อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 686 ลั่วลั่วก็คือแม่ของหนานหนาน
ตอนที่ 686 ลั่วลั่วก็คือแม่ของหนานหนาน
ตอนที่ 686 ลั่วลั่วก็คือแม่ของหนานหนาน
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงสูดหายใจในทันใด เหตุใดเขาจึงลืมเรื่องนี้ไปได้นะ ไอ้เจ้าเย่ซิวตู๋ ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้จะกล่าวออกมาทำไมกัน
เขา ไอ้คนเจ้าเล่ห์นี่ จงใจจะยุแยงตะแคงรั่วระหว่างเขากับหนานหนานชัดๆ
หนานหนานได้ยินเย่ซิวตู๋กล่าวเช่นนั้นก็ตกใจ หันหน้ามองผู้อาวุโสเผ่าเหมิงในทันใด จากนั้นก็ผลักชายชราออกไป กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวเป็นอันมาก “นี่ท่านคิดจะแยกท่านพ่อและท่านแม่ของข้าหรือ? นี่ท่านจะให้บิดาข้าไม่ต้องการข้าแล้วใช่หรือไม่? ท่านเลวร้ายเกินไปแล้ว เสียดายที่ข้าเพิ่งจะเรียกท่านว่าท่านปู่ทวด ข้ารู้สึกเสียเปรียบเป็นอย่างมาก ตอนนี้ข้าโกรธมาก ไม่อยากคุยกับท่านแล้วต่อไปข้าจะอยู่ข้างท่านปู่ลู่เท่านั้น”
หนานหนานกล่าวพลางปีนขึ้นไปบนตักของเย่ซิวตู๋อีกครั้ง ทั้งสองมือกอดเอวเย่ซิวตู๋ไว้แน่น ซบหัวลงกับอ้อมแขนของเขาแล้วกล่าวอย่างบูดบึ้ง “ท่านพ่อ ต่อให้เป็นอาจารย์ของท่าน ต่อให้เป็นท่านตาของท่าน ต่อให้เป็นคนสนิททุกคนของท่านที่อยากให้ท่านแต่งงานกับหญิงอื่น ท่านจะต้องไม่ทำผิดต่อท่านแม่ของข้านะ ไม่อย่างนั้นต่อไปข้าจะให้ท่านแม่หาพ่อเลี้ยง 18 คน ต่อไปข้าจะไม่พบท่านอีก หากเจอท่านหนึ่งครั้งก็จะทอดทิ้งท่านหนึ่งครั้ง ดังนั้นท่านจะทำเช่นนั้นไม่ได้นะ”
เย่ซิวตู๋ใช้ฝ่ามือขวาลูบท้ายทอยเขาเบาๆ แล้วกล่าวเบาๆ “พ่อไม่ทำหรอก พ่อจะมีแต่แม่ของเจ้าเป็นชายาเพียงคนเดียวตลอดไป”
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงตกตะลึง เขามองเย่ซิวตู๋อย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง จากนั้นก็พยายามจะกอดหนานหนานอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้หนานหนานจับเสื้อผ้าของเย่ซิวตู๋เอาไว้แน่น หันก้นไปทางเขา อย่างไรก็ไม่ยอมหันหน้ากลับไป
เขาทำได้เพียงกล่าวอย่างไร้หนทาง “หนานหนาน ปู่ทวดไม่ได้ตั้งใจจะแยกแม่และพ่อของเจ้านะ จริงๆ ตอนนั้นปู่ทวดเองก็ไม่รู้ว่ายังมีเจ้าอยู่ พ่อของเจ้าก็ไม่เคยบอกข้าว่าเขามีเมียมีลูกแล้ว หากรู้ล่ะก็ ปู่ทวดจะไปเจอเจ้าเสียแต่แรก และจะไม่กล่าวเช่นนั้นเลย จริงๆ”
หนานหนานยังคงเมินเขา หันก้นให้พร้อมทำเสียงฮึดฮัด
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงรู้สึกพ่ายแพ้ ทำได้เพียงจ้องเย่ซิวตู๋เขม็ง กัดฟันกล่าว “ก็ได้ หนานหนาน ปู่ทวดจะพูดความจริงกับเจ้า หลานสาวของปู่ทวดออกเรือนไปตั้งนานแล้ว นางมีสามีแล้ว จะมาแต่งงานใหม่กับพ่อเจ้าไม่ได้หรอก ที่ข้ากล่าวเช่นนั้นออกไป ก็เพียงเพื่อยั่วโมโหพ่อเจ้าเท่านั้น”
เย่ซิวตู๋ยิ้ม จากนั้นก็จิบชาอย่างสบายๆ
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเห็นท่าทางเช่นนั้นของเขา ในใจก็โมโหแทบตาย ชี้หน้าเขาแล้วกล่าว “เจ้ารู้ตั้งแต่แรกแล้วใช่หรือไม่” เขาเตือนเหมิงจื่อเชียนและคนในจวนแล้วว่าให้เงียบเอาไว้
เย่ซิวตู๋ยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ขอรับ” เขาครุ่นคิด จากนั้นก็กล่าวเสริม “ท่านอาจารย์ วันแรกที่ท่านได้พบข้า ข้าก็รู้อยู่แล้วขอรับ”
ตั้งแต่ตอนที่เขารู้จักว่าผู้อาวุโสเผ่าเหมิงจะเข้าร่วมการชิมสุราของตระกูลจ้าว ทั้งยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเย่ฮ่าวถิง เขาก็ให้เสิ่นอิงไปตรวจสอบสถานการณ์ของตระกูลจ้าว นอกจากนั้นก็ยังสืบพบเรื่องที่ว่าเหมิงจื่อฉีแต่งงานแล้วด้วย
ถึงแม้จะด้วยเหตุผลบางอย่าง ตอนเหมิงจื่อฉีแต่งงานก็จัดงานไม่ใหญ่นัก ถึงกับกล่าวได้ว่าเป็นความลับก็ว่าได้ แต่แม้จะไม่ให้ใครรู้ก็มีข่าวเปิดเผยออกมาอยู่เสมอ
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงได้ยินเช่นนี้ก็โมโหยิ่งกว่าเดิม รู้ว่าเขากล่าวตั้งหลายครั้ง แต่ก็ยังดูสงบอยู่ เพียงแค่ล้อเล่นกับตนเท่านั้น
หนานหนานได้ยินว่าคนผู้นั้นเป็นภรรยาของผู้อื่นไปแล้ว ในใจก็หายทุกข์ไปกว่าครึ่ง ทันใดนั้นก็เหมือนกับว่านึกอะไรบางอย่างออก หันหน้ากล่าว “อ๋า จริงสิ ท่านพ่อเป็นหลานของท่านปู่ อีกคนก็เป็นหลานสาวแท้ๆ ของท่านปู่ เช่นนั้นทั้งสองคนก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกันน่ะสิขอรับ”
“อืม ใช่น่ะสิ มีอะไรหรือ” ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเห็นว่าหนานหนานกำลังพูดกับตน ก็รีบละสายตาจากเย่ซิวตู๋มาทันที จากนั้นก็มองไปยังหนานหนาน
หนานหนานพยักหน้า ตบหน้าอกอย่างโล่งใจ “โชคดีๆ โชคดีที่ท่านพ่อไม่ได้แต่งงานกับคนผู้นั้น ไม่อย่างนั้นคงแย่แน่”
“ทำไมหรือ”
หนานหนานเห็นเขาเปิดใจฟังคำชี้แนะเช่นนั้น ก็กล่าวอย่างจริงจังทันที “หากญาติสนิทแต่งงานกันก็จะมีบุตรที่ไม่สมประกอบได้ขอรับ ท่านแม่ข้าบอกไว้ ลูกพี่ลูกน้องชายหญิงเหล่านี้ สายเลือดของพวกเขาใกล้ชิดกันเกินไป ในอนาคตหากแต่งงานกัน มีโอกาสสูงที่จะให้กำเนิดลูกที่พิการ เช่นสมองไม่ดี พูดไม่คล่อง ขาเดินเหินไม่สะดวก หรือไม่ก็ตาบอด หูหนวก อย่างไรก็มีปัญหาหลายอย่าง ดังนั้น ต่อให้หลานสาวของท่านปู่ทวดยังไม่ได้แต่งงาน ก็ไม่ควรแต่งกับท่านพ่อของข้า ฮ่าๆ ข้าวางใจแล้วขอรับ”
“…” ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงตกใจ มีคำพูดเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ
เย่ซิวตู๋เองก็ประหลาดใจ คำพูดเหล่านี้ ชิงเอ๋อร์กลับไม่เคยบอกเขามาก่อนเลย
คนอื่นๆ ในห้องก็มีสีหน้าท่าทางครุ่นคิดหนักเช่นกัน พวกเขาไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มาก่อนเลยจริงๆ
พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆ เหมือนกับว่าคิดอะไรออก กล่าวออกมาทันใด “ท่านผู้อาวุโสขอรับ ข้าจำได้ว่า… ท่านผู้อาวุโสสกุลเย่และฮูหยินของเขา ก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกันขอรับ”
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงชะงักไปครู่หนึ่งจากนั้นก็ตระหนักได้ “เจ้า เจ้าจะบอกว่า เหตุผลที่เหมิงหรงเกิดมาแล้วขาพิการ ก็เป็นเพราะพ่อแม่เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกันหรือ”
แม้พ่อบ้านจะรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่หนานหนานกล่าวเช่นนี้ก็สมเหตุสมผลอย่างมาก เขากลืนน้ำลาย พยักหน้าแล้วกล่าว “ข้าคิดว่าคงจะเป็นอย่างนั้นขอรับ”
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงมองไปยังเย่ซิวตู๋ เย่ซิวตู๋กอดหนานหนานไว้แน่น กล่าวเสียงเรียบ “สิ่งที่ท่านแม่ของหนานหนานกล่าว ไม่มีทางผิดไปได้ขอรับ”
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเริ่มลูบคาง ในหัวนึกถึงตัวอย่างของการแต่งงานระหว่างลูกพี่ลูกน้องอย่างรวดเร็ว พบว่าในกลุ่มคนพวกนั้นมีสองสามคู่ที่มีลูกเกิดมาพร้อมความผิดปกติ เมื่อก่อนก็คิดว่าเป็นเพราะครอบครัวถูกกรรมตามสนอง ตอนนี้พอคิดดู ก็คงเป็นเพราะเหตุผลนี้
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงถอนหายใจ ดูท่าต้องนำเรื่องนี้ไปบอกเหล่าผู้อาวุโส หากมีเรื่องจำเป็นก็ต้องประกาศเรื่องนี้ให้ทั่วอาณาจักร อย่างไรก็คงไม่มีใครหวังให้มีเรื่องอย่างเหมิงหรงเกิดขึ้นอยู่แล้ว
ไม่อย่างนั้นลูกหลานรุ่นหลังที่มีปานรูปดอกไม้ก็จะถูกกล่าวหาเพราะเรื่องความพิการนี้ ซึ่งไม่ยุติธรรมเป็นอย่างมาก
แต่แม่ของหนานหนานอย่างไรก็เป็นหญิงแต่งงานแล้ว คำที่กล่าวก็ใช่ว่าจะมีประโยชน์เสมอไป
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงขมวดคิ้ว จู่ๆ ก็ตระหนักได้ว่าดูเหมือนเขาจะมองข้ามสิ่งสำคัญมากๆ ไป
จริงสิ…
“หนานหนาน แม่ของเจ้าล่ะ ตอนนี้นาง…”
“นี่ก็สายแล้ว ข้าควรพาหนานหนานกลับได้แล้วขอรับ” เย่ซิวตู๋เห็นพ่อบ้านนำขนมของโปรดหนานหนานเข้ามาก็ไม่คิดจะอยู่ต่อ ชิงเอ๋อร์เองก็ใกล้จะกลับโรงเตี๊ยมแล้ว หากนางไม่เห็นหนานหนานสองวันติด เกรงว่าจะมาหาถึงที่
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงอึ้งงัน เห็นเย่ซิวตู๋อุ้มหนานหนานลุกขึ้นแล้ว
เพียงแต่ตอนที่เขาเดินไปตรงประตู ก็หันหน้ากลับมาอีกครั้ง ยิ้มแล้วกล่าว “จริงสิ ท่านอาจารย์ ลืมบอกท่านไปเรื่องหนึ่ง”
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงมุ่นคิ้ว รู้สึกถึงเรื่องที่ไม่ดียิ่งนัก
“ลั่วลั่วที่ท่านหมอเฒ่าฉยงซานกล่าวว่าจะแนะนำให้ข้าเมื่อครั้งก่อน ก็คือแม่ของหนานหนาน เด็กที่เขากล่าวถึง ก็คือ… หนานหนานขอรับ”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หลักพันธุศาสตร์น่ะค่ะ ไม่ใช่ผลกรรมอะไรหรอก เขาถึงห้ามไม่ให้ญาติสายเลือดชิดแต่งงานกันเอง เพราะมีโอกาสส่งต่อยีนด้อยไปให้ลูกหลาน
ไหหม่า(海馬)