าค่ะ แม่นางอวี้” สาวใช้เม้มปากแล้วยกยิ้มให้หนานหนาน จากนั้นหันหลังเดินออกจากตำหนักไป
อวี้ชิงลั่วกวักมือเรียกหนานหนานให้เข้ามา แล้วเด็กน้อยก็เงยหน้าขึ้นพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่ ท่านเช็ดเบา ๆ หน่อยสิขอรับ ท่านก็รู้ว่าผิวของข้าบอบบางและนุ่มนิ่ม ดังนั้นจึงต้องดูแลมันอย่างดี”
‘ฟึ่บ’ ทันใดนั้นอวี้ชิงลั่วก็ตบผ้าเช็ดหน้าลงบนฝ่ามือของเขา แล้วตะคอกเบา ๆ ว่า “ก่อนหน้านี้แม่สอนเจ้าไว้ว่าอย่างไร? บอกให้เจ้าทำอะไรด้วยตัวเองไม่ใช่หรือ? เหตุใดเจ้าจึงกลายเป็นคนเกียจคร้านตั้งแต่ได้เป็นซื่อจื่อ?”
หนานหนานหน้ามุ่ยด้วยความไม่พอใจ แต่ก็เริ่มเช็ดหน้าเองอย่างเชื่อฟัง
แต่เสียงอู้อี้ยังคงดังออกมาจากใต้ผ้าเช็ดหน้าเป็นระยะ “ท่านแม่ ท่านเข้าใจข้าผิดแล้ว ข้าทำทุกอย่างด้วยตัวเอง แม้กระทั่งอาบน้ำเองขณะร้องเพลงไปด้วย แต่ท่านคงไม่รู้ว่าเหล่าพี่สาวชาววังนั้นใจดีมาก เมื่อเห็นว่าข้าน่ารักและหล่อเหลา พวกนางก็รีบเข้ามาปรนนิบัติข้า ข้าเป็นคนใจดีจึงไม่อาจปฏิเสธได้ขอรับ”
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจ แล้วหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างเงียบ ๆ เพราะไม่ต้องการได้ยินคำพูดที่ไร้ยางอายและหลงตัวเองของเขาอีกต่อไป
หลังจากที่เขาจัดระเบียบตัวเองเสร็จแล้ว นางก็หันกลับไปช่วยจัดผมของเขาให้เรียบร้อย แล้วพูดด้วยเสียงเบาว่า “อีกสักครู่เจ้าก็ออกไปหาหลานเฉิงตามปกติ แล้วไปรับประทานอาหารเช้า จากนั้นรอจนกว่าหลานเฉิงจะไปดูการแข่งขันใหญ่ของสี่อาณาจักร เจ้าก็จะต้องปลีกตัวออกมา โดยบอกว่าเจ้ามีบางอย่างที่ต้องทำและจะตามไปในภายหลัง อีกหนึ่งก้านธูปแม่จะพาเจ้าเดินทางไปยังเผ่าเหมิง เข้าใจหรือไม่?”
หนานหนานพยักหน้า แต่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยในใจ เหตุใดเขาจึงรู้สึกว่าแม่กำลังพาเขาหนีออกไปแบบลับ ๆ ล่อ ๆ? ไม่บอกให้ท่านพ่อรู้เช่นนี้จะดีจริง ๆ หรือ?
หลังจากครุ่นคิดเรื่องนี้แล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นถามว่า “ท่านแม่ ท่านพ่ออยู่ที่ไหน…”
ก่อนที่หนานหนานจะพูดจบ เสียงสดใสคมชัดของเย่หลานเฉิงก็ดังขึ้นนอกประตู “หนานหนาน เจ้าตื่นหรือยัง?”
“โอ้ ข้าตื่นแล้ว” หนานหนานพูดตะกุกตะกัก และเมื่อเห็นแม่ของเขาออกไปข้างนอก เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตามนางไปอย่างรวดเร็ว
แม่นมเซียวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นหนานหนานมานั่งกินอาหารเย็นในโถงบุปผาเร็วถึงเพียงนี้ ปกติเขามักจะรอจนกว่าเย่หลานเฉิงจะเรียกเขาราวครึ่งชั่วยามก่อนจึงจะยอมลุกขึ้นมาไม่ใช่หรือ?
และสิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจมาก ก็คือวันนี้เจ้าตัวเล็กกินข้าวเช้าอย่างสงบเสงี่ยมยิ่งนัก
แม่นมเซียวรู้สึกประหลาดใจ แต่นางก็ชอบให้หนานหนานเป็นเช่นนี้มาก ซื่อจื่อน้อยคงจะเติบโตขึ้นแล้ว มารยาทพื้นฐานจึงดีขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดี
หลังจากกินอาหารเสร็จ อวี้ชิงลั่วก็เงยหน้าขึ้นส่งสายตาให้หนานหนานอย่างแนบเนียน
เด็กน้อยพยักหน้าอย่างรู้เท่าทัน
ตามที่คาดไว้ ครู่หนึ่งเย่หลานเฉิงก็เดินออกไป แต่เมื่อเขาเดินไปถึงประตูตำหนักอ๋องซิว หนานหนานก็มองเขาด้วยความลำบากใจ
……………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
แผนหนีจากท่านพ่อจะสำเร็จหรือเปล่านะ หนานหนานนี่ตัวช็อตฟีลท่านแม่เลย
ไหหม่า(海馬)