อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 610 รักษาหลักการไว้ไม่ได้
ตอนที่ 610 รักษาหลักการไว้ไม่ได้
ตอนที่ 610 รักษาหลักการไว้ไม่ได้
เดิมทีหนานหนานอยากจะโน้มน้าวนางเสียก่อนสักหน่อย ใครจะรู้ว่าเพียงเอ่ยปาก เด็กคนนั้นก็พุ่งเข้าใส่เขาอย่างบ้าคลั่ง กดเขาลงไปกับพื้น ถึงขนาด… ถึงขนาดดึงสิ่งที่เขานำมาปกปิดจุดสำคัญนั้นออกไป
หนานหนานตื่นกลัว มือเท้าปกปิดตัวเองอย่างอลวนไปหมด ทำท่าทางราวกับพยายามปกป้องความบริสุทธิ์ของตน
“ข้า ข้าบอกไว้ก่อนนะ ข้ายังอายุน้อยนัก ไม่ได้หรอก” หนานหนานแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว คนผู้นี้ อายุน้อยเพียงเท่านี้ เหตุใดจึงไม่รักตัวเองได้ถึงเพียงนี้นะ เขารู้ว่าอะไรคือการกระดากอาย อะไรคือการเขินอาย อะไรคือการที่ห้ามชายหญิงอยู่ใกล้กัน
เด็กหญิงผลักมือของเขาออก สายตามองไปยังจุดจุดหนึ่ง ไม่ขยับออกไปแม้แต่น้อย
หนานหนานร้อง ‘อ๋า’ ทำอะไรไม่ได้มากนัก ทำเพียงผลักนางออก รีบผุดลุกขึ้นจากพื้นอุตลุด
โชคดีที่เมื่อเด็กหญิงพุ่งตัวเข้ามา ในมือของนางยังถือเสื้อผ้าของเขาอยู่ ตอนนี้เสื้อผ้าหล่นลงเกลื่อนพื้น เขารีบหยิบขึ้นมาคาดเอวอย่างรวดเร็ว
เมื่อรู้สึกว่าปลอดภัยแล้ว หนานหนานก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก รู้สึกว่าตนเองต้องสั่งสอนนางให้ดีเสียแล้ว
“ข้าจะบอกให้นะ เป็นสตรีจะต้องรู้จักสำรวม ต้องรู้ว่าไม่ควรสัมผัสตัวชายหนุ่มได้ตามอำเภอใจ ถึงแม้ข้าจะเป็นชายหนุ่มรูปงาม แต่ข้าก็มีหลักธรรมของตน ใช่ว่าจะให้คนมาจับกดลงกับพื้นได้ตามใจนะ”
“อีกอย่างนะ ถ้าการกระทำเช่นนี้ของเจ้าถูกเอาไปพูดต่อ จะมีผลกับชื่อเสียงของเจ้านะ ถึงตอนนั้นคนที่เสียเปรียบจะเป็นเจ้า เจ้ารู้ไหม เห็นแก่ที่เราเป็นพวกเดียวกัน เรื่องในวันนี้ ข้าจะเก็บเป็นความลับให้เจ้า เพื่อชื่อเสียงของตัวเจ้าเองแล้ว เจ้าก็ต้องเก็บไว้ให้เงียบเชียบล่ะรู้ไหม ข้าน่ะเป็นห่วงเจ้าเสียจริงๆ นะ ข้า…”
“ทำไมบนตัวเจ้าถึงมีรอยปานรูปดอกไม้ได้” จู่ๆ เด็กหญิงก็เอ่ยปาก ขัดการพูดพล่ามของเขา สายตามองไปยังจุดหนึ่งตรงเอวของเขาอย่างจริงจัง
หนานหนานประหลาดใจ สายตามองไปยังเอวของตัวเอง ทันใดนั้นก็นึกออก ผ่านไปนานมุมปากก็กระตุก ใบหน้าขึ้นสีแดงเล็กน้อยอย่างน่าสงสัย
นี่เขาเข้าใจอะไรผิดไปใช่ไหม ที่แท้ที่นางสนใจก็คือ… ปานของเขาหรือ
ถอนหายใจเบาๆ หนานหนานเดินไปยังข้างเตียงแล้วนั่งลงอย่างนิ่งเฉย ลูบแก้มของตนอย่างนิ่งเฉยเป็นอย่างมาก ยืดหลังตรงอย่างนิ่งเฉยเป็นที่สุด กล่าวด้วยเสียงนุ่มนวล “ก็ครั้งก่อนข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ ข้าเป็นคนชาติเดียวกับเจ้า ข้าไม่ทำร้ายเจ้า เจ้ายังไม่เชื่ออีก”
เด็กหญิงเบิกตากว้าง ผ่านไปนานก็ส่ายหน้าแล้วกล่าว “เป็นไปได้อย่างไร จะเป็นไปได้อย่างไร เจ้ายังเด็กเพียงนี้ ที่ดินแดนเหมิง นอกจากผู้ชายที่มีปานรูปดอกไม้เมื่อ 20 ปีก่อนเกิดขึ้นมาแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ไม่ปรากฏใครอื่นอีก เจ้า เจ้าเพิ่งห้าขวบ เหตุใดเจ้าถึง… เหตุใดข้าถึงไม่เคยได้ยินมาก่อน”
กล่าวถึงตรงนี้ หนานหนานก็มีอะไรจะกล่าวแล้ว
“ไอ้หยา เจ้านี่พูดแทนใจข้าจริงๆ ครั้งก่อนท่านปู่ลู่ก็บอกข้าไว้ ในดินแดนเหมิงนั้น นอกจากข้าแล้ว ก็มีเพียงชายหนุ่มอายุ 20 กว่าเท่านั้นที่มีปาน นี่ไม่ใช่ว่าหลอกข้าหรือ โชคดีที่เขาเป็นหัวหน้าเผ่าที่ดินแดนเหมิง ที่แท้ก็โกหกข้านี่เอง ใช่ ต้องโกหกข้าแน่ๆ เขาใช้ประโยชน์จากความเห็นใจของข้า เขาต้องการใช้โอกาสนี้จับข้าไปที่ดินแดนเหมิง จึงหลอกข้าอย่างไรเล่า”
เด็กหญิงประหลาดใจ เดินก้าวมาข้างหน้าทันที บีบข้อมือของเขาไว้แน่น “เจ้า เมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ”
“อะไรหรือ” หนานหนานสีหน้างุนงง รู้สึกแต่เพียงว่าข้อมือเจ็บมาก คนผู้นี้ไม่มีวรยุทธ์ไม่ใช่หรือ เหตุใดแรงมือจึงหนักเพียงนี้
“เจ้า ท่านปู่ลู่ที่เจ้ากล่าวถึงเมื่อครู่ เจ้าบอกว่าเป็นหัวหน้าเผ่าดินแดนเหมิง… เจ้า เจ้ารู้จักหัวหน้าเผ่าเหมิงหรือ”
หนานหนานกะพริบตา เมื่อพูดถึงท่านปู่ลู่ นางกลับตื่นเต้นเพียงนี้ คงไม่ใช่เพราะมีความแค้นกระมัง เช่นนั้นเขาจะต้องสะสางความสัมพันธ์เสียหน่อยดีหรือไม่
แต่ก็คิดว่าน่าจะไม่ดีนัก หนานหนานจึงถอนหายใจ กล่าวเบาๆ “จะบอกว่ารู้จักก็ ก็… นิดหน่อย”
ทันใดนั้นนิ้วของเด็กหญิงก็กำแน่นขึ้น เล็บยาวที่ไม่ได้ตัดมานานจิกเข้าที่ข้อมือของหนานหนาน
หนานหนานสูดหายใจเข้าลึกๆ “โอ๊ย โอ๊ยเจ้าปล่อยก่อนๆ เจ็บไปหมดแล้ว”
เด็กหญิงรีบปล่อยมือ ความตื่นเต้นและความสุขปรากฏบนใบหน้าของนางเล็กน้อย
หนานหนานเห็นได้อย่างชัดเจน ในใจก็โล่งอก ดูท่าจะไม่ได้มีความแค้นอันใดกับท่านปู่ลู่
“เจ้า เจ้าพาไปหาผู้นำเผ่าเหมิงได้หรือไม่” นางกลับไม่เชื่อว่าจะรู้จักเพียงเล็กน้อย ไม่กี่ปีมานี้หัวหน้าเผ่าเหมิงให้ความสนใจกับเด็กที่มีปาน คนอย่างหนานหนานมีหัวหน้าชาวเหมิงรู้จักเขา ความสัมพันธ์จะต้องดีไม่น้อยแน่
หนานหนานแปลกใจ ยังไม่ทันจะได้กล่าวอะไร ประตูห้องก็มีเสียงกรอบแกรบดังแว่วมา เขาอึ้งไปครู่หนึ่ง ก็เห็นแม่ของตนถือถุงกระดาษสองใบเดินเข้ามา
เมื่อเห็นทั้งสองคนนั่งอยู่บนเตียง อวี้ชิงลั่วก็ตกตะลึงไป ทั้งยังเห็นหนานหนานที่… ท่าทางดูเปลือยเปล่า นางยิ่งละอายใจมากขึ้น ครอบครัวไม่สอนอย่างเข้มงวด ไม่เข้มงวดเลยจริงๆ
กระแอมเบาๆ อวี้ชิงลั่วเดินไปยังตู้เสื้อผ้าอย่างเงียบๆ หยิบเสื้อผ้าออกมาชุดหนึ่ง เดินตรงไปสวมไว้บนหัวของหนานหนาน “ใส่ไว้ นี่ดูเป็นเช่นไรกัน”
หนานหนานรู้สึกไม่เป็นธรรม นี่ไม่ใช่ความผิดของเขาเลย เขาก็อยากอาบน้ำสะอาดๆ ตัวหอมๆ ออกไปเจอทุกคนเข้าใจไหม นี่มันเป็นอุบัติเหตุ อุบัติเหตุ
เหมือนกับว่าเด็กหญิงจะเพิ่งนึกผลงานชิ้นเองของตนออก จึงหันหน้าหนีอย่างเขินอาย รอจนกระทั่งเขาใส่เสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยค่อยก้มหน้า สองมือบิดนิ้วไปมา ตอบสนองกับสิ่งที่ตนพูดไปเมื่อครู่
ในใจของนางเป็นกังวลอย่างมาก ก่อนหน้านี้ดิ้นรนขัดขืนสองแม่ลูกคู่นี้เช่นนั้น ตอนนี้กลับอยากให้พวกเขาพาตนไปหาหัวหน้าเผ่าเหมิง ราวกับว่า… ไม่รู้บุญคุณเลย
แต่ถ้าหากนางตามหาคนราวงมเข็มในมหาสมุทรด้วยตัวคนเดียว จะตามหาได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ ตอนนี้นางเสียเวลากับการเดินทางมากว่าเดือนแล้ว
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้ว สายตามองไปยังตัวนางราวกับว่ากำลังพิจารณา เอาแต่คิดว่าที่นางออกไปรอบนี้ เด็กคนนี้เหมือนจะมีอะไรเปลี่ยนไป
หนานหนานกล่าวอะไรกับนางกันนะ ทำให้นางยอมนั่งอยู่เงียบๆ ตรงนั้นได้แบบนี้
นางนำของในมือวางไว้บนโต๊ะ มองหนานหนานแล้วกล่าว “มากินอะไรเสียหน่อย ขนมที่เจ้าอยากกินอยู่นี่หมดแล้ว”
หนานหนานร้องออกมาอย่างดีใจ รีบไปคุ้ยดูของบนโต๊ะทันที กินไปครู่ใหญ่ก็เหมือนกับจะนึกได้ถึงบางอย่าง จากนั้นก็วิ่งขลุกๆ ไปยื่นมันให้ตรงหน้าเด็กหญิง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถึงแม้เมื่อครู่เจ้าจะทำเช่นนั้น แต่วันนี้เจ้าก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย กินเสียหน่อยเถิด อร่อยมากเลยนะ”
นางรับมาอย่างระมัดระวัง หลังจากเคี้ยวไปสองสามคำก็เงยหน้าขึ้นอย่างเงียบๆ มองไปยังอวี้ชิงลั่วอย่างกระวนกระวายใจ
จากนั้นไม่นานก็สูดหายใจลึกๆ แล้วกล่าวเสียงเบา “ไม่ทราบว่า… ไม่ทราบว่าจะช่วยพาข้าไปพบหัวหน้าเผ่าเหมิงได้หรือไม่ ข้ารู้ว่าคำขอนี้มันเกินไปหน่อย ไม่อย่างนั้น ไม่อย่างนั้นบอกข้าที ว่าหัวหน้าเผ่าเหมิงอยู่ที่ใด”
อวี้ชิงลั่วหรี่ตา มุมปากยกขึ้นแล้วยิ้ม มองเด็กที่กระวนกระวายอยู่ตรงหน้า นางกล่าวช้าๆ “ก่อนจะทำเช่นนั้น บอกข้ามาก่อนได้ไหมว่าเจ้าคือใคร”
!!
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
หรือเด็กคนนี้ก็อยากไปเจอหัวหน้าเผ่าเหมิงเหมือนกัน?
ไหหม่า(海馬)