อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 716 กลับดีกว่า
ตอนที่ 716 กลับดีกว่า
ตอนที่ 716 กลับดีกว่า
“ทำไมหรือ ไม่ได้หรือขอรับ?” หนานหนานถามอย่างแปลกใจ เรือนตรงนั้นดูแล้วสงบมาก ไม่มีคนรับใช้แม้เพียงคนเดียว ดูแล้วเหมือนไม่ใช่ที่ที่จะมีคนอยู่
“ที่นั่นเป็นเรือนอาศัยของลูกของตาทวด ก็ถือว่าเป็นท่านตาห่างๆ ของเจ้า” ผู้อาวุโสสกุลหมิงชะงัก หันหน้าไปถามพ่อบ้าน “จื้อเฉิงไม่อยู่ที่จวนหรือ?”
นี่ก็ดึกแล้ว แต่ที่เรือนนั้นกลับยังมืดมิด
พ่อบ้านส่ายหน้า “นายท่านไม่ได้กลับมาที่จวนตั้งแต่เมื่อวาน ดูเหมือนจะไปทำธุระขอรับ”
ไม่ได้กลับหรือ? ผู้อาวุโสสกุลหมิงคิด หรือว่าไปสืบเรื่องคนรับใช้ที่จะลอบสังหารเขาเมื่อวานนี้กันนะ
เขายังคิดว่าพรุ่งนี้ตอนมื้อเช้าจะให้ทุกคนมารวมตัวกันเสียอีก จะได้แนะนำหนานหนานให้พวกเขารู้จัก
หนานหนานกะพริบตา ท่านตาหรือ? เช่นนั้นแสดงว่าเป็นน้องชายของเหมิงกุ้ยเฟยใช่หรือไม่
น้องชายของเหมิงกุ้ยเฟยอยู่ฝั่งเดียวกับนางหรือไม่? เขามาสองครั้งแล้วก็เหมือนว่าจะไม่ได้พบอีกฝ่ายเลย
ผู้อาวุโสสกุลหมิงไม่ได้ถามอันใดอีก พาหนานหนานเดินต่อไปข้างหน้า
หนานหนานเดินไปไม่กี่ก้าว ก็เลือกเรือนด้านหลังเรือนของเหมิงจื้อเฉิง จวนของผู้อาวุโสสกุลหมิงนั้นใหญ่มาก วันฝนตกเช่นนี้ เขาก็ไม่อยากจะเดินให้ทั่ว อีกทั้งดูจากท่าทางของท่านปู่ทวดแล้ว จะต้องไม่ยอมแพ้ในแผนการที่จะพักร่วมกันกับเขาแน่
ดังนั้นหนานหนานจึงมองการณ์ไกล รีบเลือกที่พักของตนให้เสร็จอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ซ่อนตัวอยู่ในห้องตนเองเพื่อพิจารณา
ผู้อาวุโสสกุลหมิงไม่ค่อยพอใจนัก แต่ก็ยังเข้าไปในเรือนพร้อมกันกับเขา จากนั้นก็กล่าวโน้มน้าวอยู่นาน แต่หนานหนานมีความแน่วแน่ ไม่คิดจะเปลี่ยนใจ
ผู้อาวุโสสกุลหมิงหมดหนทาง ให้คนรับใช้มาคอยรับใช้หนานหนาน เห็นว่าท้องฟ้าก็มืดมากแล้ว และเจ้าตัวน้อยก็หาวไปสองครั้ง คงจะเหนื่อยแล้ว
เขาสั่งรายละเอียดเล็กๆ อีกสองสามคำ โดยเฉพาะกับคนที่รับใช้หนานหนาน ให้พวกเขาอย่าประมาทเลินเล่อแม้แต่น้อย
จากนั้นผู้อาวุโสสกุลหมิงก็จากเรือนไปอย่างอาลัยอาวรณ์
หนานหนานเองก็เหน็ดเหนื่อยจากการตะลอนๆ ติดตามอวี้ชิงลั่วมาตลอดทาง อย่าว่าแต่ไม่มีคนรับใช้เลย บางครั้งเขาก็ต้องคอยนวดให้ท่านแม่ ลำบากเป็นอย่างยิ่ง
ตอนนี้อยู่ที่จวนผู้อาวุโสสกุลหมิง มีคนรับใช้คอยทำความสะอาดให้ เขาก็สามารถเพลิดเพลินกับการดูแลได้อย่างสบายใจ
ไม่นานนัก เขาก็นอนอย่างเกียจคร้านบนเตียงแล้วผล็อยหลับไป
ฝนด้านนอกหน้าต่างยังตกหนักมาก เสียงฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสายค่อยๆ กระทบกับโสตประสาทของหนานหนาน
คนรับใช้เห็นเขาหลับอยู่ ก็ค่อยๆ ออกจากห้องไป ออกไปนั่งสัปหงกอยู่บนเตียงเล็ก และไม่กล้าหลับลึกจนเกินไป
ฝนตกอยู่ค่อนคืนกว่าจะหยุด ด้านนอกเปียกชื้นไปหมด หนานหนานลุกจากเตียงไปปัสสาวะ เมื่อกลับมาที่เตียงอีกครั้งก็นอนไม่หลับแล้ว
ดูเหมือนว่าจู่ๆ เขาก็นึกถึงเรื่องสำคัญได้อย่างหนึ่ง เขาลืมถามท่านลุงโม่เสียนสนิทว่าเหตุใดจู่ๆ จึงให้เขาและเสี่ยวอวี้ไปอยู่ที่โรงเตี๊ยมจินเสียงกับท่านพ่อ นี่มันแปลกเกินไปแล้ว หรือว่าทางด้านท่านแม่เกิดเรื่องแล้วหรือ?
หนานหนานขบคิดแล้วก็คิดไม่ออก ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด สุดท้ายแล้วจึงออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ลานบ้าน มองใบหน้าอันหล่อเหลาของตนในแอ่งน้ำเล็กๆ ตรงนั้น และชื่นชมตัวเอง
ฝนหยุดตกแล้ว อากาศก็เย็นลงมาก ท้องฟ้าก็สดใสขึ้นมากเช่นกัน
หลังจากหนานหนานหลงในรูปตัวเองอยู่พักหนึ่ง ก็คิดว่าพรุ่งนี้ต้องกลับไปดูที่โรงเตี๊ยมแต่เช้าสักหน่อย ถามท่านแม่ว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้น ขณะคิด ก็หันหลังกลับเข้าห้องนอนไป
ใครจะรู้ว่าเพิ่งเดินไปได้สองก้าว จู่ๆ ก็เห็นเงาคนเดินมาไม่ไกลด้วยความเร็วที่น่าประหลาด
หนานหนานตะลึง มองไปทางด้านเงาของคนผู้นั้น… ทางด้านนั้นคือจวนของบุตรชายผู้อาวุโสสกุลหมิง เหมิงจื้อเฉิง
หนานหนานเดินไปด้านข้างสองสามก้าว จ้องมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง กลับพบว่าถึงแม้เหมิงจื้อเฉิงจะกลับไปที่เรือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีไฟสว่างเลย
แปลกจริงๆ ห้องมืดเพียงนั้น เขาไม่ใช้ไฟเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยหรือ?
หนานหนานส่ายหน้า คิดว่าท่านตาผู้นี้ดูลึกลับยิ่งนัก ในเรือนของเขาไม่มีแม้แต่คนรับใช้ แปลกประหลาดมาก
เขาดูอยู่ครู่หนึ่ง พบว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ คิดว่าคงจะหลับไปแล้ว จึงหันหลังจากไป
แต่เดินไปได้ก้าวเดียวก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากทางด้านนั้น
หนานหนานรีบซ่อนตัวอยู่ที่มุมกำแพง ดวงตากลมโตจ้องไปยังเหมิงจื้อเฉิงในชุดสีดำที่เดินออกมา
ดวงตาสดใสเป็นประกายของเขาหรี่ลง แอบออกไปข้างนอกกลางดึก คงไม่ได้จะไปทำอะไรที่ห้ามใครเห็นใช่หรือไม่? นี่อยู่ที่จวนของตนเองแท้ๆ เขาเองก็เป็นถึงนายท่าน เหตุใดจะทำอะไรจึงต้องลึกลับเพียงนี้
เหมิงจื้อเฉิงเพียงแต่หยุดอยู่ตรงเรือนชั่วครู่ จากนั้นก็หลบไปทางด้านหนึ่ง
หนานหนานไม่ทันคิดอะไรมากมาย รีบตามไปทันที
เคล็ดวิชาฝ่าเท้าตระกูลลู่เป็นวรยุทธ์ระดับแนวหน้า หนานหนานฝึกมานานก็คุ้นเคยกับมันแล้ว ปกติเขาเอาแต่จงใจทำให้ดูเงอะงะไม่เป็นผู้ใหญ่ ทว่าตอนนี้กำลังทำสิ่งจริงจัง เขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจังมากขึ้น
เหมิงจื้อเฉิงเป็นท่านน้าของท่านพ่อ และเป็นบุตรชายของท่านปู่ทวด เช่นนั้นฝีมือจะต้องยอดเยี่ยม หนานหนานรู้ ดังนั้นตอนแอบตามไปจึงระมัดระวังมาก
โชคดีที่เขามีความสามารถ ทั้งยังมีเคล็ดวิชาฝ่าเท้าตระกูลลู่ ตามไปครู่หนึ่งก็หยุดอีกครู่หนึ่ง ดังนั้นจึงติดตามมาได้ไกล โดยที่เหมิงจื้อเฉิงตรงหน้าก็ยังจับไม่ได้
หนานหนานคิด โชคดีที่ท่านตาผู้นี้ไม่ได้เก่งเท่าท่านพ่อ ไม่อย่างนั้นจะต้องหาตัวเขาพบแน่
เฮ้อ ไม่แปลกเลยที่ท่านตาทวดรับท่านพ่อเป็นศิษย์ แม้แต่บุตรชายของตนยังไม่ได้รับการสอนวรยุทธ์เท่าใดนัก สงสัยว่าหน่วยก้านของเหมิงจื้อเฉิงจะไม่ดีเท่าท่านพ่อกระมัง
ขณะคิด ในใจก็ภาคภูมิใจเล็กน้อย
เหมิงจื้อเฉิงเดินขึ้นเดินลง ผ่านถนนอันเงียบสงบ
ไม่นานนัก เขาก็หยุดอยู่ที่หน้าประตูเรือนสี่ประสาน มองซ้ายมองขวา จากนั้นก็ขยับที่กำแพงสองครั้ง แล้วก็ผลักประตูแล้วเข้าไป
หนานหนานมาถึงหน้าประตู เอียงศีรษะครุ่นคิด เมื่อครู่เขายืนอยู่ไกล เห็นไม่ชัดว่าเหมิงจื้อเฉิงทำอะไรกันแน่ แต่ที่มั่นใจก็คือเรือนสี่ประสานนี้จะต้องมีอาวุธลับซ่อนอยู่เป็นแน่ หากมีใครเข้าไปโดยไม่ได้รับเชิญ ไม่แน่ว่าอาจจะกลายเป็นลูกไก่ในกำมือก็ได้
หนานหนานรู้สึกว่าการเป็นลูกไก่นั้นไม่ค่อยดีนัก จึงยอมถอยหลังสองสามก้าวอย่างยอมแพ้ จากนั้นก็ซ่อนตัวอยู่ตามมุมกำแพงไม่ไกล รอให้เหมิงจื้อเฉิงออกมา
แต่ทว่าผ่านไปหนึ่งชั่วยามแล้ว ด้านหน้าเรือนสี่ประสานก็ยังเงียบสงบ ไม่มีแม้แต่เสียงใดๆ ทั้งยังไม่เห็นเหมิงจื้อเฉิงออกมาอีกด้วย
หนานหนานกะพริบตา หาวครั้งหนึ่งอย่างง่วงงุน รู้สึกเย็นบนร่างกาย ลมพัดมาจนเขาเกือบจะจาม
ขณะมองไปที่เรือนสี่ประสานก็รีบเอามือปิดปาก ครุ่นคิด จากนั้นตัดสินใจจะกลับไป อย่างไรเสียก็เข้าไม่ได้ แล้วคนก็ไม่ออกมาด้วย
หนานหนานทุบเข่าที่เจ็บ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ลุกขึ้นจากมุมกำแพงแล้วค่อยๆ เดินออกไปด้านนอก
เดินไปได้เพียงสองก้าว จู่ๆ ก็ต้องชะงัก มองไปยังโรงเตี๊ยมด้านหน้าด้วยความประหลาดใจ
นี่ นี่มันคือโรงเตี๊ยมที่เขาพักอยู่ไม่ใช่หรือ?
หนานหนานพิจารณา พบว่าการไปที่จวนผู้อาวุโสสกุลหมิงใช้เวลาประมาณหนึ่งก้านธูป ตอนนี้เขาง่วงมากแล้ว โรงเตี๊ยมก็อยู่ใกล้เพียงนี้ กลับไปนอนที่โรงเตี๊ยมจะดีกว่า
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ติดตามคนออกมาตอนกลางค่ำกลางคืนแบบไม่กลัวว่าจะโดนจับเลยน้าหนานหนาน
โรงเตี๊ยมที่เห็นนั่นใช่โรงเตี๊ยมที่เคยพักแน่เหรอ?
ไหหม่า(海馬)