อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 613 ข้าจะฆ่าพวกมันเสียเลย
ตอนที่ 613 ข้าจะฆ่าพวกมันเสียเลย
ตอนที่ 613 ข้าจะฆ่าพวกมันเสียเลย
คนในรถม้าชะงัก อวี้ชิงลั่วเองก็ลืมตามขึ้นเช่นกัน ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย
หนานหนานเอียงคอ ลอบมองออกไปด้านนอก ทันใดนั้นก็รีบหดคอกลับมาทันที กล่าวพลางหัวเราะคิกคัก “ท่านแม่ ข้านับคร่าวๆ แล้วขอรับ มีประมาณหกเจ็ดคน”
“อืม” อวี้ชิงลั่วพยักหน้า เปิดม่านรถม้า มองไปยังกลุ่มคนที่ยืนอึมครึมกันอยู่ด้านนอก เอ่ยปากถาม “พวกท่านมีธุระอันใดหรือ จะปล้นหรือจะข่มขืนกัน ข้าไม่มีให้ทั้งสองอย่างนั่นล่ะ”
หนานหนานที่อยู่ด้านในปิดปากหัวเราะ ใครบอกว่าไม่มีให้ข่มขืนกันเล่า เขาออกจะรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ทำเอาหลายๆ คนต้องการถึงเพียงนี้
กลุ่มคนเหล่านั้นมุ่นคิ้ว คนหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะเป็นหัวหน้าจู่ๆ ก็ก้าวขึ้นมาด้านหน้า หรี่ตาแล้วเอาดาบในมือชี้มาที่นาง “แม่นาง เจ้าส่งตัวเด็กในรถม้านั่นมาอย่างว่าง่ายเถิด ไม่เช่นนั้นวันนี้ เกรงว่าเจ้าจะเจอดีเสียแล้ว”
เหมิงหลัวอวี้ที่อยู่ในรถหัวใจหล่นวูบในทันที ที่แท้ก็มาตามหานาง พวกเขารู้ได้อย่างรวดเร็วว่าตนอยู่ที่ไหน เช่นนั้นทำอย่างไรดี ตอนนี้ข้างตัวนางมีเพียงท่านน้าชิงกับหนานหนาน คนหนึ่งเป็นสตรี อีกคนก็เป็นเพียงเด็ก นางจะทำให้พวกเขามาลำบากไปด้วย
ขณะกำลังคิด ที่หลังมือก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น หันหน้าไปก็พบว่าหนานหนานกำลังหัวเราะฮิๆ ให้ตนอยู่
เหมิงหลัวอวี้ถอนหายใจ เหตุใดหนานหนานจึงไม่เป็นกังวลเลยสักนิดกัน สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นเด็กห้าขวบที่ไม่รู้จักความยากลำบากของโลกใบนี้ คงจะไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันร้ายแรงเพียงใด ไม่ระมัดระวังเช่นนี้ เดี๋ยวก็เอาชีวิตไม่รอด
คิดๆ อยู่นั้น ด้านนอกก็มีเสียงใสๆ ของอวี้ชิงลั่วดังเข้ามา “หนานหนาน เขามาหาเจ้าน่ะ”
“มาหาข้าหรือ?” หนานหนานยกผ้าม่านขึ้นในทันที เงยหน้ามองไปยังกลุ่มคนอย่างสงสัย ยืนตรงแอกหน้ารถม้าแล้วเท้าเอวถาม “พวกท่านมาหาข้ามีธุระอันใดหรือ ข้าไม่รู้จักพวกท่าน อยากให้ข้าลงลายมือชื่อก็ไม่ได้หรอกนะ ข้ายุ่งอยู่”
กลุ่มคนพวกนั้นตกใจ ส่วนสีหน้าของหัวหน้าจู่ๆ ก็ดูโมโหขึ้นมาก มองอวี้ชิงลั่วเอาเป็นเอาตาย คำรามแล้วกล่าว “พูดดีๆ แล้วไม่ฟัง จะให้ใช้กำลังใช่หรือไม่?”
อวี้ชิงลั่วทำหน้าไร้เดียงสาอย่างยิ่ง “พวกท่านนี่ก็ช่างไร้เหตุผลจริง พวกท่านบอกว่าให้ข้าเรียกเด็กในรถม้าออกมา ข้าก็ฟังแล้ว ทั้งยังเรียกคนออกมาอย่างเชื่อฟัง พวกท่านยังไม่พอใจอีกหรือ”
“อย่ามาแสร้งโง่กับข้านะ เด็กที่ข้าต้องการเป็นเด็กหญิง”
อวี้ชิงลั่วหันไปมองหนานหนานและถามเขา “เจ้าจงรู้สึกไม่เป็นธรรมเสียหน่อย แสร้งทำเป็นหญิงสักครู่หนึ่งได้หรือไม่?”
หนานหนานแสดงท่าทางขุ่นเคือง “ท่านแม่ เรื่องผิดแปลกเช่นนี้ ท่านยอมให้ลูกชายของท่านทำได้อย่างไร ต้องเสียสละตั้งมากเชียวนะ”
เหมิงหลัวอวี้ที่อยู่ในรถม้าตกใจ หนานหนานก็ช่างกวนอารมณ์พวกเขาอย่างไม่สนอันใดเลย แล้วเหตุใดท่านน้าชิงจึงเป็นเช่นนั้น นางกล่าวเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าจะทำให้คนพวกนี้ยิ่งโมโหมากขึ้นหรือ
นางกังวลใจเล็กน้อย นิ้วกำชายเสื้อของตนไว้ ในใจรู้สึกหลากอารมณ์ตีกันไปหมด นางไม่อยากทิ้งชีวิตไปเปล่าๆ แต่ท่านน้าชิงและหนานหนานปกป้องนางแบบนี้ นางก็ไม่อยากให้พวกเขาเข้ามายุ่งเกี่ยวและต้องทิ้งชีวิตนี้ไปด้วยกัน
เห็นได้ชัดว่ากลุ่มคนด้านนอกถูกอวี้ชิงลั่วยั่วโมโหเช่นนั้น สีหน้าก็ยิ่งไม่สู้ดี
หัวหน้ากำดาบในมือไว้แน่น คนด้านหลังของเขาเห็นเช่นนี้ก็ก้าวออกมาข้างหน้า “หัวหน้า ไม่ต้องไปพูดไร้สาระกับนางแล้วขอรับ ดูรถม้าเก่าๆ ของคนพวกนี้สิ เด็กกำพร้ากับแม่ไม่มีคนคุ้มกัน เกรงว่าคงจะไม่ใช่คนจากตระกูลใหญ่โตอันใด ต่อให้ตายอยู่ที่นี่ ก็คงจะไม่มีใครมาเก็บศพพวกมันหรอกขอรับ แล้วก็คงไม่มีใครมาสืบหาสาเหตุการตายของพวกมันด้วย”
หัวหน้าชะงักไป สายตาของเขากวาดมองรถม้าธรรมดาๆ ที่ดูเก่าคร่ำคร่าครู่หนึ่ง
ผ่านไปนานก็พยักหน้า ยิ้มเย็นให้กับอวี้ชิงลั่ว “ในเมื่อแม่นางไม่เห็นความหวังดีของเรา เช่นนั้นเราก็ทำได้เพียงต้องลงมือแล้ว ถ้าจะโทษก็โทษที่พวกเจ้าชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเถิด ออกมาจากบ้านก็คงไม่รู้ว่าอะไรคือการเอาตัวรอดสินะ ตอนไปพบพญายมก็บอกเขาให้ชัดเล่าว่าใครทำพวกเจ้าเดือดร้อน”
กล่าวจบก็พูดกับคนที่อยู่ด้านหลัง “ฆ่าพวกมันให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว”
เดิมทีพวกเขาเพียงต้องการชีวิตของเด็กหญิงผู้นั้นคนเดียว อย่างไรพวกเขาก็ไม่รู้ว่าแม่ลูกคู่นี้เป็นใครกันแน่ หากฆ่าอีกสองคน ก็ไม่รู้ว่าจะมีปัญหาอันใดหรือเปล่า แต่เมื่อเห็นท่าทางของพวกเขาแล้ว ดูท่าก็คงจะไม่ได้มีค่าอันใดกับครอบครัวนัก ตายก็ตายเสีย ทำเหมือนกับว่าถูกพวกโจรฆ่าก็ใช้ได้
ส่วนคนขับรถผู้นั้นก็ตกใจเสียจนหน้าซีด คนทั้งคนนั่งตัวแข็งทื่ออยู่ตรงรถม้า มือกำบังเหียนไว้แน่นไม่กล้าวาง
เขาช่างโชคร้ายเสียจริงๆ เดิมทียังคิดว่าเดินทางครั้งนี้จะหาเงินได้มากหน่อย คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้ หากรู้แต่แรกเขาคงจะอยู่ที่เมืองหลวงทำงานสุจริตรู้ที่ของตนไปแล้ว ได้เงินน้อยหน่อย ก็ยังดีกว่ารักษาชีวิตไว้ไม่ได้
ตามองกลุ่มผู้ชายท่าทางดุร้ายพุ่งตัวเข้ามา หนานหนานและอวี้ชิงลั่วสบตากัน รอยยิ้มที่มุมปากไม่ได้หายไปเลยแม้แต่น้อย
แต่ในตอนนั้นเอง ผ้าม่านในรถม้าก็เปิดขึ้นอีกครั้ง เผยให้เห็นใบหน้าเล็กซีดขาวของเหมิงหลัวอวี้
มือเล็กๆ ของนางยังกำผ้าม่านไว้แน่น ปลายนิ้วก็ขาวซีด แต่แววตายังมุ่งมั่น มองชายพวกนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย
“พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวข้าจะออกไปเอง”
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว เอื้อมมือผลักนางกลับเข้าไป
แต่เหมิงหลัวอวี้กลับกระโดดลงมาจากรถม้า นางตัวเล็ก กระโดดเช่นนั้นข้อเท้าจึงแพลง นางเจ็บเสียจนหน้าตาบูดเบี้ยว
อวี้ชิงลั่วลูบหน้าผากตนเอง กระโดดลงจากรถม้าอีกคน เอื้อมมือออกไปพยุงนางขึ้นมา “นี่เจ้าจะทำอะไร”
“ข้า ข้าคิดมาแล้ว แทนที่จะฆ่าทั้งสามคน ให้ข้า ให้ข้าออกมาคนเดียวดีกว่า”
นางเองก็ครุ่นคิดมานานแล้ว สุดท้ายก็ยังคิดว่าเป็นการเอาคนบริสุทธิ์มาเกี่ยวข้อง ต่อให้นางจะมีชีวิตรอดไปได้ ก็คงจะกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่ดี
นางยิ้มให้อวี้ชิงลั่ว “ท่านน้าชิง ท่านวางใจเถิด ข้ารักษาชีวิตของตนไว้ได้แน่” เพียงแต่ว่าคงจะยากมาก
เหมิงหลัวอวี้สูดหายใจลึก ค่อยๆ เชิดคางขึ้น มองไปยังชายที่เป็นหัวหน้าคนนั้น กล่าวเสียงชัดเจน “ข้ารู้ว่าพวกเจ้าอยากได้ชีวิตข้า แต่พวกเจ้าเคยคิดหรือไม่ โลกใบนี้ไม่มีความลับ ตอนนี้พวกเจ้าฆ่าข้า ถ้าหากวันหนึ่งเรื่องแดงขึ้นมา คนแรกที่จะต้องลำบากก็คือพวกเจ้า เช่นนั้นเจ้าพาข้ากลับไป แล้วส่งตัวให้ฮูหยินใหญ่จัดการ เป็นอย่างไรเล่า”
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้ว เด็กคนนี้อายุยังน้อยนัก คิดไม่ถึงว่าจะสงบได้เพียงนี้ กล่าวอันใดออกมาก็เป็นการโน้มน้าวบุรุษเหล่านั้น ให้พวกเขานำนางกลับไปส่งให้ฮูหยินใหญ่ พวกเขาจะได้ไม่ต้องมีโทษข้อหาที่ฆ่าเด็กที่มีปาน ต่อไปเมื่อเหมิงลู่สืบสาวราวเรื่องมาถึง พวกเขาก็จะได้ไม่ต้องถูกกล่าวโทษอันใด
เพียงแต่ว่า ต่อให้เด็กคนนี้ถูกนำตัวไปส่งให้ฮูหยินใหญ่ เกรงว่าคงจะมีแต่ตายเท่านั้น หรือว่านางจะถือโอกาสช่วงที่เดินทางกลับดินแดนเหมิงนี้ ค่อยหาวิธีหนีออกมา?
อวี้ชิงลั่วยิ้มออกมา เด็กคนนี้… ฉลาดมากจริงๆ
หัวหน้าผู้นั้นตกใจ ค่อยๆ หรี่ตา คิดๆ ไปแล้วก็ดูมีเหตุผล กำลังคิดจะพยักหน้า จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงโกรธเกรี้ยวลอยเข้าหูมา “จะคุยกับพวกมันมากมายไปทำไม ข้าจะฆ่าพวกมันเสียเลย”
!!
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
น้องตัวเท่านี้แต่กล้าหาญมากเลย นับถือใจน้องจริงๆ
เริ่มแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัวแล้วใช่ไหมนะ? จะฆ่ากันเองหรือเปล่านะ?
ไหหม่า(海馬)