อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 703 นางโกหก
ตอนที่ 703 นางโกหก
ตอนที่ 703 นางโกหก
อวี้ชิงลั่วก้าวเข้าไปหรี่ตามองปี้เอ๋อร์หัวจรดเท้า แล้วพูดว่า “หงเย่ใส่ร้ายเจ้าหรือ? หงเย่นำห่อยาไปใส่ไว้ในตัวเจ้าหรือ? เจ้าล้อเล่นหรือไม่? เหตุใดหงเย่ต้องทำเช่นนั้นด้วย ทำไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”
“ข้า…”
ประโยชน์หรือ? นางจะรู้ได้อย่างไรว่าได้ประโยชน์อะไร แม่นางถังผู้นี้มาจากไหนก็ไม่รู้ และมุ่งโจมตีฮูหยินอย่างไม่มีเหตุผลตั้งแต่แรก บางทีนี่อาจเป็นกลอุบายที่นางคิดขึ้นมาก็ได้
ทว่าตอนนี้ห่อยาอยู่กับตัวของนางแล้ว และแม่นางถังได้รับความไว้วางใจจากผู้อาวุโสสกุลเยว่มาก มันจึงเป็นเรื่องยากที่นางจะสามารถป้องกันตัวเองได้
ปี้เอ๋อร์มองไปที่เหมิงเคอโดยไม่รู้ตัว เหมิงเคอแอบสูดหายใจเข้าลึก และความเกรี้ยวกราดในสายตาของนางก็ค่อย ๆ แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม “ปี้เอ๋อร์ บอกข้ามาตามตรง ที่สามีของข้ากลายเป็นเช่นนี้ เป็นความผิดของเจ้าใช่หรือไม่?”
ปี้เอ๋อร์ตกตะลึง ฮูหยินหมายความว่าอย่างไร? ต้องการให้นางยอมรับหรือ?
“ปี้เอ๋อร์ ข้าชุบเลี้ยงเจ้ามาอย่างดี และข้าพูดได้ว่าไม่เคยปฏิบัติต่อเจ้าไม่ดี เจ้าทำไปได้อย่างไร… ไม่แปลกใจเลย ไม่แปลกใจเลยที่เมื่อคืนเจ้าเอาแต่พูดว่าเจ้ารู้สึกไม่สบาย ข้าจึงบอกให้เจ้ากลับไปพักผ่อนก่อน ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะมาทำเรื่องสกปรกเช่นนี้”
อวี้ชิงลั่วและหงเย่มองหน้ากันแล้วยิ้ม
ผลลัพธ์ดังกล่าวเป็นเรื่องปกติ เหมิงเคอรู้ว่านางไม่อาจซ่อนเร้นและไม่อาจหาหลักฐานมาแก้ตัวได้ นางจึงตัดสินใจให้คนคนเดียวยอมรับผิดแทน ไม่เช่นนั้นเรื่องจะลามไปถึงตัวนางเองแน่นอน แม้จะทำให้นางดูเป็นคนเสียรู้ แต่ก็ทำให้คนอื่นเห็นใจได้
โดยเฉพาะในสายตาของผู้อาวุโสสกุลเยว่
เมื่อเหมิงเคอพูดเช่นนั้น สายตาของผู้อาวุโสสกุลเยว่ที่จ้องมองปี้เอ๋อร์ก็ยิ่งเหมือนมองงูพิษ
ปี้เอ๋อร์ส่ายหน้า “ฮูหยิน ข้าน้อยไม่ได้…”
เมื่อคืนเห็นได้ชัดว่าฮูหยินเป็นคนสั่งให้นางเตรียมยาสำหรับวันนี้เอง แล้วเหตุใดจึง…
ปี้เอ๋อร์มองหน้าเหมิงเคอ และในวินาทีต่อมา เมื่อนางเห็นการพยักหน้าเช่นนั้น นางก็มั่นใจแล้วว่าฮูหยินต้องการให้นางยอมรับผิด และสายตาขู่เข็ญเช่นนั้นดูดุร้ายมาก ราวกับจะบอกนางว่าหากนางไม่ยอมรับผิด นางจะต้องเสียใจมากกว่าเดิม
แต่ถ้านางยอมรับผิด นางก็จะต้องตาย แล้วฮูหยินจะ…
แต่จะไม่ยอมรับผิดได้อย่างไร? หากนางไม่ยอมรับผิด นอกจากนางจะตายแล้ว ชะตากรรมของบิดามารดาและพี่น้องของนางก็คงไม่ได้จบลงด้วยดีเป็นแน่
ริมฝีปากของปี้เอ๋อร์ซีดเผือด และหัวใจของนางก็แทบจะหยุดเต้นแล้ว
นางอยู่รับใช้ฮูหยินมาหลายปี คาดไม่ถึงเลยว่าวาระสุดท้ายของนางจะเป็นเช่นนี้ นาง… รู้สึกแย่นัก
“ฮ่า ฮ่าๆๆ” ปี้เอ๋อร์แค่นหัวเราะด้วยใบหน้าโศกเศร้า
นางจ้องไปยังผู้อาวุโสสกุลเยว่ด้วยสายตาแข็งกร้าว ก่อนกัดริมฝีปาก แล้วพูดอย่างชั่วร้ายว่า “ใช่ ข้าเป็นคนวางยาเอง”
“ปี้เอ๋อร์ เจ้า… บอกข้ามาว่าผู้ใดเป็นคนสั่งเจ้า?” เหมิงเคอถาม
ปี้เอ๋อร์จ้องหน้าเหมิงเคอ ไม่มีใครรู้ซึ้งถึงความโหดร้ายของเหมิงเคอดีไปกว่านาง ไม่มีใครรู้ดีไปกว่านางว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากนางไม่ทำตามที่เหมิงเคอต้องการ
นางหัวเราะเบา ๆ “อาชิ่นเป็นคนสั่งข้า”
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นยกเว้นอวี้ชิงลั่วและหมอเฒ่าฉยงซาน ต่างอ้าปากค้างโดยพร้อมเพรียงกัน
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว แล้วถามอูเหมี่ยนเซิงว่า “ใครคืออาชิ่น?”
อูเหมี่ยนเซิงชำเลืองมองผู้อาวุโสสกุลเยว่ แล้วตอบด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “อาชิ่น เป็นสาวใช้ห้องข้างของเหมิงหรง หลังจากให้กำเนิดลูกสาว นางก็เสียชีวิตลงหลังจากคลอดลูก”
อวี้ชิงลั่วอึ้งงันไปครู่หนึ่ง ดังนั้นอาชิ่นคนนี้ก็คือแม่ของเหมิงหลัวอวี้หรือ?
นางกำหมัดแน่นทันที ปี้เอ๋อร์คนนี้ไม่สำนึกผิดจริง ๆ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ ยังจะดึงคนตายมาเป็นแพะรับบาปอีก หากปล่อยให้นางทำเช่นนี้ต่อไป ก็คงจะรู้สึกผิดต่อเหมิงหลัวอวี้
ใบหน้าของผู้อาวุโสสกุลเยว่สั่นระริก เขาตวาดด้วยความโกรธ “เหลวไหล อาชิ่นตายไปห้าปีแล้ว นางจะสั่งเจ้าได้อย่างไร?”
“อาชิ่นมาเข้าฝันข้า ฮ่าๆ นางบอกว่านางเกลียดเหมิงหรงเข้ากระดูกดำ หากไม่ใช่เพราะเขา อาชิ่นจะตายอย่างไม่เต็มใจได้อย่างไร นางต้องการแก้แค้น นางจึงเข้าฝันข้า และสั่งให้ข้าทำให้เหมิงหรงตามนางไปที่ปรโลก ฮ่าๆๆ”
เหมิงเคอถอนหายใจด้วยความโล่งอก ปี้เอ๋อร์คนนี้เป็นคนฉลาดมากจริง ๆ นางรู้ว่าควรหาข้อแก้ตัวอย่างไร สายตาของเหมิงเคอมีความพึงพอใจเล็กน้อย และนางก็มองปี้เอ๋อร์อย่างมั่นใจ โดยสัญญาว่านางจะปฏิบัติต่อครอบครัวของปี้เอ๋อร์เป็นอย่างดีในอนาคต
ผู้อาวุโสสกุลเยว่พูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง การที่อาชิ่นคลอดลูกตายในตอนนั้น เกิดจากความขัดแย้งกับหรงเอ๋อร์ จึงเป็นเรื่องปกติที่นางจะเกลียดชังเขา
อวี้ชิงลั่วรีบก้าวเข้าไปทันที การเคลื่อนไหวกะทันหันเช่นนี้ก็ขัดจังหวะการคิดของผู้อาวุโสสกุลเยว่
“ปี้เอ๋อร์ เจ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับอาชิ่นคนนั้นหรือ?”
“…แน่นอน” ปี้เอ๋อร์จ้องมองอวี้ชิงลั่วด้วยความหวาดระแวง สตรีผู้นี้รับมือได้ยากนัก
“เจ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับนางงั้นหรือ? แล้วเหตุใดหลายปีที่ผ่านมา เจ้าไม่เห็นดูแลลูกสาวของอาชิ่นเลย?”
“ข้า…ข้าสั่งสมแผนการอยู่ เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากฮูหยิน และเข้าถึงตัวคุณชายได้ จากนั้นข้าจึงจะล้างแค้นให้อาชิ่นได้ ส่วนลูกสาวของอาชิ่น เมื่อคุณชายเสียชีวิตไปแล้ว นางย่อมมีชีวิตที่ดีได้”
ในที่สุดอวี้ชิงลั่วก็เข้าใจว่าแม้ปี้เอ๋อร์จะดูเป็นคนหุนหันพลันแล่น แต่นางก็เป็นสาวใช้คนสนิทของเหมิงเคอได้ นางมีความสามารถจริง ๆ
“เจ้าบอกว่าเจ้ากำลังสั่งสมแผนการอยู่ ดังนั้นเจ้าจึงวางแผนที่จะปลิดชีวิตคุณชายงั้นหรือ?”
“อืม แน่นอน”
“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าไม่โจมตีขณะที่คุณชายเหมิงหมดสติ และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เวลานั้นเป็นเวลาที่ดีที่สุด หากเจ้ากำลังมองหาโอกาสที่เหมาะสมจริง ๆ อย่างที่เจ้าพูด เจ้าจะรอจนกว่าข้าและเมื่อหมอเฒ่าฉยงซานมาถึงได้อย่างไร เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าและหมอเฒ่าฉยงซานสามารถดูยาที่เจ้าให้เหมิงหรงออกได้อย่างง่ายดาย”
“ข้า…” ปี้เอ๋อร์โพล่งออกมาขณะเหงื่อเย็นไหลโซมกาย
“อีกทั้งในเมื่ออาชิ่นเข้าฝันเจ้า นางจะไม่พูดถึงเหมิงหลัวอวี้ที่เป็นลูกสาวได้อย่างไร นางเป็นผู้ให้กำเนิดนางด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี”
“นั่นเป็นเพราะว่า…”
“เจ้าเอาแต่พูดว่าเจ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับอาชิ่น แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เจ้าเคยทำอะไรเพื่อนางบ้างหรือไม่? บอกมาว่าใครเป็นคนสั่งเจ้ากันแน่? ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ เจ้าได้โยนความผิดทั้งหมดไปให้คนตาย เจ้าไม่กลัวเวรกรรมบ้างเลยหรือ? ฮ่า ใช่แล้ว เจ้าไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ดังนั้น เหตุใดเจ้าต้องกังวลเรื่องเวรกรรมด้วย”
อวี้ชิงลั่วพูดจุดประเด็นอีกครั้ง
ผู้อาวุโสสกุลเยว่หรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด แล้วหันไปมองหน้าพ่อบ้าน พ่อบ้านส่ายหน้า เขาไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างปี้เอ๋อร์และอาชิ่นจริง ๆ
ทันใดนั้นสาวใช้คนหนึ่งที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างนาง ก็เงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ท่านประมุขเจ้าคะ ปี้เอ๋อร์โกหก ปี้เอ๋อร์และพี่อาชิ่นไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีกันเลยเจ้าค่ะ ปี้เอ๋อร์ยังเคยพูดลับหลังนางอยู่เลยว่าอาชิ่นช่างโง่เขลา เป็นนางปีศาจจิ้งจอกที่ยั่วยวนคุณชาย ปี้เอ๋อร์เคยหมายปองคุณชายมาก่อน และอยากเป็นสาวใช้ข้างห้องด้วยเจ้าค่ะ”
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เหมือนจะรอดแต่ก็มาโป๊ะตอนท้าย RIP นะปี้เอ๋อร์
ไหหม่า(海馬)