อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 634 พาตัวเด็กนั่นมา
ตอนที่ 634 พาตัวเด็กนั่นมา
ตอนที่ 634 พาตัวเด็กนั่นมา
มือของเย่ซิวตู๋ที่ถือถ้วยชาอยู่ชะงักไป ดวงตาของเขาพลันเคร่งเครียด
หนานหนานที่อยู่ด้านล่างตะลึงไป เขาเม้มปาก เหลือบตาขึ้นมองก็เห็นชายที่มีรูปร่างกำยำ แข็งแรงถึงขนาดยกเหยือกสุราขนาดใหญ่ได้กำลังมองเขาอย่างเย็นชา
หนานหนานกะพริบตา จะดึงมือกลับมาแต่ก็ดึงมาไม่ได้
“จะ จะทำอะไรน่ะ” เขายังค่อนข้างรู้สึกละอาย
เฮ้อ รู้อย่างนี้เขาน่าจะดื่มเพียงชามเดียว ถึงแม้สุรานี้จะดีกว่าของสองวันก่อนเล็กน้อย แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ดีเด่อันใด สู้สุราดีของท่านลุงโม่เสียนที่เขาแอบดื่มยังไม่ได้เลย
แต่เขาไม่ได้ดื่มสุราดีเช่นนั้นมานานแล้ว อดไม่ได้จึงอยากจะหยิบมาอีกชาม คิดไม่ถึงว่าจะถูกคนจับได้คาหนังคาเขา
“ไอ้หนู ของอย่างนี้ไม่ใช่ของที่เด็กอายุอย่างเจ้าจะดื่มได้นะ” พ่อบ้านตระกูลเจ้าเองก็มองเห็นแล้ว มองมุมปากของเขาที่ยังเลอะสุรา สายตาเย็นชา
สุราของตระกูลจ้าวอย่างเขาไม่ใช่ของที่จะดื่มได้ง่ายๆ ทุกหยดทุกอึกนั้นต่างก็มีค่านัก คนที่มาในวันนี้ก็ล้วนเป็นคนที่เขาแอบสั่งเจ้าของร้านไว้ให้คัดกรองเสียก่อนจึงจะให้เข้ามายืนข้างหน้าได้
คิดไม่ถึงว่าในที่ด้านหน้าเช่นนี้กลับมีเด็กคนหนึ่งเข้ามา อีกทั้งเด็กคนนี้… ยังได้ชิมไปแล้วชามหนึ่ง แล้วยังคิดจะดื่มอีกชาม ช่างสร้างความเสียหายตามอำเภอใจจริงๆ
หากไม่ใช่เพราะมาร่วมการประชุมสุราครั้งใหญ่ พวกเขาจะยินดีนำสุราสองเหยือกออกมาอย่างใจกว้างเช่นนี้ได้อย่างไร
สุราของตระกูลจ้าวนั้น เมื่อเอาไปขายข้างนอก ราคาไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ
หนานหนานใช้แรงดึงมือกลับมาอีกครั้งแต่ก็ดึงมาไม่ได้ ทั้งยังพบว่าคนผู้นั้นออกแรงมากกว่าเดิม ทำให้เขาโกรธมาก
ผู้คนรอบๆ เองก็สนอกสนใจในความเคลื่อนไหวนี้ พากันมองมายังหนานหนาน เห็นว่ามืออีกข้างของเขายังถือชามเปล่าก็ตะลึงไป พากันยื่นมือชี้มาทางนี้
เจ้าของร้านเองก็รีบเบียดฝูงชนเข้ามา มองหนานหนานที่อยู่ด้านหน้าก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
เด็กคนนี้… ดวงตาเช่นนี้… รูปร่างเช่นนี้… เหตุใดจึงรู้สึกคุ้นเคยนักนะ
ช้าก่อน ช้าก่อนๆๆ
เจ้า เจ้าเด็กคนนี้เหมือนกับเด็กขอทานคนเมื่อวานเลยนี่ เหมือนกันมากจริงๆ
ให้ตายเถอะ เหตุใดเขาจึงมาอีกแล้ว อีกทั้งวันนี้ยังเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สะอาดหมดจดทั้งตัว คงจะขโมยจากที่ไหนมาล่ะสิ ข้างกายเด็กคนนี้เองก็ไม่มีผู้ใหญ่สักคน ท่าทางจะเป็นเด็กขี้ขโมย ตอนนี้กลับแอบเข้ามาที่นี่เพื่อขโมยเหล้ากิน
เจ้าของร้านนึกถึงสิ่งที่ตนเตรียมการมากลับมีคนแอบลอบเข้ามา ทันใดนั้นก็โกรธมาก เดินก้าวมาข้างหน้าสองสามก้าวในทันทีแล้วกล่าว “ประเสริฐ เจ้าหนู เป็นเจ้าอีกแล้ว เมื่อวานนี้เจ้าแอบมาขโมยเหล้าดื่มข้าก็ปล่อยเจ้าไป วันนี้เจ้ากลับเข้ามาอีกแล้วใช่หรือไม่?”
มือที่กำลังดิ้นรนของหนานหนานหยุดไปชั่วคราว วินาทีถัดมา จู่ๆ เขาก็โกรธเกรี้ยว “เจ้าหาว่าใครขโมย ใครขโมยกัน ข้าอุตส่าห์ให้เกียรติมาลองชิมสุราถึงที่นี่ นี่ พวกเจ้าพูดเองนะว่าให้ทุกคนมาลองชิม ข้าเองก็ถือเป็นหนึ่งในทุกคน ถึงแม้ข้าจะเป็นเด็ก แต่ข้าก็เป็นคนนะ ข้าเองก็ชิมสุราและออกความคิดเห็นได้ อีกทั้งยังเก่งกว่าพวกเจ้าด้วย”
เย่ซิวตู๋ที่เดิมที่หรี่ตามองอยู่ก็ค่อยๆ เบิกตากว้าง มุมปากกระตุกอย่างเงียบๆ
บอกแล้วอย่างไร ลูกชายของเขา จะเสียเปรียบอย่างง่ายดายขนาดนั้นได้อย่างไร เจ้าเด็กคนนี้มักจะพูดกวนอารมณ์ให้คนอื่นเขาโมโหเสมอ เขาเองก็แนะนำไปหลายครั้งแล้ว
ทว่าผู้อาวุโสเผ่าเหมิงที่อยู่ด้านข้างค่อยๆ ขมวดคิ้ว ใช้นิ้วจับขอบถ้วยเบาๆ กล่าวเสียงต่ำ “เด็กผู้นี้กลับช่างพูดช่างจาเสียจริง ฉลาดเอามากๆ”
เย่ซิวตู๋ยังคงนิ่งเงียบ มองลงไปข้างล่างต่อ
หนานหนานดึงข้อมือเล็กๆ ของตนออกมาจากมือของชายร่างใหญ่ได้แล้ว ชายร่างใหญ่ผู้นั้นตะลึง รู้สึกชาที่ฝ่ามือ เขามองไปยังหนานหนานด้วยความประหลาดใจ คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ
อย่างไรหนานหนานก็วิ่งสองสามก้าวหนีไปยังด้านข้างเจ้าของร้านผู้นั้นแล้ว ยืดอกเล็กๆ ของตน เชิดหน้าขึ้นสูงแล้วเอ่ยถาม “เจ้าบอกข้ามาให้ชัดเจนเสีย อย่างไรข้าก็เป็นบุตรจากตระกูลร่ำรวย เจ้าจะทำข้าเสียชื่อเพียงเพราะอายุยังน้อยไม่ได้”
“บุตรจากตระกูลร่ำรวยหรือ” เจ้าของร้านหัวเราะ ‘ฮ่าๆ’ ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ชี้ไปที่เขาอย่างดูถูกเหยียดหยามอย่างมาก “ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ เจ้ากลับเริ่มแสร้งว่าตนเป็นคนจากตระกูลร่ำรวยเสียแล้วหรือ ไอ้เด็กหัวยุ่งสกปรกคนเมื่อวานก็เป็นเจ้าไม่ใช่หรือ บุตรจากตระกูลร่ำรวยจะไม่ใส่ใจภาพลักษณ์ของตนเช่นนั้นได้อย่างไร”
ถึงแม้เขาจะไม่ได้รู้จักบุตรของตระกูลร่ำรวยในเผ่าเหมิงทั้งหมด แต่เขาก็รู้มากกว่าครึ่ง ชาวเหมิงมักจะให้ความสำคัญกับเครื่องแต่งกายเสมอ ถ้าหากสภาพเช่นนั้น คงไม่ได้ออกจากบ้านแน่นอน และไม่มีทางได้เข้ามายังสถานที่ครึกครื้นอย่างร้านสุรานี้แน่
อีกอย่าง ตามที่เขารู้มา บุตรจากตระกูลร่ำรวยในดินแดนเหมิงนั้นไม่มีเด็กชายอายุเท่านี้เลย
แน่นอนว่ายังตัดตัวเลือกว่าเป็นเด็กที่มาจากนอกดินแดนเหมิงออกไปไม่ได้ แต่หากว่าเป็นท่านชายน้อยผู้สูงศักดิ์จริง เหตุใดจึงไม่มีคนรับใช้ข้างกายเลยแม้แต่คนเดียว วันเดียวก็ว่าไปอย่าง แต่สองวันนี้ข้างตัวเขาไม่มีใครเลย
ก็เป็นเช่นนั้น ใครจะเชื่อว่าเขาเป็นคนสูงศักดิ์กันเล่า
หนานหนานโกรธ เดินตรงไปอยากจะกัดเขา เจ้าของร้านผู้นั้นตกใจ หลบไปด้านข้างโดยไม่รู้ตัว แต่เขาลืมไปว่าข้างๆ ตัวนั้นเป็นโต๊ะที่วางสุราอยู่ เขาชนไปจนเกิดเสียง ‘เพล้ง’ ดังก้อง ภายในพริบตา ชามหลายๆ ชามก็ตกลงไปกับพื้น แม้แต่สุราในชามก็ยังหกเสียหมดจด
หนานหนานกะพริบตา เงยหน้ามองด้วยสีหน้าใสซื่อ กลืนน้ำลายสองอึก
เจ้าของร้านตะลึงไป มองไปยังพ่อบ้านตระกูลจ้าวทางด้านนั้นในทันที
อีกฝ่ายลนลาน โมโหเป็นอย่างมาก สุราจำนวนมากกลับเสียไปเปล่าๆ เช่นนี้ กลับไปเขาจะรายงานอย่างไรเล่า
เขาหันหน้าไปสบตากับเจ้าของร้าน ทั้งคู่มองกันอย่างว่างเปล่า
จากนั้นดวงตาก็เปล่งประกาย ทันใดนั้นก็มองไปยังหนานหนาน
“เจ้าหนู เจ้านี่ช่างแกว่งเท้าหาเสี้ยนจริงๆ เจ้ารู้หรือไม่ว่าสุรานี้ราคาแพงขนาดไหน ต่อให้เอาเจ้าไปขายก็ยังไม่เพียงพอชดใช้เลย”
หนานหนานเงยคอจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย ฟังคำพูดเขา ก็ถือโอกาสก้มหน้าลงมาด้วย เขาหลุบตาลงมองพื้น จากนั้นก็มองพ่อบ้านตระกูลจ้าวที่กำลังโมโหอย่างมากอยู่แวบหนึ่ง กล่าวอย่างเย็นชา “ของเพียงแค่นี้จะแพงสักเพียงไหนกัน ไม่เห็นจะอร่อยสักนิด ยังจะมองว่ามันเป็นของล้ำค่าอีก”
เห็นๆ อยู่ว่าแจกให้คนอื่นเขาได้ชิมอย่างไม่เสียเงิน เห็นอยู่ว่าเจ้าของร้านผู้นั้นเป็นผู้ทำหก เหตุใดจึงโยนความรับผิดชอบทั้งหมดมาไว้ที่เขา นี่จะรังแกคนไร้ทางสู้อย่างนั้นหรือ?
กลับไปเขาจะต้องพาท่านปู่ลู่มาแน่นอน ให้พวกเขาตกใจจนตายไปเลย
“เจ้าว่าอย่างไรนะ” พ่อบ้านตระกูลจ้าวแข็งทื่อไป จากนั้นก็ยิ่งทวีความโกรธ
หนานหนานตะโกนอย่างเย็นชา “ข้าเพียงออกความคิดเห็น มิใช่ว่าเมื่อครู่พวกเจ้าบอกให้ข้าออกความคิดเห็นหรอกหรือ เช่นนั้นตอนนี้ข้าก็จะบอกเจ้า จะบอกให้นะ เหล้านี้ไม่บริสุทธิ์พอ ดูเหมือนตอนที่หมักจะมีอากาศมากเกินไป แต่พวกเจ้ากลับใช้ของอย่างอื่นปกปิดไว้ ข้าจะบอกพวกเจ้าให้นะ ทำเช่นนี้ไม่ถูก สุราชั้นดีจะต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบ จะไม่มีตำหนิแม้แต่นิดเดียว”
“เฮอะ เจ้าช่างพูดอย่างมีเหตุมีผลเสียจริงนะ” พ่อบ้านตระกูลเจ้าหัวเราะเยาะออกมา โดยเฉพาะเมื่อมองเห็นคนรอบๆ ตัวแสดงสายตาสงสัย ในใจก็อดไม่ได้ที่จะกังวลขึ้นมา “พูดเสียอย่างกับว่าเจ้ากลั่นเหล้าเป็นอย่างไรอย่างนั้น หากเจ้ามีความสามารถนี้จริงๆ ก็แสดงออกมาให้ดูเสียเลยสิ อย่ามาทำเป็นรู้ดีอยู่ตรงนี้ พูดจาส่งเดชไม่คำนึงถึงความเป็นจริง”
“เจ้าคิดว่าข้าไม่มีหรือ” หนานหนานโกรธ “กลับไปข้าจะเอามาให้เจ้าดู และมาเข้าร่วมการประชุมสุราครั้งใหญ่นี้ด้วย จะฆ่าพวกเจ้าทุกคนเสียให้สิ้นซาก”
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้ว หันกลับไปกล่าวกับผู้อารักขาคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลัง “เจ้าลงไปเสีย นำตัวเด็กคนนั้นขึ้นมา”
!!
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หนานหนานคือผู้สร้างเรื่อง ไปเยือนที่ใดก็สร้างเรื่องตลอด ท่านพ่อท่านแม่ปวดหัวแล้วมั้ง
ไหหม่า(海馬)