อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 602 อย่างมากก็เลี้ยงหมาไน
ตอนที่ 602 อย่างมากก็เลี้ยงหมาไน
ตอนที่ 602 อย่างมากก็เลี้ยงหมาไน
อวี้ชิงลั่วกระแอม หันไปมองนอกหน้าต่าง กล่าวออกมาเบาๆ “แค่เพียงบอกพ่อเจ้าว่าข้าเป็นโรคกลัวการท้องก่อนแต่ง อยากจะออกมาพักผ่อนหย่อนใจเสียหน่อย”
ข้อความที่ทิ้งไว้นั้นไม่เยอะ ใจความสำคัญคือการแข่งขันใหญ่ของสี่อาณาจักรกำลังจะจบในสองวัน และใกล้ถึงเวลาหารือเรื่องการแต่งงานของพวกเขาแล้ว ยิ่งเวลากระชั้นเข้ามา ในใจของนางก็ยิ่งเป็นกังวล ดังนั้นเมื่อคิดอันใดไม่ออกจึงออกมาพักผ่อนใจเสียหน่อย ขอเวลาเตรียมตัวสักนิด
อืม ใจความส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนี้
แน่นอนว่านางทิ้งข้อความไว้ให้องค์ชายรองของอาณาจักรเทียนอวี่ด้วย อย่างไรเสียสถานะตอนนี้ของนางก็แตกต่างจากเดิมแล้ว หากการแต่งงานล้าช้าออกไป มันก็จะทำให้ถังไป๋ซือเป็นกังวลใจ
หนานหนานเบิกตากว้าง หดตัวเข้ามุม
เขามั่นใจว่าหากท่านแม่ถูกท่านพ่อพบเข้าล่ะก็ จะต้องถูกถลกหนังเป็นแน่
จริงสิ ตอนนี้ก็ดูเหมือนเขากลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดไปแล้ว เช่นนั้นท่านพ่อจะจัดการเขาด้วยอีกคนหรือไม่?
หนานหนานกังวลใจจนทนไม่ไหว ถ้ารู้แต่แรกว่าท่านแม่เชื่อถือไม่ได้เช่นนี้ คงจะไม่สร้างปัญหาไปกับท่านแม่ตั้งแต่แรก เฮ้อ อีกเดี๋ยวถ้าหาที่พักได้แล้ว เขาเขียนจดหมายฉบับหนึ่งหาท่านพ่อจะดีกว่า ถึงตอนนั้นก็พยายามอธิบายว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ท่านพ่อจะต้องไม่โทษเขาเป็นแน่
แต่ว่า…
“ท่านแม่ เหตุใดท่านถึงไม่ให้ท่านพ่อรู้เล่าว่าเราจะไปไหน หากมีท่านพ่ออยู่ แผนของเราจะไม่สะดวกขึ้นมาอีกหน่อยหรือขอรับ” อย่างไรเสียท่านพ่อก็เคยไปดินแดนเหมิงมาก่อน วรยุทธ์ก็โดดเด่น หากมีเขาอยู่ด้วย แม้แต่จะเดินก็ยังไม่จำเป็นด้วยซ้ำ
อวี้ชิงลั่วเอียงศีรษะ ขยับร่างกายอย่างอึดอัด ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะได้ท่านั่งพิงพอดี แต่เสียงกลับแผ่วเบา
ดูเหมือนนางจะลังเลอยู่นาน จากนั้นก็อธิบายเบาๆ “พ่อของเจ้า… มีความหลังอยู่ที่ดินแดนเหมิง เขาอาจจะเคยได้รับบาดเจ็บตอนเด็กๆ ที่นั่น เขาเคยบอกข้าไว้ว่าหากไม่ถึงที่สุดจริงๆ ชีวิตนี้เขาก็ไม่อยากก้าวเข้าไปเหยียบดินแดนเหมิงอีกแม้แต่ก้าวเดียว”
“…” หนานหนานประหลาดใจ ครั้งก่อนที่เขาเรียนวรยุทธ์กับท่านปู่ลู่ก็ไม่เห็นท่านพ่อจะมีปฏิกิริยาอันใดมากมายนัก และยังเข้าใจว่าท่านพ่อมีความรู้สึกดีกับดินแดนเหมิงอยู่มาก คิดไม่ถึงเลย มีความหลังอย่างนั้นหรือ
“แต่ข้าก็คิดว่า เทียบกับความหลังอันเจ็บปวดแล้ว ท่านพ่อน่าจะอยากพาเราไปหาแม่นมเก๋อนะขอรับ”
หนานหนานเชื่อมั่นในตัวเย่ซิวตู๋อย่างมาก
อวี้ชิงลั่วกลอกตา ถลึงตามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ “เขาเต็มใจก็เรื่องหนึ่ง แม่ไม่อยากบังคับให้เขาทำก็อีกเรื่องหนึ่ง หากเขามีศัตรูหรือความแค้นอยู่ที่ดินแดนเหมิงเล่า ที่แม่ให้เขาไป ไม่ใช่ว่าเป็นการทำร้ายเขาหรือ”
ความคิดของเด็กช่างเรียบง่ายจริงๆ แต่อย่างไรอวี้ชิงลั่วก็คิดมาก และเป็นกังวลอย่างมากด้วย
นางเข้าใจดีว่าเย่ซิวตู๋ดีกับนาง แต่เป็นเพราะอย่างนั้นนางจึงลังเลอยู่นาน พยายามบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็ต้องเก็บคำพูดเหล่านั้นกลับเข้าไป
นางรู้ดีว่าต่อให้เย่ซิวตู๋จะเจอประสบการณ์อย่างไรมาในดินแดนเหมิง ไม่ว่าเขาจะไม่อยากมีความสัมพันธ์ใดๆ กับฝ่ายนั้นอีกต่อไปหรือไม่ แต่ถ้าเพื่อนางกับหนานหนานแล้ว ต่อให้ไม่อยากทำเพียงไหน เขาก็ยังจะมาด้วยอยู่ดี
เฮ้อ นางเองก็วุ่นวายเหลือเกินจริงๆ
อวี้ชิงลั่วดึงทึ้งผมของตนอย่างหงุดหงิด วุ่นวายใจอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตอนออกจากเมืองหลวง นางก็รู้สึกเหมือนกับว่าตนเองทำอะไรผิดไปก็ไม่ปาน
“ท่านแม่ ที่แท้ท่านก็มีช่วงเวลาที่เข้าอกเข้าใจผู้อื่นด้วยนี่เองขอรับ” หนานหนานมองนางอย่างประหลาดใจ เขานึกว่านอกจากข้อดีของท่านแม่ที่มักหาประโยชน์อย่างไร้ยางอายแล้ว ที่เหลือจะเป็นข้อเสียทั้งหมดเสียอีก
อืม คิดไม่ถึงว่าท่านแม่ของตนเมื่ออยู่กับท่านพ่อแล้ว จะมีข้อดีอย่างอื่นอีกด้วย
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุกอย่างแรงสองครั้ง เอื้อมมือมาบีบปากของเขา จากนั้นก็กล่าวเสียงเย็น “ถ้ายังพูดไร้สาระอีกข้าจะทิ้งเจ้าไว้เสีย”
หนานหนานรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก รถม้าแข็งๆ เช่นนี้เขาก็ไม่อยากนั่งเช่นกัน
เอาแก้มของตนออกห่างจากมือของอวี้ชิงลั่ว หนานหนานรีบออกห่างจากนางมาเล็กน้อย นวดแก้มเล็กๆ ของตนพลางมองออกไปนอกหน้าต่างแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่มองออกไปได้ครู่หนึ่ง จู่ๆ เขาก็หันกลับมาอย่างตื่นเต้น ดึงแขนเสื้อของอวี้ชิงลั่ว “ท่านแม่ นั่นเป็นบ้านพักของท่านพ่อนี่ เอ๊ะ เจ้าเสือน้อยอยู่ในนั้นด้วย ท่านแม่ เราพาเจ้าเสือน้อยไปด้วยได้ไหมขอรับ ข้าเคยได้ยินท่านปู่ลู่กล่าวไว้ว่าที่ดินแดนเหมิงสามารถเลี้ยงสัตว์ใหญ่ได้ ถึงแม้จะมีน้อยมากๆ แต่บางทีก็จะเห็นคนที่ฝึกเสือหรือสิงโตให้เป็นสัตว์พาหนะเดินตามถนนด้วยขอรับ อีกอย่างได้ยินว่าเจ้าเสือน้อยของท่านพ่อ ในทีแรกก็พามาจากดินแดนเหมิงด้วยนะขอรับ”
อวี้ชิงลั่วหรี่ตา “เขาบอกเจ้าหลายเรื่องเหลือเกินนะ” อีกอย่างทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องที่ล่อตาล่อใจหนานหนานทั้งนั้น
“เอาพยัคฆ์ทมิฬไปไม่ได้ นั่นเป็นสัตว์ที่พ่อเจ้าฝึกมาเอง มันจะเชื่อฟังพ่อของเจ้า เจ้าจัดการมันไม่ได้หรอก” อีกอย่าง ถ้าหากพวกเขาพาพยัคฆ์ทมิฬไป เย่ซิวตู๋ก็จะสืบสาวราวเรื่อง และหาที่อยู่ของพวกเขาพบได้
หนานหนานรู้สึกไม่เป็นธรรมอีกครั้ง คอตกด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง
ผ่านไปครู่หนึ่งก็โอดครวญ กล่าวอย่างแผ่วเบาและไม่อยากยอมรับว่า “มันวิเศษเพียงไหนกัน ไว้กลับไปข้าก็จะเลี้ยงสักตัว ท่านพ่อมีเจ้าเสือน้อย เช่นนั้นข้าก็จะเลี้ยงหมาป่า เก่งกว่าท่านพ่อเสียอีก”
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้ว “เลี้ยงหมาป่าหรือ ช่างน่าเกรงขามเสียจริง แต่ดูท่าทางเจ้าสิ ข้าว่าอย่างมากก็เลี้ยงได้เพียงหมาไนเท่านั้นแหละ”
“…” หนานหนานหันตัวหนีอย่างโกรธเคือง ไม่อยากสนใจนางแล้ว พลิกตัวไปมาสองครั้ง ปีนขึ้นไปบนห่อสัมภาระสองห่อของตน จากนั้นก็หลับ
อวี้ชิงลั่วหัวเราะเบาๆ หยิบเอาพัดเล็กๆ มาอันหนึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆ พัดให้เขา
หนานหนานจึงค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมา ถอนหายใจอย่างสบายตัว จากนั้นก็หลับสนิท
เพียงแต่อวี้ชิงลั่วนั้นเริ่มมุ่นคิ้วขึ้นมา ข้อศอกพิงไปยังหน้าต่างด้านหนึ่ง ในใจรู้สึกกระวนกระวาย ในหัวมีแต่ใบหน้าเย็นชาของเย่ซิวตู๋
ไม่รู้ว่าถ้าเขาเห็นข้อความแล้วจะตอบสนองอย่างไร ถ้าหาก… เขาเกิดโกรธเกรี้ยว ยกเลิกงานแต่ง แล้วไปแต่งงานกับหญิงอื่นล่ะก็…
อวี้ชิงลั่วหุบยิ้ม นางคิดถึงเรื่องเลวร้ายที่สุดได้อย่างไร คนอย่างเย่ซิวตู๋ จะไปแต่งงานกับหญิงอื่นได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ
แต่ถึงจะคิดเช่นนี้ ความรู้สึกกระวนกระวายที่อยู่ในใจกลับผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ท้องนภาด้านนอกมืดลงเรื่อยๆ ยิ่งเวลาผ่านไป ความกระวนกระวายก็ยิ่งรุนแรงขึ้น การแข่งขันวันนี้ก็จบลงแล้ว เขาน่าจะ… กลับตำหนักไปแล้ว และน่าจะรู้ว่านางและหนานหนาน… ไม่อยู่แล้วด้วย
อวี้ชิงลั่วกำมือแน่น ด้านนอกมีเสียงของคนขับรถม้าดังเข้ามา “แม่นาง นี่ก็ดึกแล้ว พวกเราหาที่พักกันเสียหน่อยเถิดขอรับ”
“เอาสิ” อวี้ชิงลั่วมองออกไปด้านนอก เดินทางมาหนึ่งวัน พวกเขาก็มาถึงเมืองเล็กๆ ใกล้ๆ แล้ว
หนานหนานทำปากแจ๊บๆ นอนหลับอย่างสบายใจ นอนไปทั้งวันก็ไม่คิดจะตื่นขึ้นมา อวี้ชิงลั่วส่ายหน้า เอื้อมมือไปอุ้มเขาลงจากรถม้าอย่างยอมแพ้
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ในห้องโถงใหญ่ของตำหนักอ๋องซิวขณะนี้มีบุรุษสองคนยืนอยู่ด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรเช่นเดียวกัน มองหน้ากันและกัน ต่างคนก็ดูจะเกลียดชังอีกฝ่าย
!!
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หาเรื่องท้าทายอำนาจมืดของอ๋องซิวหรือเปล่าเนี่ยชิงลั่ว จู่ๆ ก็แอบออกมา
ไหหม่า(海馬)