อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 627 หมอเฒ่าเข้ามาในเมืองแล้ว
ตอนที่ 627 หมอเฒ่าเข้ามาในเมืองแล้ว
ตอนที่ 627 หมอเฒ่าเข้ามาในเมืองแล้ว
อวี้ชิงลั่วคิดว่าเหมิงหลัวอวี้เป็นเด็กที่ฉลาดมาก หากนางเป็นเด็กผู้ชาย นางต้องเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับตำแหน่งประมุขตระกูลคนต่อไปของเผ่าเหมิง
เอ๊ะ ไม่สิ…
ใครบอกว่าเด็กผู้หญิงไม่สามารถเป็นหัวหน้าเผ่าเหมิงได้? แม้ว่ามันจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ทุกสิ่งย่อมมีข้อยกเว้นเสมอ
ดวงตาของอวี้ชิงลั่วเป็นประกาย แต่เรื่องนี้ต้องถามนางก่อน เพื่อดูว่านางสมัครใจหรือไม่ และในขณะนี้ต้องสะสางเรื่องยุ่งเหยิงในคฤหาสน์ของผู้อาวุโสสกุลเยว่เสียก่อน
นางขมวดคิ้วเมื่อนึกถึงผู้อาวุโสสกุลเยว่
อวี้ชิงลั่วเงยหน้าขึ้นมองไปยังประตูคฤหาสน์หรูหราตรงหน้า แล้วเม้มปาก
เมื่อคนรับใช้ที่เฝ้าประตูเห็นนางยืนอยู่ข้างนอกเงียบ ๆ มาครึ่งชั่วยามแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะวิ่งลงบันไดมา “แม่นางมีอะไรหรือไม่?”
“ข้าได้ยินมาว่าคุณชายเหมิงของเจ้าป่วยหรือ? ข้าเป็นหมอ”
คนรับใช้ที่เฝ้าประตูมองนางหัวจรดเท้าอยู่สักพัก ก่อนทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แล้วหันหลังเดินจากไป
หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนสองคนถือไม้พลองออกมา และโบกมือไล่นาง “ไป ๆๆ มาที่นี่เพื่อหลอกกินและดื่มอีกแล้วสินะ หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่เจ้าที่เป็นสตรี เจ้าคงโดนพวกข้าหักขาไปแล้ว”
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุก นางยักไหล่แล้วหันไปเดินจากไป ดูเหมือนว่าตั้งแต่เหมิงหรงล้มป่วย จะมีหลายคนที่แสร้งปลอมตัวเป็นหมอมาที่คฤหาสน์แห่งนี้
นางจากไปโดยดีจนคนสองคนที่ไล่นางออกไปตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขาสับสนเพราะช่วงไม่กี่วันมานี้ คนที่อ้างตัวว่าเป็นหมอมักจะขออยู่ต่อตลอด แต่แม่นางคนนี้กลับยอมจากไปง่าย ๆ ได้อย่างไร…
อาจเป็นเพราะนางเป็นสตรี จึงเกิดหวาดกลัวเมื่อเห็นไม้และคิดว่ารีบหนีไปจะดีกว่า ก่อนที่พวกเขาจะใช้ความรุนแรงมากกว่านี้
อวี้ชิงลั่วเดินอย่างสบายอารมณ์ เมื่ออยู่ห่างจากทางเข้าคฤหาสน์ราวสิบหมี่ จู่ ๆ ประตูของคฤหาสน์สกุลเหมิงก็ถูกใครบางคนเปิดออก ตามด้วยคนที่ถูกผลักออกมาอย่างแรง
ชายคนนั้นเดินโซซัดโซเซและเริ่มด่าทอ “เจ้าเคยปฏิบัติต่อผู้มีพระคุณของเจ้าเช่นนี้มาก่อนหรือไม่? ข้าขอบอกเลยว่าถ้าไม่ใช่เพราะข้า คุณชายของเจ้าคงตายไปแล้วในตอนนี้”
คนรับใช้ในคฤหาสน์สกุลเหมิงที่ผลักเขาออกมาอย่างแรงตวาดดัง ‘เฮ้ย’ แล้วพูดว่า “ออกไป หากไม่ใช่เพราะเจ้า คุณชายของข้าคงไม่อาการหนักกว่าเดิมถึงเพียงนี้ เจ้ามันไร้ซึ่งความสามารถ แต่ยังบังอาจหยิ่งผยอง”
“พวกคนสารเลว ไม่เข้าใจอะไรเลยแต่ยังพูดจาเหลวไหล ทักษะทางการแพทย์ของข้าไม่เหมือนใคร เดิมทีมันเป็นวิธีที่ทำให้เกือบตายก่อนแล้วค่อยฟื้นขึ้นมา แต่เป็นเพราะพวกเจ้าไม่รู้เรื่อง ฮึ่ม คราวหน้าอย่ามาขอให้ข้ามาอีกนะ”
เมื่อเห็นว่าเขายังคงโอหัง คนรับใช้ของคฤหาสน์สกุลเหมิงก็ปรี่เข้าใส่พร้อมเงื้อไม้ในมือขึ้นหมายจะทุบตีเขา
ชายคนนั้นตกใจและวิ่งหนีไป
อวี้ชิงลั่วเผลอยกยิ้ม รอยยิ้มที่นุ่มนวลและอบอุ่นนั้นทำให้คนรับใช้ของคฤหาสน์สกุลเหมิงที่ไล่ตามเขาตกตะลึง แล้วหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว
เมื่อเห็นท่าทางงี่เง่าของชายผู้นั้น อวี้ชิงลั่วก็อดไม่ได้ที่จะขำดังพรืด
จากนั้นนางก็ส่ายหน้า แล้วเดินจากไป
ฟังจากการสนทนาระหว่างพวกเขาแล้ว ก็พอจะเดาได้ว่าผู้อาวุโสสกุลเยว่ไม่ใช่คนที่ฆ่าไม่เลือกหน้า ไม่เช่นนั้นจากการที่เหมิงหรงอาการกำเริบเพราะการรักษาของหมอคนเมื่อสักครู่นี้ ถ้าเป็นคนอื่นคงโดนจับหักขาหรือถูกโยนออกมาในสภาพปางตายไปแล้ว เขาจะมายืนด่าทออยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
เป็นเช่นนี้ก็นับเป็นความโชคดีของเหมิงหลัวอวี้จริง ๆ
สิ่งที่อวี้ชิงลั่วกังวลมากที่สุดคือ มีข่าวลือว่าผู้อาวุโสสกุลเยว่เข้าข้างฮูหยินใหญ่อย่างหน้ามืดตามัว โดยไม่แยกแยะถูกผิด
มาครั้งนี้ก็ถือว่ายังคงได้เบาะแสอยู่บ้าง
อวี้ชิงลั่วพึงพอใจ นางก้าวช้าลงเล็กน้อย
ทว่าหลังจากร่างของนางหายไป คนสองคนก็ออกมาจากประตูคฤหาสน์ เมื่อคนรับใช้ของคฤหาสน์สกุลเหมิงเห็น พวกเขาก็รีบเข้าไปคำนับ “ท่านประมุข ท่านรองอู”
“…จับตาดูให้ดี คราวหน้าหากเจอคนหลอกว่ามีชื่อเสียงเช่นนี้ อย่าปล่อยให้เข้ามาอีก” ผู้อาวุโสสกุลเยว่ลูบหว่างคิ้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
ท่านรองอูถอนหายใจ “คนเหล่านี้ช่างไร้ค่ายิ่งนัก”
“หรงเอ๋อร์ถูกกำหนดให้เป็นเช่นนี้จริงหรือ?”
เมื่อท่านรองอูเห็นใบหน้าซีดเซียวของผู้อาวุโสสกุลเยว่ ที่ดูเหมือนจะมีแก่ขึ้นหลายปีในชั่วข้ามคืน เขาก็รู้สึกผิดเล็กน้อยไปชั่วขณะหนึ่ง “ข้ารู้สึกละอายใจนัก ข้าน่าจะรู้ว่าอาการของเหมิงหรงหนักถึงเพียงนี้ ระหว่างทางกลับ ข้าพบศิษย์ของหมอเฒ่าฉยงซาน แม้ว่าข้าจะพยายามเชิญเขามาที่นี่อย่างสุดความสามารถ แต่ตอนนี้กลับบาดหมางกันไปเสียแล้ว”
ผู้อาวุโสสกุลเยว่ตกตะลึง “ศิษย์ของหมอเฒ่าฉยงซานหรือ? เจ้าหมายถึงเจ้าได้พบกับศิษย์ของหมอเฒ่าฉยงซานหรือ?”
เมื่อเห็นสีหน้ากระวนกระวายของเขา ท่านรองอูก็รู้สึกไม่สบายใจมากกว่าเดิม “ใช่แล้ว ข้ามีความแค้นส่วนตัวกับเขา และตอนนี้ข้าเสียใจจริง ๆ…” เขาหยุดไปชั่วครู่ และทันใดนั้นดูเหมือนจะนึกอย่างออก เขาจึงขมวดคิ้วและพูดว่า “ทว่าข้าได้พบสตรีผู้หนึ่งระหว่างทาง ดูเหมือนว่าทักษะทางการแพทย์ของนางก็ดีมากเช่นกัน แม้แต่ศิษย์ของหมอเฒ่าฉยงซานก็ยังไม่อาจเทียบเทียมนางได้ จากสิ่งที่นางพูด ดูเหมือนว่านางจะรู้จักหมอเฒ่าฉยงซานด้วย”
“ตอนนี้สตรีผู้นั้นอยู่ที่ใด?” ผู้อาวุโสสกุลเยว่เงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ ตอนนี้เขาค่อนข้างจะสติแตกแล้ว ตราบใดที่สามารถรักษาอาการป่วยของเหมิงหรงได้ เขาไม่สนใจว่าต้องจ่ายราคาแพงเพียงใด ตราบใดที่ยังมีความหวังริบหรี่ เขาก็จะไม่ยอมแพ้
ท่านรองอูส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง “ข้าเพิ่งพบนางเพียงครั้งเดียว จึงไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ไหน”
ผู้อาวุโสสกุลเยว่เม้มปากแน่น สีหน้าของเขาเศร้าหมอง หากหมอชาวเหมิงช่วยไม่ได้ และหมอนอกเผ่าก็ช่วยไม่ได้เช่นนี้ ก็คงมีเพียงหมอเฒ่าฉยงซานและหมอปีศาจผู้ลึกลับเท่านั้นที่เป็นความหวังสุดท้ายของเขา แต่ติดที่ว่าไม่อาจคาดเดาที่อยู่ของหมอปีศาจได้ และนิสัยของนางก็แปลกประหลาดมาก เมื่อก่อนนี้เคยได้ยินว่านางปรากฏตัวในเมืองหลวงของอาณาจักรเฟิงชาง และเขาก็เคยส่งคนไปตามหานางด้วย แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข่าว ฉะนั้นนางก็อาจจะไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงอีกต่อไปแล้ว
ดังนั้นหากหมอเฒ่าฉยงซานสามารถช่วยเขาได้ ลูกชายของเขาก็จะมีความหวัง
ท่านรองอูเงียบไป เดิมทีเขาคิดว่าที่ผู้อาวุโสสกุลเยว่ส่งจดหมายถึงเขาเพราะขอให้เขากลับมายังเผ่าเหมิงเพื่อเข้าร่วมงานเทศกาลชิมสุราที่กำลังจะมาถึง แต่คาดไม่ถึงเลยว่า… เป็นเพราะอาการป่วยหนักของเหมิงหรง
เมื่อเขารีบกลับมา เขาก็เห็นเพียงเหมิงหรงที่ร่างกายผ่ายผอม และทุกข์ทรมานด้วยความเจ็บป่วย
เดิมทีเหมิงหรงมีร่างกายอ่อนแออยู่แล้ว ขาของเขาทำให้เขาเดินไม่คล่องแคล่วตั้งแต่เกิด การเดินของเขาจึงเซไปมาและไม่มั่นคง ทว่าตอนนี้มันเลวร้ายยิ่งกว่า
ผู้อาวุโสสกุลเยว่ถอนหายใจ ก่อนโบกมือ แล้วหันหลังเดินจากไป พร้อมสั่งคนรับใช้ว่า “ปิดประตู”
คนรับใช้ของคฤหาสน์สกุลเหมิงพยักหน้า ใครจะรู้ว่าก่อนที่พวกเขาจะทันได้ขยับตัว ทันใดนั้นก็มีคนวิ่งมาแต่ไกล “ท่านประมุข ท่านประมุข…”
ผู้อาวุโสสกุลเยว่ขมวดคิ้ว แล้วหันกลับมาจ้องมองชายคนนั้นด้วยสายตาดุดัน “เสียงดังอะไรถึงเพียงนั้น คนรับใช้ในคฤหาสน์ของข้ามีคนไร้มารยาทเหมือนเจ้าตั้งแต่เมื่อใด?”
ชายคนนั้นตัวสั่นเทา และแทบจะคุกเข่าลงกับพื้น
ท่านรองอูรีบก้าวเข้าไปถามเขาว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
ชายผู้นั้นเงยหน้าขึ้นทันที และไม่สามารถซ่อนความยินดีบนใบหน้าของเขาได้ “ท่าน ท่านประมุข เมื่อสักครู่นี้ทหารเฝ้าประตูเมืองรายงานว่า หมอเฒ่าฉยงซาน หมอเฒ่าเข้ามาในเมืองแล้วขอรับ”
!!
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ใครคือหมอเฒ่าฉยงซานกันนะ ได้ยินแต่ชื่อ ยังไม่เห็นตัวเลยว่าจะเป็นคนยังไง
ไหหม่า(海馬)