อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 679 ออกไปไม่ได้
ตอนที่ 679 ออกไปไม่ได้
ตอนที่ 679 ออกไปไม่ได้
หนานหนานนั่งอย่างโกรธเกรี้ยวอยู่ที่ก้อนหินก้อนใหญ่ด้านข้าง เม้มปากมองดูท้องฟ้าเบื้องบน
ท่านแม่เคยบอกไว้ว่าครั้งก่อนนางเคยถูกค่ายกลของท่านพ่อขังเอาไว้ที่เจียงเฉิง จากนั้นท่านลุงเสิ่นก็กัดฟันบอกเขา ท่านแม่กลับจุดไฟเผาต้นไม้ หากไม่ใช่เพราะผู้พิทักษ์ทมิฬไม่ได้ปรากฏตัวทันเวลา เกรงว่าทั้งจวนคงจะถูกนางเผาไหม้เสียทั้งหมดแล้ว
อืม จริงๆ เขาเองก็อยากจะจุดไฟเผา อย่างไรท่านแม่ก็เป็นต้นแบบที่เขาชื่นชมมาโดยตลอด เรื่องที่ท่านแม่ทำ เขาก็อยากทำตามทั้งหมด แน่นอน ยกเว้นเรื่องคลอดลูก
แต่ว่า…
หนานหนานมองด้านบนหัว ในใจเริ่มรู้สึกเคียดแค้น เหตุใดที่ที่เขาอยู่จึงเป็นป่าไผ่นะ ทำไมๆๆ
แล้วนี่จะให้เขาก่อไฟอย่างไร จะเผาป่าอย่างไร ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงผู้นี้ช่างไม่รู้จักปลูกพุ่มไม้เสียบ้าง นี่กลับปลูกแต่ต้นไผ่ สมงสมองช่างผิดปกติเสียจริง
ต่อไปหากมีโอกาส จะต้องให้ท่านแม่ดูอาการเขาให้ดีๆ และรักษาเสียบ้าง
หนานหนานพองแก้ม จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สุดท้ายแล้วก็ต้องล้มเลิกแผนเผาป่าไป
แต่ต่อจากนั้น ดวงตาของเขาก็กลับมาสดใสอีกครั้ง คนทั้งคนเริ่มตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ถูก
ก็เพียงแค่ค่ายกลไม่ใช่หรือ เขา อวี้ฉิงหนานที่ฉลาดเฉลียวที่สุดในโลก จะแก้ค่ายกลไม่ได้เชียวหรือ รอก่อนเถอะ เดี๋ยวก็จะออกไปได้แล้ว
หนานหนานกระชับกระเป๋าแน่น ยกมือขึ้นทำเครื่องหมายบนต้นไผ่ต้นแรก จากนั้นก็เดินไปข้างหน้า
ดวงอาทิตย์ค่อยๆ เอนไปทางทิศตะวันตก ท้องฟ้าก็ค่อยๆ มืดลง
หนานหนานยืนหอบหายใจอยู่ใต้ป่าไผ่ มองก้อนหินที่คุ้นเคยอย่างเศร้าสลด เช่นเดียวกับ… ต้นไผ่ที่คุ้นเคยซึ่งเขาทำเครื่องหมายไว้
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ นั่งลงบนก้อนหิน หยิบเอาของกินในกระเป๋าออกมาแล้วกัดอย่างแรงสองสามคำ
โชคดีที่เขาฉลาด ในกระเป๋ามักจะมีอาหารเครื่องดื่มและของใช้อยู่เสมอ ไปที่ไหนก็ไม่กลัว หึๆ ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงผู้นั้นคงคิดไม่ถึงล่ะสิ โง่จริงๆ
แต่รอจนกระทั่งหนานหนานหยิบน้ำ ทันใดนั้นหางตาก็มองเห็นกล่องเล็กๆ เขานึกถึงบางอย่างได้ในทันที ลุกขึ้นยืนจากก้อนหินอย่างรู้แจ้ง
เหมือนกับว่า… เขาไม่ได้บอกน้องอวี้ไว้ นี่ดึกแล้วยังไม่กลับ หากน้องอวี้เป็นห่วงจะทำอย่างไร
หนานหนานรีบนั่งยองๆ ลง เปิดกล่องในมือออก ปล่อยแมงป่องตัวอ้วนจอมขี้เกียจตัวนั้นออกมา
“ต้าไป๋เหอ ต้าไป๋เหอ เจ้าจะทำตัวขี้เกียจใส่ข้าไม่ได้แล้วนะ ข้าจะบอกให้ เพราะเจ้าขี้เกียจเกินไปจึงยิ่งอ้วนขึ้นๆ เช่นนี้ ต่อไปหากหาคู่ไม่ได้จะทำอย่างไร ข้าจะบอกให้ ข้าไม่มีทางหาคู่ให้เจ้าได้หรอกนะ เจ้าจะต้องพยายามเองเข้าใจไหม อย่างไรเจ้าก็ไม่ได้หล่อเหลาและอ่อนโยนเท่าข้า ต่อให้ไม่ไปหาคู่ ก็จะมีคนมาหาข้าถึงที่เอง”
ต้าไป๋เหอทนไม่ไหว ไม่สนใจเขาอีกแล้ว ปีนขึ้นไปยังต้นไผ่ด้านหน้าทันที
หนานหนานตะลึงไป “อ้าว นี่ เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ ข้ายังพูดกับเจ้าไม่จบ เจ้าหยุดก่อน…”
ต้าไป๋เหอหยุดลง สะบัดหางใส่เขาราวกับกำลังบอกว่า ‘อยากให้ข้าพาเจ้าออกไปไม่ใช่หรือ รีบตามมาสิ’
หนานหนานส่งเสียงฮึดฮัด หยิบเอาขวดลายครามขนาดเล็กที่ใส่ผงสีเขียวออกมาจากกระเป๋า โรยใส่ต้าไป๋เหอเล็กน้อย จากนั้นก็สั่งอย่างเป็นห่วง “เอาล่ะ เจ้าไปได้แล้ว จำไว้ว่าต้องรายงานท่านแม่ว่าข้าปลอดภัยดี บอกว่าข้าไม่เป็นไรก็ใช้ได้แล้ว”
ต้าไป๋เหอนิ่งงัน สะบัดหางอีกครั้งจากนั้นก็คลานไปข้างหน้า
หนานหนานโบกมือให้มันจากไกลไกล “เดินทางปลอดภัยล่ะ จะต้องเอาคำของข้าไปบอกให้ได้นะ เข้าใจไหม”
ความเร็วของต้าไป๋เหอเร็วขึ้นทันที ทิ้งเสียงของเขาเอาไว้ด้านหลังจากที่ไกลๆ
หนานหนานพองแก้ม ในใจคิดว่าต่อไปจะต้องสั่งสอนต้าไป๋เหอให้มากๆ ตอนนี้มันไม่เห็นเขาในสายตามากขึ้นทุกวัน
เขากินของกินอีกเล็กน้อย ครั้งนี้ไม่ได้กินมาก เหลือเอาไว้กินพรุ่งนี้ไม่น้อย จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้น มองต้นไผ่ ถอนหายใจอย่างหนัก
เพียงไม่ถึงหนึ่งวินาที ก็เริ่มฟื้นความกระตือรือร้นขึ้นมาอีกครั้ง
อีกด้านหนึ่งในขณะเดียวกัน ก็เป็นอย่างที่หนานหนานคิดเอาไว้ เหมิงหลัวอวี้เห็นว่าฟ้ามืดแล้วก็ไม่เห็นเขากลับมา ในใจก็เริ่มที่จะเป็นกังวล
จนกระทั่งอวี้ชิงลั่วกลับมาตอนกลางคืน นางจึงไปพบอีกฝ่ายอย่างกังวล กล่าวด้วยความกระวนกระวาย “ท่านน้าชิง หนานหนานยังไม่กลับมา ข้าไม่สบายใจเลยเจ้าค่ะ เอาแต่รู้สึกเหมือนจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น”
“หืม เขาบอกเจ้าหรือไม่ว่าไปที่ไหน” อวี้ชิงลั่วนำของในมือวางไว้บนโต๊ะ แต่กลับไม่ได้กังวลอันใด เพียงแต่หยิบสมุดของเหมิงหลัวอวี้บนโต๊ะติดมือมา เห็นว่าลายมือในนั้นดูเชี่ยวชาญมากขึ้นเรื่อยๆ ละเอียดอ่อนขึ้นเรื่อยๆ ก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว
นางพบว่าเด็กที่มีปานรูปดอกไม้ ดูเหมือนจะมีความฉลาดทางสติปัญญาสูงทั้งนั้น แน่นอนว่าเหมิงหรง บิดาของเหมิงหลัวอวี้นั้นเป็นข้อยกเว้น
“หนานหนานบอกเพียงว่าออกไปเดินดูเสียหน่อย บอกว่าเดี๋ยวจะรีบกลับมา แต่จนถึงบ่ายแล้วเขาก็ยังไม่กลับเจ้าค่ะ”
อวี้ชิงลั่วพยักหน้า วางสมุดลงบนโต๊ะอีกครั้ง กล่าวยิ้มๆ “เจ้าไม่ต้องจริงจังกับคำพูดของเขานัก ดูท่าจะไปดื่มเหล้าอีกแล้ว เขาจะกลับมาในอีกสักพักได้อย่างไรเล่า”
“เช่นนั้น เช่นนั้นหากเขาดื่มเหล้าจะไม่เกิดเรื่องหรือเจ้าคะ” เหมิงหลัวอวี้พบว่าหนานหนานเก่งมาก อายุยังน้อยดูเหมือนจะคอแข็งอย่างมาก ท่านน้าชิงก็ดูเหมือนจะปล่อยเขา ทั้งยังบอกว่าเลี้ยงเขาผิดๆ มาตั้งแต่เด็กแล้ว
หนานหนานมีร่างกายที่พิเศษ และดูเหมือนการดื่มเหล้าเป็นครั้งคราวจะมีประโยชน์กับเขา
อวี้ชิงลั่วส่ายหัว ไม่กังวลกับการที่หนานหนานออกไปดื่มเหล้านัก
ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกัน หงเย่ก็อุทานออกมาในทันใด “คุณหนู นั่นเจ้าค่ะ”
อวี้ชิงลั่วหลุบตาลง ก็เห็นต้าไป๋เหอคลานเข้ามาพร้อมกับกระดิกหาง
เหมิงหลัวอวี้กรีดร้องตกใจ ทันใดนั้นก็จับมือของอวี้ชิงลั่วไว้แน่น กล่าว “ท่านน้าชิง มีแมงป่องเจ้าค่ะ แมงป่องมีพิษ”
อวี้ชิงลั่วตบมือของนาง ย่อตัวลงแล้วให้ต้าไป๋เหอคลานขึ้นมาบนมือของตน เห็นเหมิงหลัวอวี้ยังคงคอยระวังและทำท่าราวกับอยากจะเหยียบมันให้ตาย ก็อดไม่ได้ที่จะอธิบายพร้อมรอยยิ้ม “นี่เป็นของหนานหนาน เจ้าเห็นผงสีเขียวบนหลังแมงป่องหรือไม่ นั่นคือหนานหนานบอกพวกเราว่าตอนนี้เขาปลอดภัยดี เพียงแต่ว่า…”
ของหนานหนานหรือ เหมิงหลัวอวี้วางใจขึ้นมาเล็กน้อย “เพียงแต่ว่าอะไรเจ้าคะ”
“เพียงแต่ว่าคืนนี้เขาคงไม่กลับมาแล้ว ไปเถอะ เราไปกินข้าวกัน ไม่ต้องรอเขาแล้ว”
อวี้ชิงลั่ววางแมงป่องลงกับพื้นอีกครั้ง ต้าไป๋เหอก็คลานสวบๆ ออกไปข้างนอกอีกครั้ง
เหมิงหลัวอวี้กะพริบตา รู้สึกแปลกใจมาก นางรู้ว่าในดินแดนเหมิงมีคนเลี้ยงเสือดาว เลี้ยงสิงโต พวกเขาทำให้สัตว์ใหญ่พวกนั้นฟังคำสั่งตนได้หมด แต่คิดไม่ถึง ว่าแม้แต่สัตว์เล็กๆ อย่างแมงป่องก็ยังฉลาดเช่นนี้ด้วย
อวี้ชิงลั่วไม่ได้คิดเรื่องหนานหนานให้มากมายอีก นางเพียงแต่คิดว่าพรุ่งนี้ตอนไปที่จวนผู้อาวุโสสกุลเยว่อีก จะปลุกเหมิงหรงให้ฟื้นขึ้นมาได้ใช่หรือไม่
วันนี้หมอเฒ่าฉยงซานดูอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก นางคิดว่าคงเป็นเพราะเมื่อคืนเขาไปพบใครบางคนมา
แต่ท่าทางที่เขามีต่อนางนั้นยังอบอุ่นมาก ทั้งยังเชิญนางให้ไปโรงเตี๊ยมของเขาวันพรุ่งนี้เพื่อเลือกสมุนไพรหายากกัน
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
รอดูความแสบของหนานหนานนะคะ ว่าจะพาตัวเองออกมาจากค่ายกลได้หรือเปล่า
ไหหม่า(海馬)