อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 709 อาเมี่ยวรายงาน
ตอนที่ 709 อาเมี่ยวรายงาน
ตอนที่ 709 อาเมี่ยวรายงาน
อูเหมี่ยนเซิงก้าวไปข้างหน้า และรู้สึกตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นคนที่ส่งเสียงดัง “ท่านประมุข สตรีผู้นั้นช่างคุ้นหน้านัก”
ผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็ก้าวเดินมาด้วยเช่นกัน จนกระทั่งเมื่อเขาเข้าไปใกล้ เขาก็ได้ยินเสียงของหญิงสาวที่กำลังกระวนกระวายพูดอย่างร้อนรน “สิ่งที่ข้าน้อยพูดเป็นความจริง ตอนนี้แม่นางถังกำลังตกอยู่ในอันตราย มีคนกำลังจะฆ่านาง”
อูเหมี่ยนเซิงตกตะลึง แล้วรีบเดินเข้าไปผลักสตรีที่กำลังพยายามขวางสาวใช้คนนั้นออกไป และก้าวเข้าไปถามว่า “เมื่อครู่นี้เจ้าพูดว่ากระไรนะ? แม่นางถังกำลังตกอยู่ในอันตรายหรือ?”
สตรีผู้นั้นถูกผลักจนเซและเกือบจะล้มลงกับพื้น เมื่อนางเห็นอูเหมี่ยนเซิง นางก็รีบเถียงว่า “ท่านรองอูเจ้าคะ ท่านอย่าไปฟังเรื่องเหลวไหลของนางคนนี้เลยเจ้าค่ะ นางชอบโกหกอยู่เสมอ ไม่มีทางที่นางจะพูดความจริง เรื่องที่ว่าแม่นางถังถูกไล่ล่าย่อมถูกแต่งขึ้นมาทั้งหมด ข้าน้อยคิดว่านางต้องมีเจตนาชั่วร้ายเป็นแน่ ข้าน้อยจะลากตัวนางออกไปตอนนี้ เพื่อไม่ให้มาส่งเสียงดังรบกวนการพักผ่อนของคุณชายเจ้าค่ะ “
สตรีคนนั้นพูดเสียงดัง ราวกับว่ากำลังเตือนใครบางคนในเย่เซ่อ
อูเหมี่ยนเซิงจ้องมองนาง และก่อนที่เขาจะทันได้พูดขึ้น เขาก็ได้ยินเสียงผู้อาวุโสสกุลเยว่เย้ยหยัน “นางกำลังพูดเรื่องเหลวไหลหรือไม่ ไม่ใช่ธุระกงการของเจ้าที่จะมาตัดสินที่นี่ ใครอนุญาตให้เจ้ามายืนขวางอยู่ตรงนี้ ออกไปให้พ้น”
ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสสกุลเยว่ไม่ได้คิดมาก แต่ตอนนี้เขามีความคิดเห็นบางอย่างเกี่ยวกับเหมิงเคอในใจ ตระหนักได้ถึงปัญหามากมาย
ตัวอย่างเช่นสาวใช้ทุกคนในคฤหาสน์หลังนี้ล้วนเป็นคนของเหมิงเคอ เรื่องสกปรกโสมมเหล่านั้นจึงมาไม่ถึงหูของเขา เช่นเดียวกับตอนนี้ หญิงผู้นี้ช่างบังอาจนัก นางรู้เรื่องของแม่นางถังอยู่แล้ว แต่ไม่มารายงานข่าวสักเรื่อง กลับมาขวางสาวใช้ที่มารายงานข่าวไว้ที่หน้าประตูเช่นนี้
อีกทั้งนางยังจงใจส่งเสียงดังมาก เป็นไปได้ว่าต้องการรายงานให้เหมิงเคอที่อยู่ข้างในทราบ
ทันทีที่สตรีผู้นั้นเห็นผู้อาวุโสสกุลเยว่ เหงื่อเย็นก็ไหลโซมกายทันที ถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้นด้วยความตกใจ
จากนั้นอูเหมี่ยนเซิงก็มองไปยังสาวใช้ที่มารายงานข่าว หลังจากมองดูแล้ว เขาก็รู้ว่าเป็นสาวใช้ที่เปิดโปงปี้เอ๋อร์ก่อนหน้านี้ ซึ่งดูเหมือนจะชื่อว่า… อาเมี่ยว
เมื่ออาเมี่ยวเห็นอูเหมี่ยนเซิงก็รู้สึกราวกับเทวดามาโปรด ไม่แม้แต่จะสนใจเรื่องมารยาทอีกต่อไป รีบคว้าแขนเสื้อของเขาแล้วพูดอย่างกังวลว่า “ท่านประมุข ท่านรองอู เมื่อสักครู่นี้ข้าน้อยเดินผ่านเรือนของคุณหนู และเห็นว่ามีคนชุดดำหลายคนอยู่ข้างใน ดูเหมือนว่าแม่นมเฝิงจะถูกฆ่าตายไปแล้ว ส่วนชิว… คุณหนูก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้แม่นางถังกำลังรักษาคุณหนูอยู่ข้างใน สถานการณ์ตอนนี้อันตรายนักเจ้าค่ะ”
ผู้อาวุโสสกุลเยว่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นรูม่านตาของเขาก็หดตัวลง ทันใดนั้นเขาก็เคาะเท้าแล้วทะยานไปยังทิศที่อวี้ชิงลั่วอยู่
ชายชุดดำหรือ? มีชายชุดดำอยู่ในคฤหาสน์จริงหรือ?
“เจ้าว่าอย่างไรนะ?” หมอเฒ่าฉยงซานที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลหูดีมาก เขาได้ยินแว่ว ๆ ว่าลั่วลั่วกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ไม่พูดอะไรสักคำ ปรี่เข้าไปจับคอเสื้อของอาเมี่ยวถามว่า “ลั่วลั่วอยู่ที่ใด? อยู่ที่ใด? รีบพาเราไปที่นั่นเร็ว”
ขาของอาเมี่ยวอ่อนแรง นางหมดเรี่ยวแรงแล้วตั้งแต่ตอนที่วิ่งมา เมื่อถูกหมอเฒ่าฉยงซานเขย่าเช่นนี้อีก นางก็ไม่สามารถยืนต่อไปได้ และเกือบจะล้มลงกับพื้น
อูเหมี่ยนเซิงเป็นคนประคองนางขึ้นมา แล้วบอกกับหมอเฒ่าฉยงซานว่า “ท่านหมอตามข้ามา ข้าจะพาท่านไปที่นั่น”
เมื่อพูดจบ เขาก็เตรียมทะยานตัวขึ้นไล่ตามทิศทางของผู้อาวุโสสกุลเยว่
แต่ทันทีที่เขาหันหน้าไป เขาก็เห็นสตรีผู้นั้นกำลังจ้องมองอาเมี่ยวด้วยสายตาดุร้ายเย็นชาราวกับว่าจะกินเลือดกินเนื้อ
หัวใจของอูเหมี่ยนเซิงเต้นไม่เป็นจังหวะ นี่ไม่ใช่เวลาจัดการกับสตรีผู้นี้ เพื่อป้องกันไม่ให้อาเมี่ยวถูกนางสังหารเอาเสียก่อน เขาทำได้เพียงจับแขนนางไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วกระซิบว่า “ขออภัย ข้าจะพาเจ้าไปที่นั่นด้วย”
เมื่อสักครู่นี้อาเมี่ยวโพล่งคำว่า ‘ชิว’ ออกมา ซึ่งอูเหมี่ยนเซิงได้ยินอย่างชัดเจน ดังนั้นอาเมี่ยวย่อมรู้ว่าเถี่ยชิวเอ๋อร์ไม่ใช่เหมิงหลัวอวี้ นางเป็นคนวงในที่รู้เรื่องราวต่าง ๆ ดี
อาเมี่ยวพยักหน้า นางอ่อนแรงเกินกว่าจะเดินไปไหว และนางไม่กล้าอยู่ที่นี่เพื่อรอให้เหมิงเคอออกมาจัดการตน อย่างไรเสียท่านรองอูก็แค่จับแขนนาง และนางเป็นเพียงสาวใช้ เหตุใดต้องกังวลด้วย?
อูเหมี่ยนเซิงเห็นเช่นนั้นก็พานางวิ่งไปยังเรือนของเถี่ยชิวเอ๋อร์
สตรีผู้นั้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นรีบหันหลังวิ่งเข้าไปในเย่เซ่อ แล้วรีบรายงานเรื่องนี้แก่เหมิงเคอ
เหมิงเคอขมวดคิ้วและกำมือแน่น ให้ตายเถอะ สตรีแซ่ถังคนนี้มาทำลายแผนการของนางอีกแล้ว นางพยายามฆ่าเด็กนั่นหลายครั้งแล้ว แต่ก็ถูกนางทำแผนล่มตลอด
นางเหลือบมองเหมิงหรงที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนออกจากห้องอย่างสงบ แล้วรีบวิ่งตามไปติด ๆ
ในขณะนี้ ใบหน้าของอวี้ชิงลั่วได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ
หงเย่ฆ่าชายชุดดำสองคนได้ แต่ก็ยังไม่จบ ตอนนี้มีมาเพิ่มอีกสามคน ไม่ทราบว่าเหมิงเคอส่งคนมาที่นี่อีกกี่คน ซึ่งสร้างปัญหายุ่งยากให้นางมาก
สีหน้าของอวี้ชิงลั่วบูดบึ้ง ขณะต่อสู้กับชายชุดดำอีกคนก็หันไปเห็นเลือดไหลนองออกมาจากหลังของเถี่ยชิวเอ๋อร์อีกครั้ง นางกัดฟันแน่นจนฟันแทบหัก
เมื่อเห็นว่าชายชุดดำกำลังหาโอกาสโจมตีนางอีก นางก็อยากจะฉีกเขาเป็นหมื่น ๆ ชิ้น
อวี้ชิงลั่วถีบชายชุดดำกระเด็นออกไป แล้วแตะร่างของเถี่ยชิวเอ๋อร์สองครั้ง
ชายชุดดำได้จังหวะจึงจู่โจมที่หลังของอวี้ชิงลั่วในทันใด
ขณะที่อวี้ชิงลั่วกำลังจะหันกลับมา ชายชุดดำที่อยู่ข้างหลังนางก็เบิกตากว้าง แล้วล้มลงกับพื้นอย่างแรง ก่อนกลิ้งไปมาบนพื้นที่เต็มไปด้วยเศษแจกันแตก เลือดไหลอาบทั่วใบหน้าและหลัง
อวี้ชิงลั่วชะงักไปครู่หนึ่ง และเห็นใครบางคนยืนอยู่บนข้างหลังเขา
ผู้อาวุโสสกุลเยว่จ้องมองชายชุดดำสองคนที่กำลังต่อสู้กับหงเย่ด้วยสีหน้าดุร้าย เขาไม่มีเวลาพูดอะไรกับอวี้ชิงลั่ว กระโดดขึ้นจากพื้นและเล็งไปยังชายทั้งสอง
สุดท้ายผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็เป็นผู้อาวุโสประจำเผ่าเหมิง ทักษะของเขาจึงไร้ข้อกังขา ทันทีที่เขามา สถานการณ์ก็พลันพลิกกลับ ชายชุดดำเสียเปรียบทันที และมันก็สายเกินไปที่จะหลบหนี
อวี้ชิงลั่วหันไปมองแล้วรีบตะโกนว่า “จับเป็น”
ผู้อาวุโสสกุลเยว่ผงกศีรษะ ก่อนกางมือเป็นกรงเล็บเล็งไปที่คอของชายชุดดำทั้งสอง
สองคนนั้นมองหน้ากัน ความรู้สึกยอมรับความตายฉายแววผ่านดวงตาของพวกเขา
“ไม่นะ” ผู้อาวุโสสกุลเยว่ตกใจ แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว ชายชุดดำสองคนถอยไปสองสามก้าวด้วยใบหน้าแข็งทื่อราวกับถูกแช่แข็ง แล้วเลือดสีดำก็ค่อย ๆ ไหลออกมาจากมุมปากของพวกเขา ทั้งสองล้มหน้าคว่ำลงกับพื้นอย่างแรง ไม่มีการเคลื่อนไหวอีกต่อไป
ผู้อาวุโสสกุลเยว่เตะชายชุดดำคนหนึ่งด้วยความโกรธ ทำให้มือและเท้าของชายคนนั้นหักทันที
อวี้ชิงลั่วกะพริบตา วิทยายุทธของผู้อาวุโสสกุลเยว่คนนี้ช่างยากแท้หยั่งถึง
หงเย่พ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ และดวงตาของนางก็พลันมืดมนไปชั่วขณะ
นางรีบถอยกลับไปยืนข้างอวี้ชิงลั่ว เมื่อเห็นบาดแผลบนร่างกายของเถี่ยชิวเอ๋อร์ นางก็ดูกังวลเช่นกัน
“ใช้ยานี้” อวี้ชิงลั่วโยนขวดกระเบื้องเคลือบให้นาง
หงเย่พยักหน้า แล้วมองบาดแผลทั้งสองที่แขนและไหล่ของตน ก่อนเดินเงียบ ๆ ไปที่ห้องชั้นใน แล้วทายารักษาบาดแผลให้ตัวเอง
ทันทีที่นางเข้าไป หมอเฒ่าฉยงซานและอูเหมี่ยนเซิงก็เข้ามาที่ประตู
เมื่อเห็นชายชุดดำหลายคนนอนระเกะระกะอยู่บนพื้น พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
นักฆ่าชิงฆ่าตัวตายปิดปากเสียก่อนแล้ว อดได้หลักฐานเลยว่าใครจ้างวานมา
ไหหม่า(海馬)