อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 670 ลั่วลั่วเป็นสตรีที่เหมาะสมกับซิวตู๋
ตอนที่ 670 ลั่วลั่วเป็นสตรีที่เหมาะสมกับซิวตู๋
ตอนที่ 670 ลั่วลั่วเป็นสตรีที่เหมาะสมกับซิวตู๋
“พบซิวเอ๋อร์หรือ?” ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงแปลกใจ “ฮั่วเหล่ารู้จักซิวเอ๋อร์ด้วยหรือ ฮั่วเหล่ารู้ได้อย่างไรว่าซิวเอ๋อร์อยู่ที่จวนข้า?”
หมอเฒ่าฉยงซานถลึงตา “เจ้าให้คนที่จวนเจ้าไปบอกข้าไม่ใช่หรือ ว่าเย่ซิวตู๋อยู่ที่จวนเจ้า?” ก็เพราะประโยคนี้ เขาจึงมาที่จวนผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเข้าใจไหม
ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่แยกจากลั่วลั่วของเขาอย่างไม่เต็มใจ เพื่อมาที่ที่ไม่มียา ไม่มีคนป่วย และไม่มีหนานหนานเป็นแน่
เขามุ่นคิ้วในทันใด น้ำเสียงเย็นชา “หรือว่าเจ้าโกหกข้า?”
เขายังสงสัยอยู่ ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเหตุใดจึงรู้จักกับเย่ซิวตู๋ได้ แต่เจ้าเย่ซิวตู๋นั่นเก่งกาจ จะรู้จักผู้คนมากมายที่มีสถานะสูงส่งก็เป็นเรื่องธรรมดา
ใบหน้าของผู้อาวุโสเผ่าเหมิงไม่สู้ดี เดิมทีเขาไม่ได้สั่งให้คนไปพูดเช่นนั้นเลย
แต่ในใจเขาไม่พอใจมาก ที่ดินแดนเหมิงแห่งนี้ สถานะของตนไม่ได้สูงส่งไปกว่าเย่ซิวตู๋อย่างนั้นหรือ เชิญหมอเฒ่าฉยงซานมาที่จวนก็ยังต้องใช้ชื่อคนอื่นเพื่อให้เขามา ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด
เขารีบให้พ่อบ้านไปนำตัวคนรับใช้ที่กล่าวเช่นนั้นมา จนกระทั่งคนผู้นั้นเข้าประตูมา เขาก็ถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ตอนเจ้าไปหาฮั่วเหล่า เจ้าบอกเขาหรือว่าซิวเอ๋อร์อยู่ที่จวน?”
คนรับใช้ผู้นั้นเห็นสีหน้าไร้ปรานีของนายท่าน ในใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะ พยักหน้าอย่างลังเลเล็กน้อย
“เจ้าช่างกล้านัก ใครอนุญาตให้เจ้าตัดสินใจเองเช่นนี้ พ่อบ้าน โบยเขา 30 ครั้งแล้วโยนออกนอกจวนไป จวนของเราไม่มีคนรับใช้ที่ไร้ระเบียบเช่นนี้
หมอเฒ่าฉยงซานหรี่ตา เฮ้อ นี่หมายความว่าอย่างไร เมื่อรู้ว่าตนไม่ได้มาหาเขา ก็โกรธและอายขึ้นมาหรือ?
“เดี๋ยวก่อน” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาจากทางประตู ตามด้วยร่างสูงโปร่งของคนสองคนที่เดินเข้ามา
เย่ซิวตู๋โบกมือ ให้พ่อบ้านและคนรับใช้ผู้นั้นออกไป จากนั้นก็กล่าวกับผู้อาวุโสเผ่าเหมิง “เป็นข้าเองที่ให้เขาไปบอกเช่นนั้น”
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงตกใจ ส่งเสียงฮึดฮัด แล้วก็ไม่ได้กล่าวอันใดอีก
ส่วนหมอเฒ่าฉยงซานเมื่อเห็นเขา ก็ดวงตาเป็นประกายทันที เดินไปตรงหน้าเขาสองสามก้าวแล้วยิ้มกล่าว “ที่แท้ก็เป็นเจ้า เจ้ามาที่ดินแดนเหมิงจริงๆ”
“ฮั่วเหล่า” เย่ซิวตู๋พยักหน้า สีหน้าดูเรียบเฉยอย่างยิ่ง
หมอเฒ่าฉยงซานยิ่งมองเขายิ่งดีใจ อืม เขาหล่อเหลาดูดีกว่าครึ่งปีก่อนมาก ท่าทางก็ดูแข็งแกร่งยิ่งใหญ่ จริงๆ เลย เหมาะกับลั่วลั่วมาก
เย่ซิวตู๋ให้เขานั่งลงแล้วดื่มชา หมอเฒ่าฉยงซานพยักหน้ารัว เห็นเขาแล้วพอใจอย่างมาก นี่ทำให้เหมิงจื่อเชียน หลานชายคนเดียวของผู้อาวุโสเผ่าเหมิงที่เข้ามาพร้อมกับเย่ซิวตู๋ประหลาดใจมาก เขาคิดไม่ถึงว่าเย่ซิวตู๋จะสนิทสนมกับหมอเฒ่าฉยงซาน
ส่วนผู้อาวุโสเผ่าเหมิงถูกเมินเฉยไปโดยสิ้นเชิง ทำให้เขามีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ผ่านไปครู่ใหญ่จึงอดไม่ได้ที่จะกระแอมเบาๆ
หมอเฒ่าฉยงซานหันหน้ามองเขาแวบหนึ่ง จากนั้นก็ถามอย่างแปลกใจ “ซิวตู๋ นี่เจ้ารู้จักกับผู้อาวุโสเผ่าเหมิงด้วยหรือ”
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเพียงได้ยินเช่นนั้นก็ร่าเริงขึ้นมาทันที จากนั้นก็ทำเสียงฮึดฮัด “เขาเป็นลูกศิษย์ข้า จะไม่รู้จักข้าได้อย่างไร?”
“ลูกศิษย์เจ้าหรือ?” หมอเฒ่าฉยงซานผงะไป “แต่ข้าได้ยินว่ามีหลายคนอยากจะขอเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสเผ่าเหมิง แต่เจ้ากลับไม่มีลูกศิษย์เลยสักคนเดียวนี่”
เย่ซิวตู๋นั่งลงดื่มชาเงียบๆ แล้วกล่าว “เขาสอนข้าอยู่ครึ่งปี สมัยข้ายังเด็กๆ ขอรับ”
หมายความว่าเวลาเพียงไม่นาน ทั้งยังเป็นตอนเด็กๆ ก็ย่อมเป็นปกติที่คนนอกจะไม่รู้
แต่หมอฉยงซานเข้าใจอีกความหมายหนึ่งไปโดยปริยาย “อ้อ กล่าวเช่นนี้แสดงว่าความสัมพันธ์ก็ไม่แน่นแฟ้นอันใด ข้าเข้าใจ”
“…” เย่ซิวตู๋กลืนชาลงไป มองหมอเฒ่าฉยงซานแวบหนึ่ง
“…” เหมิงจื่อเชียนนิ้วมือสั่นเทา หันไปมองทางด้านผู้อาวุโสเผ่าเหมิง
สีหน้าของผู้อาวุโสเผ่าเหมิงดูไม่สู้ดียิ่งกว่าเดิม เจ้าฮั่วเหล่าผู้นี้รนหาที่ตายเสียแล้ว เขาคิดว่าเขาเป็นหมอเฒ่าฉยงซาน แล้วตนจะไม่กล้าลงมือกับเขาหรือ?
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงยิ้มเย็น “ใครบอกว่าไม่แน่นแฟ้นเล่า ถ้าหากไม่แน่นแฟ้น เขาจะมาที่จวนข้าหรือ อีกอย่าง เดี๋ยวเขาก็จะกลายเป็นหลานเขยของข้าแล้ว ถึงตอนนั้นก็คงจะแน่นแฟ้นยิ่งกว่าใครๆ เสียอีก”
เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงนี่ช่าง… ไม่น่าเชื่อถือขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
หมอเฒ่าฉยงซานลุกขึ้นทันที “อะไรนะ หลานเขยหรือ?”
เขารีบหันหน้าไปมองเย่ซิวตู๋ “เจ้าอยากเป็นหลานเขยของเขาหรือ แล้วลั่วลั่วจะทำอย่างไร?”
ว่านเผิงหลงและเถาเหวินฮั่นลอบถอนหายใจ ท่านอาจารย์กำลังพูดอะไรอยู่กันนี่ ลั่วลั่วหรือ เดิมทีแม่นางถังก็ไม่เคยมีความคิดเช่นนั้น เหตุใดเขาจึงพูดเสียเหมือนกับว่านายน้อยเย่จะทิ้งแม่นางถังเพื่อไปมีรักใหม่อย่างไรอย่างนั้น
พวกว่านเผิงหลงทั้งสองคนไม่รู้ ว่าความคิดเช่นนี้ของพวกเขา… เป็นความจริง หากเย่ซิวตู๋แต่งงานกับหลานสาวของผู้อาวุโสเผ่าเหมิงจริงๆ ไม่ใช่ว่าจะกลายเป็นการทอดทิ้งแม่นางถังที่พวกเขากล่าวถึงหรอกหรือ?
มือที่ถือถ้วยชาดื่มของเย่ซิวตู๋ชะงักไป ลั่วลั่วหรือ?
“ลั่วลั่วอะไร ลั่วลั่วเป็นใครกัน” ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงตอบสนองอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นก็มาหยุดตรงหน้าหมอเฒ่าฉยงซานทันที ทำเอาอีกฝ่ายตกใจอย่างมาก
ดวงตาผู้อาวุโสเผ่าเหมิงลุกเป็นไฟ “เมื่อครู่เจ้าพูดว่าลั่วลั่วอะไรกัน”
“ลั่วลั่วเป็นสตรีที่ข้ามองหาไว้ให้ซิวตู๋” หมอเฒ่าฉยงซานเชิดคางขึ้น
ว่านเผิงหลงและเถาเหวินฮั่นสบตากัน อาจารย์ตั้งใจจะพัฒนาตนเองไปในทางพ่อสื่อจริงๆ น่ะหรือ
พวกเขากำลังคิดอยู่ว่าควรดึงท่านอาจารย์กลับมาหรือไม่ แต่เมื่อเห็นท่าทางที่พวกเขามองหน้ากัน ก็ดูท่าจะยากหน่อย
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงหัวเราะเยาะ “หญิงที่เจ้าหาไว้ให้ซิวเอ๋อร์อย่างนั้นหรือ เจ้าไม่ใช่ญาติฝ่ายใดของซิวเอ๋อร์เสียหน่อย เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ พ่อแม่ต้องจัดการ แม่สื่อเป็นคนดำเนินการ ใช่เรื่องของเจ้าหรือ?”
เหมิงจื่อเชียนคิด ท่านปู่ พ่อแม่ของเย่ซิวตู๋ยังมีชีวิตอยู่ อีกทั้งสถานะไม่ใช่ต่ำต้อย ดูท่านี่ก็ไม่ใช่เรื่องของท่านเช่นกันนะ
“ข้าจะบอกอะไรให้ ข้าเป็นอาจารย์ของซิวเอ๋อร์ ดั่งคำกล่าวที่ว่า เป็นอาจารย์วันหนึ่ง เป็นบิดาไปตลอดชีวิต การแต่งงานของเขาเป็นเรื่องใหญ่ ข้าก็ยังพูดถึงได้ หลานสาวของข้าก็ยังเป็นคนที่ข้าดูไว้ให้เขามาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว” ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงทำเสียงเย้ยหยัน เขาเป็นเพียงหมอเฒ่าฉยงซาน ไม่ได้มีความสัมพันธ์อันใดกับเย่ซิวตู๋ มีสิทธิ์อะไรถึงได้มายุ่งเรื่องของเขา
เย่ซิวตู๋พิงเก้าอี้อย่างเงียบๆ ไม่ได้กล่าวอะไรทั้งนั้น
หมอเฒ่าฉยงซานกระวนกระวาย “ดูไว้ตั้งแต่เด็กอะไรกัน หลานสาวของเจ้ามีอะไรดีนัก”
“เจ้าต่างหากมีอะไรดี หลานสาวข้ามีความรู้ทั้งยังสุภาพเรียบร้อย เป็นหญิงสาวจากตระกูลร่ำรวยที่ใครๆ ในดินแดนเหมิงก็รู้จัก นางชอบซิวเอ๋อร์มาก ความรักของนางล้ำลึกดั่งทะเล เขาสองคนต้องตาต้องใจกัน เจ้า…”
“เฮ้อ ท่านปู่” เหมิงจื่อเชียนกล่าวออกมา ขัดจังหวะคำพูดของผู้อาวุโสเผ่าเหมิง อย่างไรนั่นก็เป็นน้องสาวของเขา ท่านปู่กล่าวเช่นนี้ ชื่อเสียงของน้องสาวจะเสียหายเอาได้นะขอรับ
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงจึงหยุดพูดทันที ราวกับว่าคิดบางอย่างออก เพียงแต่ตอนท้ายเขาก็ยังกล่าวเสริมอย่างไม่พอใจนัก “สรุปก็คือ หลานสาวข้าเหมาะสมกับซิวเอ๋อร์ที่สุด”
“โธ่เอ๋ย หญิงสาวตระกูลสูงศักดิ์มีอะไรดีกัน ซิวตู๋ไม่ชอบสตรีอ่อนแอก้าวสองสามก้าวก็ร่วงเช่นนั้นหรอก ลั่วลั่วดีกว่าหลานสาวเจ้าตั้งเยอะ หลายปีมานี้ข้าเดินทางไปมาทุกแห่งหน พบเจอคนมากมาย มีเพียงลั่วลั่วเท่านั้น ที่เป็นสตรีที่เหมาะสมกับซิวตู๋ที่สุด ฝีมือการแพทย์ยอดเยี่ยม หน้าตาสะสวย นิสัยตรงไปตรงมา ทั้งยังมีฝีมือ ฉลาดเฉลียว ทั้งยังมีลูกชายที่น่ารัก…”
ว่านเผิงหลงและเถาเหวินฮั่นสบตากัน ก้มหน้าลงเงียบๆ ท่านอาจารย์ นี่ท่านมั่นใจหรือว่ามาแนะนำคน
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ผู้อาวุโสเหมิง ท่านคิดจะทำครอบครัวแตกแยกหรือเจ้าคะ ศิษย์ท่านมีภรรยามีลูกนานแล้วนะเจ้าคะ
ไหหม่า(海馬)