อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 633 แอบดื่มแล้วถูกจับได้
ตอนที่ 633 แอบดื่มแล้วถูกจับได้
ตอนที่ 633 แอบดื่มแล้วถูกจับได้
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงผงะ มองเย่ซิวตู๋ที่หยุดพูดไปด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็มองตามสายตาของเขาออกไปนอกหน้าต่าง
แต่เย่ซิวตู๋ละสายตาจากไปอย่างรวดเร็ว มองไปยังคนตระกูลจ้าวที่กำลังถือเหยือกสุราเดินมา
“คนตระกูลจ้าวมาแล้ว การตอบสนองของเจ้าช่างยิ่งใหญ่ควบคุมไม่ได้เสียจริง” ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงละสายตา หยิบถ้วยชามาจิบเงียบๆ ท่าทางเหมือนกำลังครุ่นคิด
เย่ซิวตู๋เองก็ไม่ตอบอันใด เพียงแต่ข่มแววตาปลาบปลื้มไว้ ลดสายตามองลงไปด้านล่าง
เจ้าเด็กนั่น ในที่สุดก็หาตัวเขาเจอแล้ว ออกมาเดินเล่นข้างนอกตัวคนเดียวจริงๆ ด้วย ข้างตัวไม่มีใครมาด้วยเลยสักคน ไม่ได้เจอกันเกือบหนึ่งเดือน เหตุใดจึงดูเหมือนแก้มตอบลงเล่า ตลอดการเดินทางนี้เกรงว่าจะลำบากมาไม่น้อย
เย่ซิวตู๋หยิบคว้าถ้วยชาข้างมือขึ้นเงียบๆ ยกขึ้นใกล้ริมฝีปากแล้วจิบครั้งหนึ่ง ถือโอกาสซ่อนรอยยิ้มเอาไว้
ครู่ต่อมาเขาก็หันกลับไปมองที่เสิ่นอิง ซึ่งอีกฝ่ายก็เข้าใจ เมื่อครู่เขาเองก็เห็นร่างเล็กนั้นเดินผ่านไปเช่นกัน
คิดไม่ถึงเลยจริงๆ เมื่อครู่ตอนเข้ามาเขายังเดาที่อยู่ของหนานหนานอยู่เลย นี่ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งเค่อก็เห็นตัวเขาแล้ว
แน่ล่ะ จอมตะกละตัวน้อยนั้นดูเหมือนจะต้านทานสุราชั้นดีไม่ได้เลย
เสิ่นอิงคิดข้อแก้ตัวออก กล่าวขอตัวเสียงเบา ออกจากห้อง ‘ตู้คังถิง’ ไป เร่งฝีเท้าลงไปข้างล่าง
ตอนนั้นในโถงใหญ่เต็มไปด้วยผู้คนแล้ว ตั้งแต่คนตระกูลจ้าวถือเหยือกสุราเข้าไปในประตู คนก็มารวมตัวกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
หลังจากเสิ่นอิงมองอยู่ครู่หนึ่ง ก็หันกลับมาแล้วก้าวขึ้นบันไดสองสามขั้น ยืนอยู่กลางบันได สองมือกอดอกมองลงไปยังห้องโถง ด้วยมุมและความสูงของเขา ก็เป็นตำแหน่งพอดีที่จะดูภาพรวมของสถานการณ์ด้านล่าง รวมไปถึง… หนานหนานที่ยังร่าเริงและเบียดเสียดอยู่ท่ามกลางฝูงคน
วันนี้หนานหนานสวมเสื้อผ้าดูดีและราคาแพง เพื่อให้ตนดูเหมือนองค์ชายมากยิ่งขึ้น เมื่อคืนยังทาผงไข่มุกให้ผิวหน้าดูนุ่มนวล วันนี้จึงมาปรากฏตัวที่นี่
ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร การจะอับอายขายหน้าโดนโยนออกไปทั้งยังถูกท่านแม่จับได้เช่นนั้น เขาจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกเป็นแน่
หนานหนานถอนหายใจเบาๆ เหลือบตาขึ้นมองไปรอบๆ สุดท้ายสายตาก็ไปหยุดตรงคนตระกูลจ้าวที่ยกเหยือกสุราสองเหยือกมา น้ำลายไหลราวกับน้ำหลาก จนกลืนน้ำลายลงไปอย่างยากลำบาก
เขาพยายามเบียดตัวเข้าไปด้านหน้า รู้สึกว่าตนเข้าใกล้เหยือกสุราสองเหยือกนั้นเพียงพอแล้ว จากนั้นก็หยุดฝีเท้าอย่างอาลัยอาวรณ์
อืม ได้ยินว่าสุราของวันนี้นั้นดีกว่าเมื่อวานหน่อย ไม่รู้ว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร
หนานหนานเม้มปาก ได้ยินเสียงเจ้าของร้านดังแว่วเข้ามาในหู “ทุกท่านขอรับ วันนี้ตระกูลจ้าวจากอู่หยาง อาณาจักรเฟิงชางมาชิมสุราในร้านเล็กๆ ของเรา ตระกูลจ้าวนั้นเป็นที่รู้จักไปทั้งสี่อาณาจักรในช่วงสองปีมานี้ สุราของตระกูลเจ้านั้นก็ยังเป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก ร้านของเราเองก็ยังซื้อสุราของตระกูลเจ้ามาเมื่อปีก่อน แขกที่ได้ชิมต่างพากันชมไม่ขาดปาก สุรานั้นในวันนี้ ทั้งหวานกลมกล่อมเสียยิ่งกว่าสุราทั้งหมดที่ร้านของเราเคยซื้อมาเลยขอรับ ทุกท่านจะพลาดไม่ได้นะขอรับ”
หนานหนานคิด คนผู้นี้พูดจาไร้สาระมากไปจริงๆ น่ารำคาญชะมัด อีกทั้งเมื่อวานยังให้คนไล่ตนออกมา ยิ่งไม่ชอบหน้าเข้าไปใหญ่
ทันทีที่สิ้นเสียงเจ้าของร้าน คนตระกูลจ้าวก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “สุราของพวกเราตระกูลจ้าวมีสูตรเฉพาะของตัวเอง สองปีมานี้ใครก็ตามที่เคยดื่มต่างก็บอกว่าดี ครั้งนี้เรามาประชุมสุราครั้งใหญ่ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และหวังว่าจะขายได้มาก ดังนั้นหัวหน้าตระกูลจ้าวจึงจะเป็นผู้นำเปิดเหยือกสุราที่ ‘เซียงเว่ยซื่ออี้’ แห่งนี้ ให้พวกท่านได้ลิ้มลองกัน หวังว่าทุกคนจะร่วมแสดงความคิดเห็นนะขอรับ”
สีหน้าหนานหนานดูสุดจะทนแล้ว จะดื่มก็ดื่มเสียสิ จะพูดจามากมายไร้สาระไปทำไมกัน เจ้าของร้านกล่าวจบแล้ว คนตระกูลจ้าวก็จะกล่าวอีก รออีกเดี๋ยวแม้แต่คนที่ยกสุราก็คงจะขอพูดเสียหน่อยใช่หรือไม่
เขากำลังคิดอยู่เช่นนั้น ก็เห็นชายรูปร่างกำยำผิวคล้ำถือสุราเดินออกมาด้านหน้าก้าวหนึ่ง
หนานหนานเบิกตากว้าง อีกนิดก็กระโจนเข้าไปปิดปากเขาแล้ว
โชคดีที่ชายผู้นั้นทำเพียงโบกมือ ตะโกนกล่าว “เจ้าของร้าน เอาชามมาเสีย”
หนานหนานท่าทางดีใจ เขาเห็นพนักงานของ ‘เซียงเว่ยซื่ออี้’ นำถาดมาวางไว้บนโต๊ะแล้วจัดชาม จนกระทั่งวางชามจนเต็มโต๊ะแล้ว คนผู้นั้นก็หยิบเหยือกสุรามาในทันที จากนั้นก็เทสุราลงไปในชาม
หนานหนานกะพริบตา คนผู้นี้แข็งแกร่งนัก เหยือกสุราขนาดใหญ่เช่นนั้น แต่เมื่อเขาถือมันกลับดูสบายๆ เป็นอย่างยิ่ง
อืม กล้ามเนื้อพัฒนามาอย่างดี แต่ออกจะดูไม่เป็นธรรมชาติไปเสียหน่อย ในเมื่อคนคนหนึ่งสามารถถือเหยือกสุราเหยือกใหญ่ได้ เหตุใดเมื่อครู่ต้องให้คนอื่นช่วยถือเข้ามาด้วยเล่า
หนานหนานดูถูกเขาอยู่ในใจครู่หนึ่ง จากนั้นก็มองไปยังชามสุราบนโต๊ะอย่างไม่สามารถละสายตาได้
ผ่านไปไม่นาน สุราในเหยือกก็หายไปกว่าครึ่ง ชามบนโต๊ะล้วนเต็มไปด้วยสุรา คนตระกูลจ้าวเอื้อมมือออกมา จากนั้นก็กล่าวกับทุกคน “เชิญ”
หนานหนานมองไปรอบๆ ตัว ในใจกังวลเล็กน้อย คนพวกนี้เป็นอะไรกันไปแล้ว ทุกครั้งตอนคนเขาขอดื่มสุรา ก็เอาแต่หาข้ออ้าง หากต้องการจะปฏิเสธอย่างนุ่มนวลก็ต้องไม่ใช่ตอนนี้เข้าใจไหม ทุกคนต่างก็ไม่ขยับ เขาจะหาโอกาสวุ่นวายแล้วไปหยิบสุรามาดื่มได้อย่างไร
หนานหนานกัดฟัน ดวงตาของเขากลอกไปมาสองรอบ เงยหน้ามองผู้ใหญ่สองคนที่อยู่ข้างกายซ้ายขวา เห็นท่าทางที่บ่งบอกชัดเจนว่าพวกเขาอยากจะเข้าไปชิมแต่ก็ยังต้องสำรวม ในใจก็ขุ่นเคืองแทบไม่ไหว หยุดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็เลือกคนคนหนึ่งที่ดูผอมและอ่อนแอรู้สึกเหมือนจะลงมือได้ง่าย เล็งไปที่ก้นของเขา ทันใดนั้นก็ผลักออกไป
ชายคนนั้นเดินโซเซ เดินไปอยู่ตรงหน้าโต๊ะโดยไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วแล้วหันมามองด้านหลัง ไม่เห็นมีใครเลย ทำได้เพียงกล่าวกับคนตระกูลจ้าวอย่างยากลำบาก “ข้าขอก่อน”
“ดี” คนตระกูลจ้าวหัวเราะแห้ง หยิบชามหนึ่งยื่นให้เขา
มีคนนำแล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่หยุดอยู่ที่เดิมอีกแล้ว พากันเดินตรงไปข้างหน้าแล้วหยิบชามบนโต๊ะกันทีละคน
ผู้คนเบียดเสียดกันแออัด ไม่มีใครสังเกตเห็นมือเล็กนิ่มสีชมพูที่ใต้โต๊ะ ถือโอกาสหยิบสุราบนโต๊ะออกไป แล้วดื่มอึกๆ เข้าไปจนเต็มท้อง
ในห้อง ‘ตู้คังถิง’ นั้น เย่ซิวตู๋เกือบสำลักชา เขารีบยกมือขึ้นเพื่อปกป้องสีหน้าที่บิดเบี้ยวของตน ค่อยๆ สงบอารมณ์ลง
แต่ทางด้านผู้อาวุโสเผ่าเหมิงนั้นอดไม่ได้ที่จะหรี่ตา มองไปยังด้านล่างแล้วกล่าวเสียงดัง “เหตุใดทางด้านนั้นจึงมีเด็กด้วย เมื่อครู่ดูเหมือนเด็กคนนั้นจะผลักคนออกไปนะ”
“หืม มีหรือขอรับ?” เย่ซิวตู๋เลิกคิ้ว มองลงไปข้างล่าง แสร้งถามอย่างไม่เข้าใจ
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเริ่มตะคอกอย่างเย็นชาอีกครั้ง “สายตาของเจ้านั้นยิ่งจะเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ นะ ที่นั่งของเจ้าน่าจะมองเห็นได้ชัดที่สุดจึงจะถูก”
เย่ซิวตู๋ดื่มชาอย่างไม่สนใจ กล่าวเสียงต่ำ “เช่นนั้นหรือขอรับ? ข้ากลับไม่ทันได้ใส่ใจ”
“เจ้า…” ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเกลียดท่าทางสงบนิ่งไม่มีอารมณ์อ่อนไหวอันใดของเขายิ่งนัก ไม่ว่าอย่างไรตนก็เป็นอาจารย์ของเขา นี่เขากลับไม่มีปฏิกิริยาอันใดกับตนแม้แต่น้อย เพียงมองสีหน้าของเขาก็ยิ่งโมโห
เย่ซิวตู๋หลุบตาลง มองไปยังเด็กน้อยที่อยู่ชั้นล่าง ดื่มสุราเสร็จชามหนึ่งก็ยังตัดสินใจจะหยิบชามที่สองอีก
ชิงเอ๋อร์ไม่อยู่ด้วย ไม่มีใครดูแลเขา เด็กคนนี้กลับไม่รู้จักควบคุมตนเลย
ใครจะรู้ว่าทันใดนั้น มือเล็กๆ ที่ยื่นออกไปอย่างเช่นทุกครั้งได้หยุดลง และถูกคนคว้าเอาไว้อย่างรุนแรง
!!
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ท่านพ่อเห็นแล้วนะหนานหนาน เตรียมโดนบทลงโทษได้
ใครมาคว้ามือน้องไว้หนอ
ไหหม่า(海馬)