อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 675 ข้าเป็นคนใจดีมาก
ตอนที่ 675 ข้าเป็นคนใจดีมาก
ตอนที่ 675 ข้าเป็นคนใจดีมาก
อาเหอตกตะลึง สายตามองฝ่ามือของตนเองที่กำลังจะตบลงไปบนศีรษะของหนานหนานแล้วทันใดนั้นก็สูดหายใจ ตอนนั้นเขาไม่สนใจอันใดแล้ว ชักมือกลับมาอย่างแรง
เพียงแต่ฝ่ามือที่กำลังโจมตี จะชักกลับมาจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร
อาเหอกระอักเลือดออกมาดัง ‘อึก’ ท่ามกลางเสียงตกใจของอาเจียง
อาเจียงรีบก้าวไปข้างหน้าพยุงเขา “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ข้าบอกแล้วว่าอย่าลงมือๆ ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าหาเรื่องใส่ตัว”
อาเหอผลักเขาออก แค่นหัวเราะอย่างเย้ยหยัน จากนั้นก็ดันอกตัวเองค่อยๆ ลุกขึ้น แววตามองหนานหนานอย่างเย็นชา “เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ”
หนานหนานทำหน้าไร้เดียงสา “ใครบอกว่าข้าไม่อยากมีชีวิต ข้ารู้ว่าชีวิตข้ามีค่าเพียงไหน เจ้าลืมแล้วหรือว่าข้ามีเคล็ดวิชาฝ่าเท้าของตระกูลลู่ เมื่อครู่หากเจ้าลงมือโดยไม่หยุดยั้งจริงๆ ข้าก็หลบได้อยู่ดี”
“…” อาเหอทำอะไรไม่ถูกและพูดไม่ออก
อาเจียงกลับยิ้มออกมา พูดกันตามตรง เห็นอาเหอเป็นทุกข์เช่นนี้ ในใจเขามีความสุขมาก เขาหันหน้าไปถามหนานหนาน “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าจะกลับไปกับพวกเราหรือ?”
หนานหนานก้าวไปข้างหน้าทันที วิ่งไปหยุดตรงหน้าอาเหอเป็นอันดับแรก เห็นว่าอาการบาดเจ็บของเขาไม่ร้ายแรง ก็หยิบยาออกมาอย่างใจดี “ให้เจ้ากิน ข้าบอกแล้วอย่างไร คนหมู่มากรุมรังแกคนอื่นจะต้องได้รับกรรม ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมล่ะ แต่ข้าน่ะเป็นคนใจดีมาก ต่อให้เจ้าเกือบจะทำร้ายข้า ข้าก็ไม่สนใจหรอก มาๆๆ มากินยาเสีย ยานี้รักษาอาการบาดเจ็บภายในได้ดีมากนะ”
มุมปากที่เกร็งของอาเหอกระตุกอย่างอดไม่ได้ เด็กคนนี้ราวกับสุนัขจิ้งจอกน้อย ดูเป็นคนใจดีตรงไหนกัน ยาที่อยู่ในมือก็ไม่เหมือนยารักษา ดูจะเป็นยาพิษน่ะสิ
“มา กินเถอะน่า ข้าไม่เก็บเงินหรอก”
อาเหอเห็นความพยายามของเขา มือก็ยกมือขึ้นสูง สีหน้าแข็งทื่อ กล่าวอย่างเย็นชา “ไม่ต้อง… เจ้า…”
หนานหนานโบกมือ เท้าเอวแล้วกล่าว “เอาล่ะ เดี๋ยวข้าจะป้อนเจ้าเดี๋ยวนี้ ข้าเองก็จะได้วางใจ”
อาเหออยากจะพ่นออกมา แต่เมื่อยาเข้าปากไปแล้วก็ละลายทันที เขาไม่มีแม้แต่เวลาจะตอบสนอง ยาทั้งหมดนั้นก็ลงไปในท้องของตนเสียแล้ว
“นี่เจ้าเอาอะไรให้ข้ากินกันแน่”
“ก็บอกแล้วไม่ใช่หรือ ยานี่ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บภายใน เจ้าลองดูเสียหน่อย รู้สึกว่าในอกสบายขึ้นมากหรือไม่ รู้สึกอุ่นขึ้นบ้างหรือไม่?”
อาเหอขมวดคิ้ว กลั้นหายใจ ก็พบว่าเป็นไปตามที่เขาพูดจริงๆ อาการเจ็บหน้าอก หายใจถี่ และแสบร้อนเมื่อครู่นี้หายไปแล้ว ทั้งยังค่อยๆ สบายตัวขึ้นอีกด้วย
หนานหนานเลิกคิ้ว “ข้าบอกแล้ว ข้าไม่ได้โกหก”
พูดเป็นเล่น เขาไม่รู้จักทั้งสองคนนี้เลยสักนิด ใครจะรู้ว่าเป็นคนดีหรือไม่ ท่านแม่บอกว่า เด็กดีจะต้องรู้จักระมัดระวังตัวจากผู้อื่นเสมอ ดังนั้นเขาจึงป้อนยาพิษให้อาเหอ หากอีกฝ่ายกล้าจะทำร้ายตน ก็เพียงแค่ข่มขู่ ข่มขู่เขาเสีย
หนานหนานตัดสินใจแล้ว จากนั้นก็หันไปตอบคำถามเมื่อครู่ของอาเจียง “ใช่น่ะสิ ข้าจะกลับไปกับพวกเจ้า ดังนั้นพวกเจ้าก็ไม่ต้องเสียแรงมาจับข้า ข้ามีสติมากนัก”
อาเจียงลูบหน้าผาก ทำไมเขาไม่รู้สึกเลยว่าเด็กคนนี้เพิ่งจะห้าขวบ เมื่อครู่เห็นเขาเอายายัดปากอาเหอเข้าไป การกระทำรวดเร็วทั้งยังชำนาญอย่างมาก ทำเอาเขาดูโง่งมไปเลย
จนกระทั่งหนานหนานหันร่างมาคุยกับตน อาเจียงจึงตอบสนองในทันที
เพียงได้ยินเขากล่าวเรื่องพวกนี้ ก็รู้สึกพูดไม่ออก “เจ้าหนู ข้ากำลังตามหาพ่อแม่ของเจ้า เรามีเรื่องที่ต้องคุยกับพวกเขา”
หนานหนานทำเสียงฮึดฮัด “หากแม้แต่ระดับข้าก็ยังจัดการไม่ได้ ก็ไม่มีคุณสมบัติจะไปพบกับพ่อแม่ของข้า”
“…” อาเจียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ระดับนี้หรือ คุณสมบัติหรือ ยังไม่มีใครกล้าพูดเลยว่าผู้อาวุโสเผ่าเหมิงไม่มีคุณสมบัติในการพบคนอื่นๆ พ่อแม่เขาเป็นคนน่าอัศจรรย์เพียงไหนกัน
แต่ทว่า ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเร่งรีบอยากพบเขา เรื่องที่ด่วนที่สุดคือต้องจัดการเรื่องเด็กคนนี้ให้มั่นคงก่อน ไม่เช่นนั้นหากทำเขาไม่พอใจเข้า แล้วหันหน้าวิ่งหนีไปจะทำอย่างไร
ตอนนี้อาเหอก็บาดเจ็บแล้ว เขาคนเดียวจับอีกฝ่ายไม่ทันหรอก
นึกถึงตรงนี้ อาเจียงทำได้เพียงยิ้มแล้วพยักหน้า “ดี เช่นนั้นเจ้ากลับไปกับพวกข้าก่อนเถิด”
หนานหนานพยักหน้าอย่างแรง เด็กน้อยทำท่าเอามือไพล่หลังราวกับผู้ใหญ่ เดินไปข้างหน้าทีละก้าว
อาเจียงและอาเหอสบตากัน ไม่กล้าทำอะไร ในที่สุดถือว่าเรื่องมีความคืบหน้าแล้ว
ทั้งสองกังวลว่าหนานหนานเดินทางจะเหนื่อย จึงให้คนนำเกี้ยวมา ให้เขานั่งพักอยู่ข้างใน ไม่นานก็มาถึง
หนานหนานคิดไม่ถึงว่าการดูแลจะดีงามเพียงนี้ รู้สึกสบายใจขึ้นอย่างอธิบายไม่ถูก เกี้ยวโยกไปโยกมาอย่างสบายๆ มาก เขาเอียงไปมา ไม่นานนักก็ผล็อยหลับไป
อาเจียงที่อยู่ด้านนอกหาเวลามาดูแวบหนึ่ง เห็นเขานอนหลับอยู่ตรงที่นั่งไปจนฟ้ามืด อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า
อย่างไรเด็กก็ยังเป็นเด็ก คนที่สามารถหลับได้อย่างไรกังวลเช่นนี้ ก็มีเพียงคนวัยเขาเท่านั้นล่ะ
กระทั่งเกี้ยวมาถึงหน้าจวนของผู้อาวุโสเผ่าเหมิง หนานหนานก็ยังไม่ตื่น
ถึงขนาดที่เกี้ยวเคลื่อนไหวกระทบลงบนพื้นก็ยังไม่สามารถลืมตาได้ หนานหนานง่วงมากจริงๆ เมื่อคืนนี้ในหัวเขาคิดถึงแต่วิธีที่แม่นมเซียวจะลงโทษเขา ฝันร้ายอยู่ทั้งคืน และไม่ได้หลับสนิทดีๆ เลย ตอนนี้พอได้นอนแล้วจะตื่นง่ายๆ ได้อย่างไร
อาเจียงเปิดม่านเกี้ยวดู ลังเลอยู่พักหนึ่ง ก็ค่อยๆ เรียกเขา “เจ้าตัวน้อย ตื่นหรือยัง”
“ไปไกลๆ” หนานหนานผลักตัวแล้วนอนต่อ
อาเจียงลูบจมูกตนเอง เขากล้าพนันกับอาเหอร้อยตำลึงเลย เด็กคนนี้ตอนตื่นนอนอารมณ์ร้อนมากจริงๆ
เขาหันหน้าสบตากับอาเหอ กล่าว “ไม่เช่นนั้น เจ้ามาปลุกเถิด”
อาเหอหันหลังกลับมาอย่างเย็นชา มอบเงินให้กับคนหามเกี้ยว กล่าว “เจ้าเข้าไปก่อนเถิด พรุ่งนี้ค่อยมารับเกี้ยวกลับที่จวน”
“ขอรับ” คนหามเกี้ยวสองสามคนนั้นพยักหน้า ที่นี่คือจวนผู้อาวุโสเผ่าเหมิง พวกเขาไม่กลัวว่าเกี้ยวจะหาย
รอจนกระทั่งพวกเขากลับไป อาเหอก็เดินเข้าไปในประตูใหญ่ เรียกคนรับใช้สองสามคนมา แล้วยกเกี้ยวขึ้นอีกครั้ง หามเข้าไปด้านใน
อาเจียงตกตะลึง อาเหอผู้นี้รู้จักใช้โอกาสนี้ด้วยหรือ
หนานหนานได้นอนจนพอใจ รู้สึกได้ว่าเกี้ยวใต้ร่างนั้นขยับอีกครั้ง โยกไปโยกมา กลับทำให้เขายกมุมปากยิ้มอีกครั้ง
เกี้ยวเลื่อนผ่านสวนหน้าจวน ผ่านสระน้ำ ผ่านประตูที่สอง จากนั้นก็หยุดอยู่ตรงหน้าโถงใหญ่
อาเจียงมาครึ่งทางก็เลี้ยวไปยังห้องหนังสือของผู้อาวุโสเผ่าเหมิง ตอนนี้ทั้งสองคนก็เข้าประตูมาพอดี
อาเหอดูสุภาพขึ้นมา เปล่งเสียงดังขึ้น “ท่านผู้อาวุโส”
หนานหนานเริ่มไม่สบายตัวเพราะเกี้ยวหยุดลง ในหูก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังเข้ามา เขาสะดุ้งแล้วตื่นในทันที
อารมณ์โกรธตอนตื่นนอนนั้นหนักหนายิ่งนัก
หนานหนานเปิดม่านเกี้ยว เมื่อมองเห็นสามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็ผงะ ทันใดนั้นสีหน้าก็ไม่สู้ดี
คนซ้ายขวาเขาล้วนรู้จัก ถ้าเช่นนั้นแล้ว คนที่อยู่ตรงกลางก็คือคนที่ต้องการพบตนสินะ
“ท่านคือผู้อาวุโสสกุลเยว่หรือ?” เมื่อครู่เหมือนเขาได้ยินว่ามีคนเรียกผู้อาวุโส นี่คือท่านปู่ของน้องอวี้หรือ ทำไมถึงแก่ชราเช่นนี้
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ฉันขอคืนคำพูดเมื่อตอนที่แล้ว เริ่มสงสารอาเหอกับอาเจียงขึ้นมาแล้วสิที่มาเจอเด็กแสบอย่างหนานหนาน
ไหหม่า(海馬)