อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 712 หนานหนานยังไม่กลับมา
ตอนที่ 712 หนานหนานยังไม่กลับมา
ตอนที่ 712 หนานหนานยังไม่กลับมา
ชายคนนั้นเร่งรีบไปตลอดทาง สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ก้มหน้ามุ่งตรงเข้าไปยังจวนผู้อาวุโสสกุลเยว่
เหมิงเคอเพิ่งสั่งให้คนจัดการศพของแม่นมเฝิง ทั้งยังให้เงินชดเชยกับครอบครัวของนาง เพียงก้าวเข้าไปยังลานบ้านของตน ก็เห็นว่าเขาคุกเข่าอยู่ตรงหน้า ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ นำสิ่งที่เห็นที่โรงเตี๊ยมเล่าให้นางฟัง
เหมิงเคอตกใจจนลุกจากเก้าอี้ “เจ้าบอกว่า เหมิงหลัวอวี้อยู่ในดินแดนเหมิง อยู่ข้างกายแม่นางถังอย่างนั้นหรือ”
“ขอรับ ข้าน้อยเห็นแม่นางถังกับนางนั่งกินข้าวด้วยกันที่ด้านล่าง ทั้งสองคนดูสนิทสนมกันมากขอรับ”
เหมิงเคอจ้องเขม็ง จู่ๆ ก็เอนหลังลงพิงเก้าอี้อีกครั้ง เหม่อมองออกไปไกล ผ้าเช็ดหน้าในมือบิดเป็นก้อนกลม คนทั้งคนเหม่อลอย
“ถึงว่าสิ ถึงว่าสิแม่นางถังผู้นั้นจึงพุ่งเป้ามาที่ข้าตั้งแต่แรก ไม่แปลกใจเลยที่นางเอาแต่พูดอ้อมๆ อยากให้บุตรสาวของนายท่านมาปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ไม่แปลกใจเลย”
เมื่อรู้ว่าเหมิงหลัวอวี้อยู่ในมือนาง ทุกอย่างก็ดูอธิบายได้ขึ้นมาแล้ว
เพียงแต่ว่า ดูเหมือนนางไม่ได้คิดจะบอกท่านพ่อเกี่ยวกับเรื่องเหมิงหลัวอวี้ เป็นเพราะไม่มีหลักฐาน หรือเพราะว่า… มีเหตุผลอื่นกันนะ
เหมิงเคอกัดริมฝีปาก ดวงตาหม่นหมอง ยืนขึ้นเดินไปเดินมาอยู่ในห้อง
ไม่ได้การ เหมิงหลัวอวี้จะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ จะอยู่ไม่ได้เด็ดขาด ตอนนี้เหมิงหรงฟื้นขึ้นมาแล้ว ถ้าหากแม่นางถังผู้นั้นพาตัวเด็กมาเจอเขา ทั้งหมดก็จะจบเห่
ฝีเท้าของเหมิงเคอหยุดลงกะทันหัน หันกลับไปมองชายตรงหน้าอย่างเย็นชา กล่าวเยียบเย็น “ไปบอกท่านพ่อข้า ต้องเอาชีวิตนางเด็กนั่นให้ได้”
“ขอรับ” คนผู้นั้นรับคำสั่ง หันหลังแล้วจากไป
“เดี๋ยว” จู่ๆ เหมิงเคอก็เรียกเขาไว้อีกครั้ง ขมวดคิ้วแล้วถาม “แม่นางถังผู้นั้นไม่ได้รับบาดเจ็บหรือ”
คนผู้นั้นครุ่นคิดแล้วตอบ “หญิงผู้นั้นดูหน้าซีดและงุนงงขอรับ เวลาเดินก็ไม่ค่อยมั่นคง น่าจะได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ร้ายแรงขอรับ”
เหมิงเคอพยักหน้า นึกถึงว่าหมอเฒ่าฉยงซานเป็นห่วงผู้หญิงแซ่ถังผู้นี้เป็นพิเศษ เวลาพูดอะไรก็แน่นอนว่าจะต้องเกินจริง เกรงว่าหญิงผู้นั้นจะบาดเจ็บ แต่ไม่ได้ร้ายแรงเท่าที่เขากล่าวเป็นแน่
น่าเสียดายจริงๆ ถ้าหากบาดเจ็บหนักรักษาไม่ได้เช่นเดียวกับเถี่ยชิวเอ๋อร์คงดีไม่น้อย
“ฮูหยินน้อย จะกำจัดแม่นางถัง… ไปด้วยเลยไหมขอรับ” คนผู้นั้นเห็นนางเงียบไปนาน ก็ถามอย่างลังเล
เหมิงเคอผงะ เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้า “การกำจัดนางจะเป็นเรื่องใหญ่เกินไป ตอนนี้ท่านพ่อสามีให้ความสำคัญกับนางมาก อาการของนายท่านก็ยังต้องการให้นางรักษา หากนางตายไป ท่านพ่อสามีจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดเป็นแน่ หมอเฒ่าฉยงซานก็จะต้องไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ ถึงตอนนั้นหากถูกตรวจสอบพบอะไรเข้าจะกลายเป็นผลร้ายเสียได้”
นางหยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวเสริม “เหมิงหลัวอวี้จะตายที่โรงเตี๊ยมไม่ได้ พาตัวนางออกมาแล้วค่อยจัดการ”
“ขอรับ” คนผู้นั้นตอบรับ จากนั้นก็หันหลังจากไป
ทันทีที่เขาจากไป เหมิงเคอก็นั่งลงกับเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อนราวกับไร้เรี่ยวแรง ปี้เอ๋อร์ตายแล้ว เถี่ยชิวเอ๋อร์เองก็ตายแล้ว ถึงแม้จะเสียคนรับใช้ไปหนึ่งคน ก็ถือว่าคุ้มค่า
แต่แม่นางแซ่ถังผู้นั้น เป็นภัยร้ายอย่างแท้จริง
รอจนเหมิงหรงฟื้นตัวเสียก่อนเถิด รอจนนางไปจากดินแดนเหมิง จะต้องไม่ให้นางมีชีวิตต่อไปได้อีก
“ฮัดเช้ย…” อวี้ชิงลั่วจามอย่างรุนแรงสองครั้ง
เหมิงหลัวอวี้ที่อยู่ข้างๆ รีบนำแก้วน้ำวางตรงหน้านาง “ท่านน้าชิง เป็นอะไรไหมเจ้าคะ”
อวี้ชิงลั่วถูจมูกแล้วยิ้ม “ไม่เป็นไร คงจะมีคนลอบด่าข้าลับหลังน่ะ” เมื่อครู่เห็นว่าคนผู้นั้นไปแล้ว คงจะกลับไปรายงานเหมิงเคอสินะ เหมิงเคอน่าจะเกลียดนางจนเข้ากระดูกดำเชียวล่ะ
นางรู้ตั้งแต่แรกแล้ว เหมิงหรงฟื้นขึ้นมา เหมิงเคอจะต้องหาวิธีกำจัดตนเป็นแน่ และจะต้องรีบสืบเรื่องของตน
ในเมื่อนางอยากรู้ถึงเพียงนั้น ก็มอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้นางเสียหน่อย
เห็นเสี่ยวอวี้แล้ว คงจะตกใจแทบตายสินะ
เพียงอวี้ชิงลั่วนึกถึงสีหน้าของเหมิงเคอที่น่าจะแสดงออกมา คนทั้งคนก็มีความสุขแล้ว
ดื่มน้ำอึกหนึ่ง หลังกินอิ่มแล้ว นางก็พาเหมิงหลัวอวี้กลับเข้าไปในห้อง
จากนั้นก็เปิดตู้แล้วจัดกระเป๋าเดินทางให้นาง
เหมิงหลัวอวี้ผงะไป วิ่งไปหยุดตรงหน้านาง มองเสื้อผ้าของใช้ของตนถูกนำไปใส่ในกระเป๋าอย่างแปลกใจ ถามอย่างเป็นกังวล “ท่านน้าชิง เก็บของ เก็บของทำไมหรือเจ้าคะ”
“ช่วงสองสามวันนี้เจ้าไปอยู่กับทางด้านพ่อหนานหนานนะ”
เหมิงหลัวอวี้ตกใจ ตระหนกเล็กน้อย “ท่านน้าชิง ทำ… ทำไมล่ะเจ้าคะ”
อวี้ชิงลั่วหันมาก็เห็นนางหน้าซีด รู้ว่านางเข้าใจผิดแล้ว จึงรีบหยุดมือของตนแล้วกล่าว “อย่าคิดมากไป ตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างซับซ้อน ถึงแม้น้าชิงจะมีวิชากังฟู แต่ก็ไม่ใช่ยอดฝีมืออันใด รักษาความปลอดภัยให้เจ้าไม่ได้ พ่อของหนานหนานมีแต่ยอดฝีมือข้างตัว เขาจะต้องดูแลเจ้าได้อย่างเหมาะสมเป็นแน่”
อีกอย่าง เบื้องหลังเขายังมีผู้อาวุโสสกุลหมิงอีกด้วย
เหมิงเคอมีผู้อาวุโสสกุลลี่เป็นพ่อไม่ใช่หรือ สามีของนางก็มีท่านปู่เป็นผู้อาวุโสเช่นกันรู้หรือไม่ มีคนหนุนหลังมันดีนักหรือ มีคนหนุนหลังแล้วจะส่งคนไปฆ่าใครก็ได้หรือ
อวี้ชิงลั่วฮึดฮัด จากนั้นก็กล่าวเสริม “เจ้าวางใจเถิด ข้าจะให้หนานหนานไปด้วย เจ้าจะไม่อยู่ตัวคนเดียว ทางนั้นมีแม่นมเซียว มีเยว่ซิน พวกเขาล้วนเป็นคนอ่อนโยนมาก จะดูแลเจ้าได้”
อืม… ก็น่าจะถือว่าอ่อนโยนได้กระมัง
อวี้ชิงลั่วนึกถึงความเข้มงวดของแม่นมเซียว ความแตกแถวของเยว่ซิน ก็คิดปลอบใจตนเอง
เหมิงหลัวอวี้พยักหน้าอย่างว่าง่าย “เจ้าค่ะ” ท่านน้าชิงไม่ได้คิดจะทอดทิ้งนางก็ดีแล้ว นางเชื่อว่าการจัดการของท่านน้าชิงนี้จะต้องมีจุดประสงค์เป็นแน่
สิ่งที่นางทำได้ ก็คือทำตามที่นางจัดการอย่างว่าง่าย ไม่คอยเป็นตัวถ่วงนาง
ทันใดนั้นเหมิงหลัวอวี้ก็อยากจะมีฝีมือดังเช่นหนานหนานบ้าง เช่นนั้นแล้วก็จะไม่กลัวใครหน้าไหนอีก
อวี้ชิงลั่วนำหนังสือที่เหมิงหลัวอวี้มักจะอ่านเป็นประจำใส่หอบสัมภาระไปด้วย จนกระทั่งเก็บได้ประมาณหนึ่งแล้ว ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลง
หลังจากรอไปประมาณหนึ่งเค่อ หงเย่ก็กลับมา คนที่มากับนางยังมีเหวินเทียนเผิงอิงสองพี่น้องด้วย
เหวินเทียนมองอวี้ชิงลั่วด้วยรอยยิ้ม แววตาปรากฏความขี้เล่นอยู่ในนั้น
อวี้ชิงลั่วจ้องมองเขาอย่างดุดันแวบหนึ่ง ถือโอกาสที่เผิงอิงกำลังขนของก็กล่าวอย่างไม่พอใจ “เจ้ายังกล้ายิ้มเยาะข้าอีก ต่อไปอย่าคิดว่าจะได้หงเย่ล่ะ”
เหวินเทียนหุบยิ้มในทันที จากนั้นก็ถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างเขินอาย “ท่าน… ท่านรู้ได้อย่างไรขอรับ”
“เพราะข้าฉลาดอย่างไรเล่า” อวี้ชิงลั่วเชิดคาง นางมีประสบการณ์ เพียงการเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างพวกเขา นางจะดูไม่ออกเชียวหรือ สิ่งที่เรียกว่าการคบหาดูใจอย่างยาวนาน ช่วงเวลาที่เขาบาดเจ็บก็มีหงเย่คอยดูแลทุกอย่าง ชายหญิงรูปงามในช่วงเวลาแห่งการเบ่งบาน ไม่มีความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปก็คงจะแปลก
เหวินเทียนลูบจมูก หันหลังไปช่วยเก็บของ
เผิงอิงกลับมาก็เห็นสีหน้าผิดแผกไปของเขา มองเขาอย่างประหลาดใจแวบหนึ่ง จากนั้นก็หยอกล้อ “เจ้ามีอารมณ์รักหรือ”
เหวินเทียนไม่สนใจ ออกจากห้องไปอย่างกระฟัดกระเฟียด
เก็บของเสร็จเรียบร้อย ท้องฟ้าก็มืดมิดแล้ว
แต่ว่า…
เจ้าเด็กหนานหนานผู้นั้นก็ยังไม่กลับมา
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หนานหนานไปไหนกันนะ ไปซ้อมดื่มสุราหรือเปล่า
ไหหม่า(海馬)