อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 626 โทษมหันต์ที่ไม่อาจให้อภัย
ตอนที่ 626 โทษมหันต์ที่ไม่อาจให้อภัย
ตอนที่ 626 โทษมหันต์ที่ไม่อาจให้อภัย
หัวใจของเสิ่นอิงเต้นไม่เป็นจังหวะ เขารีบก้าวเข้าไปคว้าไหล่ของเด็กชาย และดึงให้เขาหันกลับมาด้วยความดีใจ
แต่วินาทีต่อมา ความผิดหวังพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาเมื่อพบว่าไม่ใช่หนานหนาน แม้ด้านหลังจะดูคล้ายกันมาก แต่รูปร่างหน้าตาของเขากลับหล่อเหลากว่าหนานหนานอย่างเห็นได้ชัด
“ท่าน ท่านกำลังจะทำอะไร?” เด็กน้อยมองเขาอย่างประหลาดใจ แล้วถอยหลังหนีไปซ่อนตัวข้าง ๆ พ่อแม่ของเขาด้วยความหวาดกลัว
เสิ่นอิงส่ายศีรษะอีกครั้ง เขาช่างใจเสาะยิ่งนัก ช่างแตกต่างกับนายน้อยของเขาเหลือเกิน
เสิ่นอิงถอนหายใจ แล้วเดินไปยังโรงเตี๊ยมถัดไป
ส่วนหนานหนานที่รู้ว่าพรุ่งนี้เขาจะสามารถไปร่ำสุราได้อีก เขาก็รู้สึกสุขใจ และกลับไปยังโรงเตี๊ยมที่ตนพักด้วยอารมณ์เบิกบานยิ่งนัก
เมื่อกลับมาที่ห้องก็รู้ว่ามารดาออกไปแล้ว มีเพียงเหมิงหลัวอวี้กำลังนั่งอ่านหนังสือที่อวี้ชิงลั่วซื้อให้อยู่ที่โต๊ะ เหตุที่อวี้ชิงลั่วสอนวิธีอ่านเขียนให้นางขณะเดินทางก็เพื่อเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ในความคิดของนางแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย การอ่านออกเขียนได้ย่อมทำให้ไม่เสียเปรียบ
หนานหนานที่เหงื่อท่วมตัวเอียงศีรษะมองหาทั่วห้อง ก่อนจะเอ่ยถามนาง “ท่านแม่สุดที่รักของข้าเล่า?”
มุมปากเหมิงหลัวอวี้กระตุกขณะมองเขา ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเหตุใดเขาจึงมาเอ่ยถามตนเอาป่านนี้
นางรินน้ำใส่แก้วเงียบ ๆ และลงจากเก้าอี้ ก่อนยื่นให้เขาแล้วพูดว่า “ท่านน้าชิงบอกว่าจะออกไปดูลาดเลา ดื่มน้ำก่อนสิ เจ้าเหงื่อออกท่วมตัวแล้ว…” ขณะที่นางพูด จู่ ๆ นางก็หยุดชะงักไป จากนั้นขมวดคิ้วแล้วโน้มตัวเข้าไปใกล้เขาเพื่อดมกลิ่น แล้วถามขึ้น “เจ้า เจ้าดื่มสุรามาหรือ?”
“จมูกเจ้าดีจริง ๆ” เขาเพิ่งดื่มไปแค่หนึ่งชาม แต่นางยังได้กลิ่น
เหมิงหลัวอวี้เม้มปาก แล้วเอื้อมมือไปพยุงให้เขานั่งลง นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดเบา ๆ ว่า “ท่านแม่หยางบอกว่าเด็กไม่ได้รับอนุญาตให้ดื่มเหล้า เจ้าอายุแค่ห้าขวบเท่านั้น…”
“ข้าเริ่มดื่มตอนอายุสองขวบ” เขาไม่ได้เมา เหตุใดนางต้องเข้ามาพยุงเขาราวกับว่าเขาเป็นคนแก่ด้วย?
“…” เหมิงหลัวอวี้เงียบ เมื่อเห็นว่าเขาดูค่อนข้างภูมิใจในตัวเอง นางก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ท่านน้าชิงไม่ว่าหรือ?”
หนานหนานโบกมือ “ว่าไม่ได้หรอก เมื่อพูดถึงสุรา ข้าจะกลายเป็นดั่งม้าป่าพยศที่ไม่สามารถควบคุมได้”
เหมิงหลัวอวี้รู้สึกว่าคำอธิบายของเขา…เหตุใดจึงแตกต่างจากที่คิดไว้มาก?
หนานหนานดื่มน้ำสองอึกใหญ่ เมื่อเห็นว่าแม่ของเขายังไม่กลับมา เขาจึงอาบน้ำแบบขอไปทีแล้วผล็อยหลับไป
เหมิงหลัวอวี้อ้าปากกว้าง จากนั้นก็กลับไปนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะเงียบ ช่างเถิด นางเคยเห็นพฤติกรรมแปลก ๆ ของหนานหนานมาตั้งแต่ตอนเดินทางแล้ว ดังนั้นจึงไม่รู้สึกแปลกใจมากนัก
ทว่าจนกระทั่งท้องฟ้ามืดลง อวี้ชิงลั่วก็ยังไม่กลับมา
เหมิงหลัวอวี้อาบน้ำเรียบร้อย แล้วเข้านอนอย่างเชื่อฟัง
จนกระทั่งถึงยามซวี อวี้ชิงลั่วก็เดินเข้ามาจากด้านนอก
เมื่อนางเดินผ่าน เทียนในห้องที่สาดแสงสลัวก็กะพริบริบหรี่ตามสายลม
อวี้ชิงลั่วนั่งลงข้างเตียง เมื่อมองเห็นใบหน้าไร้เดียงสาของเด็กทั้งสองที่กำลังหลับใหล นางก็เม้มปากแน่น
นางออกไปสอบถามและทราบข้อมูลเบื้องต้นของชาวเหมิง แม้ว่าเมืองของดินแดนเหมิงจะแตกต่างจากอาณาจักรเฟิงชาง แต่ก็มีการวางระบบภายในเป็นของตนเอง เทียบเท่ากับเมืองเล็ก ๆ ที่ไม่ต้องส่งของบรรณาการให้ทั้งสี่อาณาจักร ไม่สิ อาจเรียกได้ว่าเป็นอาณาจักรเล็ก ๆ ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทั้งสี่อาณาจักร แต่มีสถานะเป็นเอกราช
และที่ที่พวกเขาอยู่ตอนนี้คือเมืองหลวงที่เจริญที่สุด เช่นเดียวกับเมืองหลวงของอาณาจักร เป็นสถานที่ที่ปรมาจารย์และประมุขของตระกูลที่มีอำนาจและสถานะสูงส่งอาศัยอยู่
ปัจจุบันมีผู้อาวุโสหกคนในเผ่าเหมิง และในบรรดาพวกเขานั้น ผู้ที่จัดการเรื่องใบผ่านทางให้คนเข้าและออกจากประตูเมืองได้ ก็คือผู้อาวุโสสกุลเยว่
เพิ่งได้ยินมาว่าเมื่อไม่นานมานี้ลูกชายคนเดียวของผู้อาวุโสสกุลเยว่ป่วยหนัก และตอนนี้ผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็ยังไม่อาจทำอะไรได้และกำลังโศกเศร้ายิ่งนัก และลูกชายของเขาก็เป็นบุรุษเพียงคนเดียวที่มีปานรูปดอกไม้ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา ดังที่เหมิงหลัวอวี้เล่าก่อนหน้านี้
แม้ชายคนนี้จะมีร่างกายไม่สมประกอบ หรือเป็นคนโง่เขลาก็ตาม
แต่ตราบเท่าที่เขามีปานนั้น ชาวเหมิงก็จะถือว่าเขาเป็นคนที่สวรรค์โปรดปราน และเขาเป็นลูกชายที่ผู้อาวุโสสกุลเยว่รักมาก ชายชราจึงพยายามหาคนมารักษาอย่างสุดความสามารถ
และชายคนนี้ก็คือเหมิงหรงผู้เป็นพ่อของเหมิงหลัวอวี้นั่นเอง เพียงแต่มารดาของเหมิงหลัวอวี้เป็นเพียงสาวใช้ในบ้าน ไม่ใช่อนุภรรยาเสียด้วยซ้ำ
นางเสียชีวิตหลังจากให้กำเนิดเหมิงหลัวอวี้ ทิ้งลูกที่ยังอยู่ในวัยทารกไว้เบื้องหลัง
แต่เหมิงเคอผู้เป็นฮูหยินของเหมิงหรงเป็นลูกสาวของผู้อาวุโสตระกูลอื่น เมื่อนางแต่งงานกับเหมิงหรงที่ไม่สมประกอบ แม้เหมิงหรงจะมีปานรูปดอกไม้ แต่คนในตระกูลเยว่ก็ยังรู้สึกละอายใจเพราะเขา กิจการในคฤหาสน์เกือบทั้งหมดจึงถูกมอบหมายให้นางจัดการ ดังนั้นภายในเวลาไม่ถึงครึ่งปี เหมิงเคอก็เป็นคนตัดสินใจเรื่องในคฤหาสน์ทั้งหมด
รวมถึง… เรื่องของเหมิงหลัวอวี้
ตั้งแต่ตอนที่เหมิงหลัวอวี้เกิด ความจริงว่านางมีปานที่ชาวเหมิงภาคภูมิใจนั้นถูกเหมิงเคอปกปิดไว้
อวี้ชิงลั่วไม่เข้าใจว่าเหตุใดเหมิงเคอจึงไม่โจมตีเหมิงหลัวอวี้ในตอนที่นางอยู่ในคฤหาสน์ และทำให้นางแสร้งเป็นคนโง่เขลาจนกระทั่งนางอายุห้าขวบ ซึ่งเมื่อลุงหยางและแม่ฉินพานางออกจากเมือง นางก็เริ่มส่งมือสังหารมาปลิดชีพ
เป็นไปได้หรือไม่ว่า… นางยังมีเรื่องกังวลบางอย่างที่คฤหาสน์?
อวี้ชิงลั่วแอบถอนหายใจ ก่อนวางมือลงบนหลังมือของเหมิงหลัวอวี้ แล้วพูดเบา ๆ ว่า “ฮูหยินใหญ่จะสร้างปัญหาให้เจ้าอย่างไม่รู้จบ”
“ท่านน้าชิง”
อวี้ชิงลั่วผงะไปครู่หนึ่ง ขณะมองเหมิงหลัวอวี้ที่จู่ ๆ ก็ลืมตาขึ้น “เจ้าตื่นแล้วหรือ?”
เหมิงหลัวอวี้พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง ก่อนส่ายศีรษะ นางมองไปยังหนานหนานที่กำลังหลับสนิท แล้วพูดเบา ๆ ว่า “เปล่าเจ้าค่ะ เมื่อครู่นี้ข้ายังไม่ได้หลับ”
พูดเช่นนั้นแล้ว นางก็หยุดอีกครั้ง จากนั้นครู่หนึ่งนางก็พูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ความจริงแล้วข้ารู้”
“หืม?”
“ข้ารู้ว่าตอนนี้ข้ายังเด็ก จึงไม่มีอำนาจหรืออิทธิพลใด ๆ แม้ว่าข้าจะไปพบท่านประมุข แล้วขอให้ประมุขคอยปกป้องข้า ทว่าข้าก็ไม่อาจสู้ฮูหยินใหญ่ได้” เหมิงหลัวอวี้ค่อย ๆ จับมือนาง แล้วนางเม้มปาก ก่อนพูดว่า “ฮูหยินใหญ่ไม่ได้ทำผิดร้ายแรง ต่อให้ข้าจะบอกว่านางส่งคนมาตามล่าข้าก็ไม่มีหลักฐานอยู่ดี ข้าจึงทำอะไรฮูหยินใหญ่ไม่ได้ แต่มันจะยิ่งเป็นการยั่วยุให้ฮูหยินใหญ่โกรธมากขึ้น และยิ่งพยายามส่งคนมากำจัดข้า ชีวิตของข้ายังคงอันตรายทุกย่างก้าว มันจึงไม่ง่ายเลยที่จะช่วยชีวิตข้า”
อวี้ชิงลั่วมองนางอย่างพึงพอใจ เด็กคนนี้อายุยังน้อย แต่นางกลับเข้าใจหลายเรื่องเป็นอย่างดี และมองสิ่งต่าง ๆ ได้กว้างไกลกว่าที่คิดไว้
“ท่านน้าชิง โปรดช่วยข้าด้วย” ทันใดนั้นเหมิงหลัวอวี้ก็ใช้มือทั้งสองข้างจับมือของอวี้ชิงลั่วไว้แน่น
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้วขึ้น “เจ้าต้องการจะทำอะไร?”
เหมิงหลัวอวี้หายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองนางด้วยสายตาแน่วแน่ และพูดคำต่อคำว่า “ไปหาท่านประมุข แล้วให้ฮูหยินใหญ่โจมตีข้าต่อหน้าท่านประมุขและผู้อาวุโสทุกคน เพื่อหาหลักฐานมายืนยันว่านางทำการลอบสังหาร”
การฆ่าเด็กชาวเหมิงที่มีปานรูปดอกไม้ถือเป็นเรื่องร้ายแรงที่สุดสำหรับชาวเหมิง เป็นโทษมหันต์ที่ไม่อาจให้อภัย
!!
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
หนานหนานคิดว่าจะปกปิดเรื่องดื่มเหล้าได้เหรอ
น้องอวี้ไหวพริบดีจริงๆ ไม่ฉลาดไม่อยู่รอดจนถึงตอนนี้นะเนี่ย
ไหหม่า(海馬)