อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 618 ขอพวกท่านอย่าพักที่นี่เลย
บทที่ 618 ขอพวกท่านอย่าพักที่นี่เลย
บทที่ 618 ขอพวกท่านอย่าพักที่นี่เลย
อวี้ชิงลั่วหรี่ตา “เจ้าว่าใครไร้ยางอายกัน?”
“…ท่านแม่ สองสามวันมานี้ข้านั่งรถม้านั่นเสียจนปวดไปทั้งตัวแล้วขอรับ” หนานหนานคอตก เอาเถอะ เขาเองก็มีจิตใจ แต่ไม่กล้าเถียงท่านแม่ ท่านแม่เป็นคนไม่ดี
หนานหนานยอมแพ้ หันกลับมาแล้วเดินไปข้างตัวอวี้ชิงลั่ว ปีนขึ้นเตียงแล้วกอดนางอีกครั้ง “ท่านแม่ ข้ายังเป็นเด็กนะ ระหว่างที่ข้ากำลังเติบโต การจะออกเดินทางไม่ใช่เรื่องง่าย รถม้าคันนั้นสั่นสะเทือนเสียจนข้าปวดหัวนัก อีกอย่างตอนนี้เรามีน้องอวี้อยู่ด้วย น้องอวี้ยังบาดเจ็บอยู่ ก็ควรนั่งแบบสบายๆ หน่อย”
อวี้ชิงลั่วยักไหล่ “ข้าไม่มีเงินจริงๆ”
เหมิงหลัวอวี้ทางด้านนั้นยืนฟังอยู่พักหนึ่ง ในใจรู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย ครุ่นคิดแล้วก็วางเสบียงกรังในมือที่จัดเก็บไปได้ครึ่งหนึ่งพลางเม้มปากเดินเข้ามา ลังเลอยากจะกล่าวอะไรบางอย่าง
หนานหนานที่กำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมกับท่านแม่ด้วยการปั้นสีหน้าเศร้าโศกพลันชะงักไป เงยหน้ามองนาง
เหมิงหลัวอวี้กระแอมเบาๆ ก้มลงหยิบกระเป๋าใบเล็กๆ สภาพเก่าๆ ออกมาจากเอว เทเงินที่อยู่ข้างในออกมาจนหมด กล่าวเบาๆ “แม่ฉิน… แม่ฉินทิ้งเงินไว้ให้ข้าติดตัว ถึงแม้จะไม่มาก แต่ก็น่าจะพอชดเชยได้บ้าง ท่านน้าชิง ท่านดูสิ หากไม่พอให้เปลี่ยนเป็นรถม้าใหญ่ได้ เช่นนั้น เช่นนั้นก็เปลี่ยนเป็นแบบดีขึ้นมาหน่อยดีหรือไม่เจ้าคะ?”
อวี้ชิงลั่วเงยหน้า เหลือบมองเงินสองสามตำลึงที่อยู่บนฝ่ามือของนาง ช่างน้อยมากจริงๆ รวมกันแล้วน่าจะไม่ถึงห้าตำลึง
ดูท่าแล้ว ชีวิตของเหมิงหลัวอวี้คงจะไม่ค่อยดีนัก หากว่านางมีเงินเพียงเท่านี้ติดตัวมาระหว่างเดินทางไปตามหาเหมิงลู่ที่เมืองหลวง สุดท้ายแล้วนางจะต้องลำบากเป็นแน่
เหมิงหลัวอวี้ดูจะเขินอายเล็กน้อย ยื่นฝ่ามือออกมาข้างหน้า “ถึงแม้จะไม่มาก แต่ก็น่าจะ… น่าจะช่วยในการเดินทางได้หน่อยเจ้าค่ะ” สองสามวันมานี้ จะกินหรือจะนอนนางก็พึ่งแต่ท่านน้าชิง ถึงขนาดจะให้นางพาตนไปส่งที่ดินแดนเหมิง ถ้าหากนางไม่ออกแรงบ้าง อย่างไรเสียก็ไม่ควรจริงๆ
เงินนี่เป็นสิ่งเดียวที่นางมี นางเองก็คิดถึงอย่างอื่นไม่ออกจริงๆ
อวี้ชิงลั่วเงียบไป เหลือบตาขึ้นไปมองหนานหนาน เลิกคิ้วให้เขา
หนานหนานประหลาดใจ มองดูเงินที่อยู่ในสภาพดูไม่ได้ ในมือของเขาก็เหงื่อออก มือจับศีรษะของตน
ผ่านไปครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็กล่าวกับอวี้ชิงลั่วอย่างหดหู่ “เดี๋ยวข้าออกเงินเอง เท่านี้ก็ได้แล้วใช่หรือไม่”
ขณะกล่าว ก็หันหน้าไปค้นหาในถุงสัมภาระน้อยๆ ของตน ค้นหาอยู่นาน จากนั้นก็นำตั๋วเงินออกมาวางไว้บนโต๊ะ “นี่ เงิน 50 ตำลึง ท่านแม่ ข้าจะบอกให้ ข้ามีเพียงเท่านี้แล้ว เป็นเงินที่เสี่ยวเฉิงเฉิงให้ข้าไว้คราวก่อนเพราะข้าดูน่าสงสาร ท่านแม่ ข้าไม่มีอะไรจะซ่อนแล้ว ข้าคิดว่าที่เสี่ยวเฉิงเฉิงให้ไว้เป็นความหวังดีของเขา จะต้องเก็บเอาไว้ให้ดี ตอนนี้เป็นช่วงเวลายากลำบาก พวกเราก็ไม่ต้องสนใจเรื่องนั้นนัก”
หนานหนานรู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องอธิบายให้ชัดเจน เขาจะให้ท่านแม่เข้าใจผิดว่าเขามีเงินส่วนตัวอื่นๆ ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นหลังจากนี้เขาจะลำบากเอาได้
เหมิงหลัวอวี้กะพริบตา มองตั๋วเงินบนโต๊ะ จากนั้นก็มองเศษเงินในมือของตน แก้มของนางสั่นเล็กน้อย เก็บมือกลับมาอย่างเงียบๆ
50 ตำลึง…นางโตเพียงนี้แล้วยังไม่เคยเห็นเงินจำนวนมากมายขนาดนี้มาก่อน
อวี้ชิงลั่วเอียงตัวแล้วหัวเราะ มองสีหน้าจริงจังของหนานหนาน ถามเขาอย่างอ่อนโยนเป็นอย่างมาก “มีเพียง 50 ตำลึงจริงหรือ?”
“ขอรับ” หนานหนานพยักหน้าอย่างมั่นใจ
“เช่นนี้เอง เช่นนั้นเงินหมื่นตำลึงก็ไม่ใช่ของเจ้าน่ะสิ ข้าคงต้องยึดไว้เอง”
ดวงตาของหนานหนานเบิกกว้างในทันที รีบปกป้องกระเป๋าใบเล็กของตน วิ่งกลับไปทางประตูห้อง ชี้ไปยังอวี้ชิงลั่วด้วยมือที่สั่นเทา “ท่าน ท่านแม่ ท่านเห็นแล้วใช่หรือไม่ วันนั้นข้าบอกเสี่ยวเฉิงเฉิงไว้ ท่านอ่านสมุดเล่มเล็กของข้าแล้วใช่หรือไม่?”
อวี้ชิงลั่วหัวเราะคิกคัก
หนานหนานเศร้าใจเป็นอย่างมาก วันนั้นเขาเอาแต่ดีใจที่ท่านแม่มัวแต่ตกตะลึง คิดไม่ถึงว่านางจะเป็นเช่นนี้ รู้ถึงจำนวนเงินแล้วเสียด้วย ไม่ใช่คนแล้ว ไม่ใช่คนแล้วจริงๆ
“หนานหนาน เงินส่วนตัวของเจ้ามีมากเหลือเกินนะ”
“มากไม่เท่าท่านหรอก” เงินจำนวนนั้นเป็นของเขาก็จริง แต่เมื่อเทียบกับของท่านแม่แล้วก็เป็นเพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น
อวี้ชิงลั่วลูบคางของตน “เดี๋ยวแม่ช่วยเจ้าดูแลดีกว่า เจ้าเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง พกเงินจำนวนมากขนาดนั้นจะไม่ปลอดภัย”
“ปลอดภัยมากขอรับ วรยุทธ์ของข้าสูงนัก เมื่อกลางวันท่านก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือ ไม่มีใครแย่งไปจากข้าได้หรอก ข้าจะรักษาไว้อย่างดี
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้ว แสดงออกว่า ‘ข้าน่ะหรือจะไม่รู้ว่าพลังวรยุทธ์ของเจ้าสูงส่งเพียงใด’
ทันใดนั้นหนานหนานก็น้ำตาไหล เห็นเหมิงหลัวอวี้ที่อยู่ข้างๆ ก็รีบกอดถุงสัมภาระของตนแล้ววิ่งไปอยู่ข้างๆ นาง สะกิดนางแล้วกล่าว “น้องอวี้ เจ้าเห็นแล้วใช่ไหม? วรยุทธ์ของข้าสูงส่งมากใช่หรือไม่? ข้ารักษาเงินส่วนตัวของตนเองได้ใช่หรือไม่?”
แต่นั่นเป็นเงินหมื่นตำลึงเชียวนะ หากต้องยกทั้งหมดให้ท่านแม่ เขาก็แทบกระอักเลือดแล้ว
เหมิงหลัวอวี้ตกตะลึง ตอนนี้นางยังงุนงงอยู่ ผ่านไปครู่หนึ่งกว่าจะเข้าใจบทสนทนาของท่านน้าชิงและหนานหนาน พวกเขากล่าวว่า…หมื่นตำลึงหรือ
หนานหนานมีเงินหมื่นตำลึงเลยหรือ? เขาเป็นเพียงเด็กห้าขวบ เหตุใดจึงมีเงินติดตัวมากมายขนาดนั้น
“น้องอวี้ เจ้าเป็นอะไรไปหรือ” เขาใช้มือเขย่านาง
เหมิงหลัวอวี้ได้สติกลับมา รีบส่ายหน้า “ไม่ ไม่เป็นไร เมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ”
“อ้อ ข้าบอกว่า ข้ามีพลังวรยุทธ์สูงส่ง จะต้องปกป้องเงินของตนเองได้ใช่หรือไม่?” หนานหนานกล่าวคำพูดของตนซ้ำอีกครั้งอย่างอดทน
เหมิงหลัวอวี้เม้มปาก นึกถึงท่าทางตอนที่เขาจัดการคนห้าคนได้ในคราวเดียวก็พยักหน้า กำลังจะกล่าวว่า ‘ใช่’
แต่จู่ๆ กลับได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบดังมาจากด้านนอก
เหมิงหลัวอวี้ชะงัก ไปหาที่ซ่อนโดยไม่รู้ตัว หนานหนานโบกไม้โบกมือ ยิ้มแล้วกล่าว “ไม่ต้องกังวลไป น่าจะเป็นพนักงาน เอาอาหารมาส่งให้เรากระมัง”
อวี้ชิงลั่วไปเปิดประตู ด้านนอกเป็นพนักงานที่เหงื่อท่วมใบหน้ายืนอยู่จริงๆ
เพียงแต่ว่าในมือของพนักงานผู้นั้นกลับว่างเปล่า ใบหน้ายังมีความตื่นตระหนก
เมื่อเห็นอวี้ชิงลั่ว พนักงานผู้นั้นรีบกลืนน้ำลาย “แม่นาง เกิดเรื่องเล็กน้อย รบกวนพวกท่าน… ไม่พักที่นี่จะได้หรือไม่ขอรับ”
อวี้ชิงลั่วไม่ทันระวังบีบนิ้วในทันที หนานหนานกำกระเป๋าแน่น กระโดดไปตรงหน้าพนักงานผู้นั้น กล่าวด้วยความโกรธ “หมายความว่าอย่างไร เหตุใดจึงไม่ให้เราพักที่นี่ ตอนนี้ก็ดึกแล้ว พวกเจ้ายังจะให้เราออกไปอีกหรือ พวกเจ้าเปิดโรงเตี๊ยมทำธุรกิจ พวกข้าก็ให้เงินไปแล้ว พวกเจ้ายังจะไล่เราออกไปอีกหรือ”
เหมิงหลัวอวี้รู้แล้วว่าไม่ได้มาตามตัวนาง ในใจก็โล่งอก จากนั้นก็ยิ้มออกมา แปดคนนั้นถูกอวี้ชิงลั่วจัดการไปหมดแล้ว จะมีคนมาตามล่านางอีกได้อย่างไร ถึงแม้ฮูหยินใหญ่คิดจะส่งคนมาอีก ก็ไม่มีทางมาเร็วเช่นนี้เป็นแน่
คิดถึงตรงนี้นางก็วางใจ และค่อยๆ ก้าวออกมาข้างหน้า มองไปยังประตูห้อง
พนักงานผู้นั้นถูกหนานหนานต่อว่าจนหน้าซีด ทำได้เพียงฝืนยิ้ม “คือว่า ข้าไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจจริงๆ ขอรับ แม่นาง ข้าเองก็ทำเพื่อพวกท่าน พวกท่านไปเสียเถอะ ข้าจะคืนเงินให้พวกท่าน”
!!
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
หนานหนานจะโดนแม่ริบเงินแล้ว หมื่นตำลึงเลย เสียดายแทน
ทำไมถึงพักต่อไม่ได้ล่ะ เกิดเหตุร้ายอะไรขึ้น
ไหหม่า(海馬)