อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 694 นางเป็นคนมีความสามารถ
ตอนที่ 694 นางเป็นคนมีความสามารถ
ตอนที่ 694 นางเป็นคนมีความสามารถ
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงทำหน้าเย็นชา สะบัดแขนเสื้อนั่งตรงข้ามนาง แล้วเอ่ยประชด “แม่นางอวี้ช่างมีความสามารถเหลือเกิน”
“ข้ารู้สึกอายมากที่ได้รับคำชมจากผู้อาวุโสเผ่าเหมิง แม้ว่าข้าจะพอมีความสามารถ แต่ข้าก็ยังใช้มันในทางที่ถูกต้อง ดังเช่นตอนนี้ที่ข้ากำลังใช้ความสามารถเพื่อช่วยคุณหนูเหมิง”
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงแทบกระอักเลือดออกมา เหตุใดนางจึงหน้าหนาได้ถึงเพียงนี้?
มือของเขาจิกที่วางแขนของเก้าอี้แน่น ก่อนเม้มปาก แล้วถามอย่างไม่เต็มใจว่า “เจ้าออกมาตั้งแต่เมื่อใด?”
“ข้าเดินไปทั่วป่าไผ่ เมื่อพบว่าหนานหนานไม่ได้อยู่ที่นั่น ข้าจึงออกมา” อวี้ชิงลั่วถอนหายใจ “เดิมทีข้าก็คิดว่าจะกลับออกมาทางเดิมอยู่เหมือนกัน แต่ข้าคิดว่าผู้อาวุโสเผ่าเหมิงจะต้องรอข้าอยู่ที่ทางเข้าเป็นแน่ และคงจะผิดหวังมากหากเห็นว่าข้าออกมาเร็วเกินไป เพื่อตอบสนองความคิดแปลก ๆ ของผู้อาวุโสเผ่าเหมิง ข้าจึงเดินออกมาจากทางออกอื่น แต่เหตุใดข้าจึงรู้สึกผิดต่อผู้อาวุโสเผ่าเหมิง เพราะท่านยังคงดูไม่พอใจอยู่ดี? เอ๊ะ”
“…” ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงไม่สามารถโต้เถียงนางได้ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าแม่นางอวี้ผู้นี้มีนิสัยคล้ายซิวเอ๋อร์ หากได้โกรธแล้วก็จะเล่นงานให้ถึงที่สุด
อวี้ชิงลั่วยกยิ้ม จากนั้นหันไปมองหมอเฒ่าฉยงซานที่อยู่ข้างเขา “เพียงแต่ท่านหมอต้องลำบากนั่งรอข้าข้างนอกตั้งนาน”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่นานไม่นาน” เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสเผ่าเหมิงขายหน้ามากเพียงใด ต่อให้เขาจะต้องรออีกหนึ่งหรือสองชั่วยาม เขาก็เต็มใจมาก
เหมิงจื๋อฉีมองไปทางซ้ายและทางขวา นางไม่เข้าใจบทสนทนาระหว่างพวกเขา และรู้สึกว่าทุกคนต่างใช้คำพูดแฝงนัยบางอย่างที่เกินจะหยั่งถึง ราวกับว่าพวกเขากำลังเล่นทายปริศนากันอยู่
เมื่อนางเห็นว่าผู้อาวุโสเผ่าเหมิงจ้องมองอวี้ชิงลั่วด้วยสายตาไร้ความปรานี นางจึงก้าวเข้าไปทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง “ท่านปู่ อย่าตำหนิแม่นางอวี้เลยเจ้าค่ะ นางเป็นคนดีมาก”
ผู้เฒ่าผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเหลือบมองนางด้วยความโกรธ แล้วพูดอย่างเย็นชา “ปู่จะกล้าตำหนินางได้อย่างไร นางกำลังจะทำลายป่าไผ่ของปู่ และเผาห้องตำราของปู่ด้วย หากบังอาจตำหนินางอีก ปู่อาจจะถึงแก่ชีวิตก็เป็นได้”
เขาปกป้องทะนุถนอมหลานสาวคนนี้เป็นอย่างดี นางอ่อนแอและขี้อายเกินไป ไม่น่าแปลกใจที่ซิวเอ๋อร์จะไม่ชอบนาง
เหมิงจื๋อฉีไม่สบายใจ “ท่านปู่ ข้าจะไม่ทำลายป่าไผ่หรือเผาห้องตำรา”
“แล้วจะทำอย่างไร?” หมอเฒ่าฉยงซานรีบโพล่งออกมา “ถ้าเจ้าไม่ฟังสิ่งที่ลั่วลั่วพูด เจ้าจะต้องทนทุกข์ทรมานมากในอนาคต”
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงโกรธยิ่งกว่าเดิม เขาหันไปมองอวี้ชิงลั่วอีกครั้ง
อวี้ชิงลั่วยักไหล่อย่างไร้เดียงสา “ข้าเพิ่งดูลายมือของคุณหนูเหมิง ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าเป็นคนที่มีความสามารถ จากนั้นข้าก็พบว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างในคฤหาสน์นี้ที่ไม่ถูกโฉลกกับคุณหนูเหมิง เพื่อประโยชน์ของคุณหนูเหมิง แน่นอนว่าต้องยอมทำลายสิ่งเหล่านั้น สุดท้ายแล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันก็คงไม่มีค่าเท่าคุณหนูเหมิงหรอก ใช่หรือไม่?”
“เจ้าดูลายมือเป็นด้วยหรือ?” ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงขมวดคิ้ว
“แน่นอน ข้าเป็นคนมีความสามารถ” อวี้ชิงลั่วพยักหน้ายืนยัน
มุมปากของผู้อาวุโสเผ่าเหมิงกระตุก นางจำเป็นต้องพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกหรือไม่? ความสามารถของนางคือการดูลายมือหรือ?
เหมิงจื๋อฉีที่อยู่ข้าง ๆ พยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า “ท่านปู่ ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง แม่นางอวี้แค่มองไปที่ฝ่ามือของข้าก็รู้ว่าครั้งหนึ่งข้าเคย…”
นางไม่กล้าพูดต่อ ร่องรอยโศกเศร้าฉายแววในดวงตาของนาง
อวี้ชิงลั่วหันไปพูดกับหมอเฒ่าฉยงซานว่า “ท่านออกไปก่อนสักพักเถิด”
“ข้าหรือ?” หมอเฒ่าฉยงซานชี้ตัวเองด้วยความประหลาดใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เขาอยู่ฝ่ายลั่วลั่ว แต่ลั่วลั่วกลับไล่เขาออกไป แบบนี้ก็เข้ากันไม่ได้แล้ว
อวี้ชิงลั่วเอียงศีรษะพูด “มันเป็นเรื่องของสตรี แล้วบุรุษเช่นท่านมายืนฟังอยู่ที่นี่ด้วย…เหมาะสมหรือ?”
“แต่ แต่ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงก็เป็นบุรุษเช่นกัน”
“เขาเป็นปู่ของคุณหนูเหมิง”
หมอเฒ่าฉยงซานคร่ำครวญด้วยความโกรธ แต่สุดท้ายเมื่อเห็นหน้าตาน่ารักน่าสงสารของเหมิงจื๋อฉี เขาก็มองไปที่อวี้ชิงลั่ว แล้วหันหลังออกจากห้องไปนั่งกอดอกอยู่บนระเบียงด้วยความโกรธ เขาไม่พอใจมาก
ในห้องเงียบไปชั่วขณะ ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงหรี่ตาลง เมื่อเขาเห็นสีหน้าของเหมิงจื๋อฉี เขาก็พอจะเดาอะไรบางอย่างได้
เมื่อเห็นว่าไม่มีคนนอกอยู่ในห้องแล้ว เหมิงจื๋อฉีจึงพูดเบา ๆ ว่า “ท่านปู่ แม่นางอวี้อ่านลายมือของข้า แล้วรู้ว่าข้าเคย… แท้งลูก และข้าไม่สามารถตั้งครรภ์ได้มาหลายปีแล้ว”
ทันทีที่ผู้อาวุโสตระกูลหมิงได้ยินนางพูดถึงเรื่องนี้ เสียงของเขาก็เบาลงเล็กน้อย “นางเป็นหมอ ตราบใดที่นางจับชีพจรดู นางย่อมรู้ได้” หมอเฒ่าฉยงซานเคยกล่าวไว้ว่าลั่วลั่วเป็นหมอที่เก่งกาจ
เหมิงจื๋อฉีพูดเบา ๆ ว่า “แม่นางอวี้ไม่ได้จับชีพจรของข้า นางไม่ได้แตะต้องข้าเลย นางแค่ขอให้ข้าแบมือให้นางดูเท่านั้น”
ไม่ได้จับชีพจรหรือ? ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เป็นไปได้หรือไม่ที่ลายมือจะบอกได้ว่าจื๋อฉีเคยแท้งบุตร? เก่งกาจถึงเพียงนั้นเลยหรือ?
อวี้ชิงลั่วย้ำว่า “ข้าบอกแล้วว่าข้าอ่านลายมือได้” ร่องรอยของโรคสามารถมองเห็นได้จากฝ่ามือ แต่มีหมอเพียงไม่กี่คนที่สามารถเห็นมองออกได้ และคนส่วนใหญ่ยังคงวินิจฉัยโรคจากการจับชีพจร
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงพูดอย่างเย็นชา “ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็บอกข้าที ห้องตำราของข้าเกี่ยวอะไรกับเรื่องจื๋อฉีแท้งบุตร”
“ขอถามผู้อาวุโสเผ่าเหมิง ห้องตำราของท่านมีชื่อว่าอะไร?”
“อู้จือไจ”
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจ “อู้จือไจ อู้จือ อู้จือ อู๋จื่อ อู๋จื่อ* แบบนี้จะมีลูกได้อย่างไร?”
* 无子 อ่านว่า อู๋จื่อ แปลว่า ไม่มีบุตร
“…” ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงลูบเคราและจ้องมองนาง แต่เมื่อลองคิดดูแล้ว ชื่อนี้ก็ไม่ค่อยดีนัก เขาไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนจนกระทั่งมาได้ยินนางพูดเช่นนี้ในวันนี้…
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงชะงักไปทันที เหตุใดเขาต้องฟังนางพูดเรื่องไร้สาระด้วย?
เขาหันหน้าไปเห็นท่าทางเชื่อมั่นของเหมิงจื๋อฉี จึงถามด้วยความหงุดหงิดอีกครั้งว่า “แล้วเกี่ยวอะไรกับป่าไผ่?”
“เดิมทีป่าไผ่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรอก แต่ป่าไผ่ของท่านสร้างไว้เพื่อทำสิ่งไม่ดีและก่อกรรมทำเข็ญ บางทีมันอาจคร่าชีวิตคนไปมากแล้วก็ได้ ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ทำบาป และแน่นอนว่ามันจะส่งผลต่อการมีบุตรของคุณหนูเหมิง”
เหมิงจื๋อฉีพยักหน้าอย่างแรง แสดงว่าสมเหตุสมผล
ตอนนี้นางกระตือรือร้นที่จะมีลูกมาก และเนื่องจากการแท้งลูกครั้งก่อน นางจึงรู้สึกหดหู่มาก แม้ว่าสามีของนางจะดีกับนางตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่นางก็ยังไม่สบายใจ เพราะนางมักรู้สึกว่าครอบครัวจะสมบูรณ์แบบก็ต่อเมื่อมีลูกเท่านั้น
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงแทบกระอักเลือด ป่าไผ่สำหรับทำบาปอะไรกัน? คฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูลเขาได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา คนร้ายบางคนต้องการบุกเข้ามาในคฤหาสน์ แต่พวกเขามักจะถูกหยุดอยู่ข้างนอกตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีเพียงหนานหนานและนางเท่านั้นที่เข้าไปในป่าไผ่ แต่ทั้งสองก็ออกมาได้อย่างปลอดภัยไม่ใช่หรือ?
ตอนนี้เขากำลังสงสัยว่าหรือป่าไผ่จะไม่ได้มีประโยชน์มากนัก ไม่เช่นนั้นอวี้ชิงลั่วจะออกมาอย่างง่ายดายได้อย่างไร?
นางกำลังแก้แค้น แก้แค้น
สตรีผู้นี้ดูอ่อนโยนและสุภาพ แต่นางกลับเจ้าเล่ห์เพทุบายยิ่ง
นางร้ายกาจมาก นางคิดจะโน้มน้าวเขาให้ทำลายป่าไผ่และห้องตำราของตัวเอง และต้องกล้ำกลืนความทุกข์ที่ตนสร้างเอง
!!
……………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
แม่ยังแสบขนาดนี้ ท่านคิดเหรอว่าหนานหนานจะไม่แสบกว่านี้หลายเท่า ยังคิดรับหนานหนานเป็นศิษย์อยู่หรือไม่
ไหหม่า(海馬)