อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 674 ต้องการชีวิต...ก็ไม่มีให้
ตอนที่ 674 ต้องการชีวิต…ก็ไม่มีให้
ตอนที่ 674 ต้องการชีวิต…ก็ไม่มีให้
หนานหนานรีบมองซ้ายขวา เห็นว่าทางซ้ายมีช่องว่างก็รีบหนีไป
พูดเป็นเล่น ห้าหกคนนั้นเขายังพอรับมือไหว แต่คนผู้นี้ฝีมือไม่ธรรมดา อีกทั้งครั้งก่อนยังมีคนช่วย หากเขาไม่ใช้วรยุทธ์ที่ท่านปู่ลู่สอนก็คงจะยากที่จะหลบหนี
อาเจียงตะลึงไป รีบตามเขา
“รอเดี๋ยว เจ้าหนู รอก่อน”
หนานหนานไม่ยอมหันหลังกลับ เอ่ยเสียงแว่วดังไปตามสายลม “มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะรอให้เจ้ามาจับน่ะ ข้าทั้งฉลาดและน่ารัก จะยอมตกอยู่ในมือเจ้าได้อย่างไร?”
อาเจียงอยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก ฝีเท้าก้าวเร็วขึ้นกว่าเดิม
แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับพบว่าก็ยังคงไล่ตามหนานหนานไม่ทัน ความเร็วของเด็กคนนี้ดูเหมือนจะเร็วกว่าครั้งที่แล้วเสียอีก เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นไปได้
อาเจียงเม้มปาก ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ยกมือขวาขึ้นวางไว้ที่ปาก ผิวปากเสียงคมชัดอย่างมากไปยังทิศทางหนึ่ง
หนานหนานรู้สึกมีเสียงดังหึ่งๆ ในหู ทันใดนั้นก็เห็นอีกเงาหนึ่งไล่ตามตนมาทางด้านหลัง เขาเหลือบแวบหนึ่ง ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป
เขารู้อยู่แล้ว เขารู้อยู่แล้ว เมื่อคนผู้นี้ปรากฏตัว อีกคนก็ไม่แน่ว่าอยู่ใกล้ๆ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ และแล้วก็ปรากฏตัวขึ้นในทันใด
อาเหอเหลือบมองอาเจียงแวบหนึ่ง แววตาค่อนข้างเฉยเมย อาเจียงหัวเราะแห้งๆ ฝีเท้าไม่หยุดนิ่ง การเคลื่อนไหวรวดเร็ว กล่าวเสียงต่ำ “เจ้าจะโทษข้าไม่ได้นะ เด็กคนนี้ตื่นตัวเกินไปแล้ว อีกอย่างข้าเองก็ไม่อยากเสียเวลาเพียงเท่านั้น ผู้อาวุโสสั่งไว้ว่าหากเจอเด็กคนนี้ให้รีบพาตัวไปหาเขาให้เร็วที่สุด”
พวกเขารออยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว เนื่องจากผู้อาวุโสมีการเดิมพันกับท่านอ๋องซิว เช่นนั้นก็ต้องตามหาตัวการแล้วพากลับไปและต้องให้เขาเข้าร่วมการแข่งขันจึงจะใช้ได้ แต่เด็กคนนี้มาและหายไปอย่างไร้ร่องรอย และไม่มีใครเห็นผู้ใหญ่ที่มากับเขาเลย
เพียงแต่เสี่ยวเอ้อในร้านกล่าวว่าเห็นเด็กคนนี้ติดต่อกับหญิงคนหนึ่ง แต่หญิงคนนั้นเดินเร็วมาก เสี่ยวเอ้อจึงจำท่าทางของนางไม่ได้เลย
โชคดีที่เถ้าแก่กล่าวไว้ว่าเด็กคนนี้มาปรากฏตัวที่ ‘เซียงเว่ยซื่ออี้’ หลายวันติดต่อกัน พวกอาเจียงทั้งสองคนจึงวางแผนที่จะลองมาเสี่ยงโชคดูที่นี่ คิดไม่ถึงว่าจะหาตัวพบจริงๆ
อาเจียงเพียงคิดถึงวิธีการซุ่มรอกระต่ายเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
อาเหอมองเขาแวบหนึ่ง ยังคงมีสีหน้าไร้อารมณ์ จู่ๆ ก็พุ่งตัวออกไปผ่านด้านข้างอาเจียง ตรงเข้าไปหาหนานหนาน
หนานหนานกัดฟัน ทักษะของอาเหอผู้นี้ดีกว่ามาก เพียงเขากระโจนบิน ระยะห่างก็สั้นลงทันที แทบจะทำให้หัวใจดวงน้อยของเขาระเบิด
หนานหนานหลุบตาลง ในใจคิดอะไรวุ่นวายไปหมด สองคนนี้พยายามจับตนให้ได้ หรือเป็นเพราะเขาหน้าตาดีเกินไปหรือ
ไม่สิ สองคนนี้น่าจะเป็นลูกน้องของตระกูลจ้าวที่พยายามไล่ตามเขาที่โรงเตี๊ยมเมื่อครั้งก่อน
เป็นไปได้หรือไม่ ว่าคนตระกูลจ้าวนั้นรู้ว่าเขาเองก็จะเข้าร่วมการประชุมสุรา รู้ว่าเขาจะต้องชนะเป็นแน่ ดังนั้นจึงต้องการกำจัดเขาให้สิ้นซาก
เพียงคิดถึงความเป็นไปได้นี้ หนานหนานก็อ้าปากค้าง
ไม่ได้!!
“หึ มาดูกันว่าเจ้าจะหนีไปไหนได้อีก” จู่ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นข้างหู
หนานหนานตะลึง เงยหน้าขึ้นในทันที ก็เห็นอาเหอที่อยู่ตรงหน้า ส่วนด้านหลังก็เป็นอาเจียงที่กำลังหอบหายใจอยู่
หนานหนานหงุดหงิดเสียจนอยากจะตบตัวเองแรงๆ เมื่อครู่ไม่ทันได้ตั้งตัว ตอนนี้ถูกไล่ตามทันแล้ว ตอนนี้… มันจบแล้ว
“เจ้า ลูกน้องของตระกูลจ้าวทั้งสองคน คิดจะทำอะไร ข้าจะบอกให้นะ ข้าเสียชีพไม่ยอมเสียศักดิ์ หากอยากได้เงินข้าไม่มีให้ หากอยากได้ชีวิต… ข้าก็ไม่ให้เหมือนกัน” แววตาของหนานหนานกลอกกลิ้งไปมา ทั้งสองมือจับกระเป๋าที่ห้อยอยู่บนตัวไว้แน่น ราวกับว่าจะจัดการเต็มที่กับใครก็ตามที่ก้าวเข้ามาหา
อาเจียงวิ่งอย่างรีบเร่ง ฝีมือของเขาไม่ได้ดีเท่าอาเหอ ตอนนี้ยังคงหอบเบาๆ อยู่ โดยเฉพาะหลังจากได้ยินหนานหนานกล่าวเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาจนเกือบเสียงดังลั่น
แต่อาเหอที่อยู่อีกด้านเห็นการขยับฝีเท้าของหนานหนานที่ไม่ทิ้งร่องรอย ก็หรี่ตาลงเล็กน้อย
“กลับไปกับพวกเราเสีย” น้ำเสียงของอาเหอเย็นชา คำที่กล่าวออกมาแทบทำให้ผู้คนประหม่าจนแทบตัวแข็ง
อาเจียงแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง อาเหอมาเพื่อทำให้เรื่องเลวร้ายลงหรือนี่ เหตุใดจึงพูดกับเด็กด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างเช่นนั้น พวกเขามาเชิญคนเขานะ ไม่ใช่มาเพื่อบังคับเขา
ไม่รู้ว่าการพูดจาขวานผ่าซากเช่นนี้จะส่งผลกลับกัน ทำให้คนเขายิ่งหนีไปเร็วขึ้นหรือไม่
อาเจียงมองอาเหออย่างจริงจังอย่างที่หาโอกาสได้น้อยนัก จากนั้นก็กล่าวออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “เจ้าหนู พ่อแม่เจ้าอยู่ที่ไหนหรือ พวกข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับพ่อแม่ของพวกเจ้า เจ้าพาพวกเขาไปหาพวกเขาเป็นอย่างไร อีกอย่าง พวกเราไม่ใช่คนของตระกูลจ้าว เพียงแต่ได้พบคนตระกูลจ้าวโดยบังเอิญเท่านั้น”
บอกว่าใช้เด็กคนนี้มาเดิมพันในการประชุมสุราครั้งใหญ่ แต่จะว่าไปแล้วก็ยังต้องให้พ่อแม่ของพวกเขาเป็นผู้ตัดสินใจลงสมัครจึงจะถูก
โชคดีที่กฎของงานประชุมสุราไม่ได้เข้มงวดนัก วันเวลาลงทะเบียนจะเปิดไปจนถึงก่อนวันงานหนึ่งวัน ดังนั้นยังพอมีเวลา
หนานหนานเพียงได้ยินว่าต้องการพบท่านแม่ของตน ทันใดนั้นก็คิดว่าไม่ได้ “พวกเจ้าอยากจะจัดการกับแม่ข้าด้วยงั้นหรือ ข้าขอบอกพวกเจ้าไว้เลย อย่าแม้แต่จะคิด”
อืม เขาเมินเย่ซิวตู๋ไปอย่างจงใจ
มุมปากอาเจียงกระตุก เขาเข้าใจคำพูดของตนไปว่าอย่างไรกันนี่ เขาอยากจะจัดการกับแม่อีกฝ่ายตอนไหนกัน
เขาถอนหายใจ ลูบหน้าผากตัวเอง คิดอยู่ว่าควรพูดให้เข้าใจก่อนพากลับไปหรือไม่ แต่ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงสั่งไว้ว่าเขาจะชักชวนอีกฝ่ายด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ไม่ทันที่อาเจียงจะได้คิดอะไรออก อาเหอก็ยกมือขึ้นสูง เล็งไปที่หนานหนานเตรียมลงมือ
หนานหนานเปลี่ยนสีหน้า ทันใดนั้นก็ถอยไปสองก้าว ยกมือเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อป้องกันการโจมตี
“นี่ พวกเจ้าสองรุมหนึ่ง ชนะไม่ใสสะอาดเลย พวกเจ้าสองคนรุมคนที่น้อยกว่า ต้องถูกกรรมตามสนองแน่” หนานหนานกระโดดอย่างโกรธจัด
อาเจียงเองก็เริ่มลนลานอยู่ข้างๆ “อาเหอ เจ้าจะทำอะไร หากทำเขาบาดเจ็บจะทำอย่างไร หากเขาบาดเจ็บ กลับไปเจ้าจะรายงานท่านผู้อาวุโสอย่างไร”
อาเหอไม่แม้แต่จะสนใจเขา เพียงแต่ตอนมองหนานหนานดวงตาก็เป็นประกาย และคนที่พูดน้อยราวกลัวดอกพิกุลจะร่วงอย่างเขาก็กล่าวประโยคยาวๆ ออกมาอย่างหาฟังได้ยาก “ฝีมือดีนี่ อายุยังน้อยแต่มีความสามารถเช่นนี้ อนาคตไร้ขีดจำกัด”
ไม่แปลกใจเลยที่ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงแทบรอไม่ไหวที่จะรับเขาเป็นศิษย์ คนเก่งๆ ที่ไหนต่างก็อยากรับผู้มีความสามารถมาเป็นทายาทของตนทั้งนั้น
เจ้าเด็กคนนี้โชคดียิ่งนัก ที่มีผู้มีบารมีสูงส่งในดินแดนเหมิงอย่างผู้อาวุโสเผ่าเหมิงมาสนใจ
เขากล่าวจบก็โจมตีหนานหนานอีกครั้ง
เดิมทีหนานหนานคิดว่าถ้าหากสู้ไม่ไหวจริงๆ ก็คงทำได้เพียงเปิดเผยตัวตนและใช้วรยุทธ์ที่ท่านปู่ลู่สอน อย่างมากก็จัดการพาพวกเขากลับไปส่งต่อให้ท่านแม่จัดการ
แต่เมื่อครู่ได้ยินบทสนทนาของพวกเขา บวกกับที่อาเหอไม่ได้ใช้แรงทั้งหมดที่จะจัดการเขา หนานหนานก็รู้สึกว่า… บางทีเขาควรกลับไปกับพวกเขา
เมื่อครู่พวกเขากล่าวถึงผู้อาวุโสอะไรสักอย่าง หรือว่าจะเป็นผู้อาวุโสสกุลเยว่ หรือว่าจะเกี่ยวกับน้องอวี้
เพียงคิดถึงตรงนี้ หนานหนานก็ตัดสินใจจะลองสืบหา
จู่ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้น หดมือกลับ ยืนอยู่กับที่แล้วกล่าวเสียงฮึ “ข้าจะกลับไปกับพวกเจ้า”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ยอมไปก่อนแล้วค่อยจัดการทีหลังก็ยังไม่สายนะหนานหนาน แต่นับว่ามีฝีมืออยู่นะที่ทำให้ผู้ใหญ่สองคนไล่ตามได้แบบนี้
ไหหม่า(海馬)