อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 667 สะกิดใจหนานหนาน
ตอนที่ 667 สะกิดใจหนานหนาน
ตอนที่ 667 สะกิดใจหนานหนาน
อวี้ชิงลั่วบอกตัวเองให้ใจเย็น ครั้งต่อไปจะปล่อยให้เขาทำสำเร็จอีกไม่ได้แล้ว จะยอมเขาและปล่อยให้เขาได้ใจไม่ได้อีกแล้ว
ครั้งต่อไปหากเขามาขึ้นเตียงของนางอีก นางจะพยายามสุดแรงเพื่อถีบเขาลงไป ถึงแม้นิสัยนางจะเป็นคนโอนอ่อนผ่อนตาม แต่ถึงคราวจวนตัวก็แว้งกัดผู้อื่นได้เช่นกัน
ตอนที่เหมิงหลัวอวี้เคาะประตูแล้วเข้ามา ก็เห็นสีหน้านางที่ไม่พอใจอย่างมาก เด็กน้อยถึงกับกะพริบตา เดินเข้ามาด้วยความลังเล
“ท่านน้าชิง ไม่สบายหรือเจ้าคะ”
“เปล่า” อวี้ชิงลั่วถอนหายใจอย่างแรง เมื่อเห็นเหมิงหลัวอวี้ ก็เปลี่ยนเป็นท่าทางอ่อนโยน นางอารมณ์ไม่ดีก็จริง แต่จะไปพาลใส่ผู้อื่นไม่ได้
ตอนนี้คนที่นางต้องคิดบัญชีอย่างหนักก็คือเสิ่นอิง ไม่แปลกใจเลยที่เมื่อคืนจู่ๆ เขาก็เสนอจะพาเด็กทั้งสองคนไปเที่ยว ไม่แปลกเลยที่เขาบอกว่าหากกลับดึกจะให้เด็กๆ ค้างกับเขา
หมายความว่าเขารู้ว่าเย่ซิวตู๋จะมาที่นี่ จึงทำตัวให้ไม่เป็นที่สงสัย
“เสี่ยวอวี้ ท่านลุงเสิ่นของเจ้าล่ะ?”
เหมิงหลัวอวี้ยังไม่ทันได้ตอบ หนานหนานที่อยู่ด้านนอกก็ถือขนมของหวานสองสามอย่างเข้ามา พลางตอบว่า “ลุงเสิ่นออกไปตั้งแต่เช้า ไม่รู้ว่าไปทำอะไร เหมือนจะมีเรื่องด่วนขอรับ”
จะไม่มีเรื่องด่วนได้อย่างไร เขารู้ว่าตนจะคิดบัญชีกับเขาล่ะสิ รวดเร็วยิ่งกว่ากระต่ายเสียอีก
หนานหนานวางของกินไว้บนโต๊ะ พาเหมิงหลัวอวี้ไปกินด้วยกัน
อวี้ชิงลั่วมองเขาแวบหนึ่งอย่างสงสัย เมื่อวานนี้เฉื่อยชาอย่างยิ่ง เหตุใดวันนี้จึงกลายเป็นมีความสุขไปได้ ถึงขนาดเริ่มหาอะไรกิน หรือว่างานเทศกาลโคมไฟเมื่อคืนสวยมากเสียจนกลบความว้าวุ่นใจของเขาไปหมดแล้ว?
อวี้ชิงลั่วยังไม่ทันจะคิดหาเหตุผลออก หนานหนานก็แทบรอไม่ไหวที่จะพูดออกมา
“ท่านแม่ ท่านลุงเสิ่นบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องงานประชุมสุรา ตอนที่ท่านลุงโม่มาที่นี่ก็นำเหล้าที่ตนหมักมาด้วย จิ๊ๆ พูดๆ แล้วเหล้าของท่านลุงโม่ก็อร่อยจริงๆ ครั้งก่อนก็ทำเสียจนข้าเมา ข้ารับรองว่าจะต้องอร่อยกว่าของพวกตระกูลจ้าวอย่างมากแน่ๆ ท่านพ่อต้องชนะอย่างแน่นอน”
อวี้ชิงลั่วหรี่ตา หนานหนานโน้มตัวเข้ามาหานางทันที กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่ก็เก่งจริงๆ ถึงขนาดคาดการณ์ได้ล่วงหน้า รู้ว่าท่านพ่อเตรียมตัวเอาไว้แล้ว อ๋าๆๆ ข้ารู้แล้ว นี่สินะที่เขาเรียกว่าใจตรงกัน”
ตรงกันกับผีน่ะสิ ใครจะไปอยากใจตรงกันกับเย่ซิวตู๋ ตอนนี้นางอยากจะตอนเขาเสียให้รู้แล้วรู้รอด
นางเหลือบมองหนานหนาน เห็นท่าทางของเขายังตื่นเต้นและหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข “หนานหนาน ท่านลุงเสิ่นของเจ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าโม่เสียนนำเหล้ามาดินแดนเหมิงด้วย แต่เขากลับมองดูเจ้านั่งเครียดเรื่องการประชุมสุราอยู่ทั้งวันแต่ไม่ได้บอกเจ้าเนี่ยนะ จิ๊ๆ”
หนานหนานชะงัก ทันใดนั้นก็เข้าใจทันที “นั่นสิ ท่านลุงเสิ่นนี่ นี่จงใจมองดูข้ากินน้ำตาต่างข้าวนี่นา เขาเยาะเย้ยข้า จริงด้วย เขาจะต้องเยาะเย้ยข้าแน่ อีกเดี๋ยวข้าจะเอาคืนเขา การเอาคืนนี้จะปล่อยไปง่ายๆ ไม่ได้แน่”
อวี้ชิงลั่วเผยสีหน้าพึงพอใจ ลูบศีรษะบุตรชายที่จิตใจตรงกันกับตน ทำให้ความโกรธในอกนางหายไปครึ่งหนึ่ง
เหมิงหลัวอวี้กะพริบตา ทันใดนั้นก็รู้สึกเห็นใจท่านลุงเสิ่นขึ้นมา ดูเหมือนเขาจะทำทั้งสองคนขุ่นเคืองพร้อมๆ กันเสียแล้ว เหตุใดท่านน้าชิงต้องโกรธท่านลุงเสิ่นด้วย หรือว่าเพราะเมื่อคืนไม่ได้พานางไปงานเทศกาลโคมไฟด้วยกันอย่างนั้นหรือ?
อวี้ชิงลั่วกัดซาลาเปาอย่างแรงสองคำ หลังจากอิ่มท้องแล้วก็เห็นว่าได้เวลา จึงวางแผนจะไปที่จวนผู้อาวุโสสกุลเยว่เพื่อไปดูอาการของเหมิงหรง
เพียงแต่เมื่อนางไปถึงประตู จู่ๆ ก็หยุดฝีเท้าราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ หันกลับมามองเหมิงหลัวอวี้ที่กำลังตั้งใจคัดลายมือ
เหมิงหลัวอวี้กำลังตั้งใจมาก ไม่มีอะไรทำก็อ่านหนังสือคัดลายมืออยู่ในห้อง ท่าทางมีแรงกระตุ้นมากกว่าคนที่จะสอบซิ่วไฉเสียอีก ในเวลาเพียงไม่กี่วันกลับอ่านหนังสือจบไปหลายเล่มแล้ว
อวี้ชิงลั่วคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินกลับมาอีกครั้ง มองนางคัดลายมือตัวสุดท้ายเสร็จ ก็เอ่ยถาม “เสี่ยวอวี้ เจ้ารู้จักเด็กที่ชื่อเถี่ยชิวเอ๋อร์หรือไม่”
เหมิงหลัวอวี้อึ้งงัน เงยหน้าขึ้นมาอย่างแปลกใจ ทันใดนั้นก็ลงจากเก้าอี้อย่างตื่นเต้น “รู้จักเจ้าค่ะๆ นางเป็นบุตรสาวของคนเฝ้าประตูที่จวน เพราะว่ามีพี่ชาย จึงไม่เป็นที่โปรดปรานนัก ต้องทำงานหนักตั้งแต่อายุยังน้อย มีครั้งหนึ่งตอนที่ข้าหิวจนเกือบเป็นลมอยู่ในจวน นางก็เอาอาหารอย่างเดียวที่นางมีมอบให้ข้า เพียงแต่นางต้องทำงานหลายอย่าง ข้าเองก็ต้องแสร้งทำเป็นคนป่วยจะให้ใครรู้ไม่ได้ ดังนั้นเราสองคนจึงมีโอกาสได้พบกันไม่กี่ครั้ง แต่ชิวเอ๋อร์เป็นคนดีมาก ท่านน้าชิง ท่านรู้จักชิวเอ๋อร์ได้อย่างไรหรือเจ้าคะ”
อวี้ชิงลั่วพยักหน้า ในใจก็มีการคาดการณ์ไว้แล้ว ตอนเถี่ยชิวเอ๋อร์พูดถึงเหมิงหลัวอวี้ก็เรียกนางว่าเสี่ยวอวี้ ดูท่านางจะเป็นสหายเพียงคนเดียวของเหมิงหลัวอวี้ตอนอยู่ที่จวนกระมัง
“ท่านน้าชิง เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับชิวเอ๋อร์หรือเจ้าคะ?” เหมิงหลัวอวี้รู้สถานการณ์ในครอบครัวของเถี่ยชิวเอ๋อร์ ทั้งอาเหลียงและภรรยาต่างก็ไม่ชอบชิวเอ๋อร์ เมื่อก่อนเคยได้ยินชิวเอ๋อร์บอกว่า พวกเขาคุยกันว่าหากวันใดฐานะทางบ้านต้องตกยากก็จะเอาชิวเอ๋อร์ไปขาย ชิวเอ๋อร์ต้องอยู่อย่างหวาดกลัวก็เพราะเรื่องนี้
อวี้ชิงลั่วเห็นท่าทางกระวนกระวายของนางก็รีบส่ายหน้า “ไม่มีอะไร ชิวเอ๋อร์ยังอยู่ดี ข้าก็เพียงถามถึง เจ้าก็อย่าคิดมากไปเลย เจ้าก็คัดลายมืออย่างว่าง่ายอยู่ที่นี่ล่ะ หากมีโอกาส ข้าจะให้เจ้าได้พบกับชิวเอ๋อร์”
เหมิงหลัวอวี้ได้ยินก็สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสขึ้นทันที พยักหน้าอย่างแรงแล้วกล่าว “เจ้าค่ะ”
อวี้ชิงลั่วหันไปมองหนานหนานที่เริ่มกินอาหารอย่างสิ้นหวัง เศร้า และโกรธ มุมปากก็กระตุก ลูบตรงหว่างคิ้วแล้วกล่าว “หนานหนาน วันนี้อย่าออกไปซนล่ะ”
หนานหนานไม่เงยหน้า ยังคงโกรธมากอยู่ ตอบกลับเพียงประโยคเดียว “ข้ารู้แล้ว ข้าจะรอท่านลุงเสิ่นกลับมา”
“…” เห็นเช่นนี้อวี้ชิงลั่วก็เริ่มจะเห็นใจเสิ่นอิงแล้ว แม้นางจะเป็นคนกระตุ้นอารมณ์ของหนานหนานก็ตาม
เมื่อเห็นว่าหนานหนานไม่ได้สนใจอันใดมากก็หันกลับมาสั่งเหมิงหลัวอวี้สองสามคำ จากนั้นก็หันหลังจากโรงเตี๊ยมไป ก้าวไปได้ไม่กี่ก้าวก็เห็นหมอเฒ่าฉยงซานเดินมาต้อนรับ นางกุมหน้าผากอย่างเงียบๆ แล้วถอนหายใจ
พวกเขายังไม่ทันจะไปถึงจวนผู้อาวุโสสกุลเยว่ ข้างทางก็มีคนรับใช้รออยู่ทางด้านนั้นแล้ว เมื่อเห็นพวกเขาก็รีบเดินมาต้อนรับ “หมอเฒ่า แม่นางถัง ท่านผู้อาวุโสกำลังรออยู่ด้านในขอรับ”
อวี้ชิงลั่วลอบหัวเราะอยู่ในใจ การดูแลเช่นนี้ช่างต่างจากสองวันก่อนหน้านี้เสียจริง
เดิมทีผู้อาวุโสสกุลเยว่วางแผนจะให้คนขนเกี้ยวไปรอรับนางที่หน้าโรงเตี๊ยมที่นางพักอยู่ แต่อวี้ชิงลั่วไม่ต้องการ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าสิ่งนี้จะกระทบกับอิสระของนางเลย ไม่แน่ว่าอาจจะได้พบกับเหมิงหลัวอวี้ หากเหมิงเคอรู้เรื่องคงจะแย่
ตอนนี้นางรู้สึกขอบคุณการตัดสินใจของเย่ซิวตู๋อยู่เล็กน้อย ที่ให้เสิ่นอิงคอยอยู่อารักขาพวกเขา ถึงแม้หนานหนานจะมีฝีมือไม่เลว แต่จะให้เขาอยู่ในโรงเตี๊ยมยังทำไม่ได้ โดยเฉพาะตอนนี้ที่ในเมืองล้วนมีแต่ร้านอาหารมากมาย
นางไม่เต็มใจ หมอเฒ่าฉยงซานเองก็ไม่เต็มใจ จึงทำได้เพียงให้คนรับใช้มารออยู่ตรงทางเข้า
เข้าไปสู่ ‘เย่เซ่อ’ อีกครั้ง ผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็ให้คนนำชาและน้ำดื่มอย่างดีมาต้อนรับทันที
เมื่อเห็นนางฝังเข็มให้เหมิงหรง เขาก็รอดูอยู่ข้างๆ อยากจะถามถึงอาการของเหมิงหรง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของอวี้ชิงลั่วไม่ดีนัก ก็ลังเลครู่หนึ่งแล้วไม่ได้กล่าวอันใด
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากการเอาคืนของหนานหนานนะคะเสิ่นอิง เฮ้อ สงสารขึ้นมาแล้วสิ ทำตามคำสั่งนายท่านแต่พอมีเรื่องอะไรก็คือรับเละไปเต็มๆ
ไหหม่า(海馬)