อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 656 รักษาอะไรกัน ไปเถิด
ตอนที่ 656 รักษาอะไรกัน ไปเถิด
ตอนที่ 656 รักษาอะไรกัน ไปเถิด
“หืม?” หมอเฒ่าฉยงซานประหลาดใจ
อวี้ชิงลั่วชี้ไปข้างหลังเขา แล้วถอนหายใจ “ครั้งแรกที่ข้าพบคุณชายเถา เขาขู่ข้า ครั้งที่สองที่เราพบกัน เขาก็ต้องการชีวิตข้าอีก โดยบอกว่าข้าเป็นเพียงสตรีตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีแรงแม้แต่จะฆ่าไก่ เหตุใดข้าจึงโชคร้ายนัก? โชคดีที่ข้ายังพอเอาตัวรอดได้ และโชคดีที่ข้ามีทักษะทางการแพทย์ ข้าจึงเอาชนะเขาได้ในที่สุด แต่ทันทีที่เขาได้ยินว่าท่านกำลังจะมา เขาก็พูดจาเยาะเย้ยถากถางข้า และบอกว่าให้ข้าคอยดูให้ดี บอกข้าสิ บอกข้าสิว่าท่านพอจะมีความหวังในตัวเขาเป็นพิเศษหรือไม่?”
เถาเหวินฮั่นอ้าปากค้าง ทันทีที่กลับมามีสติ ใบหน้าของเขาก็พลันซีดลง
เขา เขา เขาคาดไม่ถึงมาก่อนว่าอาจารย์จะรู้จักสตรีผู้นี้ และเขาไม่เคยเห็นอาจารย์มีท่าทางเช่นนี้มาก่อน
หมอเฒ่าฉยงซานหันไปจ้องมองเถาเหวินฮั่นอย่างเดือดดาล “บอกข้าสิว่านางพูดจริงหรือไม่?”
“ข้า… ข้า…” คนที่เถาเหวินฮั่นกลัวที่สุดคือหมอเฒ่าฉยงซานและว่านเผิงหลง แต่เทียบกับว่านเผิงหลงแล้ว เขากลัวอาจารย์ที่ไม่สนใจทุกอย่างนอกจากเรื่องทักษะทางการแพทย์คนนี้มากกว่า
ปกติอาจารย์ไม่ใช่คนที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย แต่เมื่อเขาโกรธ ไม่ต้องพูดเลยว่าผลลัพธ์ที่ตามมาจะร้ายแรงเพียงใด
เมื่อเห็นเขาพูดตะกุกตะกัก อวี้ชิงลั่วก็ส่ายหน้าและถอนหายใจ “ไม่เพียงแค่นั้น ตอนที่ข้าบอกว่าข้ารู้จักหมอเฒ่าฉยงซาน เขาก็ยังไม่เชื่อข้าและบอกว่าข้าเป็นคนโกหก เฮ้ ผู้แซ่เถา ตอนนี้ข้ายังเป็นคนโกหกอยู่อีกหรือไม่?”
ว่านเผิงหลงถอนหายใจ แม่นางถังคนนี้รู้วิธีเติมเชื้อไฟจริง ๆ และคุ้นเคยกับการใช้วาจาเชือดเฉือนเช่นนี้เป็นอย่างดี
ทันใดนั้นหมอเฒ่าฉยงซานก็ก้าวเข้าไปตบกะโหลกเถาเหวินฮั่นอย่างแรง “เจ้าคนไร้ประโยชน์ นอกจากออกมาทำชั่วข้างนอกแล้ว เจ้าทำอะไรให้ข้าได้อีก? ลั่วลั่วอายุน้อยกว่าเจ้าและเป็นสตรีด้วย แต่นางมีความสามารถล้ำเลิศถึงเพียงนี้ ไม่เพียงแต่เจ้าจะหยาบคายกับนางเท่านั้น แต่เจ้ายังขู่นางอีกด้วย เจ้าอยากตายหรือ?”
เถาเหวินฮั่นอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา เขาก้มหน้านิ่งไปชั่วขณะ
มีบางอย่างผิดพลาด ตอนนี้เขาคือคนที่เจ็บปวด เขาคือคนที่ถูกวางยาพิษ และเขาคือคนทุกข์ทรมานและหวาดกลัว
แล้วเขาจะคร่ำครวญไปเพื่ออะไร?
ว่านเผิงหลงทนไม่ได้อีกต่อไป เขารีบก้าวเข้าไปพูดว่า “ท่านอาจารย์ เหวินฮั่นถูกวางยาพิษ เขา…”
“ถูกวางยาพิษหรือ?” หมอเฒ่าฉยงซานตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ตอนนี้เขานึกถึงแต่เรื่องอวี้ชิงลั่ว ในฐานะศิษย์ที่ไม่เป็นที่โปรดปราน เขาจึงไม่ได้ตรวจดูอย่างระมัดระวัง ตอนนี้เขาตั้งสติได้แล้ว และพบว่ามีบางอย่างผิดปกติบนใบหน้าของศิษย์
แต่วินาทีต่อมา เขาก็จำสิ่งที่เหมิงเคอพูดได้ทันที
เมื่อรวมกับสถานการณ์ในห้องนี้ คนที่วางยาพิษเหวินฮั่นก็คือลั่วลั่วหรือ?
ว่านเผิงหลงมองหน้าของอาจารย์อย่างระมัดระวัง แล้วพูดเบา ๆ ว่า “ท่านอาจารย์ ดูสิ เราควรจะล้างพิษให้เหวินฮั่นก่อนดีหรือไม่ขอรับ?”
เนื่องจากอาจารย์รู้จักแม่นางถัง จึงน่าจะเจรจาเรื่องนี้ได้ง่ายขึ้น
“ยาพิษอะไร?” หมอเฒ่าฉยงซานตะคอกอย่างเย็นชา ก่อนจับมือของเถาเหวินฮั่นและคลำชีพจร เมื่อทราบว่าพิษนี้ไม่ร้ายแรงถึงชีวิต เขาก็ตำหนิทันที “เหวินฮั่นไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นนักปรุงยาพิษระดับปรมาจารย์หรือ? ปล่อยให้เขาหาทางแก้พิษเอง”
“…” เถาเหวินฮั่นร้องไห้ในใจเงียบ ๆ
“…” ว่านเผิงหลงเม้มปาก ท่านอาจารย์พูดง่ายเกินไปหรือไม่?
แต่อวี้ชิงลั่วถอนหายใจออกมา และทันใดนั้นก็เรียกว่านเผิงหลง เมื่ออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นก็พบว่าอวี้ชิงลั่วขว้างยามาให้เขา
ขณะที่ยังคงประหลาดใจ เขาก็ได้ยินอวี้ชิงลั่วพูดว่า “นี่คือยาแก้พิษ ให้เขากินเสีย เห็นหน้าอาจารย์ของเจ้าแล้วข้าก็อยากจะมีเมตตา” ที่นางวางยาพิษเถาเหวินฮั่น เดิมทีแค่ต้องการสั่งสอนบทเรียนแก่เขา และทำให้เขาง่วนอยู่กับการหาทางถอนพิษรักษาตัวเอง เพื่อจะได้ไม่ทำตัวโอหังสร้างปัญหาให้นางอีก
ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว เพียงคำพูดของหมอเฒ่าฉยงซานก็สามารถทำให้เขาเงียบได้แล้ว
ว่านเผิงหลงพยักหน้า และรีบให้เถาเหวินฮั่นกินยา
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เมื่อเขาจับชีพจรของเถาเหวินฮั่นอีกครั้ง เขาก็พบว่าพิษในร่างกายของเขาค่อย ๆ หายไปช้า ๆ จึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก และหันไปขอบคุณอวี้ชิงลั่ว
หมอเฒ่าฉยงซานลูบเคราสีเทาของเขา ก่อนเหลือบมองเถาเหวินฮั่นด้วยสายตาดุดัน และวิ่งไปข้างอวี้ชิงลั่ว “ลั่วลั่ว เจ้าคิดอย่างไรกับข้อเสนอเมื่อสักครู่นี้ของข้า?”
“ข้อเสนออะไร?”
“ข้าเสนอว่าจะเป็นอาจารย์ของเจ้า”
“…ท่านฝันไปเถิด”
หมอเฒ่าฉยงซานขมวดคิ้ว จากนั้นครู่หนึ่งก็กัดฟันพูดอย่างหนักแน่นว่า “เช่นนั้นก็เปลี่ยนเสีย ให้เจ้าเป็นอาจารย์ของข้าแทน”
“!!!” อวี้ชิงลั่วตระหนักได้ว่าเขากับนางมีช่องว่างระหว่างวัยที่ห่างกันมาก
สักพักนางก็ตบหน้าผากตัวเอง และพูดอย่างจำใจว่า “ท่านไม่ได้ต้องการหาใครสักคนมาปรึกษาหารือเรื่องทักษะทางการแพทย์กับท่านหรือ? ข้าสัญญาว่าข้าจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับท่านเป็นครั้งคราว และข้าจะไม่จากไป โดยไม่บอกลาอีกในอนาคต”
“นั่นคือสิ่งที่เจ้าพูดแล้วนะ” หมอเฒ่าฉยงซานดีใจมาก และไม่คัดค้านอีกต่อไป
ผู้อาวุโสสกุลเยว่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กลืนน้ำลาย เขาตกใจเกินกว่าจะตกใจ จนพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว
จนกระทั่งเขาเห็นว่าหมอเฒ่าฉยงซานดูเหมือนจะพาอวี้ชิงลั่วไปที่อื่นเพื่อระลึกถึงวันเก่า ๆ เขาก็สะดุ้งทันทีและกลับมามีสติ จึงรีบก้าวเข้าไปพูดว่า “ท่านหมอโปรดอยู่ต่อก่อนเถิด”
เขามองอวี้ชิงลั่ว เมื่อนึกถึงสิ่งที่ทำลงไปเมื่อสักครู่นี้ เขาก็ค่อนข้างอับอาย และพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “แม่นางถัง อาการป่วยของหรงเอ๋อร์…”
รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของอวี้ชิงลั่ว นางมองไปที่เหมิงหรงบนเตียง แล้วพูดด้วยเสียงเบาว่า “ขออภัย ข้ามีทักษะทางการแพทย์อ่อนด้อย ดังนั้นข้าคงไม่อาจช่วยชีวิตคุณชายเหมิงได้ ผู้อาวุโสสกุลเยว่โปรดไปถามผู้เชี่ยวชาญอีกคนดูสิ หมอเฒ่าฉยงซานก็อยู่ที่นี่ด้วยไม่ใช่หรือ? ลองถามเขาดูสิ”
“นั่น…” ผู้อาวุโสตระกูลเยว่ได้แต่หัวเราะแห้ง ๆ เขาสามารถเข้าใจได้ว่าแม่นางถังกำลังตำหนิเขาที่ละเลยนาง แต่เมื่อไตร่ตรองดูแล้ว เขาก็ไม่ค่อยให้เกียรตินางจริง ๆ หากเขาเป็นนางก็คงอดไม่ได้ที่จะโกรธ
เขาเผยรอยยิ้มฝืดเฝื่อน แม้แต่หมอเฒ่าฉยงซานผู้ชราก็ยังชื่นชมและอยากจะเป็นลูกศิษย์ของนาง เป็นไปได้อย่างไรที่ทักษะทางการแพทย์ของนางจะไม่ดี?
เขารีบหันหน้าไปมองอูเหมี่ยนเซิง โดยคิดว่าจะขอให้เขาช่วยพูดอะไรสักสองสามคำ
อูเหมี่ยนเซิงลอบถอนหายใจ ก่อนเดินไปประสานมือต่อหน้าอวี้ชิงลั่ว “แม่นางถัง เมื่อสักครู่นี้ข้าไม่ได้ปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี แต่ก็ไม่มีทางเลือกจริง ๆ เหมิงหรงเป็นสหายของข้า ข้าขอให้เจ้าช่วยข้าได้หรือไม่? “
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้วขึ้น “ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะฟังสิ่งที่ข้าจะพูดต่อไปหรือไม่? เจ้าไม่จำเป็นต้องนำใบสั่งยาที่ข้าสั่งไปให้คนอื่นดูอีกแล้วใช่หรือไม่?”
ผู้อาวุโสสกุลเยว่ยิ่งรู้สึกละอายใจ เขาไม่คิดว่าแม่นางถังจะเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
เขารีบพยักหน้า แล้วรับปากว่า “ไม่ว่าแม่นางจะต้องการได้รับการปฏิบัติอย่างไร พวกเราจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่แน่นอน”
อวี้ชิงลั่วลูบคางของตน นางต้องการช่วยเหมิงหรงเพื่อประโยชน์ของเหมิงหลัวอวี้อยู่แล้ว เดิมทีนางต้องการทำให้พวกเขาสนใจนางมากขึ้น ด้วยการไปเยี่ยมกระท่อมสามครั้ง* แต่เสี่ยวอวี้ไม่สามารถรอได้อีกต่อไป
*ไปเยี่ยมกระท่อมสามครั้ง (三顾茅庐) เป็นสำนวนหมายถึง การช่วยเหลือหรือเยี่ยมเยียนด้วยความจริงใจ
ดังนั้นอวี้ชิงลั่วจึงพยักหน้า หลังจากพิจารณาอยู่พักหนึ่ง
ทว่าหมอเฒ่าฉยงซานที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่พอใจ เขาคว้ามือของอวี้ชิงลั่วแล้วพาเดินออกไป “รักษาอะไรกัน สตรีผู้นั้นบอกข้าระหว่างเดินทางมาเมื่อครู่นี้ว่าเจ้าเป็นคนเลวที่น่ารังเกียจและไร้ยางอาย แล้วเหตุใดเจ้าต้องเป็นห่วงครอบครัวของพวกเขาด้วย?”
สายตาเกรี้ยวกราดของหมอเฒ่าฉยงซานจ้องไปยังเหมิงเคอที่ยืนอยู่ข้างประตู
………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
โดนอาจารย์เฉ่งไปสิ จุดไต้ตำตอแท้ๆ คุณชายเถา
นังเหมิงเคอเตรียมโดนหยุมเป็นรายต่อไป
ไหหม่า(海馬)