อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 684 ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเป็นท่านปู่ของเย่ซิวตู๋หรือ
ตอนที่ 684 ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเป็นท่านปู่ของเย่ซิวตู๋หรือ
ตอนที่ 684 ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเป็นท่านปู่ของเย่ซิวตู๋หรือ
“เพล้ง”
ถ้วยชาในมือผู้อาวุโสเผ่าเหมิงตกแตกเป็นเสี่ยงๆ เขาจ้องมองเย่ซิวตู๋และหนานหนานด้วยความตกใจ หายใจเข้าลึกๆ
บิดาหรือ? ซิวเอ๋อร์เป็นพ่อของเด็กคนนี้หรือ?
เป็นไปได้อย่างไร เหตุใดเขาจึงไม่รู้ เรื่องใหญ่เพียงนี้ เหตุใดจึงไม่มีใครบอกเขา?
ไม่เพียงแต่เขา แม้แต่อาเจียง อาเหอ และพ่อบ้าน ทั้งสามคนที่อยู่ข้างๆ นั้นก็มีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน รู้สึกว่าโลกทั้งใบเปลี่ยนไปแล้ว เหมือนโลกหมุนกลับ หาทิศทางไม่เจอ
พวกเขาจ้องมองหนานหนานเขม็ง จากนั้นก็หันมามองทางเย่ซิวตู๋ พบว่าหลังจากพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว ทั้งสองคนก็มีบางจุดที่เหมือนกันอย่างน่าตกใจจริงๆ
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงมือสั่น ยังไม่สามารถรับความจริงได้ ส่ายศีรษะและพึมพำ “เป็นไปไม่ได้ นี่เป็นไปไม่ได้”
เย่ซิวตู๋เลิกคุ้ย หลุบตาลงมองหนานหนานแล้วกล่าว “เรียกท่านพ่อให้เขาฟังสิ”
หนานหนานเชื่อฟังเป็นอย่างมาก พยักหน้า จากนั้นก็เอาแขนโอบคอของเย่ซิวตู๋แล้วเอ่ยเรียกเขาอย่างไพเราะ “ท่านพ่อ”
“เด็กดี ต่อไปไม่ต้องไปเพ่นพ่านที่ไหนแล้วนะ จะได้ไม่ต้องไปทำคนอื่นบาดเจ็บ ฝีมือเจ้าไม่เลว บางคนเขาก็อายุมากแล้ว ก็จะเชื่องช้า ไม่ว่องไวอีกต่อไป”
หนานหนานพยักหน้าอย่างเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ไม่ค่อยแน่ใจว่าท่านพ่อหมายถึงใคร แต่เขาคิดว่าคนที่อยู่ตรงนี้ และถูกคนเรียกว่าอายุมากแล้ว มีเพียงผู้อาวุโสเผ่าเหมิงและพ่อบ้านเท่านั้น
อ้อ จริงสิ ท่านพ่อกับผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเป็นอะไรกันหรือ? เหตุใดดูแล้วเหมือนว่าพวกเขาสนิทสนมกันมาก เมื่อครู่ก็ยังให้ตนทำความเคารพเขาอีกด้วย
หนานหนานเข้าใจแล้ว หากพวกเขาเป็นคนคุ้นเคยกันจริง เช่นนั้นก็ดูเหมือนว่าเขาทำเรื่องที่ไม่ดีลงไปแล้ว
“ท่านพ่อ”
“หืม”
“ท่านกับ… เขา สนิทกันมากหรือเปล่าขอรับ” หนานหนานชี้นิ้วเล็กๆ สีชมพูของเขาไปยังอาเหอ
อาเหอตกตะลึง ใบหน้าของเขากระอักกระอ่วนเล็กน้อย
แต่เย่ซิวตู๋เหมือนกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นก็พยักหน้ากล่าว “พ่อรู้จักเขาจริง ได้ยินว่าเจ้าวางยาเขา ยาแก้พิษล่ะ”
“ข้าขอหาก่อนขอรับ” หนานหนานลงจากตักของเย่ซิวตู๋ ก้มหน้าค้นกระเป๋าของเขาพักหนึ่ง จากนั้นก็นำขวดกระเบื้องเคลือบเล็กๆ สีน้ำตาลออกมา จากนั้นก็เทยาสีดำออกมาแล้วโยนให้อาเหอ
อาเหอมองเย่ซิวตู๋แวบหนึ่ง เห็นเขาพยักหน้า ก็หยิบเข้าปากทันที เขายังไม่ทันได้กลืน ยานั้นก็ละลายกลายเป็นน้ำ ไหลลงคอเขาโดยตรง
ต่อจากนั้น เขาก็รู้สึกสบายไปทั่วร่าง ความรู้สึกแน่นหน้าอกมาตลอดสองวันก็หายไป แม้แต่ลมหายใจก็ยังปลอดโปร่ง ราวกับไม่มีสิ่งใดอุดกั้น
หนานหนานยิ้มให้เขา แต่ก่อนที่จะหุบยิ้ม จู่ๆ ร่างของเขาก็ถูกคนจับหมุน จากนั้นใบหน้าที่น่ากลัวของผู้อาวุโสเผ่าเหมิงก็ปรากฏในสายตา
เขาตกใจมาก รีบไปหาเย่ซิวตู๋ “ท่านพ่อ ท่านรู้จักคนผู้นี้จริงๆ หรือ”
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงนี้ดูๆ ไปแล้วผิดปกติเอามากๆ พ่อของเขาที่เป็นคนธรรมดาทั้งยังหน้าตาหล่อเหลา จะมาเป็นสหายกับคนที่ดูเหมือนบ้าๆ บอๆ เช่นนี้ได้อย่างไร
สีหน้าของผู้อาวุโสเผ่าเหมิงตื่นเต้น คว้าแขนของหนานหนานและบีบแน่น ถามอย่างกระตือรือร้น “เจ้า เจ้าเป็นลูกของซิวเอ๋อร์จริงหรือ ปีนี้เจ้าอายุเท่าไรแล้ว เหตุใดเจ้าจึงมาอยู่ที่นี่ได้?”
เขาถามคำถามไม่หยุด สีหน้าดูกังวลเล็กน้อย
ถามหนานหนานเสร็จ ไม่รอให้เขาตอบ ก็หันหน้าไปมองเย่ซิวตู๋เขม็ง หน้าซีด “เหตุใดจึงไม่บอกข้าว่าเจ้ามีลูกชาย?”
อีกอย่าง อีกอย่างเด็กก็โตขนาดนี้แล้ว ทั้งยังฉลาดเฉลียวเช่นนี้ มีพรสวรรค์เช่นนี้ ทำให้คนยากจะต้านทานเช่นนี้ด้วย
หากรู้แต่แรกว่าเขาเป็นลูกของซิวเอ๋อร์ เขาจะปฏิบัติกับอีกฝ่ายเช่นนี้ได้อย่างไร จะบังคับให้เข้าไปในป่าไผ่ ทั้งยังปล่อยให้เขาหิวอยู่หนึ่งวันหนึ่งคืน เพียงคิดถึงตอนนี้ ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงก็เป็นทุกข์ นี่มันลูกของซิวเอ๋อร์นะ
เย่ซิวตู๋ยิ้ม “ดูท่าจะมีคนปิดบังเรื่องราวจากท่านนะขอรับ”
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงตะลึง ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้ว “นี่เจ้าจะบอกว่า…”
เรื่องที่ซิวเอ๋อร์มีลูกนี้ เหมิงกุ้ยเฟยและเย่ฮ่าวถิงจะต้องรู้เป็นแน่ ช่วงสองเดือนนี้เขาเองก็ติดต่อกับเย่ฮ่าวถิงไม่น้อย แต่อีกฝ่ายกลับไม่พูดเรื่องเย่ซิวตู๋มีบุตรชายเลยสักครั้ง ทั้งยังโตขนาดนี้แล้ว
ถึงขนาดที่ว่าจนตอนนี้เขาก็ไม่ได้ยินข่าวอะไรเลยแม้แต่น้อย ก็แสดงว่าเย่ฮ่าวถิงไม่เพียงแต่ปิดบังเขาเรื่องนี้ อีกทั้งยังปิดกั้นข่าวคราวจากเขา ให้เขาไม่รู้เรื่องของเย่ซิวตู๋เลยแม้แต่นิด
เวรเอ๊ย พวกนั้นโกหกเขา ทั้งยังคิดว่าเขาแก่แล้ว ก็จะยิ่งหลงๆ ลืมๆ อย่างนั้นหรือ?
หนานหนานเห็นสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ตนก็ยังถูกเขาจับเอาไว้ จึงพยายามดิ้นรนออกจากการจับมือของเขา วิ่งขลุกๆ ไปนั่งที่ตักของเย่ซิวตู๋
หันกลับไปมองท่าทางที่ยังงุนงงของผู้อาวุโสเผ่าเหมิง เขารีบหันกลับมากระซิบที่หูของเย่ซิวตู๋ทันที “ท่านพ่อ ข้าจะบอกให้ ข้าคิดว่าเขาไม่ค่อยปกติ เขาส่งคนมาจับข้าโดยไม่มีเหตุผล ทั้งยังอยากรับข้าเป็นศิษย์อย่างไม่มีเหตุผล ทั้งยังแสดงวรยุทธ์ให้ข้าดูอย่างไม่มีเหตุผล และสุดท้ายยังไล่ต้อนข้าเข้าไปในป่าไผ่ไม่ตามเข้าไปจับข้าอย่างไม่มีเหตุผลด้วยขอรับ ดูท่าทางเช่นนี้ของเขาน่าจะมีอาการทางจิต ท่านพ่อ ให้ท่านแม่มาดูอาการเขาหน่อยดีหรือไม่”
อาเจียงตรงด้านข้างที่เพิ่งจะได้สติกลับมากระตุกมุมปาก แม้แต่อาเหอที่มักจะนิ่งเฉยอยู่เสมอก็ยังลอบถอนหายใจ
ผู้อาวุโสของพวกเขาคิดมาตลอดว่านายน้อยเย่นั้นฝึกยาก ไม่มีอะไรให้คาดหวัง ทั้งยังมีความคิดของตัวเองอันล้ำลึก แต่พวกเขากลับรู้สึกว่าเด็กคนนี้อาจจะรับมือได้ยากกว่านายน้อยเย่เสียด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นน่าจะทำให้ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงกระอักเลือดได้อีกด้วย
เย่ซิวตู๋ยิ้ม มองผู้อาวุโสเผ่าเหมิงที่สีหน้ามืดมน รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรบางอย่าง
เย่ซิวตู๋กล่าวพอให้เข้าใจ ไม่ได้กล่าวอะไรมาก เพียงแต่มองหนานหนานแวบหนึ่ง กล่าวยิ้มๆ “อย่าพูดไร้สาระ เขาปกติจะตายไป”
ขณะกล่าวก็จับหนานหนานหมุนตัว ให้เขาหันหน้าเข้าหาผู้อาวุโสเผ่าเหมิง กล่าวเบาๆ “มา นี่คือผู้อาวุโสเผ่าเหมิง อาจารย์ของพ่อ เด็กดี เรียกท่านอาจารย์ปู่สิ”
หนานหนานเบิกตากว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หัวหมุนไปมา หันไปทางท่านพ่อสลับกับผู้อาวุโสเผ่าเหมิงไม่หยุด
ท่านอาจารย์ปู่หรือ ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงที่แปลกประหลาดผู้นี้ ที่แท้ ที่แท้ก็เป็นอาจารย์ของท่านพ่อ อาจารย์หรือ… จะเหนือความจริงเกินไปแล้ว
สีหน้าของหนานหนานดูค่อนข้างจะรับไม่ได้
แต่ไม่ทันรอให้เขาเปิดปาก ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงที่เพิ่งได้สติกลับมาก็คำรามทันที กอดหนานหนานเอาไว้ “ท่านอาจารย์ปู่อะไรกัน เรียกท่านปู่ทวดสิ อาจารย์ปู่ฟังดูห่างเหินเกินไปแล้ว”
“หา?” หนานหนานยิ่งประหลาดใจเข้าไปใหญ่ เหตุใดจากอาจารย์ปู่จึงกลายเป็นท่านปู่ทวดไปแล้วเล่า? ทำไมความสัมพันธ์นี้จึงยุ่งเหยิงซับซ้อนเพียงนี้?
พวกเขายังไม่ทันจะอธิบายให้ชัดเจน จะให้เขาเรียกอีกฝ่ายไม่ได้ นี่มันชวนให้สับสนยิ่งนัก
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงกอดหนานหนานพลางยิ้ม ใบหน้าแสดงออกถึงความใจดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน กล่าวกับหนานหนาน “ข้านับเป็นปู่ของพ่อเจ้า ดังนั้นเจ้าต้องเรียกข้าว่าปู่ทวด เข้าใจไหม ในร่างเจ้าน่ะ มีเลือดของข้าไหลเวียนอยู่”
หนานหนานยิ่งตกตะลึงเข้าไปใหญ่ ดวงตาเบิกกว้างเสียจนลืมกะพริบตา เหตุใดเขาจึงมีท่านปู่ทวดที่ผิดปกติเช่นนี้ได้ ทั้งในร่างของพวกเขายังมีสายเลือดเดียวกันไหลเวียนอยู่ นี่จะน่ากลัวเกินไปแล้ว
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เป็นหนานหนานก็อึ้งเหมือนกันค่ะ ความสัมพันธ์นี้ช่างซับซ้อนนัก
ไหหม่า(海馬)