อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 695 นางเป็นศัตรูหัวใจของเจ้า ลั่วลั่ว
ตอนที่ 695 นางเป็นศัตรูหัวใจของเจ้า ลั่วลั่ว
ตอนที่ 695 นางเป็นศัตรูหัวใจของเจ้า ลั่วลั่ว
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงมองอวี้ชิงลั่วด้วยความไม่พอใจ และยังคงพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา
อวี้ชิงลั่วเผยรอยยิ้มเป็นมิตรและใจดี “ข้ารู้ว่าท่านผู้อาวุโสเผ่าเหมิงรักคุณหนูเหมิงมาก และไม่ต้องการให้คุณหนูเหมิงต้องทุกข์ทนกับเงาในใจที่เกิดจากการไม่มีบุตร”
ไม่มีบุตรหรือ? ใบหน้าของเหมิงจื๋อฉีซีดลงในทันใด และฝ่ามือของนางก็เริ่มสั่นเล็กน้อย
นางไม่ต้องการทำลายสิ่งที่ปู่ของนางรักและทะนุถนอมอย่างดี แต่นางก็กลัวว่าตนจะไม่สามารถมีลูกได้
คนเหล่านี้เชื่อเรื่องเหล่านี้มาก ไม่ต้องพูดถึงการไม่มีลูกเป็นเวลาหลายปี โดยที่หาสาเหตุไม่ได้ ดังนั้นความหวังเดียวของพวกเขาจึงอยู่ที่ความเชื่อเช่นนี้
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงกัดฟันพูด “ข้าเพิ่งหลอกให้เจ้าเข้าไปในป่าไผ่ไม่ใช่หรือ? เจ้าจำเป็นต้องแก้แค้นข้าถึงเพียงนี้เลยหรือ?”
อวี้ชิงลั่วตอบอย่างใสซื่อ “ท่านผู้อาวุโสเผ่าเหมิงกำลังพูดถึงอะไร? ข้าดูเหมือนคนใจแคบเช่นนั้นหรือ? ข้าไม่สนใจเรื่องที่ท่านใช้ค่ายกลหลอกข้า และข้าทำไปก็เพื่อช่วยคุณหนูเหมิงแก้ปัญหาของนาง มันช่างน่าน้อยใจนักที่นอกจากผู้อาวุโสจะไม่ชื่นชมข้าแล้ว ยังเข้าใจข้าผิดอีกด้วย ในเมื่อท่านไม่เชื่อข้า ข้าก็ต้องขอตัวลา”
“แม่นางอวี้…” เหมิงจื๋อฉีตกใจและรีบลุกขึ้นยืน
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันจนฟันแทบหัก เขาไม่น่าด่วนทดสอบสตรีผู้นี้โดยไม่ทันได้ยั้งคิด ทำให้ตอนนี้เขาเสียฮูหยินเสียซ้ำขุนศึก สตรีผู้นี้ช่างเหมือนซิวเอ๋อร์นัก เป็นคนเจ้าเล่ห์ทั้งคู่ ฮึ่ม หนานหนานเหมาะกับเขาที่สุดแล้ว
“แม่นางอวี้ หากทำลายสองสิ่งนี้ไปแล้ว เจ้ารับประกันได้หรือไม่ว่าจื๋อฉีจะมีบุตรได้?”
“หากสิ่งที่ไม่ถูกโฉลกหายไป คุณหนูเหมิงย่อมมีบุตรได้” อวี้ชิงลั่วหัวเราะ
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงกัดฟันพูด “เอาล่ะ หากจื๋อฉีไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ภายในหนึ่งปี ข้าจะฆ่าเจ้า”
จะฆ่านางอย่างนั้นหรือ? หนึ่งปีต่อมานางยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะไปอยู่ที่ไหน แล้วเขาจะตามไปฆ่านางที่ไหน?
อวี้ชิงลั่วไม่ได้จริงจังกับคำพูดนั้น ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงหรี่ตาลง ทันใดนั้นเขาก็เปิดประตูไปบอกคนรับใช้ที่อยู่ข้างนอกว่า “โค่นทำลายป่าไผ่ ถอดแผ่นจารึกชื่อห้องตำราของข้าออก จัดข้าวของที่อยู่ภายในให้เรียบร้อย แล้วปิดผนึกห้องตำราเอาไว้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” ทว่าไม่สามารถเผาห้องตำราได้ เพราะเมื่อห้องตำราถูกเผา ไฟก็อาจจะลามไปทั่วบริเวณจวน และในไม่ช้าจวนของผู้อาวุโสเผ่าเหมิงทั้งหลังก็จะถูกเปลวเพลิงเผาวอดวาย
หลังจากที่สั่งการเสร็จแล้ว เขาก็กลับมาพูดกับอวี้ชิงลั่วว่า “ตอนนี้แม่นางอวี้พอใจหรือยัง?”
อวี้ชิงลั่วพยักหน้า “อืม ข้าค่อนข้างพอใจแล้ว สุดท้ายนี้ขอบอกผู้อาวุโสว่า ด่าคนร้ายดีกว่าด่าสตรี เพราะการท้าทายสตรีไม่ใช่เรื่องง่าย”
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงแทบกระอักเลือด เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งก็ตอนนี้เอง
จากนั้นอวี้ชิงลั่วก็เดินไปอยู่ข้างเหมิงจื๋อฉีด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดเสียงเบาว่า “ในเมื่อสิ่งที่ไม่ถูกโฉลกหายไปแล้ว ก็ยังมีเรื่องสำคัญมากที่ต้องอธิบายให้คุณหนูเหมิงฟังอย่างชัดเจน”
“เรื่องอะไรหรือ? ต้องดื่มยาชนิดใดอีก?” เหมิงจื๋อฉีรีบถาม อันที่จริงนางยังคงเสียใจมากที่ทำลายสิ่งของของปู่ หลายครั้งที่นางอยากจะเข้าไปปลอบใจปู่ของนาง แต่ก็ยังรู้สึกละอายและคับข้องใจอยู่
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงคิดว่าเรื่องต่อไปคือประเด็นสำคัญ
อวี้ชิงลั่วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหนูเหมิงจำไว้ให้ดีว่าการนอนตะแคงนั้นดีกว่าการนอนหงาย” นางพูดจบแล้วก็มองไปที่ผู้อาวุโสเผ่าเหมิง และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้อาวุโสเผ่าเหมิง ขออนุญาตพูดเรื่องของสตรีกันได้หรือไม่ แม้ท่านจะเป็นปู่ของนาง ก็ไม่เหมาะสมที่จะอยู่ฟังเจ้าค่ะ”
มุมปากของผู้อาวุโสเผ่าเหมิงกระตุก ก่อนเดินออกไปอย่างกระฟัดกระเฟียด
จากนั้นอวี้ชิงลั่วก็เบาเสียงลงจนกลายเป็นกระซิบข้างหูเหมิงจื๋อฉี “อีกอย่างคือให้พัฒนานิสัยการถ่ายอุจจาระและปัสสาวะให้ตรงเวลา เพื่อไม่ให้น้ำในกระเพาะปัสสาวะมีมากเกินไป หมั่นการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างเอ็นและกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน พยายามรักษากล้ามเนื้อด้านล่างไว้ไม่ให้หย่อน พยายามหลีกเลี่ยงโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ที่ทำให้เกิดอาการไอบ่อย ๆ จนกระเทือนด้านล่าง”
คำบางคำที่อวี้ชิงลั่วพูดนั้นยากต่อการทำความเข้าใจ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เหมิงจื๋อฉีเข้าใจผิด
นางพยักหน้าอย่างระมัดระวัง
อวี้ชิงลั่วยกยิ้ม แล้วเบาเสียงลงกว่าเดิม “อืม มีอีกเรื่องเกี่ยวกับการเสพสังวาส ขณะเสพสังวาสให้ผู้ชายใช้ท่าคุกเข่าด้านหลังผู้หญิง หลังเสร็จกิจแล้ว ภายในครึ่งชั่วยามห้ามปัสสาวะ โดยในตอนนั้นเจ้าสามารถวางเบาะหรือหมอนขนาดเล็กที่มีความหนาพอเหมาะไว้ใต้ก้นเพื่อยกบั้นท้ายขึ้น แล้วนอนยกบั้นท้ายบนเตียงประมาณครึ่งชั่วยามหรือหนึ่งชั่วยาม เข้าใจหรือไม่?”
ในความเป็นจริงนั้น อาการของเหมิงจื๋อฉีคือตำแหน่งมดลูกมีปัญหา โชคดีที่ไม่ร้ายแรงมาก แต่นางเคยแท้งมาก่อน จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะตั้งครรภ์อีกครั้ง
พูดตามตรงคือหมอทั่วไปสามารถวินิจฉัยอาการนี้ได้อยู่แล้ว แต่ในยุคนี้หากบุรุษพูดเช่นนี้กับสตรี สตรีก็คงคิดว่าเขาลามก จิตใจสกปรก และบางทีอาจจะโดนไล่ตะเพิดออกมาก็ได้ ดังนั้นหมอเหล่านั้นจึงตัดสินใจเพิกเฉย ทว่าตราบใดที่ผู้ป่วยดูแข็งแรงดี ครอบครัวก็จะไม่หาหมอมาตรวจเป็นพิเศษเหมือนเหมิงจื๋อฉี
ใบหน้าของเหมิงจื๋อฉีเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที เรื่องเหล่านี้… แม้แต่แม่นมก็ยังไม่เคยบอกเรื่องเหล่านี้กับนางเลย แม่นางอวี้รู้ชัดเจนถึงเพียงนี้ได้อย่างไร? นางยังดูเหมือนหญิงสาวที่ยังไม่ได้ออกเรือนเลย
ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลก็ลูบหน้าผากของตน แม้ว่าเขาจะยืนอยู่ห่าง ๆ แต่เขาก็ยังกังวล กังวลว่าความแค้นของอวี้ชิงลั่วที่มีต่อเขาจะยังไม่สิ้นสุด และนางจะยังมีความคิดไม่ดีอีก ดังนั้นเขาจึงแอบฟังทุกถ้อยคำเหล่านั้น เขาคาดไม่ถึงเลยว่านางจะพูดคำเหล่านี้… ที่ทำให้หน้าเหี่ยวๆ ของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
ดูเหมือนว่าแม่นางอวี้คนนี้จะต้องการช่วยจื๋อฉีจริง ๆ แม้สตรีจะไม่ควรพูดถ้อยคำเหล่านั้น แต่สิ่งที่นางพูดออกมาก็มีเหตุผลมาก
ช่างเถิด แลกห้องตำราและป่าไผ่เพื่อความสุขของจื๋อฉีก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
เหมิงจื๋อฉีเชื่อมั่นในตัวอวี้ชิงลั่วมาก ก่อนที่ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงจะมาถึง ทั้งสองก็คุยกันอย่างสนุกสนาน รู้สึกว่าแม่นางอวี้คนนี้จะรอบรู้หลายสิ่งหลายอย่างที่นางไม่เคยรู้มาก่อน ฟังแม่นางอวี้แล้วก็สบายใจมากจนอยากฟังต่อเรื่อย ๆ
“แม่นางอวี้ แล้วไม่ต้องกินยาหรือ?” ปู่บอกว่านางเป็นหมอ และจะสั่งยาให้นาง
อวี้ชิงลั่วส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก อย่างไรเสียก็ทำตามที่ข้าบอกเถิด แล้วอีกไม่นานเจ้าจะมีบุตร”
หลังจากที่นางพูดจบ นางก็ให้ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงและหมอเฒ่าฉยงซานเข้ามา
หมอเฒ่าฉยงซานมองทุกคนสลับไปมาด้วยความสงสัยเล็กน้อย
โดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นเหมิงจื๋อฉีมองอวี้ชิงลั่วด้วยสายตาซาบซึ้ง หัวใจของเขาก็เต้นรัวทันที เขารีบดึงอวี้ชิงลั่วเข้ามาถามว่า “ลั่วลั่ว เจ้าพูดอะไรไป?”
นางไม่ได้บอกหรือว่าจะทำลายป่าไผ่และเผาห้องตำรา? ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงนั่นควรจะโกรธมาก เขาจะใจเย็นเช่นนี้ได้อย่างไร?
อวี้ชิงลั่วยักไหล่ “ไม่มีอะไร ข้าแค่ช่วยคุณหนูเหมิง”
“ช่วยหรือ?” หมอเฒ่าฉยงซานพูด “เจ้ายังช่วยจะนางอีกหรือ? ให้ข้าบอกเจ้าเถิดลั่วลั่ว สตรีผู้นี้เป็นศัตรูหัวใจของเจ้า ตอนนั้นข้าบอกว่าจะแนะนำเจ้าให้ชายคนนั้นรู้จัก ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงคนนี้กลับบอกว่าจะแนะนำหลานสาวตัวเองให้เขารู้จักก่อน”
อวี้ชิงลั่วตกตะลึง หมอเฒ่าฉยงซานบอกว่าเขาจะแนะนำให้นางรู้จักเย่ซิวตู๋?
นางหันกลับมาด้วยความประหลาดใจ แล้วมองเหมิงจื๋อฉีที่กำลังสับสนเล็กน้อย
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ขอเสริมนิดหน่อย เคล็ดลับปัจจุบันคือหลังเสร็จกิจต้องปัสสาวะออกและทำความสะอาดน้องนะคะ เพื่อลดโอกาสติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์
แอบฟังจนได้เรื่องเลยผู้อาวุโส เสียป่าไผ่ไปแล้วยังเสียอาการอีก
ไหหม่า(海馬)