อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 607 โง่เง่า
ตอนที่ 607 โง่เง่า
ตอนที่ 607 โง่เง่า
อวี้ชิงลั่วคว้ามือของหนานหนานแล้วกำไว้แน่น จนหนานหนานโอดครวญด้วยความเจ็บปวด
อวี้ชิงลั่วได้สติกลับคืนมา สูดหายใจเข้าลึกๆ ปานรูปดอกไม้เช่นเดียวกับหนานหนาน เย่ซิวตู๋เคยกล่าวเอาไว้ ว่านั้นเป็นปานแบบที่ชาวเหมิงเท่านั้นที่จะมีได้
เช่นนั้นแล้ว เด็กสาวโง่เง่าที่ถูกคนไล่ฆ่าผู้นี้เป็นชาวเหมิงหรือ
ดวงตามองไปยังเด็กหญิงที่กำลังจะถูกโยนออกมา อวี้ชิงลั่วอดไม่ได้ที่จะก้าวออกไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เดินไปหาพนักงานโรงเตี๊ยมผู้นั้น ยิ้มแล้วกล่าว “พี่ชาย ส่งเด็กคนนี้ให้ข้าเถิด ข้าเห็นว่านางน่าสงสารนัก ข้าจะพานางไปหาหมอ”
พนักงานผู้นั้นมองนางแวบหนึ่ง เลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะกล่าวอย่างเย้ยหยัน “ท่านนี่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นสินะ เช่นนั้นแล้วก็นำเด็กผู้นี้ไปเสีย ดูนางไว้ อย่าให้นางมารบกวนแขกท่านอื่นๆ อีกล่ะ”
อวี้ชิงลั่วหรี่ตา ไม่สนใจเขา นำตัวเด็กผู้นั้นจะจากไป
แต่เด็กคนนั้นกลับยังคงขัดขืนอย่างหนัก ออกแรงฟาดข้อมือของอวี้ชิงลั่ว เอาแต่อยากจะตรงกลับเข้าไปในโรงเตี๊ยม
อวี้ชิงลั่วมุ่นคิ้ว กดนิ้วเข้าไปที่ใต้รักแร้ของนาง เด็กคนนั้นตัวแข็งไป ทันใดนั้นก็ค่อยๆ ล้มตัวลง อวี้ชิงลั่วค่อยๆ ออกแรงเล็กน้อย อุ้มนางเดินไปข้างหน้า
เด็กหญิงคนนั้นยังคงกล่าวไม่ศัพท์ พูดอะไรที่ฟังไม่รู้เรื่อง
หนานหนานรีบโดดมาข้างหน้า ทำให้นางตกใจมาก
กลุ่มคนรอบๆ เมื่อเห็นว่ามีคนมาจัดการแล้ว ก็เพียงแต่มองต่ออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็แยกย้ายกันไป
อวี้ชิงลั่วมองเด็กคนนั้นที่ยังคงพยายามพูดจาต่อต้าน เม้มริมฝีปาก รอจนถึงที่ที่คนน้อย ก็จัดการให้นางสลบไป
เห็นว่านางไม่ขยับตัวอีก อวี้ชิงลั่วจึงค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก อุ้มนางแล้วกล่าว “ไปกัน กลับไปยังโรงเตี๊ยมก่อน”
“ขอรับ” หนานหนานคลี่ยิ้มแล้วพยักหน้า เดินตามหลังนางไปอย่างเชื่อฟัง
หลังจากกลับมาถึงห้อง อวี้ชิงลั่วก็ให้พนักงานนำน้ำมา อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางด้วยตัวเอง
ตอนนี้เมื่อสะอาดแล้ว นางก็พบว่าเด็กสาวผู้นี้ดูหน้าตาสะสวยอย่างบอกไม่ถูก หว่างคิ้วและดวงตาแจ่มใส ถึงแม้ดูแล้วจะผอมจนแทบเห็นกระดูก แต่หน้าตาของนางกลับงดงามอย่างยิ่ง เด็กเช่นนี้ รอให้โตไปแล้วแต่งตัวเสียหน่อย เกรงว่าชีวิตจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย
อวี้ชิงลั่วส่ายหน้า เด็กชาวเหมิง ดูท่าทุกคนคงจะหน้าตางดงามเสียจนทำคนอิจฉา
ดังเช่นเหมิงกุ้ยเฟย ดังเช่นเย่ซิวตู๋ หนานหนานเอง… ก็เช่นกัน
นางอุ้มเด็กคนนั้นกลับไปที่เตียง พอดีกับหนานหนานเดินเข้ามาจากด้านนอก ในมือยังถือถาดถาดหนึ่ง “ท่านแม่ ข้าลงไปข้างล่างเพื่อขอของกินจากท่านพี่พนักงาน ท่านรีบปลุกให้นางมากินอะไรหน่อยเถิด ท่านดูสิ นางหิวเสียจนกินแขนเสื้อแล้ว”
อวี้ชิงลั่วมองเขาแวบหนึ่ง เช็ดศีรษะให้เด็กคนนั้นจนสะอาด จากนั้นก็พิจารณาอย่างละเอียด
หนานหนานวิ่งไปดูที่เตียง ทันใดนั้นเขาก็ตาโตขึ้นมา “ท่านแม่ ทำไมนางสวยขนาดนี้เล่า ท่านแม่ นี่นางสวยกว่าท่านหลายขุมเชียวล่ะ”
อวี้ชิงลั่วเขกศีรษะของเขาครั้งหนึ่ง จากนั้นก็จ้องเขาอย่างดุร้าย “เก่งนักก็พูดอีกครั้งสิ”
หนานหนานมุ่ยหน้า หลบไปอยู่ด้านข้างโต๊ะแล้วกินอาหาร
กินไปได้สองคำก็เหมือนกับว่าจะคิดอะไรขึ้นมาได้ “ท่านแม่ ท่านดูนางหน่อยสิ ท่านว่าโรคโง่เง่าของนางจะรักษาให้หายได้หรือไม่ ข้าว่านะ นางสวยขนาดนี้ แต่ถ้าหากเป็นคนโง่ก็จะน่าเสียดายเกินไป ต่อไปอาจจะถูกคนหลอกไปขายเอาได้ง่ายๆ ถ้าท่านรักษาโรคของนางให้หายได้ เช่นนั้นก็จะเป็นเรื่องสุดยอดเรื่องหนึ่ง ถือว่าสะสมบุญให้ข้า”
“เหตุใดข้าต้องสะสมบุญให้เจ้าด้วย” อวี้ชิงลั่วอยากจะหาของมาฟาดหัวเขาเสียจริงๆ แต่ถึงแม้จะไม่พอใจกับคำพูดของหนานหนานมากเท่าไร ก็ยังเอื้อมมือออกมาจับชีพจรของเด็กหญิงผู้นั้น
หนานหนานวิ่งมาทางด้านนี้อีกครั้งอย่างลับๆ ล่อๆ กะพริบตาเป็นประกายนั้นมองไปยังท่าทางของท่านแม่ตน
เพียงแต่มองๆ ไป กลับพบว่านางยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นเรื่อยๆ แววตาดูแปลกใจขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
หัวใจดวงน้อยเต้นรัว เสียงของเขาเบามาก เบาเสียจนนึกว่ามีผีกระซิบข้างหูของนาง “ท่านแม่ เป็นอย่างไรบ้าง อาการของนางจะรักษาได้หรือไม่”
อวี้ชิงลั่วชักข้อมือกลับมาจากนั้นก็ถอนหายใจ แล้วก็ส่ายหน้าเบาๆ
หนานหนานชะงัก มองเด็กที่อยู่บนเตียง คิดแต่ว่านางช่างน่าสงสารเกินไปแล้ว อายุเท่านี้กลับถูกไล่ฆ่า ทั้งยังเป็นคนโง่เสียจนแม้แต่ท่านแม่ก็ยังรักษาไม่ได้ ถ้าขนาดท่านแม่ยังส่ายหน้าแล้ว ในโลกนี้ก็คงไม่มีหมอคนไหนที่จะรักษานางได้อีก
เขานั่งบนเตียง จับมือของเด็กหญิงผู้นั้นแล้วกระซิบ “ทุกอย่างล้วนเป็นชะตา เฮ้อ นี่ก็เป็นเพราะเจ้าโชคร้าย ดูท่าชาติก่อนเจ้าจะทำดีมาน้อยเกินไป แต่ไม่เป็นไรนะ ชาตินี้ข้าจะพาเจ้าทำความดีมากหน่อย ชาติหน้าเจ้าจะต้องมีชีวิตดีๆ เป็นแน่”
อวี้ชิงลั่วเดินไปที่หน้าต่างอย่างเงียบๆ มองคนเดินไปเดินมาด้านล่างนั้นพลางครุ่นคิด ไม่ได้ยินสิ่งที่ลูกชายของตนกำลังพึมพำอยู่ที่ด้านหลังราวกับพระสวดมนต์เลย
นางแค่เอามือไพล่หลังแล้วหรี่ตาลง
นางรู้ว่าเด็กคนนี้คือปัญหาแน่นอน ดูท่าทางแล้วน่าจะอายุพอๆ กับหนานหนาน แต่กลับมีคนพยายามไล่ฆ่านาง บนร่างนางมีสัญลักษณ์ของชาวเหมิง เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิ่งนี้จะต้องซับซ้อนมากเป็นแน่ นางกลับเลือกวิธีนี้…
แต่ถ้านางไม่ได้เจอเด็กคนนี้ เรื่องก็คงจบเพียงนั้น ตอนนี้หากปล่อยนางไว้โดยไม่สนใจ นางคิดว่าตนคงทำไม่ได้
อวี้ชิงลั่วยกมือนวดหว่างคิ้วของตัวเอง เป็นปัญหาที่ชวนให้ปวดหัวเสียจริง
นางในตอนนี้ยังต้องไปดินแดนเหมิงเพื่อตามหาแม่นมเก๋อ และไม่รู้ว่าจะราบรื่นหรือไม่อีกด้วย
“ข้าว่านะ เรามาทำดีกับสัตว์ตัวเล็กๆ กันดีกว่า ตอนนี้ข้ามีสัตว์ตัวเล็กๆ ติดตัวมาด้วยนะ มันชื่อเสี่ยวไป๋เหอ พ่อของข้าก็มีเจ้าเสือน้อย ข้าดีกับพวกมันทุกตัวมากๆ เลยนะรู้ไหม”
ทันใดนั้นเสียงพูดคุยนั้นก็ลอยเข้ามาในหูของนาง อวี้ชิงลั่วตกใจ อดไม่ได้ที่จะกระตุกที่มุมปาก
เหตุใดลูกชายของนางจึงพูดกับตัวเองได้มากมายเช่นนี้นะ อีกอย่าง แมงป่องกับพยัคฆ์ทมิฬนั้น… ไม่ใช่สัตว์ตัวเล็กจำพวกที่เขาจะต้องมาเอาใจใส่ดูแลเลยแม้แต่น้อย
อวี้ชิงลั่วส่ายหน้า กำลังคิดว่าจะหันหลังกลับไป จู่ๆ ด้านหลังกลับได้ยินเสียง ‘ตึง’ ดังเข้ามาในหู
นางหันไปก็เห็นว่าหนานหนานนอนอยู่บนพื้นในสภาพที่ดูไม่ได้ ส่วนบนเตียงนั้นก็มีเด็กผู้หญิงที่อยู่ดีๆ ก็ตื่นขึ้นมานั่งอยู่ ตอนนี้กำลังจับผ้าห่มเป็นกำบังมองพวกเขาทั้งสองคน
เมื่อเห็นอวี้ชิงลั่วหันมา จู่ๆ นางก็เบิกตาโต ไม่กล่าวอะไรก็ทิ้งผ้าห่มแล้วรีบวิ่งลงจากเตียง
เท้าเล็กๆ เหยียบลงไปที่หลังมือของหนานหนานที่กำลังจะลุกขึ้นยืน
เขาร้องโอดโอย จากนั้นก็ล้มลงไปอีกครั้ง
อวี้ชิงลั่วเองก็ไม่ได้ห้ามนาง เพียงแต่มองมือของเด็กคนนั้นที่จับอยู่ตรงขอบประตูแล้ว จากนั้นก็กล่าวเสียงเบา “คิดว่าเจ้าอยู่ข้างนอกตัวคนเดียวแล้วแกล้งทำเป็นโง่ จะอยู่รอดได้ทั้งชีวิตอย่างนั้นหรือ”
!!
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เด็กคนนี้เป็นใครกันนะ ดูท่าจะมีสถานะไม่ธรรมดา หรือว่าจะเป็นเจ้าสาวในอนาคตของหนานหนาน?
ไหหม่า(海馬)