อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 603 ชิงเอ๋อร์และหนานหนานหายตัวไปหรือ
ตอนที่ 603 ชิงเอ๋อร์และหนานหนานหายตัวไปหรือ
ตอนที่ 603 ชิงเอ๋อร์และหนานหนานหายตัวไปหรือ
เย่ซิวตู๋เหลือบมองชายที่อยู่ตรงหน้า ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “สภาพร่างกายท่านอุปราชยังไม่หายดี เช่นนั้นก็ควรพักอยู่ที่เรือนรับรองสิ เหตุใดต้องมาถึงตำหนักของเราเล่า หากเกิดเหตุอันใด เราคงรับผิดชอบไม่ไหว”
ขณะกล่าวก็เหลือบมองอีกฝ่าย จากนั้นก็หันหลังนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งหนึ่ง
ซ่างกวนจิ่นหรี่ตาอย่างเย็นชา “ข้าเพียงแต่จะเชิญแม่นางชิงไปกินข้าวเพื่อแสดงความขอบคุณเท่านั้น อย่างไรเสียแม่นางชิงก็ช่วยชีวิตข้าไว้ เหตุใดอ๋องซิวจะต้องขวางไว้ด้วยเล่า”
ตั้งแต่หมอหลวงหลูกลับมารายงาน ซ่างกวนจิ่นก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก อวี้ชิงลั่วรับปากอย่างรวดเร็วแต่กลับทำให้เขาไม่มั่นใจขึ้นมา
แต่ตอนที่เขาจะให้คนมารับนางที่ตำหนักอ๋องซิวอีกครั้ง กลับได้ยินว่าหญิงผู้นั้นไปดูการแข่งขันที่สนามแข่งขันเสียแล้ว
เขาโทษหมอหลวงหลูที่ทำงานไม่สำเร็จ หากไม่ใช่เพราะร่างกายเขายังไม่หายดี ยังต้องให้หมอหลวงหลูคอยตรวจดู เกรงว่าคงลงโทษเขาด้วยการโบยสัก 20-30 ไม้ไปแล้ว แม้แต่เรื่องเล็กๆ เช่นนี้ยังทำไม่ได้ จะมาคอยจัดการงานข้างกายเขาอยู่ได้อย่างไร
แต่หลังจากทำให้ใจเย็นลงครู่หนึ่งแล้ว ซ่างกวนจิ่นก็ตรงมาที่นี่ทันที เขามาเฝ้าต้นไม้รอกระต่ายอยู่ที่ตำหนักอ๋องซิว อยากจะดูว่าหากผู้สำเร็จราชการจากอาณาจักรจิงเหลยมาเชิญด้วยตนเอง นางจะยังกล้าไม่ไปอีกหรือไม่
ทว่าเขากลับพบเพียงเย่ซิวตู๋ที่เดินเข้ามายังห้องรับรอง ไม่เห็นอวี้ชิงลั่วมาด้วยอีกคน
เย่ซิวตู๋หรี่ตา ในหัวปรากฏคำพูดของแม่นมเซียวเมื่อวันนั้นขึ้นมาทันที
ซ่างกวนจิ่นผู้นี้ไม่ยอมแพ้เลยจริงๆ บัตรเชิญใบนั้นเขาฉีกทิ้งด้วยมือของตนไปแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังมาหาด้วยตัวเอง หากจะบอกว่าไม่มีความตั้งใจอื่น ให้ตายอย่างไรเขาก็ไม่เชื่อ
“ท่านอุปราชเล่นตลกแล้วหรือ ช่วงนี้ชิงเอ๋อร์ยุ่งมาก ไม่มีเวลาว่างจริงๆ อีกอย่าง ชิงเอ๋อร์เองก็ได้รับของกำนัลจากท่านแล้ว ถือว่าหายกัน เหตุใดยังต้องมีการกินข้าวกันอีก”
เย่ซิวตู๋จิบชา สีหน้ายังคงเดิม
“ยุ่งหรือ ถ้าหากว่ายุ่ง เหตุใดวันนี้จึงมีเวลาไปดูการแข่งขันที่สนามแข่งขันได้เล่า” ซ่างกวนจิ่นมองเขาอย่างไม่พอใจ เขายังไม่ได้แต่งงานกับหญิงผู้นั้นเลยแท้ๆ กลับควบคุมนางไว้ให้อยู่ข้างกายตน เมินเฉยต่อคำเชิญเขาหลายต่อหลายครั้ง
ไปสนามแข่งขันหรือ มือที่ถือถ้วยชาของเย่ซิวตู๋ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็จิบราวกับว่าไม่มีอันใดเกิดขึ้น
แต่ในใจของเขากลับไม่สบายใจขึ้นมา วันนี้ชิงเอ๋อร์ไม่ได้ไปที่สนามแข่งขัน เมื่อครู่หลานเฉิงก็กลับมาพร้อมกันกับเขา ตามที่เขาบอก หนานหนานเองก็ไม่ได้ไป
ถึงแม้ในใจของเย่ซิวตู๋จะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่เมื่อเผชิญหน้ากับซ่างกวนจิ่น กลับแผ่รังสีเย็นยะเยือกออกมา “ถึงท่านอุปราชจะหมายความเช่นนี้ แต่ข้ากลับรู้สึกว่า… ในใจของชิงเอ๋อร์ การแข่งขันคงจะดึงดูดใจของนางมากกว่างานเลี้ยงของท่านกระมัง”
“เย่ซิวตู๋!!”
เย่ซิวตู๋ค่อยๆ เชิดคางขึ้นแล้วเลิกคิ้ว
“ท่านอ๋อง” ขณะที่การเผชิญหน้าของทั้งสองกำลังตึงเครียด ผู้พิทักษ์พยัคฆ์ข้างกายของซ่างกวนจิ่นก็รีบร้อนวิ่งเข้ามาด้วยฝีเท้าเร่งรีบ
หลังจากมาถึงด้านข้างของซ่างกวนจิ่นแล้ว ก็กระซิบที่ข้างหูของเขา “ท่านอ๋อง ด้านนอกมีคนขอพบพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”
“หืม” พบเขาหรือ นอกตำหนักอ๋องซิวกลับมีคนขอพบเขาอย่างนั้นหรือ
ผู้พิทักษ์พยัคฆ์ผู้นั้นมองเย่ซิวตู๋แวบหนึ่ง ลดเสียงลงเบากว่าเดิม “เห็นว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่นางชิงพ่ะย่ะค่ะ”
ซ่างกวนจิ่นตะลึง พยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง หันกลับมาพูดกับเย่ซิวตู๋ “ข้ามีธุระ คงต้องขอตัวก่อน”
“เชิญท่านอุปราช” เย่ซิวตู๋วางถ้วยชา ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
ซ่างกวนจิ่นไม่อยู่ต่อ พาผู้พิทักษ์พยัคฆ์ของตนจากไปโดยไม่หันกลับมา
เย่ซิวตู๋เม้มปากแน่น ขณะกำลังจะหันหลัง พ่อบ้านหยางทางด้านนั้นก็วิ่งเข้ามา ท่าทางกระหืดกระหอบ “ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง องค์ชายรองจากอาณาจักรเทียนอวี่เสด็จมาพ่ะย่ะค่ะ”
เย่ซิวตู๋ประหลาดใจ ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก
ถังมู่เทียนแทบจะไม่มาที่ตำหนักอ๋องซิวเลย ยังไม่ต้องพูดถึงวันสุดท้ายของการแข่งขันใหญ่ของสี่อาณาจักร ในตอนที่ฟ้ามืดแล้วเช่นนี้ หรือที่เร่งรีบเช่นนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่าชิงเอ๋อร์…
เย่ซิวตู๋ยังไม่ทันจะได้คิดมากอันใด โม่เสียนที่อยู่ข้างๆ ก็รีบคุกเข่าดัง ‘ตึง’ ต่อหน้าเขา “นายท่าน ข้าน้อยละเลยหน้าที่ นายท่านโปรดยกโทษให้ข้าด้วย”
“หมายความว่าอะไร”
“ข้าน้อย… เมื่อเช้านี้ข้าน้อยไปส่งแม่นางอวี้และหนานหนานที่สนามแข่งขันด้วยตนเอง และเห็นพวกเขาเข้าไปในนั้นกับตาตนเองขอรับ เพียงแต่แม่นางชิงกล่าวว่า รอให้การแข่งขันจบจะกลับมาที่ตำหนักพร้อมกับนายท่าน ให้ข้าน้อยกลับมาก่อน แต่เมื่อครู่ตอนนายท่านเข้ามา ข้าน้อยกลับไม่เห็นแม่นางอวี้และหนานหนาน…”
โม่เสียนอยู่ข้างกายซ่างกวนจิ่นมาตั้งแต่แรก เมื่อเย่ซิวตู๋เข้าประตูมา เขากลับพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ซ่างกวนจิ่นยังอยู่ที่นี่ เขาจึงทำได้เพียงเก็บเรื่องของอวี้ชิงลั่วไว้ในใจก่อน ไม่สามารถกล่าวแทรกตรงนั้นได้ จนกระทั่งเขาไปจากตำหนักอ๋องซิวแล้ว โม่เสียนจึงคุกเข่าขอโทษ “อีกทั้งตอนนี้ ก็ไม่มีวี่แววของแม่นางอวี้และหนานหนานอยู่ที่เรือนเลยขอรับ”
รูม่านตาของเย่ซิวตู๋หดลงทันที ทันใดนั้นก็เตะโม่เสียนครั้งหนึ่ง “นี่เจ้ากำลังบอกข้าว่า ชิงเอ๋อร์และหนานหนานหายตัวไปอย่างนั้นหรือ”
โม่เสียนก้มหน้าลง ไม่ได้กล่าวอะไรเลยสักคำ
เป็นเพราะเขาประมาท ตลอดเวลามานี้ ต่อให้แม่นางชิงไปที่สนามแข่งขัน แม้นางจะกลับมาพร้อมท่านอ๋อง แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยจะให้เขากลับมาก่อนเลย
แต่วันนี้ เขากลับไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย หากจะบอกว่าตนสมควรตายก็ไม่เกินจริง
สีหน้าของเย่ซิวตู๋อึมครึม หน้าตาดุร้าย จ้องมองโม่เสียนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย
ในตอนนั้นเอง ถังมู่เทียนก็เร่งรีบเดินเข้ามาจากด้านนอก เมื่อเห็นทั้งสองคนที่นั่งคุกเข่าและยืนอยู่ก็อึ้งไป รีบเดินไปด้านข้างเย่ซิวตู๋ในทันทีแล้วถาม “ตอนนี้ชิงลั่วอยู่ที่ตำหนักอ๋องซิวหรือไม่”
เย่ซิวตู๋เงียบไปครู่หนึ่ง ส่ายหน้า
ถังมู่เทียนตบหน้าผากของตนในทันใด โบกไม้โบกมือให้โม่เสียนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นแล้วกล่าว “เจ้า เจ้ารีบไปปิดประตูเสีย”
โม่เสียนตกใจ เหลือบตามองนายท่านของตน จากนั้นลุกขึ้นอย่างเงียบๆ แล้วปิดประตูใหญ่ของห้องรับรอง
ห้องรับรองมืดลงในทันที ในมือถังมู่เทียนมีจดหมายอยู่ฉบับหนึ่ง ฟาดมันใส่ร่างของเย่ซิวตู๋ จากนั้นก็เดินไปมาด้วยความโกรธ “อุกอาจเกินไปแล้วจริงๆ อุกอาจเกินไปแล้ว เจ้าดูสิ หญิงผู้นี้ไม่สนใจกฎใดๆ เสียเลย อยากจะไปก็ไป ปล่อยให้ข้าต้องจัดการกับผลที่ตามมา”
ผลที่ตามมาหรือ ผลที่ตามมาอันใดกัน หมายความว่าเขาจะทำให้ฮ่องเต้ของอาณาจักรเฟิงชางไม่พอใจนะสิ หญิงร้ายกาจผู้นี้ อีกเดี๋ยวจะต้องฟาดนางเสีย ต้องฟาดแน่ๆ
โม่เสียนที่อยู่ด้านข้างเบิกตาโตในทันที ยังไม่ทันได้เตรียมงานแต่ง ก็…หนีงานแต่งเสียแล้วหรือ
เขาหันไปมองนายท่านของตนในทันใด กลับพบว่าสีหน้าเย่ซิวตู๋นั้นเรียบเฉยเป็นอย่างมาก มีเพียงความรู้สึกในแววตาที่เย็นเยือกราวกับก้อนน้ำแข็ง
นายท่านโกรธมาก เขาดูออก
โม่เสียนกำลังครุ่นคิด ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา
ถังมู่เทียนคิดอะไรไม่ออก โบกมือ สั่งโม่เสียนอย่างไม่เกรงใจ “เปิดประตูเสีย”
โม่เสียนถูกเย่ซิวตู๋เตะไปครั้งหนึ่ง ที่ไหล่ยังคงเจ็บอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อเห็นการกระทำเช่นนั้นของถังมู่เทียน ก็ยังอดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปาก
เขาไปเปิดประตู ด้านนอกคือแม่นมเซียวที่มีท่าทางกระวนกระวาย
โม่เสียนไม่เคยเห็นแม่นมเซียวดูกระวนกระวายมากถึงเพียงนี้มาก่อน เขารีบถอยตัวให้แม่นมเซียวเข้าไป
!!
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
วุ่นวายทั้งอำเภอตามหาเธอคนเดียวชัด ๆ ชิงลั่วเอ๊ย กลับมาจะโดนอะไรมั่งเนี่ย
ไหหม่า(海馬)