อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 724 มีคำสั่งอันใด
ตอนที่ 724 มีคำสั่งอันใด
ตอนที่ 724 มีคำสั่งอันใด
อวี้ชิงลั่วเก็บข้าวของ จากนั้นเดินออกจากโรงเตี๊ยมไปพร้อมกับหมอเฒ่าฉยงซานและหงเย่
ครั้นขึ้นรถม้าแล้ว นางก็หันหน้าไปถามหงเย่ “เสิ่นอิงกำลังปกป้องอาเมี่ยวอยู่ใช่หรือไม่?”
“คุณหนูเดาไม่ผิดเจ้าค่ะ เหมิงเคอต้องการลงมือกับอาเมี่ยวจริงๆ เสิ่นอิงช่วยนางออกมา ตอนนี้พักอยู่ที่โรงเตี๊ยมห่างไกลแห่งหนึ่งเจ้าค่ะ” หงเย่ยังคงมีเหงื่อออกที่หน้าผาก เพราะรีบมาอย่างกระวนกระวาย “อาเมี่ยวตกใจมาก แต่ไม่นานนักก็ตั้งสติได้ ถือว่าค่อนข้างกล้าหาญเลยเจ้าค่ะ”
อวี้ชิงลั่วพยักหน้า จากนั้นก็หันมาถามหมอเฒ่าฉยงซาน “เมื่อวานหลังจากเราจากมา พวกท่านจัดการกับผลที่ตามมาอย่างไรเจ้าคะ”
กล่าวถึงตรงนี้ หมอเฒ่าฉยงซานก็มีท่าทางจริงจังอย่างที่หาได้ยาก อวี้ชิงลั่วได้ยินมาเพียงคร่าวๆ ก็รู้ว่าเหมิงเคอเข้าใจว่าเถี่ยชิวเอ๋อร์ตายแล้วจริงๆ
เมื่อวานหลังจากนางจากมา เหมิงเคอไม่วางใจจริงๆ ต้องการจะตรวจสอบด้วยตัวเอง
เพียงแต่เด็กถูกคลุมด้วยผ้าขาว ผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็อุ้มนางด้วยตัวเอง วางตัวเด็กลงบนเตียง ทั้งยังกล่าวกับนางว่าเด็กคนนี้เสียโฉม อย่าทำให้นางตกใจ
ตอนนั้นเหมิงเคอร้องไห้อย่างเจ็บปวดแทบจะเป็นลมล้มลงไป ผู้อาวุโสสกุลเยว่ให้คนรับใช้มาพยุงนางไปพัก อีกทั้งยังเตือนคนรับใช้ทุกคนในจวนว่าห้ามแจ้งข่าวการตายของคุณหนูกับเหมิงหรง เกรงว่าเขาจะโศกเศร้ามากไปแล้วจะทำให้อาการแย่ลง
เหมิงเคอย่อมยินดีกับคำเตือนนี้ เช่นนี้ไม่ว่าเถี่ยชิวเอ๋อร์จะเสียโฉมหรือไม่ นางก็ไม่ต้องกังวลแล้ว
หลังเหมิงเคอจากไป ผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็ให้คนในจวนเตรียมงานศพของเด็ก ตอนนี้หน้าร้อนอากาศอบอ้าว เด็กคนนี้ก็เป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดา เดิมที่ก็เป็นบ้าไม่มีใครเห็นคุณค่า ทั้งยังไม่ให้เหมิงหรงได้รู้อีก ดังนั้นงานศพจึงไม่ต้องจัดอย่างยิ่งใหญ่เพียงนั้น
เพียงแค่ให้ร้านขายโลงศพส่งโลงศพมาโลงหนึ่ง จัดโถงไว้ทุกข์เล็กๆ ในเรือนที่เถี่ยชิวเอ๋อร์อยู่
ในเมื่อเป็นการแสดงละคร เช่นนั้นก็ต้องทำให้ครบชุด
จากนั้นผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็ให้อูเหมี่ยนเซิงตามเหมิงเคอไป แน่นอนว่าเห็นนางไปหาพ่อแม่ของเถี่ยชิวเอ๋อร์ ให้เงินพวกเขาจำนวนมาก
พ่อแม่ทั้งคู่นั้นเองก็สติฟั่นเฟือนไปแล้วเช่นกัน ไม่สนใจบุตรสาวแต่ไหนแต่ไร ก็ถือว่าเป็นเงินที่ชดเชยให้พวกเขาสามคน ตอนนี้ได้ประโยชน์มากมายจากเหมิงเคอ ก็ถือเสียว่าหลับตาข้างหนึ่งแล้วปล่อยให้เป็นไป
ทั้งยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้เถี่ยชิวเอ๋อร์ถูกฝังในฐานะคุณหนู ทั้งยังถูกฝังในสุสานตระกูลผู้อาวุโสสกุลเยว่ เช่นนั้นก็ถือเป็นพรของนางที่สะสมมาหลายชาติ เป็นสิ่งที่หลายๆ คนไม่ได้รับ
อวี้ชิงลั่วฟังถึงตรงนี้ ดวงตาก็แดงขึ้นมาด้วยความโกรธ
“ไอ้พวกคนชั่วช้ากว่าสัตว์เดรัจฉาน”
นางเองก็เป็นแม่ ต้องลำบากมากกว่าจะคลอดหนานหนานออกมา การคลอดบุตรนั้นอันตรายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด สตรีที่ต้องผ่านความลำบากเช่นนั้นมา ไม่ว่าจะใจร้ายเพียงไหน ก็ไม่ควรจะเลือดเย็นถึงเพียงนี้
อย่างน้อยก็ร้องไห้เสียหน่อย มีความเสียใจบ้างก็ยังดี
แต่ฟังสิว่าพวกเขากล่าวอันใด? บุตรของตนถูกสังหารอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งยังเสียโฉมอีกต่างหาก พวกเขากลับรับเงินจากศัตรูด้วยความยินดี และยังคงใช้ชีวิตต่อไปอย่างเป็นสุข ราวกับว่าไม่เคยเห็นเถี่ยชิวเอ๋อร์เป็นลูกเลย
หมอเฒ่าฉยงซานเองก็ถอนหายใจอย่างต่อเนื่อง มโนธรรมของคนเหล่านั้นคงโยนให้สุนัขกินไปหมดแล้ว
“คุณหนู ต่อให้พวกเราไม่จัดการครอบครัวนั้น เหมิงเคอเองก็คงไม่ปล่อยพวกเขาให้อยู่ต่อไปเป็นแน่ เป็นพวกเขาเองที่มองไม่ออก ทั้งยังมีความสุขและภาคภูมิใจ ไม่ช้าก็เร็วกรรมจะต้องตามสนองแน่เจ้าค่ะ” หงเย่มุมปากเรียบตึง น้ำเสียงก็เหี้ยมเกรียมขึ้น
อวี้ชิงลั่วพยักหน้า ใช่แล้ว ด้วยนิสัยอย่างเหมิงเคอ จะปล่อยให้คนโลภเช่นนี้อยู่บนโลกต่อไปได้อย่างไร
รอให้เรื่องเหล่านี้จบลง ก็จะเป็นเวลาที่พวกเขาต้องตาย
นางสูดหายใจลึก สงบสติอารมณ์แล้วถามอีกครั้ง “แล้วหลังจากนั้นล่ะ เหมิงเคอก็ไม่สงสัยอีกเลยหรือ?”
“อ๋า จะเป็นไปได้อย่างไรเจ้าคะ กลางดึกนั้น นางก็แอบไปดูว่าเถี่ยชิวเอ๋อร์ตายจริงหรือไม่ แต่ผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็เก่งกาจนัก เขาทำให้ใบหน้าของเถี่ยชิวเอ๋อร์เสียโฉมจริงๆ น่าจะเสียโฉมมากเกินไป เหมิงเคอเองก็ตกใจอย่างมาก เพียงแค่เหลือบมองก็ไม่กลับไปมองอีก”
“แต่นางน่าจะยังไม่วางใจ จึงนำมีดสั้นออกมาคิดว่าจะแทงเถี่ยชิวเอ๋อร์อีกครั้ง โชคดีที่ผู้อาวุโสสกุลเยว่เตรียมพร้อมไว้แล้ว เขาแอบดูเรื่องทั้งหมดนี้อยู่บนคานด้วยตนเอง หลังจากเห็นการกระทำทั้งหมดนั้นของนาง ก็เดินเข้ามาจากด้านนอกประตูแล้วหยุดนางไว้ได้เจ้าค่ะ”
และหลังจากได้เห็นทั้งหมดนี้ด้วยตาตัวเองแล้ว ความรู้สึกที่ผู้อาวุโสสกุลเยว่มีต่อเหมิงเคอก็คือ…ผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง
อวี้ชิงลั่วโล่งใจ เช่นนั้นแล้ว แสดงว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น
ทั้งสามคนคุยกันเสร็จ รถม้าก็มาถึงจวนของผู้อาวุโสสกุลเยว่แล้ว
ผู้อาวุโสสกุลเยว่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูด้วยตนเอง เมื่อเห็นพวกเขามา สีหน้าก็ปรากฏรอยยิ้ม
“แม่นางถัง เจ้ามาแล้ว ข้ากำลังเป็นห่วงอยู่เลย” เมื่อรู้ธาตุแท้ของเหมิงเคอแล้ว และนึกถึงการกระทำของแม่นางถังที่มีต่อเหมิงเคอในช่วงที่ผ่านมา ก็กังวลมากว่าเหมิงเคอจะแก้แค้นนาง
โชคดีที่นางยังอยู่ตรงนี้
อวี้ชิงลั่วยิ้มให้ผู้อาวุโสสกุลเยว่ จากนั้นก็ตามผู้อาวุโสสกุลเยว่เข้าจวนไป
สภาพจิตใจของเหมิงหรงดีกว่าเมื่อวานมาก เมื่อเห็นอวี้ชิงลั่วเดินมา ก็คลี่ยิ้มซีดเซียว กล่าวเบาๆ “ลำบากท่านแล้ว”
อวี้ชิงลั่วไม่เห็นเหมิงเคออยู่ที่นี่ เดาว่าผู้อาวุโสสกุลเยว่ทำได้ตามที่เขากล่าว ไม่ให้นางมาดูแลเหมิงหรงอีกต่อไป
นางจับชีพจรของเหมิงหรง เห็นผู้อาวุโสสกุลเยว่มีสีหน้ากังวลก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “ขอเพียงดูแลอย่างดีที่สุด ก็จะไม่มีปัญหาอะไรแล้วเจ้าค่ะ ท่านผู้อาวุโสสกุลเยว่ไม่ต้องกังวลไป”
“ขอบคุณมากแม่นางถัง” ผู้อาวุโสสกุลเยว่ถอนหายใจอย่างโล่งอก สีหน้าดูสบายใจขึ้นมา “แม่นางถัง ช่วงสองสามวันนี้ต้องรบกวนเจ้าแล้ว มานี่เถิด เชิญทางนี้”
เขารู้ว่าอวี้ชิงลั่วยังไม่วางใจเรื่องเถี่ยชิวเอ๋อร์ และอาจจะต้องการไปเยี่ยม ตอนนี้เขาจึงให้นางไปพักอยู่ในสถานที่ลับแห่งหนึ่ง นอกจากเขาและอูเหมี่ยนเซิงแล้วก็ไม่มีใครรู้
อวี้ชิงลั่วกลับโบกมือ ยิ้มแล้วกล่าว “ผู้อาวุโสสกุลเยว่ ข้ามีบางเรื่องที่อยากจะขอคุยกับนายน้อยของท่านตามลำพัง ไม่รู้ว่าสะดวกหรือไม่เจ้าคะ”
ผู้อาวุโสสกุลเยว่ชะงักงัน มองเหมิงหรงแวบหนึ่งด้วยความสงสัยเล็กน้อย
แต่เหมิงหรงกลับพยักหน้าให้เขา แสดงให้เห็นว่าไม่เป็นไร “ท่านพ่อ ท่านไปดื่มชาข้างนอกเสียก่อนเถิดขอรับ ครู่เดียวก็พอแล้ว”
ผู้อาวุโสสกุลเยว่พยักหน้า จากนั้นก็พาหมอเฒ่าฉยงซานและคนอื่นๆ ออกจากห้องไป
เมื่อในห้องเหลือเพียงอวี้ชิงลั่วและเหมิงหรงตามลำพัง อวี้ชิงลั่วก็มองเขาอย่างพิจารณา เขาและเหมิงหลัวอวี้สมกับเป็นพ่อลูกกัน ดวงตาที่ลืมขึ้นมาหลังฟื้นนั้นเหมือนกับนางมากจริงๆ
เพียงแต่คนหนึ่งเป็นเด็กแสนอ่อนโยน ส่วนอีกคนกลับดูมืดมน
อวี้ชิงลั่วเลื่อนเก้าอี้ไปด้านหลัง หลังจากนั่งลงก็ถอนหายใจเบาๆ
สีหน้าของเหมิงหรงยังมีรอยยิ้ม เพียงแต่เห็นท่าทางจริงจังของนาง ก็อดไม่ได้ที่จะปรับสีหน้าให้จริงจัง “แม่นางถัง มีคำสั่งอันใดก็กล่าวมาเถิด”
“ไม่มีคำสั่งใดเจ้าค่ะ เพียงแต่มีบางเรื่องที่ข้าค่อนข้างสงสัย อยากให้นายน้อยเหมิงอธิบายให้ข้าฟัง”
“ว่ามาเถิด”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ชิงลั่วตั้งใจจะเตือนให้ระวังนังเหมิงเคอหรือเปล่านะ หรือจะบอกว่าเหมิงหลัวอวี้ตัวจริงอยู่ที่ไหน?
ไหหม่า(海馬)