อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 662 แนะนำคนให้อวี้ชิงลั่ว
ตอนที่ 662 แนะนำคนให้อวี้ชิงลั่ว
ตอนที่ 662 แนะนำคนให้อวี้ชิงลั่ว
หมอเฒ่าฉยงซานไม่พอใจในทันที หันหน้ากลับไปจ้องมองอูเหมี่ยนเซิงด้วยสายตาดุดัน “เจ้ายังมีเรื่องอันใดอีก”
อูเหมี่ยนเซิงหัวเราะแห้งๆ ก้าวขึ้นมาด้านหน้าสองสามก้าว กล่าวขอโทษหมอเฒ่าฉยงซาน จากนั้นก็มองอวี้ชิงลั่ว “แม่นางถัง ข้าขอคุยด้วยสักหน่อยได้หรือไม่”
“ไม่ได้” อวี้ชิงลั่วยังไม่ทันได้กล่าวอันใด หมอเฒ่าฉยงซานก็ปฏิเสธออกมาอย่างชัดเจนเสียแล้ว
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุกอย่างแรงสองครั้ง แสดงท่าทางเชิญอูเหมี่ยนเซิง ทั้งสองคนเมินเฉยต่อความไม่พอใจของหมอเฒ่าฉยงซาน เดินออกไปด้านข้างสองสามก้าว
อูเหมี่ยนเซิงเม้มปากแน่น ผ่านไปครู่หนึ่งก็ถามออกมาอย่างลังเล “แม่นางถัง เจ้า เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่คุณหนูของจวนเหมิง”
ไม่รู้ว่าเหตุใด ในใจของเขามีความรู้สึกบางอย่าง ราวกับว่าแม่นางถังตรงหน้านี้มีจุดประสงค์อื่นกับผู้อาวุโสสกุลเยว่มาตั้งแต่แรก แต่จุดประสงค์นี้ยังไม่แน่ว่าดีหรือร้าย
“เด็กคนนั้นอายุยังน้อยแต่มือกลับหยาบกระด้าง ดูก็รู้ว่าเป็นผลจากการทำงานเป็นเวลานาน จากคำบอกเล่าของฮูหยินน้อย คุณหนูแห่งจวนเหมิงเป็นคุณหนูที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี จะทำงานมาเป็นเวลานานได้อย่างไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ที่นางป่วยเลย ผู้ป่วยสามารถคลุ้มคลั่งได้ แต่ไม่มีทางทำงานหนักได้แน่นอน”
อูเหมี่ยนเซิงตะลึง ที่แท้แล้วนางก็รอบคอบยิ่งกว่า เขาไม่ทันได้สังเกตรายละเอียดดังกล่าวนี้เลย
“ท่านรองอู เรื่องของจวนเหมิง ข้าเองก็ไม่สามารถกล่าวอะไรได้มาก เมื่อครู่ข้าไม่ได้เปิดเผยในทันที ก็เพราะไม่อยากให้เด็กคนนั้นต้องมีชีวิตที่ยากลำบากในอนาคต แต่เรื่องเมื่อครู่ที่ได้ยินทำให้ข้าไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ที่แท้ฮูหยินน้อยก็กำลังตามฆ่าคุณหนูตัวจริงอยู่ นี่ช่างแตกต่างกับชื่อเสียงในโลกภายนอกของฮูหยินน้อยที่ดูเป็นคนอ่อนโยนและเก่งกาจอย่างสิ้นเชิง”
อูเหมี่ยนเซิงเม้มปาก เขาคิดไม่ถึงจริงๆ เพียงแต่คำพูดของเด็กคนนั้นจะให้เชื่อทั้งหมดก็ไม่ได้ แต่ว่า… ถ้าหากสิ่งที่เด็กคนนั้นพูดเป็นเรื่องโกหก เช่นนั้นทำไมเหมิงเคอจะต้องหาบุตรสาวของคนรับใช้มาแอบอ้างชื่อด้วยเล่า ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือ เหมิงหลัวอวี้ไม่อยู่ที่จวนแล้วจริงๆ
อวี้ชิงลั่วมองเห็นสายตาของเขาที่เปลี่ยนไป ในใจก็ลอบหัวเราะ
อืม ผลลัพธ์นี้ไม่เลวเลย
ถือว่านางบรรลุเป้าหมายที่ต้องการแล้ว ในมุมมองของอวี้ชิงลั่ว เรื่องนี้หากออกมาจากปากของเถี่ยชิวเอ๋อร์ ก็ยังไม่ดีเท่าให้อูเหมี่ยนเซิงเป็นคนพูด
ถ้าหากตอนนั้นให้เถี่ยชิวเอ๋อร์เปิดเผยตัวตนของเหมิงเคอ เป็นไปได้มากว่าผู้อาวุโสสกุลเยว่จะไม่เชื่อ และอาจจะถูกเหมิงเคออ้างว่าเถี่ยชิวเอ๋อร์นั้นป่วยจนวิปลาสไปแล้ว ตอนนี้ให้อูเหมี่ยนเซิงเข้าใจก่อน เรื่องร้ายแรงเพียงนี้ นางไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะเก็บเงียบไว้
อืม แน่นอนล่ะ ต่อให้ตอนนี้เขาจะยังสงสัยและลังเลอยู่ นางก็เพียงแค่เติมไฟเข้าไปอีกหน่อย เดี๋ยวไฟมันก็จะลุกขึ้นมาเอง
“ท่านรองอู ถ้าหากไม่มีธุระอันใดแล้ว ข้าขอตัวก่อนเจ้าค่ะ นายน้อยเหมิงเป็นสหายของท่าน ท่านคิดเรื่องนี้ให้มากขึ้นก็เป็นพอ แต่จิตใจของฮูหยินน้อยผู้นั้นลึกล้ำ ใครก็ไม่อาจรู้ว่าในใจนางคิดอันใดอยู่ และยิ่งไม่รู้ว่านางมีเป้าหมายหรือแผนการใด นางสามารถทำร้ายคุณหนูของจวนเหมิงได้ ไม่แน่ว่าอาจจะทำร้ายนายน้อยเหมิงได้ด้วย ข้าไม่อยากจะเสียแรงไปเปล่าๆ กว่าจะทำให้อาการดีขึ้นได้กลับถูกทำร้ายอีก สรุปก็คือท่านควรคอยดูอยู่ข้างกายของนายน้อยเหมิง ไม่ให้มีเหตุอันใดผิดพลาดก็เป็นพอ ลาก่อนเจ้าค่ะ”
หลังจากอวี้ชิงลั่วกล่าวจบก็หันหลังไปในทันที กลับไปอยู่ข้างๆ หมอเฒ่าฉยงซาน
อูเหมี่ยนเซิงตกใจกับประโยคสุดท้ายของนาง หมายความว่าอย่างไร หรือว่าแม่นางถังกำลังสงสัยว่าอาการป่วยของเหมิงหรงเป็นฝีมือของเหมิงเคอหรือ? ในความประทับใจของเขา เหมิงเคอในอดีตเป็นคนอ่อนโยนและจิตใจดี แต่ตอนนี้รู้ว่านางไม่ได้เรียบง่ายเหมือนที่เห็นภายนอกแล้ว ไม่รู้จริงๆ ว่าในใจของนางคิดอันใดอยู่
หากว่ากันตามตรง อาการป่วยครั้งนี้ของเหมิงหรงนั้นแปลกมาก ไม่มีใครรู้สาเหตุ อาจจะเป็นไปได้ว่า…
เพียงอูเหมี่ยนเซิงคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ก็อดไม่ได้ที่จะเสียวสันหลัง หากเป็นเช่นนั้นจริงก็จะน่ากลัวเกินไปแล้ว
เขาต้องกลับไปคิดดู ต้องคิดดูให้ดี
เหมิงเคอเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ที่ถูกเลี้ยงดูอย่างองค์หญิง แต่งงานเข้าจวนผู้อาวุโสสกุลเยว่ สามีภรรยาต่างให้เกียรติกันและกัน แม้แต่นางบำเรอก็ยังไม่มีสักคน สาวใช้ที่แต่งงานด้วยเพียงคนเดียวก็ตายตอนคลอดบุตร อีกทั้งนางยังไม่มีแม่สามีที่สร้างความลำบากให้ ผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็เห็นนางเป็นดั่งบุตรสาวในไส้ ทั้งจวนผู้อาวุโสสกุลเยว่นี้ ก็ถือว่าหาได้ยากแล้ว สงบและเรียบง่าย ไม่มีการต่อสู้เพื่ออำนาจในครอบครัวคนร่ำรวย
ชีวิตเช่นนี้ เหมิงเคอยังไม่พอใจอันใดอีก จำเป็นต้องทำเรื่องไม่ดีต่อจวนเหมิง ทำร้ายคุณหนูที่ไม่ได้เป็นภัยกับตนด้วยหรือ
อูเหมี่ยนเซิงรู้สึกปวดหัว เดินเข้าไปในจวนช้าๆ
เพียงพวกอวี้ชิงลั่วเดินมาถึงหัวมุม หมอเฒ่าฉยงซานก็รีบถามนาง “เมื่อครู่เจ้าคุยอันใดกับเขา อีกอย่าง ระหว่างเจ้ากับลูกสะใภ้ของผู้อาวุโสสกุลเยว่นี่เกิดเรื่องอันใดขึ้น เหตุใดจึงเหมือนไม่ลงรอยกันเช่นนั้น”
อวี้ชิงลั่วเหลือบมองเขา เหตุใดจึงรู้สึกเหมือนว่าหมอเฒ่าฉยงซานเองก็ชอบเรื่องซุบซิบกันนะ
แต่นางยังไม่ทันได้ตอบอะไร เถาเหวินฮั่นที่อยู่ด้านข้างก็แทรกขึ้นมา “สตรีไม่ลงรอยกัน นอกจากจะเป็นเรื่องหึงหวงแล้ว ยังจะมีเหตุผลอันใดได้อีกเล่าขอรับ ข้าว่าแม่นางถัง เจ้าคงไม่ได้ชอบเหมิงหรงผู้นั้นใช่หรือไม่ เจ้าเห็นแล้วใช่ไหมว่าเขารูปงามเพียงนั้น… อ๋า…”
ว่านเผิงหลงดึงเขาอย่างแรง จนเขาเกือบจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ตรงหน้า
เถาเหวินฮั่นไม่พอใจ แต่เพียงเงยหน้าขึ้นก็พบกับแววตาอันดุร้ายของหมอเฒ่าฉยงซาน หยุดชะงักไปและไม่กล้ากล่าวอันใดอีกเลย
หมอเฒ่าฉยงซานเตะเข้าที่น่องของเขา หัวเราะอย่างเย็นชา “เหมิงหรงผู้นั้นหล่อเหลาตรงไหนกัน ลั่วลั่ว เดี๋ยวข้าจะแนะนำเจ้าให้กับเด็กหนุ่มที่ดีและเก่งกาจยิ่งกว่า ข้าเดินทางท่องโลกมาหลายปี พอใจในตัวเขาที่สุดแล้ว ต่อไปให้เขาเป็นสามีเจ้า รับรองว่าเขาจะดีกับเจ้าแน่”
เถาเหวินฮั่นตกตะลึง เมื่อครู่เขาเพียงพูดเรื่องไร้สาระ แต่เหตุใดเมื่อได้ยินคำพูดของท่านอาจารย์แล้ว เหมือนว่าแม่นางถังผู้นี้จะไม่มีสามีจริงๆ มีลูกคนหนึ่งกลับไม่มีสามี หรือว่าจะเป็นแม่หม้าย
“…” อวี้ชิงลั่วหันไปเงียบๆ กล่าวเตือนเขาเสียงต่ำ “หมอเฒ่า ท่านลืมไปแล้วหรือว่าข้ามีลูกแล้ว”
เถาเหวินฮั่นที่ด้านข้างก็พยักหน้ารัวอย่างไม่อยากถูกทอดทิ้ง “นั่นสิ ท่านอาจารย์ เมื่อครู่ตอนอยู่ในจวนนางก็บอกว่ามีลูกแล้ว ท่านอย่าไปทำให้คู่รักมีปัญหาสิ จะไปทำร้ายความ… โอ๊ย…”
เขากล่าวได้ครู่เดียว สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นม่วงคล้ำทันที มือสองข้างจับคอไว้ วิ่งไปที่ด้านข้างและทุบหน้าอกอย่างแรงเพื่อกระตุ้นให้อาเจียน
หมอเฒ่าฉยงซานชักมือกลับแล้วเอ็ดเบาๆ “หากยังพูดไร้สาระอีก ข้าจะจัดการลิ้นของเจ้าเสีย”
ว่านเผิงหลงลอบถอนหายใจ เหตุใดหลังจากท่านอาจารย์ได้พบกับแม่นางถัง คนอื่นๆ ในสายตาเขากลับกลายเป็นเหมือนไม่ใช่คนไปเสียแล้ว
อวี้ชิงลั่วเห็นใจเถาเหวินฮั่นอย่างมาก ตอนนี้ เห็นใจอย่างมาก
หมอเฒ่าฉยงซานกลับไม่แม้แต่จะมอง เดินอยู่ข้างๆ อวี้ชิงลั่วต่อไป ยิ้มแล้วกล่าว “มีลูกแล้วแล้วอย่างไรเล่า พวกเราชาวเจียงหูไม่สนใจเรื่องฉาบฉวยพวกนี้หรอก ขอเพียงเข้ากันได้ดี คนผู้นั้นที่ข้ารู้จักก็ไม่ใช่คนที่จะสนใจเรื่องพวกนี้ เจ้าวางใจเถิด”
อวี้ชิงลั่วเหงื่อเย็นแตกซิก นางคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าความคิดของหมอเฒ่าฉยงซานจะล้ำหน้ากว่าความคิดของตนเสียอีก หาได้ยากจริงๆ
“แต่ตอนนี้ข้าไม่รู้ว่าเด็กนั่นอยู่ที่ไหน ครั้งก่อนที่จากเจียงเฉิง ก็ไม่ได้พบกันแล้ว น่าเสียดายที่อูตงยังไม่ได้สติ ไม่เช่นนั้นน่าจะบอกข้าได้ว่าเขาอยู่ที่ไหน”
“…” อวี้ชิงลั่วชะงัก เจียงเฉิงหรือ อูตงหรือ คงไม่ใช่คนผู้นั้นที่นางคิดไว้ในใจใช่หรือไม่
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เอ้า ท่านหมอจะหาสามีให้ชิงลั่วเองเลยเหรอ ชิงลั่วมีท่านอ๋องซิวแล้วนะ
ไหหม่า(海馬)