อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 644 โกหกเก่งเกินไปแล้ว
ตอนที่ 644 โกหกเก่งเกินไปแล้ว
ตอนที่ 644 โกหกเก่งเกินไปแล้ว
อวี้ชิงลั่วมุ่นคิ้ว ขณะที่คนผู้นั้นวิ่งมาตรงหน้านาง กล่าวอย่างตื่นเต้นดีใจ “แม่นางถัง เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย”
“…” อูเหมี่ยนเซิงหรือ?
อวี้ชิงลั่วกะพริบตา ดวงตากวาดไปมองทางด้านหลังเขา หนานหนานและเหมิงหลัวอวี้เองก็เห็นแล้ว ทั้งสองคนหยุดฝีเท้า จากนั้นก็ดึงเสิ่นอิงที่ทำหน้างุนงงเอาไว้
เสิ่นอิงเป็นกังวลเล็กน้อย นายท่านให้เขาติดตามแม่นางอวี้ นอกจากปกป้องแม่นางอวี้และหนานหนานแล้ว ก็ยังจะต้องคอยจัดการบุรุษทุกคนที่เข้าใกล้แม่นางอวี้ด้วย ไม่อย่างนั้นหากเกิดเรื่องที่ไม่ควรเกิดแล้วละก็ เขาจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทุกอย่าง
แต่มือสองข้างของเขาถูกเด็กสองคนดึงรั้งเอาไว้ เขาก็ไม่กล้าออกแรง กลัวจะทำให้เด็กสองคนกระเด็นออกไป ทำได้เพียงพูดเบาๆ “พวกเจ้าทำอะไรกันน่ะ รีบปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
หนานหนานรีบส่ายหน้า “ไม่ได้ คนผู้นั้นรู้จักน้องอวี้ ถ้าถูกเขาเห็น ต้องเป็นเรื่องแย่แน่”
“ท่านน้าชิงขยิบตาให้เรา บอกพวกเราว่าอย่าลงไปเจ้าค่ะ” เหมิงหลัวอวี้เครียดยิ่งกว่าเดิม มือที่จับเสิ่นอิงไว้ก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อ
นางคิดว่าหากอยู่ในดินแดนเหมิงก็มีโอกาสจะได้พบคนรู้จัก ดังนั้นนางจึงอยู่แต่ในโรงเตี๊ยมตลอดทั้งวัน
คิดไม่ถึง นี่เพิ่งจะออกจากโรงเตี๊ยมเป็นวันที่สอง ก็ได้พบคนรู้จักแล้วจริงๆ
เสิ่นอิงมองไปยังสีหน้าของเด็กทั้งสองคนแล้วก็ใจเต้น เมื่อมองไปยังอวี้ชิงลั่วที่หรี่ตาให้ก็รับรู้ว่าเรื่องราวคงซับซ้อน เขาจึงพยักหน้าและพาเด็กสองคนกลับไปที่ห้อง
จนกระทั่งประตูปิดลง อวี้ชิงลั่วก็ถอนหายใจเบาๆ ยิ้มแล้วกล่าวกับอูเหมี่ยนเซิง “ช่างบังเอิญนัก ไม่คิดเลยว่าจะได้พบท่านรองอูที่นี่”
“ข้าก็คิดไม่ถึง หากรู้แต่แรกว่าแม่นางถังเองก็จะมาที่ดินแดนเหมิง ตอนนั้นเราคงจะได้เดินทางมาด้วยกันแล้ว” อูเหมี่ยนเซิงยิ้มออกมาด้วยสีหน้าตื่นเต้น แต่เมื่อกล่าวออกมาก็รู้สึกว่าไม่ค่อยจะถูกต้องนัก อีกฝ่ายเป็นแม่หม้ายกับเด็กกำพร้า จะมาร่วมเดินทางไปกับเขาที่เป็นบุรุษตัวโตได้อย่างไร?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา แล้วเปลี่ยนเรื่องคุย “แม่นางมาที่ดินแดนเหมิงเพื่อมาร่วมงานประชุมสุราครั้งใหญ่หรือ?”
“จะว่าเช่นนั้นก็ได้” อวี้ชิงลั่วกล่าวเสียงเรียบ
อูเหมี่ยนเซิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย นิสัยของแม่นางผู้นี้ยังคงเหมือนเดิม ราวกับว่าไม่ชอบพูดคุย
อวี้ชิงลั่วเห็นเขาเช่นนั้นก็พยักหน้าให้เขา “ถ้าหากท่านรองอูไม่มีธุระอันใดแล้ว ข้าต้องขอตัวก่อน”
นางกล่าว จากนั้นก็เดินไปข้างหน้าอย่างองอาจ ในใจนับเลขเงียบๆ…หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า…
“รอเดี๋ยว แม่นางถัง” แน่นอนว่าเสียงของอูเหมี่ยนเซิงดังขึ้นมาจากด้านหลัง
ฝีเท้าของอวี้ชิงลั่วหยุดลงทันที นางปรับสีหน้า กลับสู่ท่าทางเย็นชาอีกครั้ง ก่อนหันกลับมากล่าว “ท่านรองอูยังมีธุระอันใดหรือ?”
ทางด้านบนมีเปิดประตูแง้มเปิดไว้เพียงเล็กน้อย หนานหนานที่เดินออกมาแอบมองอยู่ตรงช่องราวจับหัวเราะคิกคัก “ท่านแม่โกหกเก่งเกินไปแล้ว”
เสิ่นอิงเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เห็นๆ อยู่ว่านางเป็นคนมีนิสัยแปลกและอารมณ์แปรปรวน แต่ต่อหน้าของท่านรองอูผู้นั้น กลับกลายเป็นท่าทางเย็นชาและดูสูงส่ง เหมือนเขาได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของนางเลย
อูเหมี่ยนเซิงหัวเราะแห้งๆ ชี้ไปยังโต๊ะที่อยู่ข้างๆ ตัวอวี้ชิงลั่วแล้วกล่าว “หากแม่นางถังไม่รีบร้อนอันใด เรามาคุยกันทางด้านนั้นเถิด ตรงนี้คนเดินไปเดินมา…”
อวี้ชิงลั่วแสร้งทำเป็นลังเล หยุดไปชั่วคราว จากนั้นก็พยักหน้าแล้วกล่าว “ได้”
อูเหมี่ยนเซิงโล่งใจอย่างอธิบายไม่ถูก เขารู้สึกว่าแม่นางผู้นี้ท่าทางจะไม่สนใจอันใดเลย แม้ว่าพวกเขาจะรู้จักกัน นางก็ไม่มีทางจะเห็นแก่หน้าเขา ถ้าหากนางไม่พอใจ นางก็จะปฏิเสธออกมาได้ทุกเมื่อ
เขาไม่สามารถเข้าใจนิสัยใจคอของนางได้ ทุกครั้งที่รอคำตอบจากนาง ก็มักจะรู้สึกราวกับหัวใจจะวาย
ทั้งคู่เดินไปยังโต๊ะที่อยู่ตรงมุมแล้วนั่งลง อูเหมี่ยนเซิงให้เสี่ยวเอ้อนำชาหนึ่งกามาให้ พร้อมกับสั่งอาหารกินเล่นสองสามอย่าง
คิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถามอวี้ชิงลั่วเบาๆ “แม่นางถังกินอาหารเย็นแล้วหรือไม่ เช่นนั้น ข้าให้เสี่ยวเอ้อนำของกินเล่นมาให้แม่นางลองชิมดีหรือไม่”
“ไม่เป็นไร ลูกข้ายังรอให้ข้ากลับไปหา” เด็กสองคนที่รออยู่ข้างบนยังหิวกันอยู่เลย ถ้าหากนางมัวแต่กินข้าวอยู่ที่นี่ ไม่ต้องคิดว่าหนานหนานจะรอไม่ไหว แม้แต่เสิ่นอิงเองก็คงจะรีบถือดาบลงมาแล้วฟันโต๊ะแบ่งเป็นครึ่งซีกแน่นอน
อูเหมี่ยนเซิงนึกถึงลูกของนาง ก็พยักหน้าแล้วไม่ได้บังคับอันใด หลังเห็นว่าเสี่ยวเอ้อยกน้ำชามาให้ ก็ถามออกมา “ข้าอาจจะถามคำถามที่หยาบคายไปเสียหน่อย อาจจะไม่เหมาะสมนัก แม่นางโปรดยกโทษให้ข้าด้วย”
“ท่านรองอูมีอันใดจะพูดก็พูดมาเถิด”
อูเหมี่ยนเซิงเม้มปาก หยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถามเสียงต่ำ “แม่นางถัง… ใช้ยาได้ใช่หรือไม่”
“ไม่ได้เก่งอันใด เพียงแต่รู้ดีกว่าชายชุดขาวที่เจอเมื่อครั้งก่อนเล็กน้อยเท่านั้น”
ดวงตาของอูเหมี่ยนเซิงเป็นประกาย “ดีเหลือเกิน ข้า… ขออภัยด้วย ข้าตื่นเต้นไปหน่อย”
ถึงแม้อูเหมียนเซิงจะพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมนี้ หลีกเลี่ยงการพบเจอกับชายชุดขาว แต่ไม่ว่าเขาจะอยู่ไกลเพียงใด ผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็ยังส่งคนให้นำข่าวสารสถานการณ์ของเหมิงหรงมาแจ้งเขาอยู่
เดิมทีเข้าใจว่าได้พบกับลูกศิษย์ของหมอเฒ่าฉยงซานแล้ว อาการป่วยของเหมิงหรงจะหายดี
แต่คิดไม่ถึงว่าฝีมือของสองคนนั้นจะไม่เท่าไร คิดๆ ไปแล้วก็จริง ครั้งก่อนที่เขาพบกับชายชุดขาว ก็เป็นเพียงพวกแอบอ้างชื่อเสียงผู้อื่นมารังแกคนอ่อนแอเท่านั้นเองไม่ใช่หรือ
แม้ว่าหมอเฒ่าฉยงซานจะมีพลังมากเช่นดังข่าวลือ แต่เขาก็ไปรวบรวมสมุนไพร และยังไม่กลับมาจนถึงตอนนี้ ใครจะรู้ว่าเขาจะปรากฏตัวอีกครั้งตอนไหน เกรงว่ากว่าจะถึงตอนนั้น อาการของเหมิงหรงคงรักษาไม่หายแล้ว
เขาไม่อาจมัวแต่นั่งรออยู่เช่นนี้ได้ แต่คิดไม่ถึงว่าตอนที่เขากำลังร้อนรุ่มใจอยู่นั้นกลับได้พบกับแม่นางถังระหว่างทาง
เรื่องพวกนี้อวี้ชิงลั่วรู้อยู่แล้ว สองวันมานี้นางไปถามข่าวพวกนี้มา และรู้ว่าหมอเฒ่าฉยงซานไม่ได้ไปที่จวนผู้อาวุโสสกุลเยว่ และรู้อีกด้วยว่าศิษย์ทั้งสองของเขาก็ไม่สามารถช่วยเหลืออาการป่วยของเหมิงหรงได้
เรื่องพวกนี้ เดิมทีเป็นเรื่องส่วนตัวของจวนผู้อาวุโสสกุลเยว่ ไม่ใช่เรื่องที่จะสืบข่าวมาได้ง่ายๆ
เพียงแต่ว่าช่วงนี้ผู้อาวุโสสกุลเยว่ทำเพื่ออาการป่วยของเหมิงหรง ทำให้คนทั้งเมืองรู้เรื่องนี้ หลายคนต่างให้ความสนใจ แน่นอนว่าต้องมีข่าวออกมามากมาย ยิ่งไปกว่านั้น เหมิงหรงผู้นี้ยังมีปานรูปดอกไม้อยู่บนตัว และเร็วๆ นี้ยังมีศิษย์สองคนของหมอเฒ่าฉยงซานมาที่จวนผู้อาวุโสสกุลเยว่ ผู้คนจึงกระตือรือร้นที่จะสอบถามข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์นี้มากขึ้น
สำหรับอวี้ชิงลั่ว ถึงแม้นางจะไม่ได้ตั้งใจไปสอบถาม ข่าวคราวเหล่านี้ก็จะลอยมาถึงหูนางได้อยู่ดี นางรู้ว่าจากการวินิจฉัยของสองศิษย์หมอเฒ่าฉยงซานนั้น อาการของเหมิงหรงดีขึ้นประมาณหนึ่งแล้ว แต่ทว่าความเป็นจริงนั้นมันดีขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เดิมทีนางคิดจะใช้เวลาอีกวันสองวันก่อนจะเปิดตัวในฐานะหมอ คิดไม่ถึงว่าจะโชคดี ได้พบอูเหมี่ยนเซิงเสียก่อน จากคำเชิญของเขา เช่นนี้สถานะของนางก็จะสูงขึ้นแล้วไม่ใช่หรือ เงื่อนไขเช่นนี้ก็ยิ่งน่าคุยขึ้นหน่อย
แต่ทว่า เรื่องพวกนี้นางจะพูดกับอูเหมี่ยนเซิงไม่ได้
นางทำเพียงเลิกคิ้ว จิบชา แล้วถามเขา “ทำไม? ท่านรองอูไม่สบายหรือ? ต้องการให้ข้าตรวจดูหรือไม่?”
!!
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ภาวนาขอให้เสิ่นอิงอย่าโดนนายท่านเล่นงานเลย ภารกิจเสี่ยงชีวิตมาก
ไหหม่า(海馬)