อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 713 หมอดูปลอมคือแม่ของเจ้า
ตอนที่ 713 หมอดูปลอมคือแม่ของเจ้า
ตอนที่ 713 หมอดูปลอมคือแม่ของเจ้า
หนานหนานในตอนนั้น อยู่ที่จวนผู้อาวุโสสกุลหมิงนั่นเอง
วันนี้เขามาช้าไปหน่อย จนกระทั่งเย็นจึงได้เข้าไปในจวน
หลังจากออกมาตอนเช้า หนานหนานก็ไปที่โรงเตี๊ยมของเย่ซิวตู๋ อย่างไรเขาก็คิดว่าตนเป็นบุตรที่เชื่อฟังคนหนึ่ง ต้องจำสิ่งที่ท่านพ่อกล่าวเมื่อวานใส่ใจไว้
ท่านพ่ออยากให้เขาเรียนรู้การหมักสุราจากท่านลุงโม่ เขาเองก็รู้สึกว่าตนเป็นคนแสวงหาการเรียนรู้ ดังนั้นจึงออกไปหาโม่เสียนตั้งแต่เช้าตรู่
แต่หนานหนานก็กลัวจะได้พบกับแม่นมเซียว ดังนั้นจึงทำได้เพียงเดินเตร็ดเตร่อยู่นอกโรงเตี๊ยมอยู่นาน จนกระทั่งพบห้องที่โม่เสียนอยู่ เขาจึงขว้างก้อนหินไปยังหน้าต่างห้องของโม่เสียน
แต่ตอนนั้นโม่เสียนไม่ได้อยู่ในห้อง
ดังนั้น…
หนานหนานจึงขว้างหินอยู่เป็นเวลาหนึ่งก้านธูป จนกระทั่งเมื่อโม่เสียนกลับมาถึงห้องของตน ในห้องก็กลายเป็นกองหินกองเล็กๆ แล้ว
เขากระตุกมุมปาก มองผ่านหน้าต่างที่เปิดอยู่ลงไป ยังไม่ทันจะเห็นได้ชัดเจนก็ถูกกระแทกเข้าที่หน้าผาก จนกระทั่งเขาลงไปชั้นล่างอย่างโมโห จึงพบว่าคนที่มา ‘แกล้งเล่น’ ผู้นั้นก็คือนายน้อยของตนนั่นเอง
เขาบอกอีกฝ่ายอย่างช่วยไม่ได้ ว่าแม่นมเซียวออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว ไม่ได้อยู่ที่โรงเตี๊ยม
หนานหนานสำนึกผิดอยู่ในใจจนแทบกระอักเลือดออกมา
โม่เสียนพาเขาขึ้นชั้นบน นวดแขนให้เขา และไม่ได้บอกใครถึงการมาของเขา จากนั้นก็สอนเขาเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานของการหมักเหล้าให้ภายในห้อง หนานหนานฟังอย่างง่วงนอน แต่ก็พยายามฝืนเต็มที่
จนกระทั่งถึงตอนเย็น ผู้อาวุโสสกุลหมิงรออยู่ที่จวน รอจนกระทั่งจิตใจว้าวุ่นส่งคนมากดดัน หนานหนานจึงขึ้นรถม้าของผู้อาวุโสสกุลหมิงไปที่จวนของเขา
ผู้อาวุโสสกุลหมิงให้คนเตรียมขนมเอาไว้รอกองหนึ่ง รู้ว่าหนานหนานชอบกิน ตอนนี้เขาก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะหาของอร่อยๆ มาให้
หนานหนานมองด้วยแววตาเป็นประกาย ความง่วงงุนตลอดทั้งวันหายไปเป็นปลิดทิ้ง เขาวิ่งไปหาราวกับหมาป่าที่หิวโหย
ผู้อาวุโสสกุลหมิงพึงพอใจอย่างยิ่ง นั่งยิ้มอยู่ด้านข้างพลางลูบเคราของตน
อืม สมกับเป็นเหลนของเขา หน้าตาดี ทั้งยังฉลาดหลักแหลม เหลนคนนี้เหมือนเขาที่สุด
“ท่านตาทวด” หนานหนานเรอ จากนั้นก็ให้พ่อบ้านห่อขนมทั้งหมด ด้วยอยากเอากลับไปให้น้องอวี้ชิม
“ท่านตาทวด ข้าอยากไปที่ป่าไผ่ขอรับ” กินอิ่มแล้วเขาก็อยากย่อยอาหารเสียหน่อย พอดีเลย เขาอยากจะท้าทายค่ายกลดู ดูว่าหากไม่ใช้วิธีของท่านพ่อแล้ว ตนจะออกมาได้หรือไม่
ผู้อาวุโสสกุลหมิงผงะไป “จะไปป่าไผ่ทำไมกัน?”
“ทำลายค่ายกลขอรับ”
“ดี มีความทะเยอทะยานนัก” ผู้อาวุโสสกุลหมิงยิ่งพึงพอใจในตัวเขา เหลนคนดีของเขา เหตุใดจึงทำตัวให้เป็นที่รักของผู้อื่นได้เก่งเพียงนี้ เขาจะต้องเติบโตได้ดีกว่าพ่อเป็นแน่ ดูก็รู้ได้ทันที
เดี๋ยวนะ… ป่าไผ่หรือ
ใบหน้าของผู้อาวุโสสกุลหมิงบิดเบี้ยวไปครู่หนึ่ง เขามองหนานหนานแวบหนึ่ง จากนั้นถอนหายใจ ไม่ได้กล่าวอันใด จับมือเขาพาไปยังป่าไผ่
หนานหนานมองเขาอย่างแปลกใจ เหตุใดจึงรู้สึกว่าสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที หรือว่าไม่เชื่อในความสามารถของตน คอยดูเถิด ครั้งนี้เขาจะต้องพึ่งความสามารถของตนเองแล้วออกมาให้ได้แน่
หนานหนานเต็มไปด้วยความมั่นใจ จนกระทั่งถึงรอบนอกของป่าไผ่ เห็นว่าป่าไผ่ถูกตัดโค่นไปแล้ว คนทั้งคนก็งุนงงไป
“นี่… นี่มัน ท่านตาทวด เหตุใดจึงให้คนมาโค่นป่าไผ่เล่าขอรับ เหตุใดจึงโค่นมันด้วยเล่าๆๆ” หนานหนานกระโดดอย่างโกรธเกรี้ยว ไม่พอใจอย่างมาก
ที่เขารีบร้อนมาที่นี่ ก็เพื่อจะมาทำลายค่ายกล ตอนนี้ไม่มีค่ายกลแล้ว เขาจะเอาชนะได้อย่างไร?
ผู้อาวุโสสกุลหมิงถอนหายใจอย่างหนัก กล่าวอย่างหมดหนทาง “ปู่ทวดเองก็ไม่มีทางเลือก เมื่อวานมีหญิงคนหนึ่งมาที่จวน บอกว่าป่าไผ่ของข้านี้เต็มไปด้วยพลังงานชั่วร้าย จะต้องตัดทิ้งให้หมด ไม่เช่นนั้นทั้งจวนของข้าจะต้องพบกับหายนะนองเลือด คนที่อยู่ในจวนนี้ล้วนเป็นครอบครัวของตาทวด ตาทวดจะประมาทไม่ได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงฟังคำนาง ตัดต้นไผ่เสีย อย่างไรหนานหนาน เจ้าเองก็เป็นคนในครอบครัวนี้ กว่าข้าจะได้พบเจ้า จึงไม่อยากให้เกิดเรื่องกับเจ้าอย่างไรเล่า”
หนานหนานพองแก้ม “ท่านตาทวด ท่านได้พบหมอดูปลอมเสียแล้ว พลังงานชั่วร้ายอะไรกัน คนผู้นั้นจะต้องโกหกท่านเป็นแน่ นางจะต้องอิจฉาที่ท่านปู่ทวดมีค่ายกลอันยอดเยี่ยมเช่นนี้ รู้สึกไม่พอใจ ดังนั้นจึงได้พูดจาไร้สาระ”
อืมๆๆ ใช่ มันเป็นเรื่องไร้สาระ
ผู้อาวุโสสกุลหมิงพึงพอใจมาก เขาอยากสร้างภาพลักษณ์ที่ดูสูงส่งในสายตาหนานหนาน ส่วนแม่ของเขานั้น จะต้องโดนกดให้ต่ำลงไปอีก
“หนานหนานพูดมีเหตุผล เช่นนั้นเจ้าคิดว่าป่าไผ่ของข้าดีหรือไม่”
“ดีขอรับ ต้องดีแน่นอนอยู่แล้ว ค่ายกลนี้ท่านพ่อข้าเป็นคนคิดค้น ป่าไผ่นี้ก็เป็นท่านตาทวดที่ปลูกขึ้นมา จะยอมทำลายเพียงเพราะคนนอกกล่าวเพียงไม่กี่คำได้อย่างไร เช่นนั้นความพยายามของท่านตาทวดและท่านพ่อก็สูญเปล่าน่ะสิขอรับ” หนานหนานแสดงออกอย่างโมโห เขาอุตส่าห์มาที่นี่อย่างรีบร้อน แต่ป่านี้กลับถูกทำลายแล้ว เขาเองก็เสียใจมาก
“ใช่ไหมเล่า ป่านั้นเขียวชอุ่ม ในนั้นเองก็ไม่มีอันตราย จะมีพลังงานชั่วร้ายได้อย่างไร?”
สองตาทวดและหลานเต็มไปด้วยความแค้นเคืองต่อความไม่ชอบธรรม ผู้อาวุโสสกุลหมิงยิ่งกล่าวยิ่งโมโห กัดฟันเสียจนสั่น
“ข้าชอบป่าไผ่นั่นมากขอรับ นอนหลับในนั้นสบายยิ่งนัก หมอดูปลอมผู้นั้นช่างมีตาหามีแววไม่ เฮ้อๆๆ ข้าโมโหเหลือเกิน โมโหเหลือเกิน”
“เด็กดี ถ้าหากหนานหนานชอบ เช่นนั้นตาทวดจะปลูกให้เจ้าใหม่ หนานหนานชอบอะไร ตาทวดจะหามาให้เจ้า ดีหรือไม่?”
หนานหนานมองผู้อาวุโสสกุลหมิงด้วยแววตาเป็นประกาย ที่แท้ในโลกนี้พอมีคนรักใคร่เขาเพิ่มขึ้นมาอีกคนก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
เขาปีนป่ายขึ้นไปบนร่างของผู้อาวุโสสกุลหมิง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านตาทวดดีที่สุดเลยขอรับ เช่นนั้นข้าชอบเงินที่สุด ข้าชอบนอนกอดเงินแล้วหลับไป ท่านปู่ทวด ความหวังเล็กๆ ของข้านี้ จะเป็นจริงได้หรือไม่ขอรับ”
“เจ้าเด็กเห็นแก่เงินตัวน้อยนี่ กลัวจะไม่มีเงินด้วยหรือ?” ผู้อาวุโสสกุลหมิงเห็นเขาเข้าใกล้ตน ก็ยิ่งหรี่ตาลงด้วยความดีใจ วางมือบนก้นเล็กๆ ของเขา อารมณ์ดีขึ้นกว่าเดิม
หนานหนานมุ่ยปาก ถอนหายใจอย่างหนัก กล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “เงินทั้งหมดของข้าถูกท่านแม่ยึดไปหมดแล้ว ท่านแม่ไม่ปล่อยแม้แต่เศษเงินกำสุดท้ายไว้ให้ข้า ตอนนี้ข้าหมดตัวแล้วขอรับ น่าสงสารมาก”
หนานหนานกะพริบตา ดูแล้วไร้เดียงสายิ่งนัก
ผู้อาวุโสสกุลหมิงใจละลาย ทันใดนั้นก็บอกให้พ่อบ้านเปิดห้องเก็บของ ให้หนานหนานหยิบอะไรก็ได้ที่เขาชอบไปเสีย
“ไปกัน ข้าจะพาเจ้าไปดู ห้องเก็บของของปู่ทวดมีทุกอย่างเลย”
หนานหนานน้ำลายสอ พยักหน้าอย่างจริงจัง “ขอรับ” เพียงแต่เดินไปได้สองก้าว ก็หันกลับมามองป่าไผ่ที่ถูกโค่น กล่าวอย่างขมขื่น “ครั้งหน้าหากข้าได้พบหมอดูปลอมผู้นั้น ท่านปู่ทวด ข้าจะต้องสั่งสอนนางแทนท่านแน่”
ผู้อาวุโสสกุลหมิงชะงัก จากนั้นก็กระตุกมุมปาก หัวเราะแห้งๆ แล้วกล่าว “เกรงว่าจะไม่ได้หรอก”
“ทำไมขอรับ”
“เพราะคนผู้นั้นชื่อว่าอวี้ชิงลั่ว เหมือนจะเป็นแม่ของเจ้าน่ะสิ” ผู้อาวุโสสกุลหมิงกล่าวจบ ก็สังเกตสีหน้าของหนานหนานทันที
อวี้ชิงลั่วยึดเงินส่วนตัวของหนานหนาน หนานหนานน่าจะไม่พอใจในตัวนาง เขาเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟ แน่นอนว่าพื้นที่ในใจของเขา จะต้องให้ท่านตาทวดผู้นี้แซงหน้าแม่ของตนไปแล้ว
พวกเขาทั้งคู่จะต้องร่วมมือกันปราบศัตรูได้แน่
“…” หนานหนานกะพริบตา จากนั้นก็กะพริบตาอีกครั้ง
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เกรงว่าจะหนานหนานจะไม่ยอมร่วมมือง่าย ๆ น่ะค่ะ ปกติแค่ได้ยินชื่อแม่ก็หัวหดแล้ว
ไหหม่า(海馬)