อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 688 เคาะประตู
ตอนที่ 688 เคาะประตู
ตอนที่ 688 เคาะประตู
หมอเฒ่าฉยงซานร้อนใจเป็นอย่างมาก เขาบอกแล้ว เมื่อครู่ในใจทำได้เพียงก่นด่าคน ที่ก่นด่าไปไม่ผิดเลยสักนิด
ที่แท้หนานหนานก็ถูกผู้อาวุโสเผ่าเหมิงจับไปแล้ว มันเป็นเรื่องร้ายแรงมากจริงๆ
“ข้าจะบอกให้นะ ลั่วลั่ว ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงมีชนชั้นสูงสุดในบรรดาผู้อาวุโส เขามีบารมีมาก แม้แต่ผู้อาวุโสสกุลเยว่ยังเป็นรองเขาตั้งเท่าไร ดังนั้นคนผู้นี้จึงหยิ่งยโสมาก อย่างกับคิดว่าตนเองยิ่งใหญ่มาจากไหน หากมีเรื่องที่ไม่พอใจ ไม่รู้ว่าเขาจะทำเรื่องบ้าบออันใด หนานหนานถูกเขาจับตัวไป จะต้องไม่มีผลดีเป็นแน่”
“…” อวี้ชิงลั่วกระตุกมุมปาก นางกล่าวตอนไหนว่าหนานหนาน… ถูกจับไปกัน? หมอเฒ่าฉยงซานจินตนาการสูงไปหรือเปล่า
แต่ก็เป็นตามที่หมอเฒ่าฉยงซานบอก ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงผู้นี้สถานะสูงส่ง เขาให้คนมารับหนานหนานไป เกรงว่าคงมีเรื่องสำคัญอันใดเป็นแน่
อีกทั้งเมื่อคืนหนานหนานก็ให้ต้าไป๋เหอมารายงาน ถ้าหากเขากับผู้อาวุโสเผ่าเหมิงได้ผูกมิตรเป็นเพื่อนต่างวัยกัน เขาก็ควรให้คนมาส่งข่าวสิถึงจะถูก
อีกอย่าง นางเองก็ไม่เคยได้ยินหนานหนานกล่าวว่ารู้จักผู้อาวุโสเผ่าเหมิงผู้นี้เลยด้วย
อวี้ชิงลั่วคิด นางไปดูหน่อยดีกว่า ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาสองคนไปรู้จักกันได้อย่างไร
“ไปเถอะเจ้าค่ะ เช่นนั้นก็ไปจวนผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเสียหน่อย”
หมอเฒ่าฉยงซานพยักหน้าอย่างจริงจังทันที “อืมๆ เรารีบไปเถิด ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสเผ่าเหมิงผู้นั้นจะทำเรื่องเลวร้ายอันใดหรือไม่”
เขากล่าวจบก็สั่งให้ว่านเผิงหลงกลับโรงเตี๊ยม จากนั้นก็พาอวี้ชิงลั่วไปโจมตีที่จวนผู้อาวุโสเผ่าเหมิงอย่างอุกอาจ
คนที่หน้าประตูจวนเห็นเขาก็ตกใจ ครั้งก่อนหมอเฒ่าฉยงซานจากไปด้วยความโกรธ ท่านผู้อาวุโสยังสั่งไว้ว่าให้พวกเขาเฝ้าประตูอย่างจริงจัง ครั้งหน้าหากเจอเขาอีก ให้ไล่เขาออกไปเสีย
แต่… นี่จะไล่อย่างไรเล่า คนผู้นี้คือหมอเฒ่าฉยงซาน ถือว่าเป็นผู้ที่คนรู้จักดีในสี่อาณาจักร การจะทำให้เขาขุ่นเคืองนั้นไม่ง่ายเลย
แต่คำสั่งของท่านผู้อาวุโส จะฝ่าฝืนก็ไม่ได้ คนเฝ้าประตูผู้นั้นไม่กล้ากล่าวอันใดมาก ทำได้เพียงหลบหลีก หันหลังวิ่งกลับเข้าไปยังประตูใหญ่ แล้วปิดประตูเสีย
“…” หมอเฒ่าฉยงซานเบิกตามองประตูที่ค่อยๆ ปิดลงตรงหน้าตน สีหน้าไม่พอใจอย่างสุดจะกล่าว
เขาหันกลับไปมองอวี้ชิงลั่วแวบหนึ่ง จากนั้นก็ชี้นิ้วที่สั่นเทาไปยังประตู กล่าว “เห็นแล้วใช่ไหม เห็นแล้วใช่ไหม ลั่วลั่ว นี่เห็นได้ชัดเลยว่าพวกนั้นรู้สึกผิด หากไม่ใช่ว่าผู้อาวุโสเผ่าเหมิงทำเรื่องน่าละอายลงไปล่ะก็ เหตุใดจึงต้องกลัวพวกเราแล้วปิดประตูด้วยเล่า?”
อวี้ชิงลั่วหันไปมองเขา เหตุใดนางจึงรู้สึกเหมือนกับว่าคนเฝ้าประตูผู้นั้นมีสีหน้าหวาดกลัวเมื่อเห็นหมอเฒ่าฉยงซานกันนะ
เงียบไปครู่หนึ่ง อวี้ชิงลั่วก็ไม่ได้สนใจหมอเฒ่าฉยงซานที่พึมพำอยู่ข้างๆ อีก เดินไปข้างหน้าแล้วตบประตูสองครั้ง กล่าวอย่างใจดี “พี่ชาย เปิดประตูให้ข้าหน่อย ข้ามีธุระต้องพบกับผู้อาวุโสเผ่าเหมิง รบกวนช่วยข้าด้วย”
ด้านในเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนจะมีเสียงอ่อนตอบกลับมา “แม่นาง ท่านผู้อาวุโสไม่อยู่ที่จวน เชิญกลับเถิดขอรับ”
หมอเฒ่าฉยงซานไม่พอใจ ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว “ลั่วลั่ว เหตุใดเจ้าต้องเกรงใจพวกเขาเช่นนั้นด้วย พวกเขาน่ะไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา อีกเดี๋ยวข้าจะสอนบทเรียนให้พวกเขาเอง”
คนเฝ้าประตูอยากจะร้องไห้ หมอเฒ่าฉยงซานผู้นี้ขออย่าทำอะไรแผลงๆ เชียว ไม่เช่นนั้นคนแรกที่จะซวยก็คือเขา
เขาตัวสั่น รีบบอกให้อีกคนไปแจ้งพ่อบ้าน ขณะที่ตนยังคงเหงื่ออาบหน้า คอยถ่วงเวลาหมอเฒ่าฉยงซานอยู่ “ท่านหมอเฒ่า เชิญท่านกลับเถิดขอรับ วันนี้ทางจวนไม่รับแขกขอรับ”
“ปังๆๆๆ” หมอเฒ่าฉยงซานเริ่มกระแทกประตูอย่างแรง “เจ้าไปเรียกผู้อาวุโสเผ่าเหมิงออกมา วันนี้เรามาหาเขาเพราะต้องตามหาคน อย่าเอาคนเขาไปซ่อนตัวไว้”
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจอย่างเงียบๆ คิดไม่ถึงว่าหมอเฒ่าฉยงซานอายุมากแล้วยังมีแรงมากเพียงนี้อยู่อีก เขาไม่ได้ด้อยกว่าเด็กหนุ่มเลยแม้แต่น้อย
คนเฝ้าประตูที่อยู่ด้านในอึ้งงันไป เมื่อเช้านายน้อยเย่ก็มาตามหาคน เหตุใดตอนนี้แม้แต่หมอเฒ่าฉยงซานก็มาตามหาคนอีกแล้วเล่า? ต้องการตามหาใครกัน คงไม่ใช่เด็กที่ชื่อหนานหนานผู้นั้นใช่หรือไม่?
ไม่สิๆ เห็นคนนั้นกลับไปแล้ว คงไม่ได้มาถามหาเขาหรอก
คนเฝ้าประตูกำลังครุ่นคิด จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากปลายจมูก เขาผงะ ก้มหน้าลงมอง ก็เห็นของเหลวสีเขียวไหลออกมาจากรอยแยกตรงประตู ดูเหนียวเหนอะหนอ น่าขยะแขยงนัก
“ท่านหมอเฒ่า ท่านหมอเฒ่า นี่มันอะไรขอรับ”
หมอเฒ่าฉยงซานทำเสียงฮึดฮัด เก็บของในมือกลับ จากนั้นก็กล่าวกับอวี้ชิงลั่วอย่างพอใจ “ลั่วลั่ว ของเล่นนี้คือของที่ข้าพัฒนาได้ล่าสุด ว่ากันว่ามดและแมลงชอบกลิ่นนี้มาก ข้าคิดว่า ที่จวนผู้อาวุโสเผ่าเหมิงมีต้นไม้ดอกไม้มากมาย มดแมลงจะต้องอิ่มหนำกันแน่ คอยดูเถิด อีกเดี๋ยวจะต้องมีแมลงจำนวนมากมาที่นี่ หลังจากนี้จะน่าดูชมเชียวล่ะ”
อวี้ชิงลั่วมองเขาอย่างหมดคำจะกล่าว แววตามองไปยังขวดกระเบื้องเคลือบของเขาแวบหนึ่ง
หมอเฒ่าฉยงซานตื่นเต้นขึ้นมาในทันที “ลั่วลั่ว เจ้าอยากได้หรือไม่ ขวดนี้ข้าให้เจ้าได้นะ เจ้าเก็บมันไว้ให้ดี แต่ในทางกลับกัน เจ้าก็ควรให้ของดีข้าบ้างไม่ใช่หรือ”
“…” อวี้ชิงลั่วหัวเราะ “จริงๆ ข้าไม่ต้องการของสิ่งนี้หรอกเจ้าค่ะ เพียงเห็นก็ขยะแขยงแล้ว ท่านหมอเฒ่าเก็บเอาไว้เองเถิด”
หมอเฒ่าฉยงซานไม่เต็มใจนัก ลั่วลั่วผู้นี้เหตุใดจึงไม่ยอมคล้อยตามเลยนะ ของดีเช่นนี้ช่วยให้ทำอะไรสะดวกยิ่ง นางไม่ชอบเหมิงเคอผู้นั้นมากไม่ใช่หรือ ไม่แน่ว่าอาจจะเอาไปใช้ได้ก็ได้นี่
ทั้งสองคนกำลังคุยกัน ด้านในก็ได้ยินเสียงร้องลอยออกมา “โอ๊ย… แมลงเยอะจริง ท่านหมอเฒ่า ท่านอย่า… เร็วเข้า ไปเอาน้ำมา เอาน้ำมาล้างให้หมด”
ต่อจากนั้นด้านในก็มีเสียงที่เร่งรีบดังออกมา
หมอเฒ่าฉยงซานทำท่าทางดูถูก ไม่ใส่ใจอันใดนัก
แน่นอนว่าหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีอีกเสียงหนึ่งดังมา “น้ำนี่ไร้ประโยชน์ ล้างเจ้าสิ่งนี้ไม่ออกเลย แมลงมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ทำอย่างไรดี”
หมอเฒ่าฉยงซานเริ่มเลิกคิ้วแล้วมองอวี้ชิงลั่ว “เป็นอย่างไร ตอนนี้อยากได้ของสิ่งนี้แล้วหรือยัง”
อวี้ชิงลั่วส่ายหน้าอย่างมั่นใจ “ไม่เจ้าค่ะ”
ขณะกล่าว จู่ๆ ด้านในก็มีเสียงที่น่าเกรงขามดังขึ้น “พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่ ยังไม่รีบเปิดประตูอีกหรือ”
หมอเฒ่าฉยงซานขมวดคิ้ว “เสียงนี้ไม่ใช่เสียงผู้อาวุโสเผ่าเหมิง”
“หืม” อวี้ชิงลั่วประหลาดใจ
เงยหน้าขึ้นก็ได้ยินเสียง ‘แกร๊กๆ’ จากประตู จากนั้นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอวี้ชิงลั่ว ก็คือกองแมลงที่น่ากลัวอยู่ตรงพื้น
อวี้ชิงลั่วรีบถอยเท้าไปสองก้าว กวาดตามองหมอเฒ่าฉยงซาน “กำจัดมันเสียเจ้าค่ะ” ขยะแขยงเกินไปแล้ว
หมอเฒ่าฉยงซานทำเสียงฮึดฮัด หยิบขวดกระเบื้องเคลือบอีกขวดหนึ่งออกมา จากนั้นก็เทผงลงบนพื้นเล็กน้อย ผ่านไปไม่นาน แมลงเหล่านั้นก็แยกตัวออกไปทุกทิศทาง จากนั้นก็หายไปอย่างสมบูรณ์ในพริบตา
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจ จากนั้นก็เหลือบตาขึ้นมองคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น และพบว่าเป็นชายหนุ่มผู้มีท่าทางน่าเกรงขาม
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ท่านหมอฉยงซานนี่ก็แสบใช่ย่อยเหมือนกันนะเนี่ย บางมุมก็ดูเป็นเฒ่าทารก
ไหหม่า(海馬)