อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 652 หมอเฒ่าฉยงซานมาแล้ว
ตอนที่ 652 หมอเฒ่าฉยงซานมาแล้ว
ตอนที่ 652 หมอเฒ่าฉยงซานมาแล้ว
อวี้ชิงลั่วกลับมามีสติ นางมองผู้อาวุโสสกุลเยว่ แล้วมองไปที่อูเหมี่ยนเซิงที่กำลังวิตกกังวล
จากนั้นครู่หนึ่งนางก็พูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านผู้อาวุโส ข้าเพิ่งบอกไปเมื่อสักครู่นี้ว่าการปรากฏตัวของฮูหยินจะส่งผลต่อการรักษาคุณชายเหมิง ดูสิ เมื่อครู่นี้ข้าแค่คิดเรื่องการรักษาคุณชายเหมิงอยู่ ทว่าท่านและฮูหยินเหมิงกลับขัดจังหวะข้า ด้วยการถามข้าว่าจะกินอะไร ปรากฏว่าที่นี่มีข้าคนเดียวที่ต้องการแข่งกับเวลา เพื่อรักษาอาการป่วยของคุณชายเหมิง แต่พวกท่านกลับมัวกังวลเรื่องมารยาทของข้ามากกว่า เฮ้อ… ถ้าเช่นนั้น ฮูหยิน เรามาปรึกษากันดีกว่าว่ามื้อเที่ยงจะกินอะไรดี หรือว่าทุกคนชอบกินรสหวานหรือรสเผ็ด ส่วนอาการป่วยของสามีเจ้าก็ปล่อยผ่านไปก่อน อย่างไรเสียเจ้าก็ยังไม่ได้ถามถึงอาการของสามีเจ้าเลยตั้งแต่เข้ามา ดูเหมือนจะไม่ค่อยสนใจเท่าใดอยู่แล้ว”
สีหน้าของเหมิงเคอเปลี่ยนไปทันที นางรีบส่ายหน้า “แม่นางถัง เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น”
ผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งเช่นกัน และรู้สึกละอายมากหลังจากได้ยินคำพูดของอวี้ชิงลั่ว แต่เมื่อได้ยินว่าเหมิงเคอไม่เคยถามเกี่ยวกับอาการของเหมิงหรงเลยตั้งแต่แรก เขาก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
แม้ว่าเขาจะใจดีกับเหมิงเคอจริง ๆ แต่ไม่ว่านางจะเก่งเพียงใด ก็ไม่อาจเทียบกับลูกชายของเขาเองได้
ดังนั้นเมื่อผู้อาวุโสสกุลเยว่มองเหมิงเคออีกครั้ง สีหน้าของเขาก็เรียบเฉยกว่าเดิมมาก “เคอเอ๋อร์ ไปจัดการงานของเจ้าได้แล้ว ให้แม่นางถังอยู่ที่นี่”
เหมิงเคออ้าปาก แต่ไม่สามารถเอ่ยคำใดต่อได้อีกแล้ว นางย่อเข่าทำความเคารพและถอยออกไป
ทันทีที่นางเดินออกจากเรือน ‘เย่เซ่อ’ นางก็ไม่อาจรักษารอยยิ้มไว้ได้อีกต่อไป
สตรีผู้นั้นมีเล่ห์เหลี่ยมร้ายกาจนัก นางรู้จุดอ่อนของผู้อาวุโสสกุลเยว่จึงโจมตีอย่างรุนแรง
“ฮูหยิน แม่นางถังชักจะเย่อหยิ่งเกินไปแล้วเจ้าค่ะ” ปี้เอ๋อร์รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย หลังจากเดินออกมาได้สองสามก้าว นางก็หันหน้าไปมองศาลาด้วยสายตาแข็งกร้าว
เหมิงเคอเย้ยหยัน “ก็แค่พอมีทักษะทางการแพทย์นิด ๆ หน่อย ๆ ทะนงตัวเสียเหลือเกิน”
“ฮูหยิน ท่านคิดว่า… นางจะรักษาคุณชายได้จริงหรือไม่เจ้าคะ?” ปี้เอ๋อร์อดสงสัยไม่ได้ เมื่อนางนึกถึงท่าทางของอวี้ชิงลั่วเมื่อสักครู่นี้
มือของเหมิงเคอจิกผ้าคลุมแน่น นางหรี่ตาลงเล็กน้อย “แม้แต่ศิษย์ของหมอเฒ่าฉยงซานก็ยังรักษาเขาไม่ได้ นางอายุยังน้อย จะมีความสามารถถึงเพียงนั้นเลยหรือ? นางเป็นแค่คนหลอกลวงเท่านั้น”
“แต่ว่า…” นางวางยาพิษเถาเหวินฮั่น และยาพิษนั้นทำให้ว่านเผิงหลงทำอะไรไม่ถูก คนเช่นนี้จะเป็นแค่คนหลอกลวงจริงหรือ?
เหมิงเคอหันกลับมามองปี้เอ๋อร์ นางย่อมรู้ว่าปี้เอ๋อร์กำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อทั้งสองเดินมาถึงสะพาน เหมิงเคอก็พูดด้วยเสียงแผ่วเบา “แม่นางถังคนนั้นต้องมีพิษที่หายากอยู่กับตัว แต่ข้าไม่เชื่อหรอกว่านางเป็นหมอที่มีทักษะทางการแพทย์ยอดเยี่ยม เมื่อสักครู่นี้คนอื่น ๆ อาจไม่ได้สังเกตเห็น แต่ข้าเห็นชัดเจนว่าเมื่อนางจับชีพจรของใต้เท้า ท่าทางของนางผิดและดูไม่ถูกต้องเอาเสียเลย หมอปกติจะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร?”
“การจับชีพจรหรือเจ้าคะ?”
“ช่วงนี้มีหมอมากมายมาที่คฤหาสน์ ข้าเห็นการจับชีพจรของทุกคน ไม่ว่าฝีมือหมอจะแย่เพียงใด แต่ก็ไม่มีใครวางตำแหน่งนิ้วผิดเหมือนแม่นางถัง อีกทั้งนางยังไปเปิดเปลือกตาใต้เท้าออกดู แนบกายลงบนตัวของใต้เท้าเพื่อฟังการเคลื่อนไหว และบีบนิ้วและข้อมือของใต้เท้าด้วย วิธีการแปลกประหลาดเช่นนี้จะเป็นสิ่งที่หมอทั่วไปทำได้อย่างไร?”
ปี้เอ๋อร์นิ่งคิด และรู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลมาก คาดว่าแม่นางถังอาจได้เรียนรู้กลอุบายที่ไม่เหมาะสมในยุทธจักรมา และนำมาหลอกลวงเจ้านายและคนอื่น ๆ
หากฮูหยินไม่ระวังและไม่คอยสังเกตให้ดี เห็นทีคงจะถูกผู้หญิงคนนั้นหลอกไปแล้วไม่ใช่หรือ?
“เช่นนั้น…” ปี้เอ๋อร์ขมวดคิ้ว นางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติอีกครั้ง “เช่นนั้นแม่นางถังก็ไม่ใช่หมอ หากนางบุ่มบ่ามรักษาไปเช่นนั้น นางจะไม่ทำร้ายคุณชายหรือเจ้าคะ? หากมีอะไรเกิดขึ้นกับนายน้อยจริง ๆ จะทำอย่างไรเจ้าคะ?”
เหมิงเคอก้าวไปข้างหน้า และเห็นคนรับใช้วิ่งมาหาจากระยะไกล นางเลิกคิ้วและตอบคำถามของปี้เอ๋อร์ “ลูกศิษย์สองคนของหมอเฒ่าฉยงซานไม่ได้อยู่ในคฤหาสน์หรือ? และข้าไม่คิดว่าท่านผู้อาวุโสจะไว้ใจแม่นางถังเต็มที่ ข้าเดาว่าเมื่อแม่นางถังสั่งยาแล้ว ท่านผู้อาวุโสจะต้องนำไปให้ว่านเผิงหลงดูก่อนแน่นอน”
จู่ ๆ ปี้เอ๋อร์ก็นึกขึ้นได้ และนางก็ชื่นชมฮูหยินของนางมากยิ่งขึ้น
เดิมทีนางต้องการจะถามอะไรบางอย่างต่อ แต่คนรับใช้ที่เพิ่งรีบวิ่งมาหามายืนหอบหายใจอยู่ตรงหน้าพวกนางแล้ว
“ฮู ฮูหยิน…”
“อาเซียง เกิดอะไรขึ้น เหตุใดเจ้าดูรีบร้อนนัก” ปี้เอ๋อร์ถาม
อาเซียงสูดลมหายใจอีกครั้ง จากนั้นมองไปรอบ ๆ และพบว่ามีคนรับใช้อยู่ที่นี่มากเกินไป จึงเป็นการยากที่จะแจ้งข่าวนี้
นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเอนตัวไปใกล้หูของเหมิงเคอและกระซิบสองสามคำ
เหมิงเคอตกตะลึงไปชั่วขณะ ทันใดนั้นสายตาของนางก็เต็มไปด้วยความพึงพอใจ และนางก็ให้รางวัลอาเซียงด้วยเหรียญเงินเล็กน้อย
อาเซียงรีบขอบคุณนาง ก่อนรับเงินแล้ววิ่งจากไป
ปี้เอ๋อร์อิจฉาเล็กน้อย นางหน้ามุ่ย แต่ยังคงพยายามทำเสียงให้สงบ “ฮูหยิน มีเรื่องดี ๆ อะไรเกิดขึ้นหรือเจ้าคะ?”
“แน่นอน” นัยน์ตาของเหมิงเคอเป็นประกาย “สวรรค์เข้าข้างข้าจริง ๆ เมื่อครู่นี้ข้ากำลังคิดว่าจะหาข้อบกพร่องของแม่นางถังและเปิดโปงกลอุบายของนางได้อย่างไร คาดไม่ถึงเลยว่าโอกาสจะมาถึงหน้าประตูเร็วถึงเพียงนี้”
ปี้เอ๋อร์สับสน โอกาสหรือ? มาถึงหน้าประตูหรือ?
“ไป ตามข้าไปที่ประตู ข้าจะไปรับเขาด้วยตัวเอง” เหมิงเคอหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนยกชายกระโปรงขึ้น แล้วรีบเดินไปที่ประตู
ปี้เอ๋อร์เอียงศีรษะด้วยความฉงนสนเท่ห์ แต่นางไม่กล้าเดินช้าอีกต่อไป และรีบเดินตามเจ้านายไปที่ประตูด้วยสีหน้างุนงง
ยามที่เฝ้าประตูชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นนาง และรีบเข้ามาทักทายนาง
เหมิงเคอโบกมือแล้วถามว่า “เขาอยู่ที่ใด?”
“นั่นขอรับ” เด็กหนุ่มชี้ไปยังชายที่ยืนหันหลังอยู่นอกประตู แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
เหมิงเคอมองตามนิ้วของเขาไป และเห็นชายร่างผอมที่กำลังถือตะกร้ายายืนแหงนมองท้องฟ้าอยู่
นางรีบก้าวเข้าไปหา จนกระทั่งไปยืนอยู่ข้างหลังชายคนนั้น แล้วถามเบา ๆ ว่า “ขออภัยท่านผู้เฒ่า ท่านคือหมอเฒ่าฉยงซานใช่หรือไม่?”
เมื่อได้ยินเสียง ชายคนนั้นก็หันกลับมาช้า ๆ
เมื่อเหมิงเคอเห็นใบหน้าของเขาชัดเจนก็ตกใจ แม้ว่าหมอเฒ่าฉยงซานผู้นี้จะแก่จนเคราหงอกแล้ว แต่ใบหน้าของเขายังเด็กมากจนดูเหมือนชายวัยกลางคน นี่หรือคือโฉมหน้าที่แท้จริงของหมอเฒ่าฉยงซาน? ดูแลใบหน้าได้เก่งจริง ๆ อีกทั้งฝีมือแพทย์ก็ไม่ธรรมดา
หมอเฒ่าฉยงซานเหลือบมองนาง ใบหน้าที่ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันของเขาเรียบเฉย เขาถามอย่างเฉยเมยว่า “ศิษย์ทั้งสองของข้าอยู่ในบ้านของเจ้าหรือไม่?”
เหมิงเคอรีบพยักหน้า “ใช่เจ้าค่ะ บัดนี้คุณชายว่านและคุณชายเถาอยู่ในคฤหาสน์ ท่านหมอโปรดเข้ามาเถิดเจ้าค่ะ”
“ไม่จำเป็น บอกให้พวกเขาออกมา”
เหมิงเคอขมวดคิ้ว ว่ากันว่าหมอเฒ่าฉยงซานใจดีมากไม่ใช่หรือ? ดูอย่างไรก็ไม่ค่อยใจดีนักไม่ใช่หรือ?
แต่ในขณะนี้นางต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้หมอเฒ่าฉยงซานเข้ามาในคฤหาสน์ ดังนั้นนางจะไม่มีทางส่งตัวลูกศิษย์ทั้งสองของเขาออกมาแน่
สีหน้าของเหมิงเคอเปลี่ยนไป หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางก็ถอนหายใจ “ท่านหมอ ข้าเองก็ต้องการให้คุณชายทั้งสองออกมาเช่นกัน แต่… คุณชายเถาเขา… ถูกคนร้ายวางยาพิษเจ้าค่ะ”
………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หมอเฒ่าฉยงซานมาจริงๆ เหรอ จะสู้หมอปีศาจได้หรือเปล่านะ
ไหหม่า(海馬)