อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 693 สบายดีหรือไม่
ตอนที่ 693 สบายดีหรือไม่
ตอนที่ 693 สบายดีหรือไม่
“เจ้าว่าอย่างไรนะ?” ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงตกใจ และผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที
หมอเฒ่าฉยงซานก็ประหลาดใจเช่นกัน เขารีบลุกขึ้นจากโขดหิน แล้ววิ่งไปดึงคอเสื้อคนรับใช้และถามอย่างกระตือรือร้นว่า “แม่นางอวี้ที่เจ้าพูดถึงคือลั่วลั่วใช่หรือไม่?”
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงผลักเขาออกไป “เจ้ากำลังทำอะไรของเจ้า? นี่คนจากคฤหาสน์ของข้า” หลังจากพูดจบ เขาก็หันหน้าไปตะโกนถามคนรับใช้ว่า “บอกมาว่าสตรีผู้นั้นคือคนที่ตาแก่นี่พามาหรือไม่?
คนรับใช้มองไปยัง ‘ตาแก่นี่’ ด้านข้าง แล้วตอบด้วยความลำบากใจว่า “ขอรับ เป็นสตรีผู้นั้น”
“นาง นาง…” ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงชี้ไปยังป่าไผ่ที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นหันหน้าไปมองคนรับใช้ แล้วถามอย่างไม่อยากเชื่อ “เจ้า เจ้าหมายความว่าแม่นางอวี้คนนั้นออกจากป่าไผ่แล้ว และตอนนี้ยังอยู่ที่เรือนของคุณหนูแล้วด้วยกระนั้นหรือ?”
คนรับใช้ยิ้มอย่างขมขื่น “สาวใช้ในเรือนของคุณหนูบอกว่า แม่นางอวี้ปรากฏตัวที่เรือนของคุณหนูตั้งแต่ครึ่งชั่วยามที่แล้วขอรับ”
“…” ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงงุนงงเล็กน้อย ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “ครึ่งชั่วยามที่แล้วหรือ? เจ้าหมายความว่านางแก้ค่ายกลในคฤหาสน์ของข้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ กระนั้นหรือ?”
คนรับใช้คิดว่า ท่านประมุข ท่านลืมประเด็นที่ข้าน้อยพูดไปแล้วหรือ?
“ท่านประมุข ท่านรีบไปที่สวนอู๋ถงก่อนเถิดขอรับ คุณหนูกำลังสั่งให้คนไปตัดป่าไผ่และเผาห้องตำราของท่านแล้วขอรับ”
คนรับใช้ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเตือนเขาถึงเรื่องสำคัญที่สุด
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นคิ้วของเขาก็ขมวดแน่น เขากัดฟันและโบกมือทันที “ไป ไปดูสิ”
คนรับใช้รีบตามไป เมื่อเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว เขาก็หันกลับมามองหมอเฒ่าฉยงซานที่ยังยืนอยู่ที่เดิมด้วยความอยากรู้อยากเห็น
หมอเฒ่าฉยงซานไม่ได้โมโหที่ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงพูดถึงเขาเช่นนั้น สิ่งที่เขารู้ตอนนี้ก็คือลั่วลั่วปลอดภัยดี นางไม่เพียงแต่มีความประพฤติดีเท่านั้น แต่ยังสามารถแก้ค่ายกลที่ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงภาคภูมิใจนักหนาได้อีกด้วย นางทำให้ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงนั่งคอยอยู่ตรงนี้มานานโดยเปล่าประโยชน์ แล้วบุกเข้าไปในภายในเพื่อโจมตีหลานสาวของผู้อาวุโสเผ่าเหมิง
ฮึ่ม ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงวางแผนจะหมั้นหมายหลานสาวของเขากับเย่ซิวตู๋ไม่ใช่หรือ? เขาต้องการดูว่านางจะเทียบกับลั่วลั่วได้อย่างไร
สิ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุดในตอนนี้คือสีหน้าของผู้อาวุโสเผ่าเหมิง ในตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับลั่วลั่ว มันต้องน่าตื่นเต้นมากเป็นแน่
เมื่อหมอเฒ่าฉยงซานนึกถึงเรื่องนี้ เขาก็กระหยิ่มยิ้มย่องขึ้นมาทันที และรีบเดินตามไป
คนกลุ่มนั้นรีบไปยังสวนอู๋ถงของเหมิงจื๋อฉี และเมื่อพวกเขาไปถึงประตู พวกเขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของอวี้ชิงลั่วดังมาจากข้างใน
ฝีเท้าของผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเร่งรีบ จนเกือบทำให้คนรับใช้ที่มารายงานด้านหลังเขาชนหลังของเขา เขารีบเขย่งปลายเท้าถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วถามว่า “ท่านประมุข…”
“เงียบ หุบปากไปเลย”
คนรับใช้ปิดปากของตน และไม่ได้เอ่ยคำใดออกมาอีกอย่างเชื่อฟัง
“เส้นลายมือของคุณหนูไม่ถูกโฉลกกับหลายสิ่งหลายอย่างในเรือนหลังนี้ ข้าคิดว่าอาจมีอย่างอื่นอีกนอกจากป่าไผ่และห้องตำรา” เสียงของอวี้ชิงลั่วดังมาจากประตูที่อยู่ไกลออกไป
หูของผู้อาวุโสเผ่าเหมิงนั้นน่าทึ่ง แม้ว่าเขาจะยืนอยู่ห่างไกล แต่เขาก็ยังได้ยินเสียงดังของนาง
มุมปากของเขากระตุกทันที นอกจากนางจะวางแผนจะตัดป่าไผ่และเผาห้องตำราของเขาแล้ว นางยังต้องการจะทำลายสิ่งอื่น ๆ ในคฤหาสน์ของเขาด้วยหรือ?
หลังจากนั้น หมอเฒ่าฉยงซานที่เดินตามมาก็เห็นผู้อาวุโสเผ่าเหมิงยืนอยู่ในลานบ้าน และกำลังแนบหูฟังความเคลื่อนไหวด้านใน
หมอเฒ่าฉยงซานแสยะยิ้มมีเลศนัย แล้วเงยหน้าตะโกนบอกคนข้างในทันทีว่า “ลั่วลั่ว พวกเรามาแล้ว”
ทันใดนั้น ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงก็หันหน้ามาจ้องมองเขาด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว
เสียงข้างในหยุดลงทันที หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หลานเสวี่ยผู้เป็นสาวใช้คนสนิทของเหมิงจื๋อฉีก็ออกมาจากด้านใน
เมื่อเขาเห็นผู้อาวุโสเผ่าเหมิง นางก็ตกใจและย่อเข่าทำความเคารพเขาทันที ก่อนพูดด้วยรอยยิ้มฝืดเฝื่อนว่า “เหตุใดท่านประมุขจึงมาที่นี่หรือเจ้าคะ?”
“ฮึ่ม หากข้าไม่มา พวกเจ้าคงรื้อห้องตำราของข้าและทำลายป่าไผ่ของข้าไปแล้วใช่หรือไม่?”
สีหน้าของหลานเสวี่ยกลายเป็นทำอะไรไม่ถูกมากขึ้น อันที่จริงนางไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว แต่สิ่งที่แม่นางอวี้พูดนั้นสมเหตุสมผลมาก ไม่ต้องพูดถึงคุณหนู แม้แต่นางเองก็ยังรู้สึกสะเทือนใจมากเมื่อได้ยิน
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงพ่นลมหายใจเย็นชา แล้วสะบัดแขนเสื้อเดินเข้าไปข้างในทันที
ทันใดนั้นเอง ก่อนที่เขาจะเดินเข้าประตูไป เหมิงจื๋อฉีก็รีบออกมาเรียกเขา “ท่านปู่”
“ปรากฏว่าปู่ยังอยู่ในสายตาของเจ้าอยู่” สีหน้าของผู้อาวุโสเผ่าเหมิงบึ้งตึง เขากัดฟันแน่นขณะจ้องมองเหมิงจื๋อฉี
หมอเฒ่าฉยงซานมีความสุขทันทีเมื่อเห็นเช่นนั้น แม้ว่าตอนนี้เขาจะอยากเข้าไปหาลั่วลั่วจริง ๆ แต่การรับชมละครตอนนี้สำคัญกว่า
เขาพิงหลังเข้ากับเสาข้าง ๆ อย่างสบายอารมณ์ ขณะพิจารณาเหมิงจื๋อฉีตรงหน้าเขา นี่น่ะหรือหลานสาวสุดที่รักของผู้อาวุโสเผ่าเหมิง? จุ๊จุ๊ นางงดงามทีเดียว นางเป็นหลานสาวของผู้อาวุโสเผ่าเหมิง แต่ก็ยังไม่ดีเท่าลั่วลั่วในตระกูลของเขา คนเดียวในโลกนี้ที่คู่ควรกับเย่ซิวตู๋ก็คือลั่วลั่ว ส่วนหญิงอื่นก็เป็นเพียงดอกไม้ริมทางเท่านั้น
“ท่านปู่” ใบหน้าของเหมิงจื๋อฉีเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย มือของบิดกำชายเสื้อของตนอย่างกระวนกระวาย และเสียงของนางก็แผ่วเบามาก “ข้ายังไม่ได้ทำ เดิมทีข้าตั้งใจจะขอคำแนะนำจากท่านปู่ก่อนจะทำ และข้าไม่ได้คิดจะทำด้วยตัวเองอยู่แล้ว อีกทั้งแม่นางอวี้ยังบอกด้วยว่าควรขอคำแนะนำท่านปู่ก่อนจะดีกว่าเจ้าค่ะ”
“ขอคำแนะนำจากข้าหลังจากเริ่มไปแล้วกระนั้นหรือ? เจ้าคิดจะทำลายป่าไผ่ที่ปู่ปลูกอย่างทะนุถนอม และห้องตำราที่ปู่ชื่นชอบด้วยหรือ? หากปู่ไม่เห็นด้วยเล่า? เจ้าจะทำอย่างไร?” ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงประชด เหตุใดแม่นางอวี้คนนั้นจึงโน้มน้าวเก่งนัก ปกติจื๋อฉีเชื่อฟังเขามาก แต่นางกล้าเชื่อฟังเรื่องไร้สาระของอวี้ชิงลั่วตั้งแต่เมื่อไหร่?
เหมิงจื๋อฉีกัดริมฝีปากล่างของตน นางตอบไม่ได้จึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และคิดว่าควรล้มเลิกความคิดนี้
แต่หมอเฒ่าฉยงซานมีสายตาเฉียบคมและมือฉับไว เขารีบกระโดดออกมาขัดจังหวะนางที่กำลังจะพูด “เอ๊ะ มายืนทำอะไรกันอยู่หน้าประตู? ผู้อาวุโสเผ่าเหมิง ขอบอกไว้ก่อนว่าคำพูดของลั่วลั่วนั้นมีเหตุผลเสมอ ดังนั้นเจ้าอย่าด่วนโมโหไปเลย และฟังหลานสาวของเจ้าบ้าง ดูหน้าหลานสาวของเจ้าสิ นางมีสีหน้าลำบากใจเมื่อต้องทำลายผลงานของเจ้า เว้นแต่จะมีปัญหาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ในเมื่อเจ้าเป็นคนที่หลานสาวของเจ้าเคารพมากที่สุด ดังนั้นเจ้าก็ควรฟังนางใช่หรือไม่?”
เหมิงจื๋อฉีหันมามองเขา แล้วพยักหน้าขอบคุณ
หมอเฒ่าฉยงซานโบกมือด้วยท่าทางใจดี ราวบอกว่าเป็นเพียงความพยายามเล็กน้อยเท่านั้น
มีเพียงผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเท่านั้นที่หน้าซีดลงเรื่อย ๆ หมอเฒ่าฉยงซานคนนี้ไม่ได้พยายามทำให้บรรยากาศสงบลง เห็นได้ชัดว่าเขากำลังพยายามยุแยงตะแคงรั่วทางอ้อม
หมอเฒ่าฉยงซานแหงนหน้ามองท้องฟ้า ไม่สนใจสายตาที่โกรธเกรี้ยวของเขา แล้วเดินเอามือไพล่หลังเข้าไปในเรือนด้วยท่าทางหยิ่งผยอง “ข้าคิดว่าเราน่าจะฟังสิ่งที่ลั่วลั่วบอกก่อนเช่นกัน”
เหมิงจื๋อฉีรีบพยักหน้า “ใช่แล้ว ท่านปู่ แม่นางอวี้มีพลังมาก และทุกสิ่งที่นางพูดนั้นถูกต้อง”
ขณะที่นางพูด นางก็ประคองผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเดินเข้าไปในเรือน
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงอยากจะปฏิเสธ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เขาจึงทำได้เพียงส่งเสียงฮึดฮัดอย่างหงุดหงิด
ทันทีที่เขาเดินผ่านธรณีประตูเข้ามา เขาก็เห็นอวี้ชิงลั่วที่นั่งเท้าคางอยู่บนโต๊ะโน้มตัวมาทักทายเขา “ผู้อาวุโสเผ่าเหมิง สบายดีหรือไม่?”
………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
บันเทิงดีไหมท่าน มารดาผู้นี้ของหนานหนานเป็นอย่างไรแสบได้ใจไหมเจ้าคะ
ไหหม่า(海馬)