อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 648 ศิษย์ของหมอเฒ่าฉยงซานมาแล้ว
ตอนที่ 648 ศิษย์ของหมอเฒ่าฉยงซานมาแล้ว
ตอนที่ 648 ศิษย์ของหมอเฒ่าฉยงซานมาแล้ว
ปี้เอ๋อร์ไม่เต็มใจ แต่เหมิงเคอเอาแต่จ้องมองนาง นางทำได้เพียงก้าวออกมาข้างหน้า แล้วกล่าวกับอวี้ชิงลั่วเสียงต่ำ “เมื่อครู่ข้าทำแม่นางขุ่นเคือง ข้าขอโทษเจ้าค่ะ”
“แม่นาง ปี้เอ๋อร์อายุยังน้อยนัก ท่านอย่าไปถือสาคนต้อยต่ำอย่างนางเลย อีกเดี๋ยวข้าจะต้องสั่งสอนนางให้ดีเป็นแน่ ในเมื่อแม่นางเป็นแขกของท่านพ่อ เช่นนั้นก็ถือเป็นแขกของข้าด้วย แม่นางต้องการอันใด เพียงบอกข้าก็ใช้ได้” เหมิงเคอยังคงยิ้มไม่เปลี่ยน ท่าทางสุขุมเยือกเย็นเช่นนั้น ช่างเหมาะกับตำแหน่งนายหญิงของบ้านจริงๆ
“ฮ่าๆๆ” ไม่ช้าก็มีเสียงหัวเราะดังมาจากด้านหลังของอวี้ชิงลั่ว
ตามด้วยชายที่ดูอายุกว่าครึ่งศตวรรษในชุดสีม่วงเดินออกมา ด้านหลังของเขาก็ยังมีอูเหมี่ยนเซิงใบหน้าเปื้อนยิ้มตามมาด้วย
เหมิงเคอรีบก้าวไปข้างหน้า ค่อยๆ ทำความเคารพ “ลูกขอทำความเคารพท่านพ่อเจ้าค่ะ”
“เอาล่ะ เคอเอ๋อร์ ไม่ต้องมีพิธีรีตองหรอก” ผู้อาวุโสสกุลเยว่ดูพอใจกับคำพูดคำจาของเหมิงเคอเป็นอย่างมาก มองนางด้วยสวยตาเอ็นดูยิ่ง
อวี้ชิงลั่วตื่นตกใจอยู่ข้างใน ผู้อาวุโสสกุลเยว่เรียกขานเหมิงเคออย่างสนิทสนมเช่นนี้ ดูท่าในใจของผู้อาวุโสสกุลเยว่ เหมิงเคอผู้นี้คงไม่เหมือนลูกสะใภ้ธรรมดาทั่วไป เกรงว่าผู้อาวุโสสกุลเยว่คงมองนางเป็นดั่งบุตรสาวในไส้มาตั้งนานแล้ว
สถานะของเหมิงเคอในจวนผู้อาวุโสสกุลเยว่นั้นสูงส่ง ยิ่งกว่าที่นางจินตนาการไว้เสียอีก
“ผู้อาวุโส นี่คือแม่นางถังผู้นั้นที่ข้าเล่าให้ท่านฟังขอรับ” อูเหมี่ยนเซิงเดินมาด้านข้างอวี้ชิงลั่วแล้วกล่าวแนะนำ “ตอนแรก นางคือคนที่รักษาพิษให้ศิษย์รองของหมอเฒ่าฉยงซาน ฝีมือการแพทย์ยอดเยี่ยมมาก”
เหมิงเคอตกตะลึง ทันใดนั้นก็เข้าใจ คนผู้นี้คือหมอที่จะมารักษาสามีของนาง ในตอนนั้นเองเมื่อมองไปยังแววตาของอวี้ชิงลั่ว ก็ปรากฏความอ่อนโยนอยู่ในนั้น
จากนั้นผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็มองอวี้ชิงลั่วด้วยแววตาเฉียบคม
ทุกวันนี้เขาได้พบเจอผู้คนมากมาย หมอหลายคนที่มีชื่อเสียงต่างก็เป็นพวกโง่เง่า แต่กลับทำตัวสูงส่ง
แม่นางถังผู้นี้ แม้ภายนอกจะดูไม่ได้หยิ่งยโสอันใด แต่แววตาของนางกลับเป็นประกายนัก ราวกับว่าไม่ว่าจะมีปัญหาอันใดตกมาที่นาง นางก็จะแก้ไขทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย
ผู้อาวุโสสกุลเยว่หรี่ตา ยิ้มออกมาแล้วถาม “ไม่ทราบว่าแม่นางถังร่ำเรียนมาจากที่ใด อายุยังน้อยแต่กลับมีฝีมือถึงเพียงนี้ น่าทึ่งเสียจริง”
ทำเป็นพูด ไม่ใช่ว่าไม่มั่นใจในตัวนางหรอกหรือ
อวี้ชิงลั่วเย้ยหยันอยู่ในใจ มองไปยังอูเหมี่ยนเซิงแล้วกล่าว “ท่านรองอู คำพูดเมื่อวานของข้า ท่านได้บอกกล่าวท่านผู้อาวุโสแล้วใช่หรือไม่”
อูเหมี่ยนเซิงผงะ มองไปยังผู้อาวุโสสกุลเยว่ สีหน้าของอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นไม่สู้ดี เขากล่าวอย่างรีบร้อน “แม่นางมีข้อเรียกร้องอันใด เหตุใดไม่กล่าวกับท่านผู้อาวุโสโดยตรงเลยเล่า คำที่ข้ากล่าว ให้ท่านผู้อาวุโสกล่าวจะไม่น่าเชื่อถือยิ่งกว่าหรือ”
สองวันมานี้ผู้อาวุโสสกุลเยว่อารมณ์ไม่ดีนัก ศิษย์รองของหมอเฒ่าฉยงซานผู้นั้นถือว่าเป็นคนอวดดีและโอหัง ไม่มีมารยาทกับผู้อื่นแม้แต่น้อย กับตนแล้วก็ไม่ได้ต่างอันใด
ตอนนี้กลับมีคนที่ไม่เห็นตนในสายตาเข้ามาอีก ในใจเขาก็ยิ่งโมโหมากขึ้น
อูเหมี่ยนเซิงเห็นดังนั้นก็เป็นกังวล รีบกระซิบข้างหูของเขา “ท่านผู้อาวุโส อารมณ์ของแม่นางถังนั้นค่อนข้างแปลก เมื่อวานนี้…” เขาเคยเตือนผู้อาวุโสสกุลเยว่ไปแล้ว ว่าให้เขาเตรียมใจให้พร้อมเสียก่อน
แต่ดูจากตอนนี้ ท่าทางอาการป่วยของเหมิงหรงจะทำเอาผู้อาวุโสสกุลเยว่หมดความอดทนไปไม่น้อย
ผู้อาวุโสสกุลเยว่ตะลึงงัน แต่ก็ยังรับฟังคำพูดของอูเหมี่ยนเซิง จากนั้นก็ค่อยๆ หายใจออก ยิ้มกล่าว “แม่นางถัง มีเรื่องอันใด เราก็ไปคุยกันข้างในเถิด เจ้าโปรดวางใจ ขอเพียงเจ้ารักษาหรงเอ๋อร์ให้หายได้ ข้าก็ยินดีรับปากเจ้าทุกเรื่อง”
“หืม” อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้ว จู่ๆ ก็มองไปยังเหมิงเคอที่อยู่ข้างๆ ยิ้มแล้วกล่าว “รวมไปถึง… ให้นายน้อยเหมิงหย่ากับฮูหยินด้วยหรือไม่เจ้าคะ”
“…”
“…”
“…”
คนไม่กี่คนตรงนั้นอ้าปากค้างไปตามๆ กัน สีหน้าของเหมิงเคอซีดไปในทันที นิ้วของนางจิกแขนปี้เอ๋อร์แน่น หยิกเสียจนนางแทบจะร้องไห้ออกมา
สีหน้าของอูเหมี่ยนเซิงปรากฏความลำบากใจ เขาเองก็ไม่เข้าใจ แม่นางถังคนดีเหตุใดจู่ๆ ถึงยื่นข้อเสนอเช่นนี้ขึ้นมาได้
ผู้อาวุโสสกุลเยว่มุ่นคิ้ว กล่าวเสียงทุ้มต่ำ “แม่นางถัง เคอเอ๋อร์ไม่เคยทำให้แม่นางถังขุ่นเคืองใจมาก่อน เหตุใดแม่นางจึงต้องต่อต้านนางด้วยเล่า”
“ข้าเพียงแต่ล้อเล่นเท่านั้นเองเจ้าค่ะ ท่านผู้อาวุโสจริงจังเกินไปแล้ว” อวี้ชิงลั่วยิ้มอย่างเย็นชา “ข้าเพียงแค่สงสัย ว่าผู้อาวุโสสกุลเยว่จะเสียสละเพื่อนายน้อยเหมิงได้ถึงขนาดไหนก็เท่านั้นเจ้าค่ะ”
“ขอเพียงรักษาอาการป่วยของหรงเอ๋อร์ได้ ต่อให้ต้องเอาชีวิตเข้าแลก ข้าก็ไม่เสียดาย”
“ท่านผู้อาวุโส…” อูเหมี่ยนเซิงตกตะลึง
“ท่านพ่อ…” เหมิงเคอเองก็อุทานออกมาเช่นกัน
อวี้ชิงลั่วกลับยิ้มแบบไม่ใช่รอยยิ้มแล้วมองผู้อาวุโสสกุลเยว่แวบสายตาหนึ่ง ยักไหล่พร้อมกล่าว “ไปกันเถอะเจ้าค่ะ เข้าข้างใน ข้าขอดูก่อนว่าอาการป่วยของนายน้อยเป็นเช่นไร”
อูเหมี่ยนเซิงรีบดึงแขนเสื้อของผู้อาวุโสสกุลเยว่ กล่าวเสียงเบา “เหมิงหรงสำคัญกว่าขอรับ”
ผู้อาวุโสสกุลเยว่พยักหน้า “แม่นางถัง เชิญทางนี้”
อวี้ชิงลั่วก้าวเข้าประตูไปด้วยรอยยิ้ม ‘เย่เซ่อ’ เงียบสงบมาก ทั้งอาคารดูเหมือนจะไร้เสียง สาวรับใช้เดินกันอย่างระมัดระวังอย่างยิ่ง ไม่กล้าเคลื่อนไหวใดๆ แม้แต่เสียงพูดคุยกันก็ยังไม่มี
อวี้ชิงลั่วมองอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตามผู้อาวุโสสกุลเยว่และคนอื่นๆ เข้าไปสู่ห้องพักของเหมิงหรง
ใบหน้าของชายที่อยู่บนเตียงซีดเซียว แต่คิ้วและดวงตากลับดูเปล่งปลั่งหล่อเหลา อวี้ชิงลั่วสบถในใจอีกครั้งเกี่ยวกับพันธุกรรมของชาวเหมิง เหมิงหรงผู้นี้ถึงแม้จะพิการ แต่ก็เป็นชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง
ทว่า… ยังคล้ายคลึงกับเหมิงหลัวอวี้ด้วย
“แม่นางถัง เชิญ” ผู้อาวุโสสกุลเยว่เคลื่อนตัวหลีกทางให้ครึ่งหนึ่ง ให้คนนำเก้าอี้มาวางไว้ที่ข้างเตียง
อวี้ชิงลั่ววางนิ้วของนางบนจุดชีพจรของเหมิงหรง แล้วจับอยู่เงียบๆ พักหนึ่ง
อูเหมี่ยนเซิงประหม่าเล็กน้อย เขาเชื่อมาตลอดว่าทักษะทางการแพทย์ของอวี้ชิงลั่วยอดเยี่ยม แม้แต่พิษของศิษย์หมอเฒ่าฉยงซานก็ยังรักษาได้ อีกทั้งหมอที่กลับไปอย่างเงียบๆ เช่นนั้น คงไม่ใช่ไร้ฝีมือเป็นแน่
ผู้อาวุโสสกุลเยว่กลับไม่ได้ตั้งความหวังมากมายอันใด ช่วงหลายวันมานี้เขาก็เข้าใจแล้ว ยิ่งคาดหวังมาก ก็ยิ่งผิดหวังมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ศิษย์ทั้งสองคนของหมอเฒ่าฉยงซานยังไม่สามารถรักษาลูกเขาให้หายได้ นับประสาอะไรกับเด็กสาวที่ไม่เคยได้ยินชื่อแซ่มาก่อน
ผ่านไปครู่หนึ่ง อวี้ชิงลั่วก็ชักมือกลับมา อูเหมี่ยนเซิงรีบถาม “แม่นางถัง เป็นอย่างไรบ้าง”
อวี้ชิงลั่วเม้มปาก เงียบไปพักใหญ่ เหลือบตาขึ้นถามผู้อาวุโสสกุลเยว่ “นายน้อยเหมิงหมดสติมานานเท่าใดแล้วเจ้าคะ”
“ประมาณหนึ่งเดือนกว่าได้แล้ว” เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ อารมณ์ของผู้อาวุโสสกุลหมิงก็หดหู่ลง “เดิมทีอาการของเขาร้ายแรงกว่านี้ สีหน้าเองก็ซีดยิ่งกว่านี้ สองวันมานี้ศิษย์ทั้งสองคนของหมอเฒ่าฉยงซานมาดูอาการให้หรงเอ๋อร์ ก็ช่วยให้สีหน้าของเขาดูดีขึ้นมาหน่อย”
อวี้ชิงลั่วกระตุกมุมปาก ไม่ต้องเตือนนางก็ได้ว่าที่นี่มีหมอฝีมือดีอยู่สองคน
“ผู้อาวุโสสกุลเยว่ ข้าต้องการเพียงครึ่งประโยคแรกที่ท่านกล่าวเท่านั้นเจ้าค่ะ”
สีหน้าของผู้อาวุโสสกุลเยว่ไม่สู้ดี อารมณ์ของแม่นางถังผู้นี้… ช่างไม่น่าพอใจเสียจริงๆ
ขณะกล่าว คนรับใช้ด้านนอกก็เดินเข้ามา การเคลื่อนไหวของเขาเบามาก แต่ค่อนข้างรีบร้อน
เดินมาตรงด้านหน้า เขามองอวี้ชิงลั่วแวบหนึ่ง จากนั้นก็เข้าใกล้ที่หูของผู้อาวุโสสกุลเยว่ กล่าวด้วยเสียงต่ำ “นายท่าน ศิษย์ทั้งสองคนของหมอเฒ่าฉยงซานมาแล้วขอรับ”
!!
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
นัดหมอซ้อนกันเหรอ? หมอกลับมาเจอกันจะเป็นยังไงกันนะ
ไหหม่า(海馬)