อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 609 ล่วงเกิน
ตอนที่ 609 ล่วงเกิน
ตอนที่ 609 ล่วงเกิน
เด็กหญิงตัวเล็กมองนางอย่างดุร้าย อยากจะเดินถอยหลัง แต่เพียงแค่ขยับกลับเจ็บอย่างมากไปทั้งตัว ปวดแสบปวดร้อน
หนานหนานรีบวิ่งกลับไปยังรถม้า หยิบขวดยาเล็กๆ สองสามขวดออกมาจากถุงสัมภาระใบใหญ่ จากนั้นก็วิ่งไปหาพวกเขาอีกครั้ง
“ท่านแม่ ใส่ยาให้นางเสียก่อนเถิด น่าสงสารเกินไปแล้ว ท่านก็ไม่ห้ามนางอีกต่างหาก”
อวี้ชิงลั่วยิ้มเย็น “ห้ามทำไมเล่า นางไม่ได้บาดเจ็บสักนิด ทั้งยังไม่จริงใจอีกด้วย”
นางรับขวดยามา กวาดตามองนาง เด็กหญิงมีสีหน้าบูดเบี้ยว ดูดุร้ายยิ่งกว่าเดิม
อวี้ชิงลั่วเอื้อมมือไปเปิดแขนเสื้อนาง เห็นว่าบนนั้นถูกพื้นครูดเสียจนเสื้อผ้าขาดลุ่ย นางมุ่นคิ้ว เปิดขวดยาแล้วใส่ไปบนไหล่ของนาง
เด็กหญิงผู้นั้นคิดอยากจะออกแรงชักมือกลับมา แต่เพราะนางบาดเจ็บแล้ว แรงก็ไม่ได้เยอะเท่าอวี้ชิงลั่ว จะดึงกลับมาไหวได้อย่างไร
ดึงอยู่สองครั้งก็รู้สึกเหมือนกับว่าไหล่ของตนจะหลุดออกก็ไม่ปาน เจ็บมากเสียจนทั้งใบหน้าบิดเบี้ยวไปหมด
สายตามองไปยังยาในขวดยานั้นที่กำลังแตกตัวในแผล จู่ๆ นางก็ร้องออกมาครั้งหนึ่ง จากนั้นก็จะกัดอวี้ชิงลั่วโดยไม่สนใจใดๆ ทั้งนั้น
หนานหนานที่อยู่อีกด้านอย่างเงียบๆ มาตั้งแต่แรก เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดี ก็รีบสับที่ท้ายทอยของนางโดยไม่กล่าวอะไรทั้งนั้น
ขณะที่ศีรษะของเด็กหญิงกำลังเข้าใกล้อวี้ชิงลั่ว ในหัวก็สว่างวาบ ร่างกายแข็งทื่อแล้วหมดสติไป
“เฮ้อ เจ้านี่ก็จริงๆ เลย บาดเจ็บอยู่แท้ๆ ยังจะทำร้ายแม่ข้าอีก ข้าจะบอกให้นะ แม่ข้ามีข้าคอยปกป้องอยู่ ถ้ากัดนางจะโดนหนักกว่ากัดข้าอีกรู้ไหม”
อวี้ชิงลั่วโอบร่างของเด็กหญิงไว้แล้วช่วยรักษาแผลหลายๆ จุดให้นาง เมื่อได้ยินหนานหนานที่ดูเหมือนจะกำลังกล่าวชมตัวเองอยู่ก็กล่าว “มัวทำอะไรอยู่ ข้าบอกให้ทำนางหมดสติตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือ”
หนานหนานมุ่ยปาก “ท่านแม่ ข้าก็แค่เห็นแก่ว่านางเป็นสตรีน่ะ เฮ้อ ช่างเถอะ ท่านไม่ใช่ชายหนุ่มรูปหล่อเป็นสุภาพบุรุษดังเช่นข้า ท่านไม่เข้าใจหรอก”
หากประโยคนี้เหมือนกับที่ท่านพ่อบอก อาจจะดูเป็นภาษาที่ธรรมดาเล็กน้อย
“…” อวี้ชิงลั่วกัดฟัน ไม่อยากจะสนใจเขาอีก อุ้มเด็กหญิงขึ้นรถม้าไป
คนขับรถตบหน้าอกของตนที่ตกใจเสียจนหัวใจแทบวาย จากนั้นก็ช่วยประคองเด็กคนนั้นให้เข้าที่ และขับรถม้าไปตามทางอีกครั้ง
คนหมดสติไปแล้ว ความนึกคิดของหนานหนานตลอดทางนี้กลับมาอยู่ที่นางอีกครั้ง สักพักก็ช่วยเช็ดหน้าให้นาง พัดลมให้นาง ไม่ได้มากวนใจอะไรอวี้ชิงลั่วเลย ตลอดทั้งวันนี้กลับกลายเป็นการเดินทางที่เงียบสงบและสบายใจที่สุดแล้ว
เมื่อมาถึงหมู่บ้านถัดไป ท้องฟ้าก็มืดมิดพอดี
หลังจากอุ้มเด็กไปพักบนเตียงแล้ว อวี้ชิงลั่วก็ออกไปข้างนอก
หนานหนานคอยเฝ้าอยู่ข้างเตียงสักพักเมื่อเห็นว่านางดูไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ตัวเขาเองก็เริ่มจะง่วงแล้ว ทันใดนั้นเมื่อในหัวของเขาตื่นขึ้นก็ขยี้ตา จากนั้นก็เรียกให้พนักงานตักน้ำเข้ามาให้ เขาเข้าไปยังหลังฉากกั้นและอาบน้ำ
เพียงแต่อาบไปได้ครู่เดียว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเล็กๆ ดังมาจากหลังฉากกั้น
หนานหนานเงี่ยหูฟังอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะฮิๆ “เจ้าตื่นแล้วหรือ”
เพิ่งจะลงจากเตียง เด็กหญิงที่ค่อยๆ ย่องไปยังประตูอย่างระมัดระวังชะงักไป นิ้วเกร็งไปเล็กน้อย
หนานหนานนอนแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำอย่างเกียจคร้าน ถอนหายใจออกมาอย่างสบายตัว กล่าวยิ้มๆ “ข้าจะบอกให้นะ ประตูน่ะถูกแม่ข้าลงกลอนเอาไว้แล้ว เจ้าเปิดไม่ได้หรอก ตรงนี้น่ะชั้นสาม ถ้าหากเจ้าจะกระโดดลงไปจากทางหน้าต่างล่ะก็ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตแล้ว ถึงตอนนั้นจะไม่มีใครช่วยเจ้าได้แล้วจริงๆ นะ”
เขาเพิ่งจะพูดจบ ทันใดนั้นก็มีเสียง ‘กริ๊กๆ’ ดังมาจากประตูห้อง
หนานหนานฟังอยู่ครู่หนึ่ง ฮิๆๆ “บอกแล้วว่าเจ้าเปิดไม่ออกหรอก เจ้าแรงน้อยปานนั้น ยิ่งพังประตูไม่ได้เลย จะออกไปอย่างไรเล่า”
จู่ๆ เด็กหญิงก็ปล่อยมือจากขอบประตู เม้มปากเพ่งมอง ผ่านไปครู่หนึ่งก็เดินกลับมาอีกครั้ง
หนานหนานได้ยินเพียงเสียงเดินเบาๆ กลับไม่รู้ว่านางกำลังทำอะไร อดไม่ได้ที่จะชะโงกคอดู
แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว เขาก็มองอะไรไม่เห็นเพราะตัวเล็ก ชะงักอยู่ครู่หนึ่ง ก็ทำได้เพียงเอื้อมมือไปหยิบเสื้อผ้าที่แขวนไว้ตรงราวแขวน
ไม่คิดว่าเพียงมือน้อยๆ ของเขาจับไปโดนปลายเสื้อผ้า เสียงดัง ‘ตุบ’ เสื้อผ้านั้นกลับหายไปราวกับว่ามีขางอกออกมา
หนานหนานตกใจอย่างมาก ขณะหันไปมองให้ชัดอีกครั้ง ก็เห็นว่าเด็กหญิงที่โกรธเกรี้ยวผู้นั้นกำลังอุ้มเสื้อผ้าของเขายืนอยู่ตรงนั้น
หนานหนานตกตะลึงไป จากนั้นก็ตะโกนอีกครั้ง “นี่ เจ้า เจ้าเอาเสื้อผ้าข้าไปทำไม เอาคืนข้ามานะ ไม่เช่นนั้นข้าจะออกไปอย่างไรเล่า อีกอย่างๆ เจ้าไม่เขินหรือ เจ้าเข้ามาถึงตรงนี้เพื่อแอบดูข้าอาบน้ำเชียวนะ”
ใบหน้าของเด็กหญิงปรากฏความเขินอายเล็กน้อยอย่างหาได้ยาก แต่แรงที่ใช้อุ้มเสื้อผ้านั้นอยู่กลับไม่ลดลงเลย ทันใดนั้นนางก็ถอยหลังไปสองก้าว จ้องมองหนานหนานเอาเป็นเอาตาย กล่าว “เจ้า เจ้าปล่อยข้าไปนะ ไม่เช่นนั้นข้าจะเอาเสื้อผ้าเจ้าไปทิ้ง ให้เจ้าออกไปแบบล่อนจ้อนเลย”
นางเองก็ไม่มีวิธีแล้ว เปิดประตูไม่ออก นอกหน้าต่างก็มีคนเดินไปเดินมา ถ้าหากนางโดดลงไปอย่างสิ้นหวังจริงๆ ล่ะก็ จะต้องได้รับบาดเจ็บ และจะต้องดึงดูดความสนใจของผู้คนมาแน่ ตอนนี้… สิ่งที่นางไม่ต้องการที่สุดก็คือให้คนมาสนใจ ไม่อย่างนั้นกลุ่มคนที่ไล่ฆ่านางจะต้องรู้ที่อยู่ของนางในทันที
เมื่อครู่นางก็ดูแล้ว ผู้ใหญ่คนนั้นไม่อยู่ ในห้องมีเพียงหนานหนานคนเดียว
นางต่อกรกับเด็กคนหนึ่ง… น่าจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อันใด
หนานหนานโมโหขึ้นมา ใต้น้ำนั้นไม่ได้สวมใส่อะไรเลย ตรงหน้าก็ยังเป็นสตรีคนหนึ่ง เขาก็ต้องอายอยู่แล้ว
“เจ้า เจ้าเอาเสื้อผ้ามาคืนข้าเลยนะ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะต้องโชคร้าย เจ้าโชคร้ายแน่”
“เจ้าก็ปล่อยข้าไปสิ ถ้าไม่ให้ข้าไป ไม่เช่นนั้นข้าจะให้ทุกคนมาดูเจ้าล่อนจ้อนเสีย”
“เจ้า เจ้า… เจ้ามันหน้าไม่อาย”
เด็กหญิงเม้มปาก ตอนนี้นางต้องการชีวิตของตน แม่ลูกคู่นี้แปลกเกินไปแล้ว พวกเขากลับรู้ว่าตนเป็นชาวเหมิง อีกทั้งจุดหมายของพวกเขายังเป็นดินแดนเหมิงอีก
ดูท่าแล้ว พวกเขาจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับดินแดนเหมิงเป็นแน่ นางจะปล่อยให้พวกเขาพาตนไปด้วยไม่ได้ ไม่อย่างนั้น… ไม่อย่างนั้นนางอาจจะรักษาชีวิตตนไว้ไม่ได้จริงๆ ลุงหยางกับแม่ฉินเสียชีวิตเพื่อปกป้องนาง นางจึงจะต้องยิ่งระมัดระวังตัวกว่านี้ รักษาตัวเองไว้ให้ดี
นางคิดถึงตรงนี้ มือที่ถือเสื้อผ้าอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะกระชับแน่น ตัวคนเองก็ถอยหลังไปสองสามก้าว ออกไปจากฉากกั้น
หนานหนานกุมหัวตนเอง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็คว้าเอาผ้าถูตัวผืนเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้าง ค่อยๆ ออกมาจากอ่างอาบน้ำอย่างระมัดระวัง ใช้ผ้าผืนเล็กปกปิดจุดสำคัญของตนเองไว้ ก้าวเท้าเล็กๆ ออกมาจากฉากกั้น
“เจ้ารีบเอาเสื้อผ้าคืนข้ามาเลย สภาพข้าเช่นนี้… เช่นนี้ก็ออกไปไหนไม่ได้สิ” ไอ้หยา รู้สึกเย็นที่ก้นไปหมด ถุงสัมภาระใบใหญ่ของเขาก็อยู่ในตู้เสื้อผ้า ตู้เสื้อผ้าก็ถูกเด็กหญิงผู้นั้นขวางไว้แล้ว
เตียงก็อยู่ด้านหลังของตู้เสื้อผ้า เขาอยากจะไปหยิบผ้าห่มมาปิดก็ไม่ได้ น่าเศร้านัก ปัญหาก็คือ เขาไม่สามารถลงมือแย่งมันมาได้ ไม่เช่นนั้นหากผ้าผืนเล็กหล่นลง เจ้าตัวเล็กของตนจะต้องถูกนางเห็นเข้าเป็นแน่
“นี่ ข้าจะบอกให้… อ่า เจ้า เจ้าจะทำอะไรน่ะ เจ้าล่วงเกินข้า”
!!
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
แน่ใจนะหนานหนานว่าตัวเองห้าขวบ ท่าทางอย่างกับผู้ใหญ่ที่โตแล้วเลย
ไหหม่า(海馬)