อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 704 มีวิธี แต่มีเงื่อนไข
ตอนที่ 704 มีวิธี แต่มีเงื่อนไข
ตอนที่ 704 มีวิธี แต่มีเงื่อนไข
สาวใช้คนนั้นพูดด้วยความเดือดดาล ดวงตาของนางแดงก่ำ
อวี้ชิงลั่วมองนางอย่างพิจารณา และพบว่าสาวใช้คนนั้นกำลังรู้สึกตื่นเต้นจนถึงกับกำมือแน่น
“พี่อาชิ่นบอกว่าปี้เอ๋อร์เป็นคนใจแคบ ไม่อาจสนิทสนมด้วยได้ แล้วพี่อาชิ่นจะไปเข้าฝันนางได้อย่างไร?”
อวี้ชิงลั่วหัวเราะ ดูเหมือนว่าคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับอาชิ่นจริง ๆ น่าจะเป็นสาวน้อยคนนี้มากกว่า นางคือคนที่กำลังรอโอกาสแก้แค้น และเป้าหมายของการแก้แค้นก็น่าจะเป็นเหมิงเคอ
นางกำลังรอจังหวะที่เหมิงเคอจะล้มลง ทว่า… นางทนไม่ได้เมื่อได้ยินปี้เอ๋อร์พูดจาให้ร้ายอาชิ่นอย่างรุนแรงเช่นนี้
เมื่อเห็นท่าทางหงุดหงิดของนางหลังจากที่พูดจบ ก็เห็นได้ว่านางคงกระวนกระวายใจมาก
นางพูดถ้อยคำเหล่านี้ในวันนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการทำให้เหมิงเคอระแวง
อวี้ชิงลั่วแอบถอนหายใจ แล้วหันไปมองปี้เอ๋อร์ “เจ้ามีอะไรจะแก้ตัวหรือไม่?”
ปี้เอ๋อร์กัดฟันแน่น นางแพศยาคนนี้มาจากไหน? คนที่เข้ามาสาระแนซ้ำเติมเช่นนี้จะต้องไม่ตายดี
ก่อนที่นางจะทันได้อ้าปากพูด จู่ ๆ เหมิงเคอก็ก้าวเข้าไปตบหน้านาง “นางหญิงชั่วเนรคุณ เสียแรงที่ข้าอุตส่าห์ชุบเลี้ยงเจ้ามาอย่างดี แต่เจ้ากลับฆ่าสามีของข้า เพราะความรักทำให้เกิดความเกลียดชัง”
ความรักทำให้เกิดความเกลียดชังหรือ? เหมิงเคอหาข้อแก้ตัวที่สมบูรณ์แบบให้กับนางแล้ว
ปี้เอ๋อร์กะพริบตาเมื่อเห็นดวงตาที่หรี่ลงเล็กน้อยของเหมิงเคอ นางรู้ได้ว่าเหมิงเคอไม่ต้องการให้นางพูดอะไรอีกแล้ว เพื่อไม่ให้เรื่องบานปลายไปมากกว่านี้
ทันใดนั้นนางก็กัดฟันผลักเหมิงเคอออกไปอย่างแรง ก่อนจะเล็งไปยังเสาข้างนาง แล้วพุ่งตัวกระแทกเข้าไปสุดแรงเกิด
ผู้อาวุโสสกุลเยว่เบิกตากว้างและกำลังจะหยุดนาง แต่เมื่อเหมิงเคอถูกผลัก ร่างของเหมิงเคอก็ไปขวางทางของเขา ทำให้เขาช้าลงหนึ่งก้าว และทำได้เพียงมองปี้เอ๋อร์วิ่งชนเสาตาย
ดวงตาที่เบิกกว้างของปี้เอ๋อร์เต็มไปด้วยความอาฆาต แต่ไม่รู้ว่านางกำลังอาฆาตผู้ใด
อวี้ชิงลั่วมองเหมิงเคอ และเห็นว่านางแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ครู่หนึ่งเหมิงเคอก็คุกเข่าลงตรงหน้าผู้อาวุโสสกุลเยว่อีกครั้ง พลางร้องไห้คร่ำครวญ “มันเป็นความผิดของลูกสะใภ้เองเจ้าค่ะ ลูกสะใภ้ดูคนไม่ออกเอง จึงได้หลงไปชุบเลี้ยงคนทรยศเอาไว้ และเปิดโอกาสให้สาวใช้ที่โหดร้ายไร้ความปรานีมาทำร้ายสามีได้… ลูกสะใภ้ทำผิดไปอย่างไม่น่าให้อภัยเจ้าค่ะ”
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุก แต่ไม่ได้เอ่ยคำใด
ผู้อาวุโสสกุลเยว่มองนางอย่างครุ่นคิด ปี้เอ๋อร์เป็นสาวใช้ของนาง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นคนสั่งกันแน่ ดังนั้นคนที่มีแนวโน้มมากที่สุดคือเหมิงเคอ
แต่เหมิงเคอเป็นลูกสะใภ้ของเขาและเป็นภรรยาของหรงเอ๋อร์ การฆ่าหรงเอ๋อร์ไม่ได้ทำให้นางได้ประโยชน์ใดเลย
ผู้อาวุโสสกุลเยว่ส่ายหน้า เขาไม่อยากเชื่อว่าเหมิงเคอเป็นคนเช่นนี้ แต่เขาก็ยังคงสงสัยอยู่ในใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ เขาจะไม่ปล่อยให้เหมิงเคอคอยรับใช้ข้างกายหรงเอ๋อร์อีกต่อไป
เขาถอนหายใจยาว โบกมือแล้วพูดว่า “เจ้าไปจัดการเรื่องปี้เอ๋อร์เองเถิด เจ้าต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้กระจ่างเสียก่อน ว่าเป็นเพราะความรักที่ทำให้เกิดความเกลียดชัง หรือเป็นเพราะคำสั่งของผู้อื่นกันแน่ เจ้าต้องตรวจสอบให้ชัดเจน จากนี้ไปเจ้าจงมีสมาธิกับการดูแลกิจการในบ้าน หากยังมีสาวใช้เช่นนี้อีก จะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง ส่วนเรื่องหรงเอ๋อร์… ไม่ต้องมาที่นี่อีก”
เหมิงเคอตกใจจนเงยหน้าขึ้นทันที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
ผู้อาวุโสสกุลเยว่เอนหลังลงบนเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า และบอกให้สาวใช้ทุกคนที่คุกเข่าอยู่ข้างล่างออกไป
อวี้ชิงลั่วเห็นดังนั้นก็ขยิบตาให้หงเย่ แล้วหงเย่ก็เดินตามออกไปอย่างสงบ
เมื่อไปถึงที่ที่ไม่มีใครอยู่ นางก็ลากตัวสาวใช้คนนั้นไปด้านหลังมุมห้องทันที ดวงตาของสาวรับใช้เบิกกว้างด้วยความตกใจ และนางเกือบจะกรีดร้องออกมา
หงเย่รีบปิดปากของนางไว้ และกระซิบสองสามคำข้างหูนาง
จากนั้นสาวใช้ก็สงบลงและเงียบ
ครึ่งชั่วยามต่อมา สาวใช้ก็จากไป หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หงเย่ก็กลับมาจากมุมห้อง
เมื่อกลับมาที่ ‘เย่เซ่อ’ อีกครั้ง ทั้งห้องก็เงียบกริบ เนื่องจากผู้อาวุโสสกุลเยว่ไม่พูด คนอื่น ๆ จึงเงียบกริบเช่นกัน
เมื่อเห็นหงเย่ อวี้ชิงลั่วก็เดินออกไปด้านข้างอย่างเงียบเชียบ และเดินไปที่มุมห้องพร้อมหงเย่
“เป็นอย่างไรบ้าง?”
“สาวใช้คนนั้นชื่ออาเมี่ยว อาชิ่นเคยช่วยชีวิตนางไว้ตอนที่ยังเป็นสาวใช้ห้องข้างของคุณชายเหมิง นางขอบคุณและค้างคาใจเรื่องการตายของอาชิ่นอย่างมาก เพียงแต่ว่านางยังเด็กและไม่มีอำนาจ จึงไม่สามารถทำหลายสิ่งที่นางต้องการได้ และทำได้เพียงรอโอกาส คุณหนู ท่านต้องการให้ข้าน้อยทำเช่นไรกับนางหรือเจ้าคะ?”
อวี้ชิงลั่วก้มหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นพูดว่า “ให้เสิ่นอิงตามมาทีหลัง และคอยแอบปกป้องอาเมี่ยวคนนี้ ข้าเดาว่าเหมิงเคอกำลังจะโจมตีนาง ความคิดของนางชั่วร้ายเกินไป นางจะต้องหาคนมาระบายอารมณ์ เพื่อชดใช้เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้แน่”
หงเย่รู้สึกประหลาดใจ “คุณหนู จำเป็นหรือเจ้าคะ? อาเมี่ยวผู้นี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรา และท่านเสิ่นก็ยังคงคุ้มกันเสี่ยวอวี้อยู่ด้วยนะเจ้าคะ”
“เราได้พบกับอาเมี่ยวโดยบังเอิญ แต่ในอนาคต เมื่อเสี่ยวอวี้กลับมาที่คฤหาสน์ผู้อาวุโสสกุลเยว่ จะต้องมีใครสักคนที่ห่วงใยนางและดูแลนางด้วยใจจริง มารดาของนางก็สิ้นไปแล้ว ในเมื่อเราจะพาเสี่ยวอวี้กลับมาก็ต้องช่วยนางให้ถึงที่สุด ให้เสิ่นอิงมาแอบเฝ้าดูนาง เพื่อดูว่าคนผู้นี้เชื่อถือได้หรือไม่ และนางต้องการล้างแค้นให้อาชิ่นจริงหรือไม่”
“ข้าน้อยเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” หงเย่พยักหน้า ตอนแรกนางคิดไม่ถึง แต่ด้วยการได้เติบโตมาในวัง จึงรับรู้ว่าการมีสาวรับใช้ที่ภักดีต่อเจ้านายนั้นสำคัญมากเพียงใด
“แม่นางถัง? แม่นางถัง?” ขณะที่พวกนางกำลังคุยกันอยู่ตรงนี้ เสียงของอูเหมี่ยนเซิงก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่ง
ทันทีที่นางหันหน้าไปมอง นางก็เห็นเขาและผู้อาวุโสสกุลเยว่เดินมาด้วยกัน
ผู้อาวุโสสกุลเยว่กระวนกระวายเล็กน้อย “แม่นางถัง ผ่านไปครึ่งชั่วยามแล้ว ข้าไม่รู้ว่าหรงเอ๋อร์จะ… “
อวี้ชิงลั่วตกตะลึงไปครู่หนึ่ง และตอบสนองทันทีด้วยสีหน้าจริงจัง นางพยักหน้าและพูดว่า “ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะรีบไปตรวจอาการคุณชายเหมิง”
“ดี ดี”
ทุกคนกลับมาข้างเตียงอีกครั้ง และว่านเผิงหลงที่คอยเฝ้าอยู่รีบถอยออกไปด้านข้าง เพื่อเปิดที่ว่างให้อวี้ชิงลั่ว
อวี้ชิงลั่วแสร้งทำเป็นตรวจชีพจรของเขาอีกครั้ง และคิ้วของนางก็ขมวดแน่นยิ่งกว่าเดิม
หัวใจของผู้อาวุโสสกุลเยว่เต้นแรงทันที และถึงกับหยุดหายใจ “แม่ แม่นางถัง เป็นอย่างไรบ้าง? อาการของหรงเอ๋อร์ไม่ดีหรือ?”
“แย่มาก” อวี้ชิงลั่วลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าตึงเครียด และพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ตอนแรกคุณชายเหมิงสบายดี แต่ตอนนี้ข้าเกรงว่าจะสิ้นหวังเสียแล้วเจ้าค่ะ”
จู่ ๆ ผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็รู้สึกว่าดวงตาของเขามืดมนไป และแทบจะยืนทรงตัวไม่อยู่
อูเหมี่ยนเซิงมีสายตาที่เฉียบคม และมือที่ว่องไว จึงรีบเอื้อมมือไปประคองเขาทันที “ท่านประมุขขอรับ”
เขาหันกลับมาถามอวี้ชิงลั่วว่า “แม่นางถัง ได้โปรดคิดหาวิธีช่วยเหมิงหรงด้วยเถิด”
อวี้ชิงลั่วชำเลืองมองเขา แล้วเริ่มใช้นิ้วแตะคางครุ่นคิด ก่อนจะเดินไปทางซ้ายสองสามก้าว แล้วหยุดชั่วคราว จากนั้นก็เดินไปทางขวาอีกสองสามก้าว
ผู้อาวุโสสกุลเยว่และอูเหมี่ยนเซิงเห็นเช่นนั้นก็ไม่กล้ารบกวนนาง แต่จ้องมองนางด้วยสายตาลุ้นระทึก
หลังจากนั้นไม่นาน นัยน์ตาของอวี้ชิงลั่วก็เป็นประกายขึ้นมา นางหันหน้ามาทันที “ใช่แล้ว”
“อะไร?” ทั้งสองถามอย่างกระตือรือร้น
แต่จู่ ๆ อวี้ชิงลั่วก็สงบนิ่งไปอีกครั้ง “ช่วยชีวิตได้ไม่มีปัญหา ทว่า…”
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
นังเหมิงเคอชั่วร้ายมาก ถ้าน้องอวี้ไม่มีคนใช้คอยคุ้มครองดีๆ ตอนกลับมาอยู่บ้านก็คือลำบาก
จะช่วยชีวิตคุณชายเหมิงได้ด้วยวิธีไหนกันนะ
ไหหม่า(海馬)